สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอมาปาดน้ำตาแล้วมา มารยา เล่าให้ฟังนะเออ
หลายๆคนคงจะเป็นเหมือนกัน หรือ สวนทางกันกับเรานะ ในสภาวะอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน .... เห้อ ชะนีเพลียค่ะ
แรกๆก็เป็นนะ กินอะไรไม่ได้ นอนไม่หลับ เพ้อ มโนถึงวันวานยังหวานอยู่ ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยยยยยยยย
เพื่อนๆที่ทำงานต่างบอก เห้ย!! เมริงโทรมจังว่ะ , แหลกๆมั่งข้าวอ่ะ ไม่อ้วนไปกว่านี้หรอก , เห้ยอกหักหรอ ป่ะ ก รู เลี้ยง เอาให้เมาเลย(ขออภัยที่ใช้ภาษาเพื่อนคุยค่ะ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน)
เป็นแบบนี้ไป 1 อาทิตย์ ไม่กินข้าวเลยยยยยยยยย กินแต่น้ำ นม ขนมไม่เตะ ฉันเศร้า ฉันเสียใจ กลับมาบ้านต้องมาทนเห็นหน้าคนที่เคยรักทุกวัน ทำไมเธอเฉยชา ทำไม ทำมายยยยยยยยยยย
หลังจากนั้นมาก็คิดได้ว่า เออ มันก็ดีนะ ฉันจะได้สวยยยยยย แผนกฉัน ฉันสวยที่สุด (เพราะมี ผู้หญิงคนเดียว)
เลิกงานมา กลับบ้าน นั่งคิดเมนูเพื่อที่จะให้อิ่ม ร่างกายจะได้มีแรงไปทำงาน
หลักการง่ายๆของเราคือ
1.กินอะไรก็กินไป แต่ไม่กินข้าว ไม่กินแป้ง กินแค่พอหายหิว (ป่าวหรอก มันก็ยังกินไม่ลง T^T)
2.ฉันต้องไปออกกำลังกายนะย๊ะ เลิกงานมาก็ขี่มอไซต์ไปสวนสาธารณะใกล้ วิ่ง 3 รอบสนาม วิ่งๆ เดินๆ
3.น้ำหวานหรอ น้ำอัดลมหรอ ? หึหึ เราเลิกกันสักพักนะ แต่ก็แอบมีบ้างไปอุดหนุนเพื่อหวัง BENZ แหะๆ
4.เวลาหิว เปิด Facebook , LINE แล้วไปดูข้อความเก่า ไทม์ไลน์ของเรา แล้วนั่งเศร้า ..... แหลกไม่ลงอีกแล้ว (อันนี้เป็นวิธีหลอกตัวเองที่ง่ายมาก แอบซาดิสอ่ะ)
จากวันนั้นถึงวันนี้ น้ำหนักลดลงไป 10 กิโล ปลื้มค่ะ กางเกงต้องเปลี่ยน size ใหม่หมด กางเกงใส่เล่นนี่ เวลาเดินต้องคอยดึงขึ้นตลอด เอะอะก็จะหลุด หึหึ (ฉันไม่ได้อ่อยนะ)
สุขภาพร่างกายดีขึ้น ไม่ค่อยป่วย โรคกรดไหลย้อนนี่ลืมไปได้เลย ไม่เคยมาหา จากแต่ก่อนนี่มาทุกวัน (กินเยอะไง ย่อยไม่ทัน)
ไม่เคยนับแคลเลอรี่ค่ะ ขี้เกียจ
เพื่อนร่วมงานนี่ตัวดีเลย
สวยขึ้นนะ เอาให้สวยกว่านี้นะ เดี๋ยว ก รู จะจีบ (ฝันไปเหอะย๊ะ ตอนนี้ฉันรักใครยังไม่ได้ 555555)
ขอบคุณความรักของครอบครัวที่มีให้ โดยเฉพาะน้องชายที่กลายเป็นพ่อ คอยโทรด่า
ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ฉันมีหวัง
ขอบคุณร่างกายที่ยังหายใจไปด้วยกัน
และสุดท้าย ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่านนะคะ
++ เมื่อฉันอกหัก น้ำหนักลดลง 10 KG. ภายใน 38 วัน ++
หลายๆคนคงจะเป็นเหมือนกัน หรือ สวนทางกันกับเรานะ ในสภาวะอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน .... เห้อ ชะนีเพลียค่ะ
แรกๆก็เป็นนะ กินอะไรไม่ได้ นอนไม่หลับ เพ้อ มโนถึงวันวานยังหวานอยู่ ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยยยยยยยย
เพื่อนๆที่ทำงานต่างบอก เห้ย!! เมริงโทรมจังว่ะ , แหลกๆมั่งข้าวอ่ะ ไม่อ้วนไปกว่านี้หรอก , เห้ยอกหักหรอ ป่ะ ก รู เลี้ยง เอาให้เมาเลย(ขออภัยที่ใช้ภาษาเพื่อนคุยค่ะ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน)
เป็นแบบนี้ไป 1 อาทิตย์ ไม่กินข้าวเลยยยยยยยยย กินแต่น้ำ นม ขนมไม่เตะ ฉันเศร้า ฉันเสียใจ กลับมาบ้านต้องมาทนเห็นหน้าคนที่เคยรักทุกวัน ทำไมเธอเฉยชา ทำไม ทำมายยยยยยยยยยย
หลังจากนั้นมาก็คิดได้ว่า เออ มันก็ดีนะ ฉันจะได้สวยยยยยย แผนกฉัน ฉันสวยที่สุด (เพราะมี ผู้หญิงคนเดียว)
เลิกงานมา กลับบ้าน นั่งคิดเมนูเพื่อที่จะให้อิ่ม ร่างกายจะได้มีแรงไปทำงาน
หลักการง่ายๆของเราคือ
1.กินอะไรก็กินไป แต่ไม่กินข้าว ไม่กินแป้ง กินแค่พอหายหิว (ป่าวหรอก มันก็ยังกินไม่ลง T^T)
2.ฉันต้องไปออกกำลังกายนะย๊ะ เลิกงานมาก็ขี่มอไซต์ไปสวนสาธารณะใกล้ วิ่ง 3 รอบสนาม วิ่งๆ เดินๆ
3.น้ำหวานหรอ น้ำอัดลมหรอ ? หึหึ เราเลิกกันสักพักนะ แต่ก็แอบมีบ้างไปอุดหนุนเพื่อหวัง BENZ แหะๆ
4.เวลาหิว เปิด Facebook , LINE แล้วไปดูข้อความเก่า ไทม์ไลน์ของเรา แล้วนั่งเศร้า ..... แหลกไม่ลงอีกแล้ว (อันนี้เป็นวิธีหลอกตัวเองที่ง่ายมาก แอบซาดิสอ่ะ)
จากวันนั้นถึงวันนี้ น้ำหนักลดลงไป 10 กิโล ปลื้มค่ะ กางเกงต้องเปลี่ยน size ใหม่หมด กางเกงใส่เล่นนี่ เวลาเดินต้องคอยดึงขึ้นตลอด เอะอะก็จะหลุด หึหึ (ฉันไม่ได้อ่อยนะ)
สุขภาพร่างกายดีขึ้น ไม่ค่อยป่วย โรคกรดไหลย้อนนี่ลืมไปได้เลย ไม่เคยมาหา จากแต่ก่อนนี่มาทุกวัน (กินเยอะไง ย่อยไม่ทัน)
ไม่เคยนับแคลเลอรี่ค่ะ ขี้เกียจ
เพื่อนร่วมงานนี่ตัวดีเลย สวยขึ้นนะ เอาให้สวยกว่านี้นะ เดี๋ยว ก รู จะจีบ (ฝันไปเหอะย๊ะ ตอนนี้ฉันรักใครยังไม่ได้ 555555)
ขอบคุณความรักของครอบครัวที่มีให้ โดยเฉพาะน้องชายที่กลายเป็นพ่อ คอยโทรด่า
ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ฉันมีหวัง
ขอบคุณร่างกายที่ยังหายใจไปด้วยกัน
และสุดท้าย ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่านนะคะ