Apple จัดงาน "Spring Forward" ที่ศูนย์แสดงศิลปะ Yerba Buena เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย โดยนอกจากการเผยราคาจำหน่ายและคุณสมบัติของแบตเตอรี่แล้วยังมีการแนะนำฟีเจอร์และแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจบนเวที ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่ Tim Cook CEO ของ Apple เชื่อว่าจะเป็นตัวผลักดันให้ Apple Watch สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
Apple Watch ถูกออกแบบมาให้สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัสบนหน้าปัดนาฬิกาและปุ่มควบคุมด้านขวา (Digital Crown) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลหุ้น ทวีตน่าสนใจล่าสุดบน Twitter ข้อมูลการแข่งขันกีฬา และอื่นๆ อีกมากมายด้วยการควบคุมเพียงไม่กี่ขั้นตอน นอกจากนั้น Apple Watch ยังรองรับระบบชำระเงิน Apple Pay โดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกมาใช้งาน รองรับการแสดงข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็นไฟล์ทบิน เช็คอินห้องพักโรงแรม (บางโรงแรม) และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกมากมายอีกหลายร้อยแอพพลิเคชั่นที่พร้อมใช้งานแล้ว เช่น Uber, Shazam, WeChat, Twitter, Facebook, Instagram
นอกจากจะควบคุม Apple Watch ผ่านระบบสัมผัสแล้ว การควบคุมด้วยคำสั่งเสียงผ่าน Siri ก็สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบเช่นกัน โดย Siri จะถูกเรียกขึ้นมาโดยการกดปุ่ม Digital Crown
การเชื่อมต่อ Apple Watch กับ iPhone นอกจากจะใช้ Bluetooth แล้วยังสามารถเชื่อมต่อกันผ่าน Wi-Fi ได้เช่นกัน สามารถรับสายโทรศัพท์ ส่งข้อความผ่านคำสั่งเสียง ส่งข้อความเสียง ส่งสติกเกอร์ วาดภาพบนหน้าจอ Apple Watch และส่งไปยัง Apple Watch ของเพื่อน เป็นต้น
การใช้งานด้านอื่นๆ เช่น ใช้เป็นอุปกรณ์ติดตามข้อมูลการออกกำลังกาย วัดชีพจรขณะออกกำลัง ตรวจสอบกิจกรรมระหว่างวัน และถ้านั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นเวลานานเกินไปจะมีการเตือนให้ลุกไปเดินเพื่อผ่อนคลายบ้างก่อนที่จะกลับมาทำงานต่อ เมื่อต้องการปิดนาฬิกาทำได้ง่ายๆ เพียงใช้ฝามือบังหน้าจอไว้และถ้าต้องการชาร์จก็นำที่ชาร์จแม่เหล็ก MagSafe technology มาติดไว้ด้านหลังหน้าปัด
ภาพตัวอย่างแสดงการใช้งานแอพพลิเคชั่นบน Apple Watch
Target
SPG app
American Airlines
Nike+ Running
Instagram
ดูรายละเอียดแอพที่มาพร้อมเครื่องและแอพใน App Store เพิ่มเติมได้ที่
แอพที่มาพร้อมเครื่อง
https://www.apple.com/th/watch/built-in-apps/
แอพใน App Store
https://www.apple.com/th/watch/app-store-apps/
Source :
Phonearena via
SiamPhone
ตัวอย่างแอพพลิเคชั่นและฟีเจอร์ของ Apple Watch
Apple Watch ถูกออกแบบมาให้สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัสบนหน้าปัดนาฬิกาและปุ่มควบคุมด้านขวา (Digital Crown) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลหุ้น ทวีตน่าสนใจล่าสุดบน Twitter ข้อมูลการแข่งขันกีฬา และอื่นๆ อีกมากมายด้วยการควบคุมเพียงไม่กี่ขั้นตอน นอกจากนั้น Apple Watch ยังรองรับระบบชำระเงิน Apple Pay โดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกมาใช้งาน รองรับการแสดงข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็นไฟล์ทบิน เช็คอินห้องพักโรงแรม (บางโรงแรม) และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกมากมายอีกหลายร้อยแอพพลิเคชั่นที่พร้อมใช้งานแล้ว เช่น Uber, Shazam, WeChat, Twitter, Facebook, Instagram
นอกจากจะควบคุม Apple Watch ผ่านระบบสัมผัสแล้ว การควบคุมด้วยคำสั่งเสียงผ่าน Siri ก็สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบเช่นกัน โดย Siri จะถูกเรียกขึ้นมาโดยการกดปุ่ม Digital Crown
การเชื่อมต่อ Apple Watch กับ iPhone นอกจากจะใช้ Bluetooth แล้วยังสามารถเชื่อมต่อกันผ่าน Wi-Fi ได้เช่นกัน สามารถรับสายโทรศัพท์ ส่งข้อความผ่านคำสั่งเสียง ส่งข้อความเสียง ส่งสติกเกอร์ วาดภาพบนหน้าจอ Apple Watch และส่งไปยัง Apple Watch ของเพื่อน เป็นต้น
การใช้งานด้านอื่นๆ เช่น ใช้เป็นอุปกรณ์ติดตามข้อมูลการออกกำลังกาย วัดชีพจรขณะออกกำลัง ตรวจสอบกิจกรรมระหว่างวัน และถ้านั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นเวลานานเกินไปจะมีการเตือนให้ลุกไปเดินเพื่อผ่อนคลายบ้างก่อนที่จะกลับมาทำงานต่อ เมื่อต้องการปิดนาฬิกาทำได้ง่ายๆ เพียงใช้ฝามือบังหน้าจอไว้และถ้าต้องการชาร์จก็นำที่ชาร์จแม่เหล็ก MagSafe technology มาติดไว้ด้านหลังหน้าปัด
ภาพตัวอย่างแสดงการใช้งานแอพพลิเคชั่นบน Apple Watch
American Airlines
Nike+ Running
Instagram
ดูรายละเอียดแอพที่มาพร้อมเครื่องและแอพใน App Store เพิ่มเติมได้ที่
แอพที่มาพร้อมเครื่อง https://www.apple.com/th/watch/built-in-apps/
แอพใน App Store https://www.apple.com/th/watch/app-store-apps/
Source : Phonearena via SiamPhone