http://ppantip.com/topic/33264638
เห็นกระทู้ตกไป แต่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน พุทธบริษัท4 ควรอธิบายอย่างไรดีครับ ?
รายละเอียดคร่าว ๆ ประมาณนี้
คคห.1 กล่าวถึงที่มาจากมีการสนทนาระหว่าง จขกท.กับชาวพุทธ ซึ่งแสดงคคห.ว่า ศาสนาพุทธมีหลักคำสอนที่ดีอย่างไร กล่าวกระทบต่อพระเจ้าว่าไม่มีความยุติธรรม เลยมาตั้งกระทู้แสดงมุมมองที่ตนกลั่นกรองมาให้โต้แย้ง ด้วยเหตุด้วยผล
คคห.2 กล่าวถึงความเชื่อเรื่องวัฏสงสารและการหลุดพ้น แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้มีมาก่อนที่ศาสนาพุทธจะเกิดขึ้น นำเสนอเรื่องศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
คคห.3 ให้ข้อสรุปว่าพุทธศาสนาได้รับอิทธิพลความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เรียกร้องให้พิสูจน์ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จริงหรือไม่โดยการใช้สติปัญญา ยกกลามสูตรขึ้นแสดง ป้องกันการถูกหลอกจากผู้ที่ไม่รู้จริง
นำเสนอ ปหาราทสูตร ยกขึ้นถามชาวพุทธว่า ที่ท้าวปหาราทจอมอสูรกล่าวมามีสิ่งใดกล่าวถูกต้องบ้าง รออ่านคำตอบ
1. มหาสมุทรลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ หาได้โกรกชันเหมือนเหวไม่
2. มหาสมุทรเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ไม่ล้นฝั่ง
3. มหาสมุทรไม่เกลื่อนด้วยซากศพ เพราะในมหาสมุทรคลื่นย่อมซัดเอาซากศพเข้าหาฝั่งให้ขึ้นบกทันที
4. แม่น้ำสายใหญ่ๆ บางสาย คือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู ม แม่น้ำเหล่านั้นไหลไปถึงมหาสมุทรแล้ว ย่อมละนามและโคตรเดิมหมด ถึงความนับว่ามหาสมุทรนั่นเอง
5. แม่น้ำทุกสายในโลก ย่อมไหลไปรวมยังมหาสมุทรและสายฝนจากอากาศตกลงสู่มหาสมุทร มหาสมุทรก็มิได้ปรากฏว่าจะพร่องหรือเต็มเพราะน้ำนั้นๆ
6. มหาสมุทรมีรสเดียว คือ รสเค็ม
7. มหาสมุทรมีรัตนะมากมายหลายชนิด ในมหาสมุทรมีรัตนะเหล่านี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ สังข์ ศิลา แก้วประพาฬ เงิน ทอง ทับทิม มรกต
8. มหาสมุทรเป็นที่พำนักอาศัยของพวกสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆและสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรนั้นมีดังนี้ คือ ปลาติมิ ปลาติมิงคลา ปลาติมิรมิงคลา พวกอสูร นาค คนธรรพ์ แม้ที่มีร่างกายประมาณ ๑๐๐ โยชน์ ๒๐๐ โยชน์ ๓๐๐ โยชน์ ๔๐๐ โยชน์ ๕๐๐ โยชน์ ก็มีอยู่
คคห.4 จขกท.ได้วิเคราะห์ทั้ง 8 ข้อไว้ดังนี้
1. มหาสมุทรมิได้ลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ แต่จะมีบางจุดหรือบางแห่งจะโกรกชันเหมือนเหว เพราะ...แผ่นเปลือกโลก(Plate) มีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา
บางแผ่นถูกดันขึ้นสู่เบื้องบนกลายเป็นภูเขาสูงใหญ่ อย่าง หิมาลัย บางจุดในมหาสมุทรลาดชัน เป็นหุบเหวลึก หรือที่เรียกว่า...สะดือทะเล
2. น้ำในมหาสมุทรมีปริมาณมากน้อยตามวัฏจักรหรือตามสภาพอากาศของโลก บางครั้งก็เอ่อล้น ท่วมบริเวณที่ใกล้กับชายฝั่งจนจมมิดหายไปเช่น ครั้งหนึ่งภูมิประเทศทางภาคกลางของประเทศไทยเราก็เคยจมอยู่ในทะเลมาก่อนเป็นต้น
3. ในมหาสมุทรมีกระแสลมที่พัดจากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงไปสู่บริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ หรือพัดจาก...ผืนน้ำ...สู่ผืนดิน สิ่งที่จะนำวัสดุ สิ่งของหรือซากศพขึ้นมาบนฝั่งนั้นไม่ใช่เป็นเพราะ...คลื่น แต่เป็นเพราะ...ลม ซึ่งลมเองก็มีอยู่ทั่วไป ไม่ใช่ เฉพาะในมหาสมุทรเท่านั้น
4. มหาสมุทรไม่ได้มีเฉพาะทะเลน้ำเค็มเท่านั้น แต่...จะมีตาน้ำจืดขนาดใหญ่อยู่ในทะเลหรือมหาสมุทรด้วย ซึ่งตาน้ำจืดเหล่านี้ อาจจะเกิดจากแหล่งเก็บน้ำธรรมชาติหรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ บนพื้นดิน
5. มหาสมุทรไม่ใช่แหล่งกำเนิดรัตนะประเภท เงิน ทอง ทับทิม มรกต หรืออื่น ๆ เพราะ...เงิน ทอง นั้นเกิดจากสายแร่ในธรรมชาติแต่ถ้านำมาถลุงแล้วขึ้นรูปทำเป็นเหรียญกษาปณ์ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ อันนี้เกิดจากโรงงานแล้วหล่ะครับ...มิใช่เกิดจากท้องมหาสมุทร ส่วนหินหรือแร่อืน ๆ ก็มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป ไม่ใช่แต่ใน....มหาสมุทรเท่านั้น
6. ปลาเป็นสัตว์เดรัชฉานประเภทกายหยาบ(สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า) ยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนมากเท่านั้น คำถามมีอยู่ว่า...เมื่อ 2500 ปี ที่แล้วมา ปลาที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 100 โยชน์นี่ ปลามันจะไปอยู่ไหนกันหล่ะพ่อยักษ์เอ้ย?? เมื่อ ระยะ 1 โยชน์ คือความยาว 16 กิโลเมตร
คคห.5 เสนอ 1 โยชน์=16 กิโลเมตร ให้ข้อสรุปว่าท้าวปหาราทะจอมอสูรไม่มีความรู้
เรื่องความลึกของท้องทะเล แล้วอ้างไปถึงสุริยสูตร ในเรื่องดวงอาทิตย์กับแม่น้ำ
คคห.6 จขกท.เสนอว่า ภูมิประเทศที่ปรากฎในพระไตรปิฎกนั้น ไม่ถูกต้อง
แสดงข้อสังเกตไว้ดังนี้
...แม่น้ำคงคาไม่มีแม่น้ำสาขาย่อย เพราะ... มีแหล่งกำเนิดมาจากการละลายของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย ดังที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น นั่น!! หมายความว่า...แท้จริงตถาคตนั้น...ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จักต้นกำเนิดของแม่น้ำคงคาในประเทศอินเดียมาก่อน?? ...
แสดงประเด็นไว้ 6 ข้อคือ
1. หากอาทิตย์ดวงที่ ๒ ปรากฏ แม่น้ำลำคลองทั้งหมด ย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ( อันนี้ถูกต้อง )
2. หากอาทิตย์ดวงที่ ๓ ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ๆคือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู ม ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ( ผิด...ต้องแห้งหลังข้อ 3 )
3. หากอาทิตย์ดวงที่ ๔ ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ๆ ที่ไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู ม ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ
( ผิด...ต้องแห้งก่อนข้อ 2 )
4. หากอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏ น้ำในมหาสมุทรลึก ๑๐๐ โยชน์ก็ดี ๒๐๐ โยชน์ก็ดี ๓๐๐ โยชน์ก็ดี ๔๐๐ โยชน์ก็ดี ๕๐๐โยชน์ก็ดี๖๐๐ โยชน์ก็ดี๗๐๐ โยชน์ก็ดี ท้ายที่สุดแล้วย่อมงวดลงเหลือเพียงในรอยเท้าโค ( ลำดับการแห้งถูกต้อง แต่...ความลึกของมหาสมุทรผมจะกลับมาพิสูจน์ว่า...ผิด...ในภายหลัง )
5. หากอาทิตย์ดวงที่ ๖ ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่งขึ้น เปรียบเหมือนนายช่างหม้อเผาหม้อที่ปั้นดีแล้ว ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่งขึ้น
( ผิด...จะเกิดควันจากการระเหย หรือจากการเดือดของไอน้ำก่อนหน้านี้แล้ว จนปริมาณน้ำในแหล่งเก็บน้ำตามธรรมชาติแห้งไปจนหมดสิ้น )
6. หากอาทิตย์ดวงที่ ๗ ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ไฟจะติดทั่วลุกโชติช่วง มีแสงเพลิงเป็นอันเดียวกัน เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขาสิเนรุไฟเผาลุกโชน ลมหอบเอาเปลวไฟฟุ้งไปจนถึงพรหมโลก เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขาสิเนรุถูกไฟเผาผลาญอยู่ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่า ( เป็นการเผาไหม้ในสภาพที่ไร้อ็อกซิเจน )
คคห.7 เสนอว่า ตถาคตเชื่อว่าดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ในระบบสุริยจักรวาลเป็นเทพหรือเทวดาตามแบบความเชื่อของพราหมณ์-ฮินดู (สรุยะสูตรที่ 10+จันทิมสูตรที่ 9)
ให้คคห.ว่า ตถาคตบอกว่า
...ดวงอาทิตย์(Sun)ในระบบสุริยจักรวาลของเรานั้น...มีสันฐานเป็นวงกลม(Cycle)ที่มี 2 มิติ มิได้มีสัณฐานเป็นทรงกลม หรือ Spheroid ซึ่งเป็นรูปทรง 3 มิติตามความเป็นจริงและที่สำคัญพระไตรปิฎกบอกกับชาวพุทธทั้งหลายในสุริยสูตรที่ 10 ว่าพระองค์คือ...พระบิดาของดวงอาทิตย์(Sun)ในระบบสุริยจักรวาลของเรา (...ดูกรราหู ท่านจงปล่อยสุริยะ ผู้เป็นบุตรของเรา ฯ) ??...
คคห.8 อธิบายว่าทำไมตนจึงดำเนินเรื่องเป็นลำดับ
1)กำเนิดความเชื่อ------------> (2)กาลามสูตร -----------> (3)ปหาราทสูตร -------------> (4) สุริยะสูตร นั่นเป็นเพราะว่า...
(1) ผมต้องการจะพิสูจน์ว่าศาสนาพุทธนั้นได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากศาสนาดั้งเดิมคือ...ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
(2) เพื่อเป็นการ...สร้างนิยามและความหมาย ในความเข้าใจในสิ่งที่ปรากฎในพระไตรปิฎกได้ถูกต้องตรงกัน ไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นโดยใช้หลัก....เหตุและผล รวมถึง...หลักกาลามสูตร ซึ่งเป็นคำสอนของตถาคตที่ปรากฎในพระไตรปิฎก ที่ชาวพุทธทั่วไปสามารถเข้าใจได้โดยง่าย
(3) เพื่อเป็นการป้องกัน...พุทธศาสนิกชนบางคนที่(อาจจะ)เข้ามาบอกกับเราว่า...สิ่งที่พระไตรปิฎกกล่าวถึงนั้น ต้องเป็นมนุษย์ที่หมั่นฝึกบำเพียรตน
จนมีญาณแก่กล้าสามารถ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ มองเห็นและได้ยินในสิ่งเหนือโลกเท่านั้นจึงจะมองเห็นและเข้าใจได้
ท้ายที่สุด...
(4) เพื่อจะพิสูจน์ให้เห็นว่า...สติปัญญาของมนุษย์ที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.)ให้มานั้นต่างหาก ที่อยู่เหนือญาณวิเศษหยั่งรู้ใด ๆ ทั้งสิ้นของมนุษย์
พร้อมทั้ง defence ว่า....เมื่อใดก็ตามที่พระไตรปิฎกกล่าวถึงสิ่งใดก็ตามที่สามัญสำนึกสติปัญญาของมนุษย์หยั่งถึง เข้าใจได้ตามธรรมชาติ สิ่งนั้นก็...ไม่จำเป็นต้องตีความ ไม่ต้องเทียบเคียง ใด ๆ ทั้งสิ้น...
แล้วตั้งคำถามว่า
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณ Koper และทุก ๆ ท่านมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรกันบ้างครับ??
คคห.9 แสดงคคห.ว่าพุทธกับพราหมณ์ ต่างกันอย่างไร
1.ความเชื่อเรื่องพระผู้ทรงสร้าง (พราหมณ์เชื่อพุทธไม่เชื่อ)
2.กรรมเก่า (พราหมณ์เชื่อพุทธไม่เชื่อ)
3.พรหมลิขิต (พราหมณ์เชื่อ แต่พุทธบอกว่าอำนาจกรรมอยู่เหนือพรหมลิขิต)
4.เรื่องของวรรณะ (พราหมณ์ถือ พุทธไม่รับ)
5.พระไตรปิฏกบอกว่า ตถาคตคือพระพรหมหรือตรีมูรติ พระเจ้าสูงสุดของพราหมณ์
คคห.10
ยกชาดกที่อ้างถึง ตถาคตนั้นคือ พระพรหมหรือตรีมูรติ
(ดูช่วงท้ายชาดก ที่ตรัสว่าใครเป็นใคร)
http://www.84000.org/tipitaka/atita100/jataka500.php?s=461
ยกอัคคัญญสูตรขึ้นแสดง ว่าตถาคตเปรียบพระองค์เป็นพระพรหม
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะคำว่า ธรรมกายก็ดี ว่า พรหมกาย ก็ดี ว่า ธรรมภูต ก็ดี ว่า พรหมภูต ก็ดี เป็นชื่อของ ตถาคต ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=11&A=1703&Z=2129
คคห.11
ยกเรื่องสัพพัญญุตญาณขึ้นตามด้วย สุริยสูตร แสดงข้อสงสัยว่า ขุนเขาสิเนรุอยู่ตรงไหน?
(จขกท.แจ้งว่ามีภาพถ่ายอ้างอิงแต่ไม่ปรากฏในคคห.นี้)
คคห.13
อธิบายตำแหน่งของภูมิทั้ง 4 ทวีป (อ้างอิงเวปพลังจิต)
คคห.14
พูดถึงกล้องโทรทัศน์เคก ในฮาวาย ยกมหาปริณิพานสูตรขึ้นมาในข้อ
[๙๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรพระอานนท์ เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการเหล่านี้แล เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ๘ ประการเป็นไฉน ฯ
ดูกรอานนท์ มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศสมัยที่ลมใหญ่พัด เมื่อลมใหญ่พัดอยู่ย่อมยังน้ำให้ไหว น้ำไหวแล้ว ย่อมยังแผ่นดินให้ไหว อันนี้เป็นเหตุ เป็นปัจจัยข้อที่หนึ่ง เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
จขกท.ให้พิจารณาว่า จักรวาลตามที่พระไตรปิฏกแสดงนั้นถูกต้องหรือไม่
คคห.15
ตั้งคำถามว่า ภูเขาสิเนรุสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าของเราหรือไม่??
จขกท.เสนอว่า ชาวพุทธผู้ศึกษาธรรมมักจะบอกกับเราว่ามันเป็น ** ภูเขาทิพย์ ** ผู้ที่มีอภิญญาญาณเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นมันได้
แต่หักล้างพระสูตรที่แสดงถึงอิทธิฤทธิ์ของพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ที่ลูบภูเขาต่าง ๆได้ด้วยฤทธิ์ + คำตรัสแสดงเปรียบเทียบความเป็นเลิศด้วยภูเบา + การเทศน์สอนภิกษุในการเปรียบเทียบเขาสิเนรุกับคุณวิเศษของอริยสาวก
แล้วสรุปว่าถ้าตามนี้ เขาสิเนรุ ต้องมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แล้วตั้งคำถามว่าตกลงภูเขานี้อยู่ตรงส่วนไหนของจักรวาฬ ?
คคห.16
ยกประเด็นทวีปทั้ง4 ในพระไตรปิฏกมีอยู่จริงหรือไม่ ? เสนอหลักวิทยาศาสตร์สรุปว่า ทวีปอื่นอีก 3 ทวีปไม่มีอยู่จริง เสนอว่า มหาสมุทรสีทันดร คือ มหาสมุทรของโลกเราในปัจจุบัน แต่(มหาสมุทรปัจจุบัน)มีความลึกไม่เกิน 1 โยชน์(16 กม)
จขกท.สรุปว่าเนื้อหาในพระไตรปิฏกเกี่ยวกับจักรวาลนั้นไม่เป็นความจริง
คคห.17
แสดงเรื่องกำเนิดสรรพสิ่งต่าง ๆ ในอัคคัญญสูตร จขกท.วิเคราะห์ว่าขัดกับหลักวิทยาศาสตร์
คคห.18
เรื่อง...พราหมณ์ทั้งหมดเกิดจากช่องคลอด(โยนี)ของนางพราหมณ๊แย้งในประเด็นชีววิทยาว่ามนุษย์ต้องเกิดจากมนุษย์เท่านั้น โดยยกเรื่องกำเนิด 4 ขึ้นมาแย้งว่าทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีพ่อแม่ทั้งสิ้นแย้งว่าหลักชีววิทยา เมือกไคลไม่ใช่มูลเหตุของการกำเนิดชีวิต
จับประเด็นกระทู้---Tripitaka Exposed...เขาว่า...พระองค์ ตรัสรู้??
เห็นกระทู้ตกไป แต่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน พุทธบริษัท4 ควรอธิบายอย่างไรดีครับ ?
รายละเอียดคร่าว ๆ ประมาณนี้
คคห.1 กล่าวถึงที่มาจากมีการสนทนาระหว่าง จขกท.กับชาวพุทธ ซึ่งแสดงคคห.ว่า ศาสนาพุทธมีหลักคำสอนที่ดีอย่างไร กล่าวกระทบต่อพระเจ้าว่าไม่มีความยุติธรรม เลยมาตั้งกระทู้แสดงมุมมองที่ตนกลั่นกรองมาให้โต้แย้ง ด้วยเหตุด้วยผล
คคห.2 กล่าวถึงความเชื่อเรื่องวัฏสงสารและการหลุดพ้น แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้มีมาก่อนที่ศาสนาพุทธจะเกิดขึ้น นำเสนอเรื่องศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
คคห.3 ให้ข้อสรุปว่าพุทธศาสนาได้รับอิทธิพลความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เรียกร้องให้พิสูจน์ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จริงหรือไม่โดยการใช้สติปัญญา ยกกลามสูตรขึ้นแสดง ป้องกันการถูกหลอกจากผู้ที่ไม่รู้จริง
นำเสนอ ปหาราทสูตร ยกขึ้นถามชาวพุทธว่า ที่ท้าวปหาราทจอมอสูรกล่าวมามีสิ่งใดกล่าวถูกต้องบ้าง รออ่านคำตอบ
1. มหาสมุทรลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ หาได้โกรกชันเหมือนเหวไม่
2. มหาสมุทรเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ไม่ล้นฝั่ง
3. มหาสมุทรไม่เกลื่อนด้วยซากศพ เพราะในมหาสมุทรคลื่นย่อมซัดเอาซากศพเข้าหาฝั่งให้ขึ้นบกทันที
4. แม่น้ำสายใหญ่ๆ บางสาย คือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู ม แม่น้ำเหล่านั้นไหลไปถึงมหาสมุทรแล้ว ย่อมละนามและโคตรเดิมหมด ถึงความนับว่ามหาสมุทรนั่นเอง
5. แม่น้ำทุกสายในโลก ย่อมไหลไปรวมยังมหาสมุทรและสายฝนจากอากาศตกลงสู่มหาสมุทร มหาสมุทรก็มิได้ปรากฏว่าจะพร่องหรือเต็มเพราะน้ำนั้นๆ
6. มหาสมุทรมีรสเดียว คือ รสเค็ม
7. มหาสมุทรมีรัตนะมากมายหลายชนิด ในมหาสมุทรมีรัตนะเหล่านี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ สังข์ ศิลา แก้วประพาฬ เงิน ทอง ทับทิม มรกต
8. มหาสมุทรเป็นที่พำนักอาศัยของพวกสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆและสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรนั้นมีดังนี้ คือ ปลาติมิ ปลาติมิงคลา ปลาติมิรมิงคลา พวกอสูร นาค คนธรรพ์ แม้ที่มีร่างกายประมาณ ๑๐๐ โยชน์ ๒๐๐ โยชน์ ๓๐๐ โยชน์ ๔๐๐ โยชน์ ๕๐๐ โยชน์ ก็มีอยู่
คคห.4 จขกท.ได้วิเคราะห์ทั้ง 8 ข้อไว้ดังนี้
1. มหาสมุทรมิได้ลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ แต่จะมีบางจุดหรือบางแห่งจะโกรกชันเหมือนเหว เพราะ...แผ่นเปลือกโลก(Plate) มีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา
บางแผ่นถูกดันขึ้นสู่เบื้องบนกลายเป็นภูเขาสูงใหญ่ อย่าง หิมาลัย บางจุดในมหาสมุทรลาดชัน เป็นหุบเหวลึก หรือที่เรียกว่า...สะดือทะเล
2. น้ำในมหาสมุทรมีปริมาณมากน้อยตามวัฏจักรหรือตามสภาพอากาศของโลก บางครั้งก็เอ่อล้น ท่วมบริเวณที่ใกล้กับชายฝั่งจนจมมิดหายไปเช่น ครั้งหนึ่งภูมิประเทศทางภาคกลางของประเทศไทยเราก็เคยจมอยู่ในทะเลมาก่อนเป็นต้น
3. ในมหาสมุทรมีกระแสลมที่พัดจากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงไปสู่บริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ หรือพัดจาก...ผืนน้ำ...สู่ผืนดิน สิ่งที่จะนำวัสดุ สิ่งของหรือซากศพขึ้นมาบนฝั่งนั้นไม่ใช่เป็นเพราะ...คลื่น แต่เป็นเพราะ...ลม ซึ่งลมเองก็มีอยู่ทั่วไป ไม่ใช่ เฉพาะในมหาสมุทรเท่านั้น
4. มหาสมุทรไม่ได้มีเฉพาะทะเลน้ำเค็มเท่านั้น แต่...จะมีตาน้ำจืดขนาดใหญ่อยู่ในทะเลหรือมหาสมุทรด้วย ซึ่งตาน้ำจืดเหล่านี้ อาจจะเกิดจากแหล่งเก็บน้ำธรรมชาติหรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ บนพื้นดิน
5. มหาสมุทรไม่ใช่แหล่งกำเนิดรัตนะประเภท เงิน ทอง ทับทิม มรกต หรืออื่น ๆ เพราะ...เงิน ทอง นั้นเกิดจากสายแร่ในธรรมชาติแต่ถ้านำมาถลุงแล้วขึ้นรูปทำเป็นเหรียญกษาปณ์ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ อันนี้เกิดจากโรงงานแล้วหล่ะครับ...มิใช่เกิดจากท้องมหาสมุทร ส่วนหินหรือแร่อืน ๆ ก็มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป ไม่ใช่แต่ใน....มหาสมุทรเท่านั้น
6. ปลาเป็นสัตว์เดรัชฉานประเภทกายหยาบ(สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า) ยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนมากเท่านั้น คำถามมีอยู่ว่า...เมื่อ 2500 ปี ที่แล้วมา ปลาที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 100 โยชน์นี่ ปลามันจะไปอยู่ไหนกันหล่ะพ่อยักษ์เอ้ย?? เมื่อ ระยะ 1 โยชน์ คือความยาว 16 กิโลเมตร
คคห.5 เสนอ 1 โยชน์=16 กิโลเมตร ให้ข้อสรุปว่าท้าวปหาราทะจอมอสูรไม่มีความรู้
เรื่องความลึกของท้องทะเล แล้วอ้างไปถึงสุริยสูตร ในเรื่องดวงอาทิตย์กับแม่น้ำ
คคห.6 จขกท.เสนอว่า ภูมิประเทศที่ปรากฎในพระไตรปิฎกนั้น ไม่ถูกต้อง
แสดงข้อสังเกตไว้ดังนี้
...แม่น้ำคงคาไม่มีแม่น้ำสาขาย่อย เพราะ... มีแหล่งกำเนิดมาจากการละลายของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย ดังที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น นั่น!! หมายความว่า...แท้จริงตถาคตนั้น...ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จักต้นกำเนิดของแม่น้ำคงคาในประเทศอินเดียมาก่อน?? ...
แสดงประเด็นไว้ 6 ข้อคือ
1. หากอาทิตย์ดวงที่ ๒ ปรากฏ แม่น้ำลำคลองทั้งหมด ย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ( อันนี้ถูกต้อง )
2. หากอาทิตย์ดวงที่ ๓ ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ๆคือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู ม ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ( ผิด...ต้องแห้งหลังข้อ 3 )
3. หากอาทิตย์ดวงที่ ๔ ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ๆ ที่ไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู ม ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ
( ผิด...ต้องแห้งก่อนข้อ 2 )
4. หากอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏ น้ำในมหาสมุทรลึก ๑๐๐ โยชน์ก็ดี ๒๐๐ โยชน์ก็ดี ๓๐๐ โยชน์ก็ดี ๔๐๐ โยชน์ก็ดี ๕๐๐โยชน์ก็ดี๖๐๐ โยชน์ก็ดี๗๐๐ โยชน์ก็ดี ท้ายที่สุดแล้วย่อมงวดลงเหลือเพียงในรอยเท้าโค ( ลำดับการแห้งถูกต้อง แต่...ความลึกของมหาสมุทรผมจะกลับมาพิสูจน์ว่า...ผิด...ในภายหลัง )
5. หากอาทิตย์ดวงที่ ๖ ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่งขึ้น เปรียบเหมือนนายช่างหม้อเผาหม้อที่ปั้นดีแล้ว ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่งขึ้น
( ผิด...จะเกิดควันจากการระเหย หรือจากการเดือดของไอน้ำก่อนหน้านี้แล้ว จนปริมาณน้ำในแหล่งเก็บน้ำตามธรรมชาติแห้งไปจนหมดสิ้น )
6. หากอาทิตย์ดวงที่ ๗ ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ไฟจะติดทั่วลุกโชติช่วง มีแสงเพลิงเป็นอันเดียวกัน เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขาสิเนรุไฟเผาลุกโชน ลมหอบเอาเปลวไฟฟุ้งไปจนถึงพรหมโลก เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขาสิเนรุถูกไฟเผาผลาญอยู่ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่า ( เป็นการเผาไหม้ในสภาพที่ไร้อ็อกซิเจน )
คคห.7 เสนอว่า ตถาคตเชื่อว่าดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ในระบบสุริยจักรวาลเป็นเทพหรือเทวดาตามแบบความเชื่อของพราหมณ์-ฮินดู (สรุยะสูตรที่ 10+จันทิมสูตรที่ 9)
ให้คคห.ว่า ตถาคตบอกว่า
...ดวงอาทิตย์(Sun)ในระบบสุริยจักรวาลของเรานั้น...มีสันฐานเป็นวงกลม(Cycle)ที่มี 2 มิติ มิได้มีสัณฐานเป็นทรงกลม หรือ Spheroid ซึ่งเป็นรูปทรง 3 มิติตามความเป็นจริงและที่สำคัญพระไตรปิฎกบอกกับชาวพุทธทั้งหลายในสุริยสูตรที่ 10 ว่าพระองค์คือ...พระบิดาของดวงอาทิตย์(Sun)ในระบบสุริยจักรวาลของเรา (...ดูกรราหู ท่านจงปล่อยสุริยะ ผู้เป็นบุตรของเรา ฯ) ??...
คคห.8 อธิบายว่าทำไมตนจึงดำเนินเรื่องเป็นลำดับ
1)กำเนิดความเชื่อ------------> (2)กาลามสูตร -----------> (3)ปหาราทสูตร -------------> (4) สุริยะสูตร นั่นเป็นเพราะว่า...
(1) ผมต้องการจะพิสูจน์ว่าศาสนาพุทธนั้นได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากศาสนาดั้งเดิมคือ...ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
(2) เพื่อเป็นการ...สร้างนิยามและความหมาย ในความเข้าใจในสิ่งที่ปรากฎในพระไตรปิฎกได้ถูกต้องตรงกัน ไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นโดยใช้หลัก....เหตุและผล รวมถึง...หลักกาลามสูตร ซึ่งเป็นคำสอนของตถาคตที่ปรากฎในพระไตรปิฎก ที่ชาวพุทธทั่วไปสามารถเข้าใจได้โดยง่าย
(3) เพื่อเป็นการป้องกัน...พุทธศาสนิกชนบางคนที่(อาจจะ)เข้ามาบอกกับเราว่า...สิ่งที่พระไตรปิฎกกล่าวถึงนั้น ต้องเป็นมนุษย์ที่หมั่นฝึกบำเพียรตน
จนมีญาณแก่กล้าสามารถ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ มองเห็นและได้ยินในสิ่งเหนือโลกเท่านั้นจึงจะมองเห็นและเข้าใจได้
ท้ายที่สุด...
(4) เพื่อจะพิสูจน์ให้เห็นว่า...สติปัญญาของมนุษย์ที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.)ให้มานั้นต่างหาก ที่อยู่เหนือญาณวิเศษหยั่งรู้ใด ๆ ทั้งสิ้นของมนุษย์
พร้อมทั้ง defence ว่า....เมื่อใดก็ตามที่พระไตรปิฎกกล่าวถึงสิ่งใดก็ตามที่สามัญสำนึกสติปัญญาของมนุษย์หยั่งถึง เข้าใจได้ตามธรรมชาติ สิ่งนั้นก็...ไม่จำเป็นต้องตีความ ไม่ต้องเทียบเคียง ใด ๆ ทั้งสิ้น...
แล้วตั้งคำถามว่า
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณ Koper และทุก ๆ ท่านมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรกันบ้างครับ??
คคห.9 แสดงคคห.ว่าพุทธกับพราหมณ์ ต่างกันอย่างไร
1.ความเชื่อเรื่องพระผู้ทรงสร้าง (พราหมณ์เชื่อพุทธไม่เชื่อ)
2.กรรมเก่า (พราหมณ์เชื่อพุทธไม่เชื่อ)
3.พรหมลิขิต (พราหมณ์เชื่อ แต่พุทธบอกว่าอำนาจกรรมอยู่เหนือพรหมลิขิต)
4.เรื่องของวรรณะ (พราหมณ์ถือ พุทธไม่รับ)
5.พระไตรปิฏกบอกว่า ตถาคตคือพระพรหมหรือตรีมูรติ พระเจ้าสูงสุดของพราหมณ์
คคห.10
ยกชาดกที่อ้างถึง ตถาคตนั้นคือ พระพรหมหรือตรีมูรติ
(ดูช่วงท้ายชาดก ที่ตรัสว่าใครเป็นใคร)
http://www.84000.org/tipitaka/atita100/jataka500.php?s=461
ยกอัคคัญญสูตรขึ้นแสดง ว่าตถาคตเปรียบพระองค์เป็นพระพรหม
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะคำว่า ธรรมกายก็ดี ว่า พรหมกาย ก็ดี ว่า ธรรมภูต ก็ดี ว่า พรหมภูต ก็ดี เป็นชื่อของ ตถาคต ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=11&A=1703&Z=2129
คคห.11
ยกเรื่องสัพพัญญุตญาณขึ้นตามด้วย สุริยสูตร แสดงข้อสงสัยว่า ขุนเขาสิเนรุอยู่ตรงไหน?
(จขกท.แจ้งว่ามีภาพถ่ายอ้างอิงแต่ไม่ปรากฏในคคห.นี้)
คคห.13
อธิบายตำแหน่งของภูมิทั้ง 4 ทวีป (อ้างอิงเวปพลังจิต)
คคห.14
พูดถึงกล้องโทรทัศน์เคก ในฮาวาย ยกมหาปริณิพานสูตรขึ้นมาในข้อ
[๙๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรพระอานนท์ เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการเหล่านี้แล เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ๘ ประการเป็นไฉน ฯ
ดูกรอานนท์ มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศสมัยที่ลมใหญ่พัด เมื่อลมใหญ่พัดอยู่ย่อมยังน้ำให้ไหว น้ำไหวแล้ว ย่อมยังแผ่นดินให้ไหว อันนี้เป็นเหตุ เป็นปัจจัยข้อที่หนึ่ง เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
จขกท.ให้พิจารณาว่า จักรวาลตามที่พระไตรปิฏกแสดงนั้นถูกต้องหรือไม่
คคห.15
ตั้งคำถามว่า ภูเขาสิเนรุสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าของเราหรือไม่??
จขกท.เสนอว่า ชาวพุทธผู้ศึกษาธรรมมักจะบอกกับเราว่ามันเป็น ** ภูเขาทิพย์ ** ผู้ที่มีอภิญญาญาณเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นมันได้
แต่หักล้างพระสูตรที่แสดงถึงอิทธิฤทธิ์ของพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ที่ลูบภูเขาต่าง ๆได้ด้วยฤทธิ์ + คำตรัสแสดงเปรียบเทียบความเป็นเลิศด้วยภูเบา + การเทศน์สอนภิกษุในการเปรียบเทียบเขาสิเนรุกับคุณวิเศษของอริยสาวก
แล้วสรุปว่าถ้าตามนี้ เขาสิเนรุ ต้องมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แล้วตั้งคำถามว่าตกลงภูเขานี้อยู่ตรงส่วนไหนของจักรวาฬ ?
คคห.16
ยกประเด็นทวีปทั้ง4 ในพระไตรปิฏกมีอยู่จริงหรือไม่ ? เสนอหลักวิทยาศาสตร์สรุปว่า ทวีปอื่นอีก 3 ทวีปไม่มีอยู่จริง เสนอว่า มหาสมุทรสีทันดร คือ มหาสมุทรของโลกเราในปัจจุบัน แต่(มหาสมุทรปัจจุบัน)มีความลึกไม่เกิน 1 โยชน์(16 กม)
จขกท.สรุปว่าเนื้อหาในพระไตรปิฏกเกี่ยวกับจักรวาลนั้นไม่เป็นความจริง
คคห.17
แสดงเรื่องกำเนิดสรรพสิ่งต่าง ๆ ในอัคคัญญสูตร จขกท.วิเคราะห์ว่าขัดกับหลักวิทยาศาสตร์
คคห.18
เรื่อง...พราหมณ์ทั้งหมดเกิดจากช่องคลอด(โยนี)ของนางพราหมณ๊แย้งในประเด็นชีววิทยาว่ามนุษย์ต้องเกิดจากมนุษย์เท่านั้น โดยยกเรื่องกำเนิด 4 ขึ้นมาแย้งว่าทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีพ่อแม่ทั้งสิ้นแย้งว่าหลักชีววิทยา เมือกไคลไม่ใช่มูลเหตุของการกำเนิดชีวิต