ผมประสบปัญหาในการเจริญกรรมฐานผ่านการทดลองด้วยตนเองและปฏิบัติตามคลิปธรรมเทศนาต่างๆใน Youtube โดยใช้อารมณ์แบบอาณาปานสติ (ไม่มีอาจารย์ หรือผ่านการอบรมที่ไหนแบบจริงจัง มาก่อน) อยากสอบถามถึงวิธีการแก้ไขปัญหา และพัฒนาการปฏิบัติกรรมฐานครับ ทั้งสองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ต่างวาระกันนะครับ แต่ขอรบกวนถามในคราเดียวกันนี้เลย ขอบพระคุณครับ
1. ดูตามลมหายใจ จากปลายจมูกไปสุดที่ฐานเหนือสะดือ จนได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออก ชัดเจนมาก ก่อนที่ลมหายใจจะละเอียดขึ้นเรื่อย จนเกือบจับลมหายใจไม่ได้ เหลือแค่ความรู้สึกแผ่วๆมากๆ ที่ปลายจมูก ถ้าไม่เพ่งจะไม่รู้สึก เหมือนลมหายใจหายไป แต่จริงๆยังอยู่ แค่แทบจะรับรู้ไม่ได้ ไม่สว่าง ไม่มีปีติ แต่รู้สึกเงียบสงบ ไม่รู้จะไปยังไงต่อ เพราะจิตเริ่มขาดที่ยึด ความคิดเริ่มแทรกเข้ามาเป็นช่วงๆ เลยหันไปบริกรรม พุธโธ แทน รู้สึกเหมือนตัวเริ่มโยกไปด้านข้างเล็กน้อยเหมือนลูกตุ้มนาฬิกา จริงๆกายยังตั้งตรงอยู่ เริ่มนึกสนุก ตามเล่นกับความรู้สึกนั้น มันเริ่มโยกแรงขึ้นเลย หยุด เพราะคิดได้ว่าไม่ดี ไม่ใช่ทาง นั่งต่อสักพัก ไม่รู้ว่าทำอย่างไรต่อให้คืบหน้าเลยออกจากกรรมฐาน
2. ลองทำกรรมฐานแบบ อาณาปานสติ แบบจับความรู้สึกไว้ที่ฐานอารมณ์ในโพรงจมูก (ไม่ได้ตามลมเข้าออก) ยังไม่สงบแต่พยายามปรับลมหายใจให้ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ แต่คงทำไม่ถูกวิธี จิตเลยเริ่มตกภวังค์ สติหายไปเป็นช่วงๆ ขันธมารมากวน ปวดขา ปกติรู้ว่าควรจะวางเฉย แต่ด้วยความอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยลองขยับดู คราวนี้อารมณ์ฟุ้งซ่าน มาเต็มๆ ครับ นั่งต่อไม่ได้เลยต้องเลิก
อยากถามผู้รู้ที่มีประสบการณ์ทุกท่าน ว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ ควรแก้ไขอย่างไร ในครั้งต่อๆไป ถ้าเจอแบบเหตุการณ์ที่กล่าวมานั้นอีก
ปลฺ โดยเฉพาะ ข้อสอง ผมสงสัยมากว่า ทำไมจิตถึงแปรสภาพได้รวดเร็ว จากตกภวังค์เป็นฟุ้งซ่านได้ในการนั่งกรรมฐานครั้งเดียวกัน ขอบพระคุณมากครับ
จับลมไม่ได้ จิตตกภวังค์ ตอนเจริญสมถะกรรมฐาน ช่วยด้วยครับ
1. ดูตามลมหายใจ จากปลายจมูกไปสุดที่ฐานเหนือสะดือ จนได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออก ชัดเจนมาก ก่อนที่ลมหายใจจะละเอียดขึ้นเรื่อย จนเกือบจับลมหายใจไม่ได้ เหลือแค่ความรู้สึกแผ่วๆมากๆ ที่ปลายจมูก ถ้าไม่เพ่งจะไม่รู้สึก เหมือนลมหายใจหายไป แต่จริงๆยังอยู่ แค่แทบจะรับรู้ไม่ได้ ไม่สว่าง ไม่มีปีติ แต่รู้สึกเงียบสงบ ไม่รู้จะไปยังไงต่อ เพราะจิตเริ่มขาดที่ยึด ความคิดเริ่มแทรกเข้ามาเป็นช่วงๆ เลยหันไปบริกรรม พุธโธ แทน รู้สึกเหมือนตัวเริ่มโยกไปด้านข้างเล็กน้อยเหมือนลูกตุ้มนาฬิกา จริงๆกายยังตั้งตรงอยู่ เริ่มนึกสนุก ตามเล่นกับความรู้สึกนั้น มันเริ่มโยกแรงขึ้นเลย หยุด เพราะคิดได้ว่าไม่ดี ไม่ใช่ทาง นั่งต่อสักพัก ไม่รู้ว่าทำอย่างไรต่อให้คืบหน้าเลยออกจากกรรมฐาน
2. ลองทำกรรมฐานแบบ อาณาปานสติ แบบจับความรู้สึกไว้ที่ฐานอารมณ์ในโพรงจมูก (ไม่ได้ตามลมเข้าออก) ยังไม่สงบแต่พยายามปรับลมหายใจให้ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ แต่คงทำไม่ถูกวิธี จิตเลยเริ่มตกภวังค์ สติหายไปเป็นช่วงๆ ขันธมารมากวน ปวดขา ปกติรู้ว่าควรจะวางเฉย แต่ด้วยความอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยลองขยับดู คราวนี้อารมณ์ฟุ้งซ่าน มาเต็มๆ ครับ นั่งต่อไม่ได้เลยต้องเลิก
อยากถามผู้รู้ที่มีประสบการณ์ทุกท่าน ว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ ควรแก้ไขอย่างไร ในครั้งต่อๆไป ถ้าเจอแบบเหตุการณ์ที่กล่าวมานั้นอีก
ปลฺ โดยเฉพาะ ข้อสอง ผมสงสัยมากว่า ทำไมจิตถึงแปรสภาพได้รวดเร็ว จากตกภวังค์เป็นฟุ้งซ่านได้ในการนั่งกรรมฐานครั้งเดียวกัน ขอบพระคุณมากครับ