เพียงขั้นสงบยังเอาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร จะพูดอะไรถึงเรื่องขั้นปัญญาความเฉลียวฉลาดแหลมคมยิ่งกว่านี้
ซึ่งเป็นอันดับที่ออกไปจากความสงบ
ใจหาความสงบไม่ได้ จะพิจารณาให้มีความแยบคายทางด้านปัญญาในแง่ต่างๆ
ของธาตุของขันธ์ เพื่อรู้แจ้งแทงทะลุในขันธ์นั้นๆ ไปได้อย่างไร เมื่อจิตก็กำลังฟุ้งซ่านรำคาญหิวโหยเต็มตัวอยู่
พาพิจารณาเรื่องอะไร สัญญาอารมณ์ก็ฉุดก็ลากไปเสีย ไม่เป็นปัญญาไม่เป็นอรรถเป็นธรรมขึ้นมาให้ชมได้บ้างเลย
จึงต้องอาศัยการอบรมใจเพื่อความสงบได้เท่าที่ควร พอจิตมีความสงบตัวได้ จิตก็เริ่มอิ่มตัวขึ้นมาควรแก่การพิจารณาทางด้านปัญญาได้
ไม่หิวโหยกับอารมณ์ดังที่เคยเป็นมา นี่หลักการปฏิบัติจิตเป็นอย่างนี้ไม่เป็นอย่างอื่น ขอให้เป็นที่ลงใจสำหรับท่านผู้ปฏิบัติทั้งหลาย
เอาให้จริงให้จัง ของวิเศษอยู่กับธรรมแท้ๆ ไม่ได้อยู่กับกิเลสตัณหาอาสวะประเภทใดๆ พอที่จะหลงตามคล้อยตาม
เคลิ้มหลับไหลไปตามมันอยู่ไม่หยุดหย่อนพอผ่อนคลายกันบ้างมีอย่างเหรอ พิจารณาซิ เคยเกิดเคยตายมากี่กัปกี่กัลป์
จงประมวลกันลงในชาตินี้ นับแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้เราเคยสัมผัสสัมพันธ์กับเรื่องเหล่านี้มาแล้ว
เพราะคลุกเคล้ากันมาตั้งแต่วันเกิด นอนจมกันมาอยู่แล้ว ไม่พอเห็นโทษเห็นคุณของมันบ้างเหรอ
เอาสิ่งที่เคยเป็นมามาเทียบกับธรรมะดูซิเป็นอย่างไร ควรจะมีแก่ใจพินิจพิจารณากันตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นจอมปราชญ์ฉลาดแหลมคมได้บ้างไหม
ความเลิศก็คือพระพุทธเจ้า ธรรมพาให้พระองค์เลิศ กิเลสไม่ได้พาให้เลิศ
ทำไมจึงต้องคว้าเอากิเลสมาฟัดมาเหวี่ยงมาทำลายธรรมทั้งๆ ที่ประกอบความพากเพียรอยู่ได้ลงคอ
มันน่าพิจารณาเอามากนะ หากว่าไม่เอากิเลสเข้ามาเหยียบย่ำทำลายธรรม
ในขณะที่ประกอบความเพียรอยู่แล้วทำไมจิตจะหาความสงบไม่ได้ เพราะเราทำเพื่อความสงบแท้ๆ
และเราทำเพื่อปัญญาความเฉลียวฉลาดแหลมคม เพื่อความรู้แจ้งแทงทะลุตามความจริงทั้งหลายแท้ๆ
ซึ่งเวลานี้กิเลสตัวจอมปลอมมันไปฝังของปลอมหลอกลวงไว้เต็มธาตุเต็มขันธ์เต็มอายตนะเต็มใจ
จะถอนมันออกมาจากนี้เพื่อเห็นความจริงและลบล้างความปลอมนั้น
--------------------------------------------
ของวิเศษอยู่กับธรรม - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๔
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=940&CatID=3
เพียงขั้นสงบยังเอาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร จะพูดอะไรถึงเรื่องขั้นปัญญาความเฉลียวฉลาดแหลมคมยิ่งกว่านี้
เพียงขั้นสงบยังเอาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร จะพูดอะไรถึงเรื่องขั้นปัญญาความเฉลียวฉลาดแหลมคมยิ่งกว่านี้
ซึ่งเป็นอันดับที่ออกไปจากความสงบ ใจหาความสงบไม่ได้ จะพิจารณาให้มีความแยบคายทางด้านปัญญาในแง่ต่างๆ
ของธาตุของขันธ์ เพื่อรู้แจ้งแทงทะลุในขันธ์นั้นๆ ไปได้อย่างไร เมื่อจิตก็กำลังฟุ้งซ่านรำคาญหิวโหยเต็มตัวอยู่
พาพิจารณาเรื่องอะไร สัญญาอารมณ์ก็ฉุดก็ลากไปเสีย ไม่เป็นปัญญาไม่เป็นอรรถเป็นธรรมขึ้นมาให้ชมได้บ้างเลย
จึงต้องอาศัยการอบรมใจเพื่อความสงบได้เท่าที่ควร พอจิตมีความสงบตัวได้ จิตก็เริ่มอิ่มตัวขึ้นมาควรแก่การพิจารณาทางด้านปัญญาได้
ไม่หิวโหยกับอารมณ์ดังที่เคยเป็นมา นี่หลักการปฏิบัติจิตเป็นอย่างนี้ไม่เป็นอย่างอื่น ขอให้เป็นที่ลงใจสำหรับท่านผู้ปฏิบัติทั้งหลาย
เอาให้จริงให้จัง ของวิเศษอยู่กับธรรมแท้ๆ ไม่ได้อยู่กับกิเลสตัณหาอาสวะประเภทใดๆ พอที่จะหลงตามคล้อยตาม
เคลิ้มหลับไหลไปตามมันอยู่ไม่หยุดหย่อนพอผ่อนคลายกันบ้างมีอย่างเหรอ พิจารณาซิ เคยเกิดเคยตายมากี่กัปกี่กัลป์
จงประมวลกันลงในชาตินี้ นับแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้เราเคยสัมผัสสัมพันธ์กับเรื่องเหล่านี้มาแล้ว
เพราะคลุกเคล้ากันมาตั้งแต่วันเกิด นอนจมกันมาอยู่แล้ว ไม่พอเห็นโทษเห็นคุณของมันบ้างเหรอ
เอาสิ่งที่เคยเป็นมามาเทียบกับธรรมะดูซิเป็นอย่างไร ควรจะมีแก่ใจพินิจพิจารณากันตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นจอมปราชญ์ฉลาดแหลมคมได้บ้างไหม
ความเลิศก็คือพระพุทธเจ้า ธรรมพาให้พระองค์เลิศ กิเลสไม่ได้พาให้เลิศ
ทำไมจึงต้องคว้าเอากิเลสมาฟัดมาเหวี่ยงมาทำลายธรรมทั้งๆ ที่ประกอบความพากเพียรอยู่ได้ลงคอ
มันน่าพิจารณาเอามากนะ หากว่าไม่เอากิเลสเข้ามาเหยียบย่ำทำลายธรรม
ในขณะที่ประกอบความเพียรอยู่แล้วทำไมจิตจะหาความสงบไม่ได้ เพราะเราทำเพื่อความสงบแท้ๆ
และเราทำเพื่อปัญญาความเฉลียวฉลาดแหลมคม เพื่อความรู้แจ้งแทงทะลุตามความจริงทั้งหลายแท้ๆ
ซึ่งเวลานี้กิเลสตัวจอมปลอมมันไปฝังของปลอมหลอกลวงไว้เต็มธาตุเต็มขันธ์เต็มอายตนะเต็มใจ
จะถอนมันออกมาจากนี้เพื่อเห็นความจริงและลบล้างความปลอมนั้น
--------------------------------------------
ของวิเศษอยู่กับธรรม - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๔
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=940&CatID=3