๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ หลังไมค์จากผู้เดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นมาอย่างยาวนาน

ได้ขออนุญาต เจ้าของข้อความแล้วว่า

จะเอามาออกความเห็นทางหน้าไมค์

ข้อความตามภาพประกอบมีดังนี้











............, วันจันทร์ เวลา 23:58 น.    Block

สวัสดีครับ พี่endophine
ผมชื่อ..... ผมไม่เคยเจอตัวพี่ แค่เคยหลังไมค์มาคุยบ้าง
ผมเล่นหุ้นมา 20 กว่าปี แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จสักที



ความเห็นของผม

อยากให้นักลงทุนหน้าใหม่ๆได้อ่านข้อความข้างบน   
จะได้เห็นอีกแง่หนึ่งมุมหนึงว่า  
ตลาดหุ้นไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ตลอดเวลา
และรวยได้อย่างรวดเร็วทันใจเหมือนที่เราต้องการ

คนที่เข้าตลาดหุ้น ช่วงเงินหมุนเวียนในตลาดหุ้นเป็นใจ   
เกมล่าส่วนเกินทุนคึกคัก  กำไรนับกันเป็นรายนาที รายชั่วโมง
พอได้กำไรเร็ว  กำไรมาก   ก็จะมีกระทู้แบบ  
ลงทุนสามวัน กำไรสามสิบเปอร์เซนต์
จับเอาสามวัน กำไรสามสิบเปอร์เซนต์ คูณเป็นกำไรตลอดปีไปเลย
ผลลัพธ์ออกมาเลย รวยเร็ว รวยมหาศาล

ความจริงที่คนอยู่ในตลาดหุ้นมานานเกินสิบปีจะรู้ดีคือ
รวยเร็ว รวยง่าย  รวยมหาศาล
คนที่ทำได้จริง น่าจะมีแค่ หนึ่งในร้อย หรือหนึ่งในพัน
ที่กลายมาเป็นไอดอลออกสื่อ  
ยั่วกิเลสนักลงทุนทั่วๆไปให้อยากทำได้บ้าง


คนอื่นไม่รู้มองเห็นเหมือนผมหรือเปล่า
แต่ที่ผมเห็นคือ    ต้นปี 2557 จนถึงขณะนี้
จะมีกระทู้ลาออกจากงานมาเล่นหุ้น  น้อยกว่าช่วงต้นปี  2556
เพราะว่า  นักลงทุนรายใหม่ที่เข้าตลาดตอนนี้
ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียน ม.ปลาย  ปริญญาตรี  และเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี

ก็ในเมื่อยังไม่ได้ทำงาน
ก็เลยไม่ได้ตั้งกระทู้  ลาออกจากงานมาเล่นหุ้นดีหรือเปล่า


ตัวอย่างจากชีวิตจริงก็คือ  รุ่นพี่ที่ทำงานของภรรยา  มาขอให้ช่วยสอนเรื่องหุ้นให้ลูกชาย
บอกว่า ลูกชายเพิ่งจบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยแถวศาลายามา   
ไม่อยากจะทำงาน  มีเงินเก็บจากการสอนเทนนิส สี่แสนบาท
อยากจะเอามาลงเล่นหุ้นเป็นอาชีพ  (ไม่แน่ใจว่าได้แรงกระตุ้นมาจากสื่อไหน ?  ทีวี สิ่งพิมพ์ เวบหุ่น เฟซบุค ไลน์ ฯลฯ)
ซึ่งผมก็ไม่เคยตอบรับแต่อย่างไร
ตั้งแต่ซื้อขายหุ้นมา  ยังไม่เคยสอนใครเล่นหุ้นแม้แต่คนเดียว
เพราะตัวเองก็ไม่ได้มีความรู้แบบเป็นหลักวิชาการจะสอนคนได้

แต่ถ้าสอนให้ โดนหุ้นเล่น  ก็อาจจะสอนได้ ฮาฮา

ดังนั้นนักลงทุนหน้าใหม่ช่วงนี้  
คงต้องค่อยๆเก็บบทเรียน เล่นจริง เจ็บจริง กำไรจริง ขาดทุนจริง
จนเปลี่ยนใจ  หางานทำก่อน แล้วค่อยสะสมเงิน มาลงทุนในหุ้นทีหลัง
หวังว่าคงจะเป็นเช่นนั้น  เพราะโอกาสให้แก้ตัว ยังมีเหลือมาก
ผิดกับคนวัยใกล้เกษียณ  ผิดทางแล้ว  เหลือโอกาสให้แก้ตัวน้อยมาก


นักลงทุนหน้าใหม่ช่วงนี้  แตกต่างจากนักลงทุนหน้าใหม่ช่วงปี 2555 - 2556  
ในช่วงนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน วัยค้าขาย
ที่สะสมเงินหน้าตักจากการทำงานมากพอจะเข้ามาลงทุนได้
พอกำไรง่ายๆ กำไรมากๆเข้า  ก็เลยเกิดกระทู้  จะลาออกจากงานมาเล่นหุ้นถี่มาก
หลังจากหุ้นตกช่วงกลางปี 2556   กระทู้แบบนั้นจึงค่อยซาลงไป



ลองมาหลากหลายวิธี ทั้งพื้นฐานและเทคนิค เล่นสั้นถือยาว ได้กำไรมาก็เสียไป
ช่วงนี้ผมหลังชนฝา เพราะออกมาเป็นนักลงทุนเต็มเวลา ไม่มีรายได้ทางอื่น



ความเห็นของผม

การหาเงินในตลาดหุ้น  บางทีมันก็ง่าย บางทีมันก็ยาก
ถ้าเป็นผม  อะไรที่ผมเชื่อว่า ง่ายสำหรับตัวเอง ตัวเองทำได้ดี
ก็จะทำไปตามนั้น  โดยไม่สนใจไปเปรียบเทียบว่า
วิธีการของคนโน้น คนนี้ ทำได้ดีกว่าเรา
ก็เราทำได้แค่นี้ ก็พอใจแค่นี้  

พออันที่ง่าย ได้เงินมาก  ก็ค่อยไปลองอันที่ยากต่อ
แต่จนบัดนี้  ผมก็ยังไม่เคยไปลองอันที่ยากเลย
เพราะพอใจกับผลงาน ของอันที่ทำได้ง่ายๆแล้ว  
ไม่ต้องรวยมากๆ   แต่ก็สามารถอยู่ได้อย่างประหยัดไปตลอดชีวิต
จากเงินจริงบางส่วนที่ถอนออกจากพอร์ตหุ้นแล้ว

แล้วอะไรที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องยากสำหรับตัวเอง
ลองไล่จากยากน้อย ไปหายากมาก
ยากน้อย ก็อาจจะลองสึกษาดู เล่นดู  ยากมากก็จะไม่ยุ่งกับมันเลย
เพราะเชื่อว่า เข้าไปยุ่งแล้วเครียดหนักแน่ๆ

ตีความน่าจะไปเป็นของราคาหุ้นด้วยกราฟ  >>> ซื้อวอร์แรนท์ในตลาด >>> ซื้อ dw  >>> แทงไฮโล tfex



แล้วอะไรคือการกระทำที่ง่ายสำหรับผม  ?
จะลองตอบไว้  ในข้อความที่ถามไว้เกี่ยวกับหุ้น ifec


สำหรับเรื่องหลังชนฝา  ผมเน้นมานานแล้วว่า
ถ้าเรามีฝา ที่เราสามารถพึ่งพิงได้  จะได้เปรียบคนที่ไม่มีที่พึ่งพิง
ถ้าคุณ..... มีที่พึ่งพิงที่ดีอยู่นอกตลาดหุ้น  
มันก็จะช่วยลดแรงกดดันในการตัดสินใจซื้อขายหุ้นของเราได้
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า  คุณ... มีที่พึ่งพิงนอกตลาดหุ้น มากน้อยแค่ไหน
  





ตอนนี้ก็ติด cpf ที่ 26.25 ยังไม่กล้าคัตลอสครับ


ความเห็นของผม  

ถ้าเป็นผม คงจะซื้อเฉลี่ยขาลงไปตามยีลด์ปันผล   
ถ้าคิดว่าจะได้เงินปันผลต่อหุ้นเท่าเดิม แต่ราคาหุ้นลดลง
แต่ถ้าเงินปันผลต่อหุ้น คาดว่าจะลดลงตามราคาหุ้น  ก็ไม่ควรซื้อเฉลี่ย

นอกจากความเห็นของผม  ผมได้ขอความเห็นด้านกราฟ  cpf  จากคุณธราธิป
เซียนกราฟที่ผมคุ้นเคยมาที่สุดในสินธร   ซึ่งคุณธราธิปได้ตอบไว้ในความคิดเห็นที่ ๒๑ ของคลิ๊กข้างล่าง

http://ppantip.com/topic/33347702/comment21


ผมเห็นพี่โชว์หุ้นในพอร์ตหลายครั้ง หลายตัวกำไรเป็นหลายร้อยเปอร์เซนต์อย่างล่าสุดคือ ifec
ผมมีคำถามที่อยากถามพี่ว่า ขออภัยถ้าคำถามดูทื่อๆตรงๆหรือไม่เหมาะสม
1.พี่เลือกถือหุ้น ifec เพราะเหตุผลอะไร วิเคราะห์จากพื้นฐานและเงินปันผลหรือครับ


คำตอบของผม

อันที่จริง  คุณ..สามารถถามว่า  พี่เลือกถือหุ้น......เพราะเหตุผลใด

เพราะคำตอบมันแทบจะเหมือนกันหมด  สำหรับหุ้นเกือบทุกตัวที่ซื้อ

มันวกกลับมาตามที่ผมบอกไว้ข้างต้นว่า  
จะทำอันที่ทำได้ง่ายๆ แล้วได้ผลดีจากประสพการณ์แนวตั้ง
ตอนนั้น ไอเฟค ยังทำธุรกิจเครืองอัดสำเนา เป็นหุ้นไม่มีสภาพคล่อง

ไม่มีใครสนใจจะซื้อ

ผมเข้าไปซื้อ เพราะได้แต้มต่อด้านยีลด์ปันผลดี  พีอีต่ำ พีบีวีต่ำ  แต่ดีอีสูง (เป็นตัวชี้วัดที่ไม่ค่อยชอบ)
ซื้อขายอยู่หลายรอบเหมือนกัน  แต่ละรอบนานเกินเดือนทั้งสิ้น
รอบสุดท้าย  เกิดหลังซับไพร์ม  ราคาหุ้นเริ่มดิ่งจาก บาทกว่าๆ ลงไป ๗๐ สตางค์
เลยเข้าเริ่มซื้อ เพื่อหวังยีลด์ปันผลสิบเปอร์เซนต์ จากปันผล ๗ สตางค์ต่อหุ้น
ราคาหุ้นก็ยังลงต่อ  ทั้งๆที่ผลประกอบการบริษัทไม่ได้แย่ลง
เท่ากับ  ราคาหุ้นกำลังแยกทางกันเดินอย่างสร้างสรรค์กับผลประกอบการของหุ้น

เลยสิ้นสุดการซื้อเฉลี่ยขาลงที่ หนึ่งล้านหุ้น  ราคาเฉลี่ย ห้าสิบหกสตางค์  ได้ยีลด์ปันผลเกินสิบเปอร์เซนต์
ก็เลยถือกินปันผลมาเรือยๆ  
จนมีคนทำราคาขึ้นมาเป็นหนึ่งบาทกว่า  
ก็ขายห้าแสนหุ้น เอาเงินของตัวเองออกมาจนหมด   ซึ่งผมเรียกมันว่า คลายเครียดเรโขจุลภาค




2.พี่รู้ได้ล่วงหน้าหรือไม่ว่าราคาหุ้น ifec จะขึ้นมาถึง 10 เท่าแบบนี้ แบบมีพรรคพวกแนะนำมา



คำตอบของผม

ไม่เคยรู้เลยว่า จะมีคนกล้าทำราคามันจนเพิ่มมากมายขนาดนี้   
ตอนไอเฟคยังทำธุรกิจเครืองอัดสำเนา   แต่ราคาหุ้นเริ่มขยับจากหนึ่งบาทเป็นสองบาท
มีคนหลังไมค์มาถามความเห็นว่า  ควรขายทำกำไรหรือไม่
ผมตอบว่า  ถ้าต้นทุนแพง ก็ควรขายทำกำไร  แต่สำหรับผม ถือว่าไม่มีทางขาดทุนจากหุ้นตัวนี้แล้ว
ก็เลยจะตามไปดู

แต้มต่อในตอนนั้นคือ

ขายหุ้นบางส่วน เอาทุนขึ้นมาจนหมด

ได้เงินปันผล  เท่ากับเงินที่ใช้ซื้อหุ้น

และมีความเชื่อลึกๆ เมื่อมีข่าวเรื่องไอเฟคจะหันไปหาธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ว่า
จะต้องมีคนทำราคาหุ้น เหมือนกับที่ทำราคาหุ้น sst  เพราะมันมีสตรอเบอรี่ให้เจ้ามือใช้ปั่นได้

แต้มต่อเริ่มเพิ่มมากขึ้นตามลำดับคือ

แจกวอร์แรนท์ฟรี  เลยขายทำกำไรส่วนเกินทุนได้มาสองล้านบาทจากวอร์แรนท์ฟรี

แจกหุ้นปันผล  เอามาขายทำกำไรส่วนเกินทุน


ขายหุ้นเก่า เอาเงินไปจองหุ้นใหม่ทุกครั้ง
เพราะไม่ยอมใส่เงินเพิ่มให้หุ้นตัวนี้อีกแล้ว ฯลฯ

ตอนนี้เหลือหุ้นไม่มีต้นทุน อยู่สี่แสนหุ้น
ที่จะขายให้หมดภายในปีนี้

ลืมตอบที่ถามว่า มีพรรคพวกคอยแนะนำหรือไม่ ?

คำตอบของผมคือ  ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้าตลาดหุ้นมา  ผมยังไม่เคยซื้อขายหุ้นตามใครแนะนำ
เลยไม่มีทั้งหนี้บูญคุณ หรือหนี้แค้นกับใครในตลาดหุ้นครับ
เป็นเรื่องจริง  ที่ผมยังชอบบอกกับแม่ ภรรยา และพีน้องว่า  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมีนิสัยแบบนั้น
เพราะมันมีทั้งผลร้าย และผลดี อยู่ในตัว
ก็เอาเป็นว่า  เราเลือกเดินเส้นทางนี้มานานมาก  จนเปลี่ยนนิสัยไม่ได้แล้ว




3.แนะนำวิธีหาหุ้น 10 เด้งแบบนี้ได้หรือไม่ครับ


คำตอบของผม

ไม่รู้จะแนะนำอย่างไร  เพราะผมไม่เคยมีเป้าราคาของหุ้นที่ซื้อและถือเอาไว้
ตราบใดที่ยังจ่ายเงินปันผลดีกว่าฝากธนาคารมากๆ  ก็คือกินปันผลไป
ถ้าราคามันขึ้นมากจนเราหาเหตุผลไม่ได้  ก็ต้องทำคลายเครียดเรโช
เพื่อลดแรงกดดันต่อสภาพจิตใจของตัวเอง ในการที่จะถือหุ้นต่อ

จริงๆแล้ว  ผมทำได้แค่  สามารถเอาสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด  มาใช้เป็นประโยชน์กับตัวเองเท่านั้น

คือมีความสามารถในการถือหุ้นที่คิดว่าดีๆ  ได้ไม่จำกัดเวลา  โดยไม่เสียสุขภาพจิต

ไม่ว่าจะถือนานแค่หนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือสิบปี

เป็นคนไม่มีความสามารถจะพยากรณ์ได้ว่า  หุ้นตัวนี้ ตัวนั้น  จะขึ้นสิบเด้งแบบพวกเซียนวีไอ และเซียนกราฟ
คงพูดได้ว่า  ผมแค่อยู่เฉยๆ    แต่สิบเด้งของไอเฟคมันวิ่งเข้ามาหาเองครับ








4.ช่วงนี้หรือปีนี้มีหุ้นอะไรน่าสนใจในสายตาพี่บ้างครับ
ผมรับรองว่าจะไม่นำคำตอบพี่ไปอ้างอิงหรือทำให้พี่เสียหาย
จะใช้เพื่อปรับปรุงการวางแผนการลงทุนส่วนตัวเท่านั้น
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
มีความสุขมากๆนะครับ


คำตอบของผม

ผมหาหุ้นที่แต้มต่อมากๆ ตามตัวชี้วัดของผม  ไม่ได้มาสองปีแล้วครับ
ได้แต่ซื้อหุ้นที่มีแต้มต่อไม่มาก   ซึ่งคงหวังกำไรเป็นเด้งๆยาก
แต่ก็ยังได้จาก L I T  ประมาณหนึ่งเด้ง  ทั้งๆที่ซื้อตอนเชื่อว่า มีแต้มต่อไม่มาก

หลายเดือนมานี้ซื้อหุ้นที่ ได้ยีลด์ประมาณ สี่ถึงหกเปอร์เซนต์ไว้ ๒ ตัว
โดยขายหุ้นที่ให้ยีลด์น้อยกว่าฝากธนาคาร  มาซื้อตัวใหม่ที่มีแต้มต่อด้านยีลด์ปันผลมากกว่าแทน

ความเห็นส่วนตัวของผมคือ
นักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมาก  กำลังได้บทเรียนราคาแพงจากหุ้นต้มตุ๋นที่ปั่นกันจนเวอร์
ส่วนนักลงทุนหน้าเก่า ก็ต้องหาทางรักษาเงินต้นของตัวเองให้ดีๆครับ
ยอมรับว่า ผมไม่ได้คาดหวังจะมีมูลค่าพอร์ตเพิ่มในปีนี้


เงินมายาของผม  ลงมาจากออลไทม์ไฮแล้ว ประมาณ หกล้านบาท
(คำนวณผิด  ที่จริงน่าจะประมาณสามล้านห้าแสนบาท
ลืมนับหุ้น XD ประมาณห้าแสนบาท และเงินจริงที่ชักออกจากพอร์ตอีก สองล้านบาท)

เศร้าเศร้าเศร้าเศร้า

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ
ถ้ายอมรับสภาพร่างกายตัวเองได้  ก็ถือว่าชีวิตน่าพอใจ
ถ้ารับสภาพไม่ได้  ก็มีแต่จะทำให้สุขภาพจิตแย่ตามไปด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่