1.เม็ดมะยมแบบดิจิตอลของ Apple Watch ได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามไม่ต่างจากเม็ดมะยมของนาฬิกาเรือนหรู แถมมีฝาครอบด้านหลังนาฬิกา รวมทั้งยังลงรายละเอียดให้ดูมีความคลาสสิก และหน้าปัดนาฬิกาที่ดูเรียบหรูด้วย
2.กระจกที่ทางแอปเปิลใช้ผลิต Apple Watch ไม่ได้มีเพียงแค่กระจกแซฟไฟร์เท่านั้น แต่ยังมีกระจกที่ผลิตเองอย่าง Ion-X ซึ่งมีความแข็งแรงไม่แพ้กัน โดยกระจกทั้ง 2 แบบ สามารถกันรอยขีดข่วนได้ดีเหมือนกับหน้าจอ iPhone 6 เลยทีเดียว
3. แอปเปิลได้ทำการพัฒนาระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่เฉพาะ Apple Watch เท่านั้น โดยใช้ชื่อว่า Watch OS ซึ่งสามารถใช้งามร่วมกับอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ของแอปเปิลได้ อีกทั้งยังได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามและมีจุดเด่นที่หน้าปัด ซึ่งสามารถเลือกเปลี่ยนได้หลายแบบด้วย
4.ทางแอปเปิลได้พัฒนารูปแบบตัวอักษรเพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับขนาดตัวอักษรได้ตามความเหมาะสมของตัวเอง ซึ่งรูปแบบตัวอักษรดังกล่าวเรียกว่า San Francisco ที่ช่วยให้มองเห็นตัวหนังสือชัด แม้หน้าจอของ Apple Watch จะมีขนาดเล็กก็ตาม
5.แอปเปิลตั้งใจสร้างและพัฒนา Apple Watch ให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อตอบสนองการทำงานในฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
6.ไม่เพียงแต่ Apple Watch สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายแบบแล้ว ทางแอปเปิลยังคิดค้นวิธีบอกเวลาแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งวิธีดังกล่าวมีชื่อว่า Solar ซึ่งจะแสดงเวลาตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ แถมมีเส้นบอกตำแหน่งดวงอาทิตย์แบบเรียลไทม์ตามพื้นที่ของผู้ใช้ด้วย
7.หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากของ Apple Watch คือ ทุกครั้งที่ผู้ใช้สะบัดข้อมือ หน้าจอนาฬิกาจะแสดงรูปดอกไม้หลากชนิดกำลังผลิบานราวกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเลยทีเดียว ทั้งนี้ กว่าที่แอปเปิลจะทำฟีเจอร์นี้สำเร็จ ต้องใช้กล้องประสิทธิภาพสูงเพื่อถ่ายภาพดอกไม้ในแนวสต็อปโมชั่น แล้วใส่เอฟเฟกต์พิเศษเพื่อให้ดอกไม้บานอย่างสวยงาม
8.แอปเปิลได้พัฒนาเทคโนโลยี Glances ควบคู่กับ Apple Watch สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลของแอพพลิเคชั่นที่ถูกใช้งานเป็นประจำ แล้วทำการประมวลผลเพื่อปรับปรุงการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น
9.เมื่อกดปุ่มที่เม็ดมะยมดิจิตอลของ Apple Watch แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ จะปรากฏขึ้นมาพร้อมกันในรูปแบบที่หน้าจอ Home ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนตำแหน่ง เพิ่มหรือลดไอคอนได้ง่าย ๆ โดยใช้วิธีเดียวกับ iPhone นั่นเอง
10.เมื่อมีคนส่งข้อความมาหาคุณในขณะที iPhone เชื่อมต่อกับ Apple Watch อยู่ จะมีการสั่นเตือนที่ตัวนาฬิกาจากนั้นยกข้อมือขึ้นคุณจะเห็นว่ามีข้อความเข้ามาพร้อมกับชื่อของคนส่ง และหากยกข้อมือค้างไว้เพียงไม่กี่วินาที เนื้อหาในข้อความจะปรากฏขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นการเช็กข้อความที่รวดเร็วมากเลยทีเดียว
11.แม้ว่า Apple Watch จะมีรูปแบบของการแสดงผลให้เลือกใช้มากมาย แต่ในอนาคต ทางแอปเปิลต้องการเพิ่มรูปแบบดังกล่าวให้มีความหลากหลายสำหรับผู้ใช้มากขึ้น อย่างไรก็ตามทางแอปเปิลไม่มีแผนที่จะให้บริษัทอื่นเข้ามาร่วมพัฒนารูปแบบของการแสดงผลแต่อย่างใด
12.คุณควรลองใช้งานเจ้า Apple Watch จนกว่าจะพอใจ เพื่อหาดูว่ารุ่นไหนที่คุณต้องการจริง ๆ ซึ่งสมาร์ทวอทช์ของแอปเปิล มีให้เลือกทั้งหมด 3 คอลเลคชั่น ได้แก่ Apple Watch รุ่นปกติ, Apple Watch Sport และ Apple Watch Edition รวมถึงมีชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้เลือกตามต้องการ แถมมีราคาต่างกันด้วย
13.แม้ว่า Apple Watch เป็นความฝันในช่วงบั้นปลายชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ แต่ทางแอปเปิลยืนยันว่านาฬิกาแห่งอนาคตตัวนี้เกิดจากความต้องการของ โจนาธาน ไอฟ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการออกแบบของแอปเปิล ซึ่งเป็นผู้ผลักดันจนเกิดโปรเจคท์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก จ็อบส์ เสียชีวิตไปเมื่อปี 2011 นั่นเอง
ข้อมูลดี ๆ จากเว็บไซต์ mashable