****[Bayern Munich]***[05.04.2015] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกมส์ Borussia Dortmund 0 - 1 FC Bayern München ]
สวัสดีวันอาทิตย์นะคะเพื่อนๆ
ทำธุระเสร็จก็รีบดิ่งมาเปิดทู้อวยพี่เสือทันที
นัดเมื่อคืนบอกได้คำเดียวว่าบีบหัวใจมากแต่พี่เสือก็ผ่านมาได้
ตอนนี้กำลังตามข่าวของบอสอยู่ไม่รู้เป็นอะไรมากหรึปล่าว แต่สำหรับตอนนี้ตามมาดูภาพบรรยากาศหลังเกมก่อนก็แล้วกันนะคะ

ศึกบุนเดสลีกา คู่ซูเปอร์บิ๊กแมตซ์ ประจำวันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2558 ณ สนามซิกนัล อิดูนา พาร์ค ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนเกมรั้งอันดับ 10 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง
เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์คู่บุญของขุนพลเสือเหลือง ตัดสินใจดร็อป ชินจิ คางาวะ จอมทัพเลือดบูชิโดไว้ที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง เควิน คัมเปิล ดาวรุ่งชาวสโลวีเนียลงทำหน้าที่แทน โดยจะมาประสานงานในแนวรุกร่วมกับ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ และ มาร์โก้ รอยส์ ขณะที่หน้าเป้ายังเป็น ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เช่นเคย
ด้านทีมเยือนของกุนซือ เป๊บ กวาร์ดิโอลา ปรับทัพเกือบยกชุดจากเกมนัดล่าสุด ที่พลาดท่าพ่าย โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค คาบ้าน 0-2 นำโดย ฟิลิปป์ ลาห์ม ที่ได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบหลายเดือน หลังเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บมาหมาดๆ พร้อมด้วย ดานเต้ และ เมห์ดี้ เบนาเตีย ที่ได้ลงมาคุมแนวรับร่วมกับ เจโรม ยัวเต็ง ขณะที่แนวรุกใช้ โธมัส มุลเลอร์ จับคู่กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ต้นเกมรูปเกมค่อนข้างสูสี โดยช่วงแรกเป็นเจ้าถิ่นอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ทำได้ดีกว่า ทว่าหลังจากนั้นกลายเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่กุมความได้เปรียบไว้ได้หมด กระทั่งนาทีที่ 32 ทีมเยือนที่ได้โอกาสทักทายก่อน จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา และเป็น ชาบี อลอนโซ รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา แต่ว่าจังหวะยิงเจ้าตัวเสียหลักลื่นล้ม ทำให้บอลผ่านเสาฝั่งขวาออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วถัดมาเพียง 4 นาที บาเยิร์น มิวนิค ก็มาพังประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พลิกบอลบริเวณกลางสนาม ก่อนแทงทะลุช่องขึ้นไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ โธมัส มุลเลอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล้มตัวยิงด้วยซ้ายติดขา โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ทว่าบอลเป็นใจกระดอนมาเข้าทาง เลวานดอฟสกี้ ตามพุ่งโหม่งซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ บาเยิร์นขึ้นนำ 1-0 และก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ก่อนเขี่ยเริ่มเกมครึ่งหลัง เจ้าหน้าที่สนามต้องทำงานกันอย่างหนัก เมื่อ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูจอมหนึบของ บาเยิร์น มิวนิค ถูกแฟนบอลเจ้าบ้านหลังประตู ปาสิ่งของรวมถึงกล้วยซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเหยียดผิวลงมาในสนามนานเกือบ 2 นาที ทำให้เจ้าหน้าสนามที่ต้องวิ่งเก็บกันอย่างอลหม่าน ก่อนกลับมาเริ่มการแข่งขันได้ตามปกติ
ผ่านมาในนาทีที่ 60 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมอจริงๆ จากจังหวะที่ สเวน เบนเดอร์ ปั้มบอลได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนบอลหลุดมาเข้าทาง มาร์โก้ รอยส์ ในกรอบเขตโทษฝั่งขวาโล่งๆ ทว่าปีกทีมชาติเยอรมันกลับยิงเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย
4 นาทีต่อมา เสือเหลืองมาได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ตัดบอลได้จากกลางสนาม ก่อนลากตัดเข้าไปในเขตโทษ ทว่าจังหวะสุดท้ายยิงด้วยซ้ายเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 69 แฟนบอลบาเยิร์น มิวนิค ลุกขึ้นปรบมือกันทั้งสนาม เมื่อ ติอาโก้ อัลคันทารา กองกลางพรสวรรค์สูงที่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้ลงสนามอีกครั้งในรอบ 1 ปีเต็ม หลังเกมสุดท้ายที่เขาได้ลงเล่นต้องย้อนไปถึงวันที่ 29 มีนาคม 2014 ในเกมเสมอกับ ฮอฟเฟนไฮม์ 3-3 โดยเกมนี้ อัลคันทารา ถูกส่งลงมาแทน ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีม
ท้ายเกมนาทีที่ 88 เสือเหลืองเกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ มาร์โก้ รอยส์ ปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา บอลกำลังโค้งจะเสียบเสาอยู่แล้ว ทว่า มานูเอล นอยเออร์ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด
จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกเฉือนชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หวุดหวิด 1-0 ครองจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น โดยมีคะแนนนำห่าง โวล์ฟบวร์ก รองจ่าฝูงเป็น 10 คะแนนเท่าเดิม ส่วน ดอร์ทมุนด์ ก็ยังอยู่ที่ 10 ต่อไป
Photos and gifs aren’t mine, credit to the owners! 
ขอบคุณข่าวจาก GOAL.COM
****[Bayern Munich]***[05.04.2015] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกมส์ Borussia Dortmund 0 - 1 FC Bayern München ]
สวัสดีวันอาทิตย์นะคะเพื่อนๆ
ทำธุระเสร็จก็รีบดิ่งมาเปิดทู้อวยพี่เสือทันที
นัดเมื่อคืนบอกได้คำเดียวว่าบีบหัวใจมากแต่พี่เสือก็ผ่านมาได้
ตอนนี้กำลังตามข่าวของบอสอยู่ไม่รู้เป็นอะไรมากหรึปล่าว แต่สำหรับตอนนี้ตามมาดูภาพบรรยากาศหลังเกมก่อนก็แล้วกันนะคะ
ศึกบุนเดสลีกา คู่ซูเปอร์บิ๊กแมตซ์ ประจำวันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2558 ณ สนามซิกนัล อิดูนา พาร์ค ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนเกมรั้งอันดับ 10 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง
เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์คู่บุญของขุนพลเสือเหลือง ตัดสินใจดร็อป ชินจิ คางาวะ จอมทัพเลือดบูชิโดไว้ที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง เควิน คัมเปิล ดาวรุ่งชาวสโลวีเนียลงทำหน้าที่แทน โดยจะมาประสานงานในแนวรุกร่วมกับ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ และ มาร์โก้ รอยส์ ขณะที่หน้าเป้ายังเป็น ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เช่นเคย
ด้านทีมเยือนของกุนซือ เป๊บ กวาร์ดิโอลา ปรับทัพเกือบยกชุดจากเกมนัดล่าสุด ที่พลาดท่าพ่าย โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค คาบ้าน 0-2 นำโดย ฟิลิปป์ ลาห์ม ที่ได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบหลายเดือน หลังเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บมาหมาดๆ พร้อมด้วย ดานเต้ และ เมห์ดี้ เบนาเตีย ที่ได้ลงมาคุมแนวรับร่วมกับ เจโรม ยัวเต็ง ขณะที่แนวรุกใช้ โธมัส มุลเลอร์ จับคู่กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ต้นเกมรูปเกมค่อนข้างสูสี โดยช่วงแรกเป็นเจ้าถิ่นอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ทำได้ดีกว่า ทว่าหลังจากนั้นกลายเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่กุมความได้เปรียบไว้ได้หมด กระทั่งนาทีที่ 32 ทีมเยือนที่ได้โอกาสทักทายก่อน จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา และเป็น ชาบี อลอนโซ รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา แต่ว่าจังหวะยิงเจ้าตัวเสียหลักลื่นล้ม ทำให้บอลผ่านเสาฝั่งขวาออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วถัดมาเพียง 4 นาที บาเยิร์น มิวนิค ก็มาพังประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พลิกบอลบริเวณกลางสนาม ก่อนแทงทะลุช่องขึ้นไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ โธมัส มุลเลอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล้มตัวยิงด้วยซ้ายติดขา โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ทว่าบอลเป็นใจกระดอนมาเข้าทาง เลวานดอฟสกี้ ตามพุ่งโหม่งซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ บาเยิร์นขึ้นนำ 1-0 และก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ก่อนเขี่ยเริ่มเกมครึ่งหลัง เจ้าหน้าที่สนามต้องทำงานกันอย่างหนัก เมื่อ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูจอมหนึบของ บาเยิร์น มิวนิค ถูกแฟนบอลเจ้าบ้านหลังประตู ปาสิ่งของรวมถึงกล้วยซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเหยียดผิวลงมาในสนามนานเกือบ 2 นาที ทำให้เจ้าหน้าสนามที่ต้องวิ่งเก็บกันอย่างอลหม่าน ก่อนกลับมาเริ่มการแข่งขันได้ตามปกติ
ผ่านมาในนาทีที่ 60 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมอจริงๆ จากจังหวะที่ สเวน เบนเดอร์ ปั้มบอลได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนบอลหลุดมาเข้าทาง มาร์โก้ รอยส์ ในกรอบเขตโทษฝั่งขวาโล่งๆ ทว่าปีกทีมชาติเยอรมันกลับยิงเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย
4 นาทีต่อมา เสือเหลืองมาได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ตัดบอลได้จากกลางสนาม ก่อนลากตัดเข้าไปในเขตโทษ ทว่าจังหวะสุดท้ายยิงด้วยซ้ายเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 69 แฟนบอลบาเยิร์น มิวนิค ลุกขึ้นปรบมือกันทั้งสนาม เมื่อ ติอาโก้ อัลคันทารา กองกลางพรสวรรค์สูงที่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้ลงสนามอีกครั้งในรอบ 1 ปีเต็ม หลังเกมสุดท้ายที่เขาได้ลงเล่นต้องย้อนไปถึงวันที่ 29 มีนาคม 2014 ในเกมเสมอกับ ฮอฟเฟนไฮม์ 3-3 โดยเกมนี้ อัลคันทารา ถูกส่งลงมาแทน ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีม
ท้ายเกมนาทีที่ 88 เสือเหลืองเกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ มาร์โก้ รอยส์ ปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา บอลกำลังโค้งจะเสียบเสาอยู่แล้ว ทว่า มานูเอล นอยเออร์ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด
จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกเฉือนชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หวุดหวิด 1-0 ครองจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น โดยมีคะแนนนำห่าง โวล์ฟบวร์ก รองจ่าฝูงเป็น 10 คะแนนเท่าเดิม ส่วน ดอร์ทมุนด์ ก็ยังอยู่ที่ 10 ต่อไป
ขอบคุณข่าวจาก GOAL.COM