updated on 28/02/2558
ประมาณวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 มีตัวแทนของบริษัท วิริยะประกันภัย โทรมาขอโทษคุณแม่สำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นและแจ้งว่าจะให้ทางร้านเต็นท์เข้ามาดูและดำเนินการให้เรียบร้อย โดยที่ทางคุณแม่ไม่ต้องดำเนินการใดๆแค่เตรียมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านไว้ให้เจ้าหน้าที่ในวันที่ช่างเข้ามาดำเนินการ
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 ช่างได้เข้ามาดำเนินการ"เปลี่ยน" ย้ำว่าไม่ได้ซ่อมนะคะแต่เปลี่ยนผ้าใบทั้งผืนเป็นการเรียบร้อยแล้ว ยังไงก็ต้องขอขอบคุณผู้ที่ช่วยดำเนินการ และบริษัทวิริยะประกันภัยมา ณ.ที่นี้ค่ะ
ปล. แต่ดิฉันก็ยังยืนยันเรื่อง "ระเบียบการของบริษัท" แบบเก่าที่ผู้เสียหายต้องติดต่อบริษัทเองนะคะว่าทางบริษัทควรพิจารณาในข้อนี้ใหม่ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ "วัวหายแล้วล้อมคอก" แบบนี้อีก อย่าให้เป็นธรรมเนียมเลยค่ะว่าผู้เสียหายแบบเราๆต้องมาโพสต์ร้องเรียนในหลายๆช่องทางเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
****************************************************************************************************
ข้อความเดิม
เรื่องของเรื่องนะคะ ไม่ได้มีอคติอะไรกับบริษัทประกันนี้ เพราะรถเกือบทุกคันในบ้านก็ทำประกันบริษัทนี้ (ุ6 คัน) แต่เหตุการณ์นี้ทำให้คิดว่าปีหน้าอาจจะหาบริษัทประกันใหม่
เหตุการณ์คือ วันนี้เลยค่ะ สดๆร้อนๆ ตอน 11 โมง มีรถมาส่งของที่โรงงานข้างๆบ้าน แล้วเกิดเฉี่ยวชนผ้าใบหน้าบ้านดิฉันขาด (ตามภาพเลยค่ะ)
ทางเจ้าของรถก็เรียกประกันมา (วิริยะประกันภัย) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เรา(ย้ำว่าเรา "ผู้เสียหาย") ต้องไปหาร้านตีราคาค่าซ่อม แล้วอีก 7 วันให้ไปยื่นเรื่องที่สำนักงานวิริยะประกันภัยแถววัดสารอด แล้วทางบริษัทจะพิจารณาอนุมัติ คืออะไรค่ะ!!!! คุณแม่เราถามว่า ทำไมเราต้องเดินเรื่องเองหล่ะในเมื่อเราเป็นผู้เสียหาย พนักงานแจ้งว่า "อ๋อ มันเป็นระเบียบการของทางบริษัทครับ" ถามหน่อยผ้าใบของชั้นมันก็อยู่ของมันดีๆ ถ้าไม่มีใครมาทำให้มันขาดชั้นจะต้องเดือดร้อนไหม แล้วทำไมผู้เสียหายถึงต้องดำเนินเรื่องเองทั้งหมด คุณบอกง่ายนี่ "ระเบียบการของบริษัท" นัยของคำตอบนี้คืออะไร คือถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อนก็ไม่ต้องเดินเรื่องงั้นเหรอ แล้วถ้าบ้านที่อยู่นี่มีแต่คนแก่อายุ 80 ท่านก็ต้องเดินทางไปทำเรื่องเองงั้นสิ ค่ารถ ค่าเสียเวลาใครรับผิดชอบ
แล้วต้องรออีกตั้ง 7 วัน!!! 7วันนี้ยังไม่ได้ซ่อมนะ ต้องรอบริษัทพิจารณาอีก ซึ่งอีกกี่วันก็ไม่รู้ นี่ดีนะขาดไม่เยอะถ้าขาดเยอะจะทำยังไง
ที่เอามาเขียนนี่แค่อยากเล่าให้สังคมได้รับรู้แล้วลองพิจารณาดูว่าระเบียบการแบบนี้มันดีต่อผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปแล้วหรือ คนไทยส่วนใหญ่ (คุณพ่อ-คุณแม่ ของดิฉันเป็นต้น) ก็คิดว่าไม่เป็นไร เล็กน้อย แต่คำว่าไม่เป็นไร เล็กน้อยนี่แหละที่ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบในสังคม
เรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากมุมมองของ "ผู้เสียหาย" ซึ่งก็คือผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆนี่แหละค่ะ หากท่านใดคิดว่าดิฉัน คิดเล็กคิดน้อย วุ่นวาย ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่เรื่องแบบนี้ หากเกิดกับท่าน หรือครอบครัวของท่านบ้าง รับรองเลยว่ามันจะไม่ "เล็กน้อย" แน่นอนค่ะ
ทรัพย์สินเสียหายเพราะคนอื่น แต่ต้องไปเดินเรื่องเอง คืออัลไล!!!! งง!!!!
ประมาณวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 มีตัวแทนของบริษัท วิริยะประกันภัย โทรมาขอโทษคุณแม่สำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นและแจ้งว่าจะให้ทางร้านเต็นท์เข้ามาดูและดำเนินการให้เรียบร้อย โดยที่ทางคุณแม่ไม่ต้องดำเนินการใดๆแค่เตรียมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านไว้ให้เจ้าหน้าที่ในวันที่ช่างเข้ามาดำเนินการ
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 ช่างได้เข้ามาดำเนินการ"เปลี่ยน" ย้ำว่าไม่ได้ซ่อมนะคะแต่เปลี่ยนผ้าใบทั้งผืนเป็นการเรียบร้อยแล้ว ยังไงก็ต้องขอขอบคุณผู้ที่ช่วยดำเนินการ และบริษัทวิริยะประกันภัยมา ณ.ที่นี้ค่ะ
ปล. แต่ดิฉันก็ยังยืนยันเรื่อง "ระเบียบการของบริษัท" แบบเก่าที่ผู้เสียหายต้องติดต่อบริษัทเองนะคะว่าทางบริษัทควรพิจารณาในข้อนี้ใหม่ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ "วัวหายแล้วล้อมคอก" แบบนี้อีก อย่าให้เป็นธรรมเนียมเลยค่ะว่าผู้เสียหายแบบเราๆต้องมาโพสต์ร้องเรียนในหลายๆช่องทางเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
****************************************************************************************************
ข้อความเดิม
เรื่องของเรื่องนะคะ ไม่ได้มีอคติอะไรกับบริษัทประกันนี้ เพราะรถเกือบทุกคันในบ้านก็ทำประกันบริษัทนี้ (ุ6 คัน) แต่เหตุการณ์นี้ทำให้คิดว่าปีหน้าอาจจะหาบริษัทประกันใหม่
เหตุการณ์คือ วันนี้เลยค่ะ สดๆร้อนๆ ตอน 11 โมง มีรถมาส่งของที่โรงงานข้างๆบ้าน แล้วเกิดเฉี่ยวชนผ้าใบหน้าบ้านดิฉันขาด (ตามภาพเลยค่ะ)
ทางเจ้าของรถก็เรียกประกันมา (วิริยะประกันภัย) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เรา(ย้ำว่าเรา "ผู้เสียหาย") ต้องไปหาร้านตีราคาค่าซ่อม แล้วอีก 7 วันให้ไปยื่นเรื่องที่สำนักงานวิริยะประกันภัยแถววัดสารอด แล้วทางบริษัทจะพิจารณาอนุมัติ คืออะไรค่ะ!!!! คุณแม่เราถามว่า ทำไมเราต้องเดินเรื่องเองหล่ะในเมื่อเราเป็นผู้เสียหาย พนักงานแจ้งว่า "อ๋อ มันเป็นระเบียบการของทางบริษัทครับ" ถามหน่อยผ้าใบของชั้นมันก็อยู่ของมันดีๆ ถ้าไม่มีใครมาทำให้มันขาดชั้นจะต้องเดือดร้อนไหม แล้วทำไมผู้เสียหายถึงต้องดำเนินเรื่องเองทั้งหมด คุณบอกง่ายนี่ "ระเบียบการของบริษัท" นัยของคำตอบนี้คืออะไร คือถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อนก็ไม่ต้องเดินเรื่องงั้นเหรอ แล้วถ้าบ้านที่อยู่นี่มีแต่คนแก่อายุ 80 ท่านก็ต้องเดินทางไปทำเรื่องเองงั้นสิ ค่ารถ ค่าเสียเวลาใครรับผิดชอบ
แล้วต้องรออีกตั้ง 7 วัน!!! 7วันนี้ยังไม่ได้ซ่อมนะ ต้องรอบริษัทพิจารณาอีก ซึ่งอีกกี่วันก็ไม่รู้ นี่ดีนะขาดไม่เยอะถ้าขาดเยอะจะทำยังไง
ที่เอามาเขียนนี่แค่อยากเล่าให้สังคมได้รับรู้แล้วลองพิจารณาดูว่าระเบียบการแบบนี้มันดีต่อผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปแล้วหรือ คนไทยส่วนใหญ่ (คุณพ่อ-คุณแม่ ของดิฉันเป็นต้น) ก็คิดว่าไม่เป็นไร เล็กน้อย แต่คำว่าไม่เป็นไร เล็กน้อยนี่แหละที่ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบในสังคม
เรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากมุมมองของ "ผู้เสียหาย" ซึ่งก็คือผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆนี่แหละค่ะ หากท่านใดคิดว่าดิฉัน คิดเล็กคิดน้อย วุ่นวาย ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่เรื่องแบบนี้ หากเกิดกับท่าน หรือครอบครัวของท่านบ้าง รับรองเลยว่ามันจะไม่ "เล็กน้อย" แน่นอนค่ะ