สวัสดีค่ะ เอ่อแท็กไม่ค่อยเป็นด้วย
พอดีอยากขอระบาย และขอความคิดเห็นกับเพ่อนร่วมงานคนนี้ของอีชั้นหน่อย
เรื่องมีอยู่ว่า อิชั้นมาทำงานที่นี่ครั้งแรกก็มีเพื่อนชวนมาทำพอบอกว่างานสบายเงินดีสวัสดิการเริศเราก็โอเคตกลงทิ้งเพื่อนทิ้งแฟนแถวบ้านมาเลยค่ะลงทุนลงแรงเต็มที ก็สบายจริงค่ะ วันๆก็ทำนู้นทำนี่บริการคนนั่นคนนี้(คือยังทำงานไม่เป็น)ยังไม่รู้ระบบอะไรมาก จนผ่านไปหนึงเดือนเราก็เออลงตัวทำนู้นนี้ได้เริ่มดิวงานกับคนในออฟฟิตรู้เรื่อง(ออฟฟิตมีแต่ผู้ชาย)เพราะไม่ต่อยมีผู้หญิงมาสักเท่าไรส่วนมากก็เป็นลูกค้ามาๆไปๆ พอเริ่มลงตัวก็ไปเช่าห้องอยู่กับเพื่อนสนิทที่เป็นรุ่นพี่งานเริ่มเยอะขึ้นต้องทำแต่เช้าเดินทางไม่สะดวก และเรื่องก็เริ่มต้นขึ้น
มีอยู่วันนึงเราก็เริ่มแบบงานเยอะขึ้นเริ่มปวดหัวกะงานมากทีปันหาตลอด ทำงานเกือบ5เดือน ก็เริ่มรู้จักเริ่มคุยกับ she แกชื่อว่านันท์ เริ่มเล่านั่นเล่านี้ คือเราต้องบอกก่อนว่าเราเป็นพวกปากร้ายมากหน้าเหวี่ยงวีนตลอดเลยละเราก็เอ่อถามรับเราตรงนี้ๆได้ไหมค่ะพี่เราเป็นคนแบบนี้เราควรปรับตรงไหนมั้งอะพี่ ด้วยความที่คุยกันมาเริ่มเข้าเดือนที่3เราก็เลยพูดคุยหลายๆเรื่อง เรื่องครอบครัวบ้างปะปายปรับทุกข์บางคือเราสนิทกับคนง่ายคล้ายๆเป็นคนสองบุคลิกคือเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแต่ไม่เคยทำร้ายใครก่อนนะค่ะ มันเริ่มมีเหตุการแปลกๆคือพี่เขาก็มาเล่าให้ฟังว่า คนนั่นคนนี้ว่าเรางี้ๆๆๆ นะ เราก็แบบ หนูไปทำตอนไหนพี่ พี่ก็เห็น พี่ก็อยู่กับหนูตลอด หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย คือเราตัวติดเขาตลอด ใครมีเรื่องอะไรทุกคนก็โทษเราๆ เราก็งง- คือแค่ออกไปเที่ยวกัน ทั้งออฟฟิต กะว่าไปแฮ้งเอาท์ แต่กล้ายเป็นว่า เราไปฟ้องเจ้านายว่าออกมากินเหล้า คือเรางงมากกกกก ว่าเราจะฟ้องทำไมฟ้องตอนไหน คือทุกคนอยู่กับเราตลอด แล้วทุกเรื่องคืออะไรก็เรา ทุกคนในออฟฟิตจะพูดเลยว่า " ก็มีแค่คนเดียวแหละ " คนหน่ายยยย ระบุดิสาดดด คือพี่เขาจะเล่าให้เราฟังตลอด เราก็แบบ เออ กูงง โอเคกูคุยกะใครไม่ได้ ก็เลยระบายกับพี่เขา แบบตัวๆ แบบยกเหตุและผลที่มันจะเป็นไปอย่างที่คนอื่นเขาพูดกัน ถามพี่เขาว่าจริงหรอ พี่เขาก็บอก "พี่ก็สังเกตุก็เตือนเธอตลอดนะไม่เห็นจะมีอะไรเลย " คือเราก็งง แล้วพี่เขาก็จะมาเล่าตลอดๆ ทุกวันว่า วันนี้มีคนด่าเราอีกแล้ว หาว่าเราชอบคนนั่นคนนี้ (คนที่ด่าพี่เขาบอกว่าเป็นผู้ชายในออฟฟิตทุกคน) คือเราก็เชื่อทุกอย่างที่พี่เขาพูด เราก็แบบเสียใจอยากกลับบ้านแล้วเจอสังคมแบบนี้คือไปไม่เป็นเลย แต่ละคนบอกว่ารู้จักเราดีทั้งทีเราเป็นคนต่างจังหวัดมาทำงานที่กรุงเทพเพื่อหาประสบการณ์ แต่มาเจอแบบนี้ โอ๊ยย ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ คุยกะพี่เขาตลอด ร้องตลอด จนกระทั้ง เข้าเดือนที่7 เรื่องราวเริ่มเข้มข้น คือพวกผู้ชายก็เริ่มเอาอีกเรื่องมาว่าเราอีกแล้วคราวนี้เรารับไม่ได้เลย คือเราคุยกับพี่ผู้ชายในออฟฟิตคนนึง คือแบบเขาก็สอนเราทำแบบนี้ๆนะ คือสอนงานปกติ เราไม่รู้ว่าพี่ผู้ชายคนนี้คิดอะไรหรือป่าว คือเรานิสัยแมนๆคุยได้ทุกเรื่อง ทะลึ่งก็ได้ไม่หวั่นไหว กลายเป็นว่าพวกผู้ชายหาว่าเรามีอะไรลึงซึ้งกับพี่เขา(ผู้ชายที่สอนงาน) เราก็แบบเห้ยย จริงหรอพี่ แล้วพี่เชื่อปะเราก็ถาม เขาก็บอก แล้วมีไรหรือป่าวละ เราก็แบบเอ่อเลย เห้ยยย พี่ เขามีลูกมีเมียแล้ว แล้วบอกเลย เอาไม่ลงวะพี่ 55 แล้วก็ขำกัน คือพี่เขาไม่ใช่สเป็คเลย ไม่ใช่จริงๆที่คุยก็แค่งานน้อยลงเลยว่างพี่งานเยอะ หนูไม่มีอะไรทำเท่าไร ก็เลยคุยไปพี่ก็เคยคุยกะเขารู้อยู่เขาคุยนาน (คือคุยนานจริงๆยันเช้าเลยบางทีแต่ไม่เคยคุยในที่ลับตาคนนะ) เราก็เลยเออทำไมพวกนั่นถึงคิดแบบนี้คิดได้ไง แล้วหนักมากเลยคือ มีรุ่นน้องผู้ชายยังบอกอีกว่าผมจะหาหลักฐานว่ามัดตัวชั้นให้ได้ o-O เอิ่ม คือน้องคนนี้ไปบอกทุกคนค่ะในวันที่ชั้นไปดูหนังกับเพื่อน ซึ่งตอนเดินไปเนี่ยก็เจอคนในออฟฟิตตลอดทางยันโรงหนังเลยละ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาหาว่าชั้นกับพี่ผู้ชายไปโรงแรมด้วยกัน ดูค่ะดู เพลียยย มาก คืออธิบายกับใครไม่ได้อีก เพราะเราก็ฟังมาจากพี่นันท์อีกที คือพี่นันท์ก็จะเล่าให้เราฟังตลอดๆว่าใครว่าอะไรเราบางเพราะพี่นันท์แกสนิทกับพวกผู้ชายกลุ่มนี้มากๆ เราก็เลยแบบเชื่อสนิทใจเออ พี่นันท์มีไรเล่าให้เราฟังอีกนะ คือเราอยากรู้ว่าจะว่าในสิ่งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดว่าอะไรอีกบาง คือเราไม่อยากยุ่งไง ช่วงเข้าเดือน7 ก็งานยุ่ง มีปัญหากับคนนั่นคนนี้บางเพราะงานโดนแก้ตลอด อารมณ์เสียอันนี้ยอมรับเรานิสัยไม่ดี เราก็เออฟังมาเรื่อยๆ คือก็ร้องไห้ตลอดว่าทำไมคนในออฟฟิตทุกคนเลยค่ะ ย้ำนะค่ะทุกคน พี่นันท์บอกว่าทุกคนเกลียดเราค่ะ เราก็เออเรานิสัยไม่ดีมั้งชั้งเหอะก็คือเงียบมาตลอด ไม่ตอบโต้อะไรกับใคร จนกระทั้งวันนึงเราทำอยู่ยุแล้วปวดเลยไปเข้าห้องน้ำเสรื่อกได้ยินค่ะ พี่เอกับพี่บอคุยกันเรื่องที่รุ่นน้องคนนึงไม่มาทำงานแล้ว ว่าเป็นเพราะเรา ว่าเราหวี่ยงวีนน้องเขาแขวะน้องเขา คือที่เราด่าแขวะเนี่ยคือพี่เอคือพี่เอเขาบอกว่าเขารู้จักเราดีมากกกกก รู้ว่าเราเป็นคนอย่างไง เราได้ยินก็ปรี๊ดแตกค่ะ เดินออกไปโวยวายเลยคือคราวนี้เราไปหมดเลยค่ะหน้าเน้อน้ำเสียงคือร้องไห้ด้วย คือเราก็แบบเออกูไม่ยุ่งกับพวกแล้วนะปล่อยให้นินทาลับหลังกันเงียบๆ แต่ดันมาได้ยินแบบนี้เลยถามเลยค่ะ พี่เอรู้จักหนูดีขนาดนั่นเลยหรอค่ะ หนูเหวี่ยงหนูแหขวะอะไรรุ่นน้องมันมั้งค่ะยกตัวอย่างมากค่ะ หนูนิสัยอย่างไงค่ะ (คือใส่เป็นชุด) คือพวกพี่เป็นอะไรกันมากไหมค่ะ คือหนูไปทำอะไรมันหนักหัวพวกพี่มากไหม วันๆทำแต่งานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้วพวกพี่ต้องการอะไรจากหนูหรอ อยากให้หนูออกไปจากที่นี้เลยไหม ? พี่บอแกก็ถามขึ้นมาค่ะว่าจริงไหมละ ที่แขวะรุ่นน้องอะ เลยตอบไปค่ะ อ่อ จะบอกให้นะพี่ที่แขวะที่ด่าอะด่าพี่บีเพราะพี่บีอะสอนรุ่นน้องให้เกลียดหนู เวลามีปันหากับเจ้านายก็หาว่าเราฟ้องนอนไม่ตื่นก็มาเคืองหนูถามว่างงไหมงงสิค่ะ
อะไรก็กู กูผิดหรอทำไมพวกพี่ไม่โทษตัวเองกันมั้งค่ะ ทำไมถึงต้องมาหาว่าที่พี่นอนไม่ตื่นกันเนี่ยเป็นเพราะหนูฟ้องไปหมด หนูเคยฟ้องอะไรยกตัวอย่างมาสิพี่ ถ้าจะยกเรื่องอีปามมานะ(อิปามคือคนที่ทุดคนบอกว่ามันออกเพราะเรา เพราะเราดันไปบอกพี่ผู้ชายที่คุยที่พวกเขาหาว่าไปโรงแรมด้วยว่าอิปามมันโพสด่าเราในเฟส พี่ผู้เขาให้เราสังเกตุพฤติกรรมผู้หญิงคนนี้จนทำงานได้เดือนกว่าๆก็โดนไล่ออกแต่ตอนออกพี่ผู้ชายที่เราไปค่อยรายงานเขาบอกกับอิปามว่าเราเป็นคนมาฟ้อง อ่าว
เลย(อันนี้พี่นันท์เล่าให้ฟังอีกที) เราก็แบบเห้ยทำไมไม่โทษตัวเองวะ ทำงานนิดหน่อยๆ ตกเย็นก็ออกไปหาผัว เสร็จก็กลับมานอน ตื่นสายก็บอกพี่ที่คุ้มงานมันว่าช่วยงานเรา เรานิอึ้งเลย กูให้ช่วยตอนไหน !! ) จบเรื่องปาม ต่อเรื่องทะเลาะกับพี่บี เขาก็บอก ก็เราเป็นแบบนี้ปากร้ายเหวี่ยงวีนไง ถึงทำให้ทุกอย่างมันแย่ หรอ แล้วพี่มีสิทธ์อะไรมาตัดสิน ว่าหนูเป็นคนแบบนั่นแบบนี้ พี่รู้จักหนูได้ครึ่งชีวิตยัง ไหนจะเรื่องไปนอนกับพี่ผู้ชายอีก พวกพี่คิดกันได้ไงวะ คิดกับหนูแบบนี้ได้ไง พี่บีพี่บอ รีบถามเลยค่าา ว่าใครเล่าให้เราฟัง เอามาจากไหน เราก็บอก คิดว่าคุยกันเบาหรอ ไม่คิดบางหรอก็มีกันแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ยิน เงียบกริบกันหมดค่ะ เลยถามไปว่า เอายังไงว่ามาดิ จะให้ออกไหม จะได้ออก กูก็เบื่อแล้ว เราก็เก้บของค่ะ ออกมานั่งรอแท็กซี่ พี่นันท์ตกใจมากค่ะ มาปลอบมาั้งเราว่าอย่าทำแบบนี้ เธอและคนอื่นไม่เสียแต่ถ้างานเสียไม่ดีไม่สงสารเจ้านายหรอหน้าที่เรามีเราคนเดียวนะ คิดให้ดี เราก็แบบเออเรามีความรับผิดชอบพอ เลยสงบลง เรื่องนี้มากไปค่ะ เราก็เริ่มสนิทกับพี่นันท์มากขึ้น คราวนี้คุยทุกเรื่องค่ะ มีอะไรคุยหมดคุยกันแค่สองคน(เราคิดแบบนั่นค่ะ) คุยทุกอย่างมีอะไรระบายยๆๆๆๆ
จนกระทั้งเรื่องก็มาอีกแล้วค่ะ
เรื่องพี่นันท์
ทำยังไงกับเพื่อนร่วมงานตัวร้าย
พอดีอยากขอระบาย และขอความคิดเห็นกับเพ่อนร่วมงานคนนี้ของอีชั้นหน่อย
เรื่องมีอยู่ว่า อิชั้นมาทำงานที่นี่ครั้งแรกก็มีเพื่อนชวนมาทำพอบอกว่างานสบายเงินดีสวัสดิการเริศเราก็โอเคตกลงทิ้งเพื่อนทิ้งแฟนแถวบ้านมาเลยค่ะลงทุนลงแรงเต็มที ก็สบายจริงค่ะ วันๆก็ทำนู้นทำนี่บริการคนนั่นคนนี้(คือยังทำงานไม่เป็น)ยังไม่รู้ระบบอะไรมาก จนผ่านไปหนึงเดือนเราก็เออลงตัวทำนู้นนี้ได้เริ่มดิวงานกับคนในออฟฟิตรู้เรื่อง(ออฟฟิตมีแต่ผู้ชาย)เพราะไม่ต่อยมีผู้หญิงมาสักเท่าไรส่วนมากก็เป็นลูกค้ามาๆไปๆ พอเริ่มลงตัวก็ไปเช่าห้องอยู่กับเพื่อนสนิทที่เป็นรุ่นพี่งานเริ่มเยอะขึ้นต้องทำแต่เช้าเดินทางไม่สะดวก และเรื่องก็เริ่มต้นขึ้น
มีอยู่วันนึงเราก็เริ่มแบบงานเยอะขึ้นเริ่มปวดหัวกะงานมากทีปันหาตลอด ทำงานเกือบ5เดือน ก็เริ่มรู้จักเริ่มคุยกับ she แกชื่อว่านันท์ เริ่มเล่านั่นเล่านี้ คือเราต้องบอกก่อนว่าเราเป็นพวกปากร้ายมากหน้าเหวี่ยงวีนตลอดเลยละเราก็เอ่อถามรับเราตรงนี้ๆได้ไหมค่ะพี่เราเป็นคนแบบนี้เราควรปรับตรงไหนมั้งอะพี่ ด้วยความที่คุยกันมาเริ่มเข้าเดือนที่3เราก็เลยพูดคุยหลายๆเรื่อง เรื่องครอบครัวบ้างปะปายปรับทุกข์บางคือเราสนิทกับคนง่ายคล้ายๆเป็นคนสองบุคลิกคือเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแต่ไม่เคยทำร้ายใครก่อนนะค่ะ มันเริ่มมีเหตุการแปลกๆคือพี่เขาก็มาเล่าให้ฟังว่า คนนั่นคนนี้ว่าเรางี้ๆๆๆ นะ เราก็แบบ หนูไปทำตอนไหนพี่ พี่ก็เห็น พี่ก็อยู่กับหนูตลอด หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย คือเราตัวติดเขาตลอด ใครมีเรื่องอะไรทุกคนก็โทษเราๆ เราก็งง- คือแค่ออกไปเที่ยวกัน ทั้งออฟฟิต กะว่าไปแฮ้งเอาท์ แต่กล้ายเป็นว่า เราไปฟ้องเจ้านายว่าออกมากินเหล้า คือเรางงมากกกกก ว่าเราจะฟ้องทำไมฟ้องตอนไหน คือทุกคนอยู่กับเราตลอด แล้วทุกเรื่องคืออะไรก็เรา ทุกคนในออฟฟิตจะพูดเลยว่า " ก็มีแค่คนเดียวแหละ " คนหน่ายยยย ระบุดิสาดดด คือพี่เขาจะเล่าให้เราฟังตลอด เราก็แบบ เออ กูงง โอเคกูคุยกะใครไม่ได้ ก็เลยระบายกับพี่เขา แบบตัวๆ แบบยกเหตุและผลที่มันจะเป็นไปอย่างที่คนอื่นเขาพูดกัน ถามพี่เขาว่าจริงหรอ พี่เขาก็บอก "พี่ก็สังเกตุก็เตือนเธอตลอดนะไม่เห็นจะมีอะไรเลย " คือเราก็งง แล้วพี่เขาก็จะมาเล่าตลอดๆ ทุกวันว่า วันนี้มีคนด่าเราอีกแล้ว หาว่าเราชอบคนนั่นคนนี้ (คนที่ด่าพี่เขาบอกว่าเป็นผู้ชายในออฟฟิตทุกคน) คือเราก็เชื่อทุกอย่างที่พี่เขาพูด เราก็แบบเสียใจอยากกลับบ้านแล้วเจอสังคมแบบนี้คือไปไม่เป็นเลย แต่ละคนบอกว่ารู้จักเราดีทั้งทีเราเป็นคนต่างจังหวัดมาทำงานที่กรุงเทพเพื่อหาประสบการณ์ แต่มาเจอแบบนี้ โอ๊ยย ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ คุยกะพี่เขาตลอด ร้องตลอด จนกระทั้ง เข้าเดือนที่7 เรื่องราวเริ่มเข้มข้น คือพวกผู้ชายก็เริ่มเอาอีกเรื่องมาว่าเราอีกแล้วคราวนี้เรารับไม่ได้เลย คือเราคุยกับพี่ผู้ชายในออฟฟิตคนนึง คือแบบเขาก็สอนเราทำแบบนี้ๆนะ คือสอนงานปกติ เราไม่รู้ว่าพี่ผู้ชายคนนี้คิดอะไรหรือป่าว คือเรานิสัยแมนๆคุยได้ทุกเรื่อง ทะลึ่งก็ได้ไม่หวั่นไหว กลายเป็นว่าพวกผู้ชายหาว่าเรามีอะไรลึงซึ้งกับพี่เขา(ผู้ชายที่สอนงาน) เราก็แบบเห้ยย จริงหรอพี่ แล้วพี่เชื่อปะเราก็ถาม เขาก็บอก แล้วมีไรหรือป่าวละ เราก็แบบเอ่อเลย เห้ยยย พี่ เขามีลูกมีเมียแล้ว แล้วบอกเลย เอาไม่ลงวะพี่ 55 แล้วก็ขำกัน คือพี่เขาไม่ใช่สเป็คเลย ไม่ใช่จริงๆที่คุยก็แค่งานน้อยลงเลยว่างพี่งานเยอะ หนูไม่มีอะไรทำเท่าไร ก็เลยคุยไปพี่ก็เคยคุยกะเขารู้อยู่เขาคุยนาน (คือคุยนานจริงๆยันเช้าเลยบางทีแต่ไม่เคยคุยในที่ลับตาคนนะ) เราก็เลยเออทำไมพวกนั่นถึงคิดแบบนี้คิดได้ไง แล้วหนักมากเลยคือ มีรุ่นน้องผู้ชายยังบอกอีกว่าผมจะหาหลักฐานว่ามัดตัวชั้นให้ได้ o-O เอิ่ม คือน้องคนนี้ไปบอกทุกคนค่ะในวันที่ชั้นไปดูหนังกับเพื่อน ซึ่งตอนเดินไปเนี่ยก็เจอคนในออฟฟิตตลอดทางยันโรงหนังเลยละ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาหาว่าชั้นกับพี่ผู้ชายไปโรงแรมด้วยกัน ดูค่ะดู เพลียยย มาก คืออธิบายกับใครไม่ได้อีก เพราะเราก็ฟังมาจากพี่นันท์อีกที คือพี่นันท์ก็จะเล่าให้เราฟังตลอดๆว่าใครว่าอะไรเราบางเพราะพี่นันท์แกสนิทกับพวกผู้ชายกลุ่มนี้มากๆ เราก็เลยแบบเชื่อสนิทใจเออ พี่นันท์มีไรเล่าให้เราฟังอีกนะ คือเราอยากรู้ว่าจะว่าในสิ่งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดว่าอะไรอีกบาง คือเราไม่อยากยุ่งไง ช่วงเข้าเดือน7 ก็งานยุ่ง มีปัญหากับคนนั่นคนนี้บางเพราะงานโดนแก้ตลอด อารมณ์เสียอันนี้ยอมรับเรานิสัยไม่ดี เราก็เออฟังมาเรื่อยๆ คือก็ร้องไห้ตลอดว่าทำไมคนในออฟฟิตทุกคนเลยค่ะ ย้ำนะค่ะทุกคน พี่นันท์บอกว่าทุกคนเกลียดเราค่ะ เราก็เออเรานิสัยไม่ดีมั้งชั้งเหอะก็คือเงียบมาตลอด ไม่ตอบโต้อะไรกับใคร จนกระทั้งวันนึงเราทำอยู่ยุแล้วปวดเลยไปเข้าห้องน้ำเสรื่อกได้ยินค่ะ พี่เอกับพี่บอคุยกันเรื่องที่รุ่นน้องคนนึงไม่มาทำงานแล้ว ว่าเป็นเพราะเรา ว่าเราหวี่ยงวีนน้องเขาแขวะน้องเขา คือที่เราด่าแขวะเนี่ยคือพี่เอคือพี่เอเขาบอกว่าเขารู้จักเราดีมากกกกก รู้ว่าเราเป็นคนอย่างไง เราได้ยินก็ปรี๊ดแตกค่ะ เดินออกไปโวยวายเลยคือคราวนี้เราไปหมดเลยค่ะหน้าเน้อน้ำเสียงคือร้องไห้ด้วย คือเราก็แบบเออกูไม่ยุ่งกับพวกแล้วนะปล่อยให้นินทาลับหลังกันเงียบๆ แต่ดันมาได้ยินแบบนี้เลยถามเลยค่ะ พี่เอรู้จักหนูดีขนาดนั่นเลยหรอค่ะ หนูเหวี่ยงหนูแหขวะอะไรรุ่นน้องมันมั้งค่ะยกตัวอย่างมากค่ะ หนูนิสัยอย่างไงค่ะ (คือใส่เป็นชุด) คือพวกพี่เป็นอะไรกันมากไหมค่ะ คือหนูไปทำอะไรมันหนักหัวพวกพี่มากไหม วันๆทำแต่งานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้วพวกพี่ต้องการอะไรจากหนูหรอ อยากให้หนูออกไปจากที่นี้เลยไหม ? พี่บอแกก็ถามขึ้นมาค่ะว่าจริงไหมละ ที่แขวะรุ่นน้องอะ เลยตอบไปค่ะ อ่อ จะบอกให้นะพี่ที่แขวะที่ด่าอะด่าพี่บีเพราะพี่บีอะสอนรุ่นน้องให้เกลียดหนู เวลามีปันหากับเจ้านายก็หาว่าเราฟ้องนอนไม่ตื่นก็มาเคืองหนูถามว่างงไหมงงสิค่ะ อะไรก็กู กูผิดหรอทำไมพวกพี่ไม่โทษตัวเองกันมั้งค่ะ ทำไมถึงต้องมาหาว่าที่พี่นอนไม่ตื่นกันเนี่ยเป็นเพราะหนูฟ้องไปหมด หนูเคยฟ้องอะไรยกตัวอย่างมาสิพี่ ถ้าจะยกเรื่องอีปามมานะ(อิปามคือคนที่ทุดคนบอกว่ามันออกเพราะเรา เพราะเราดันไปบอกพี่ผู้ชายที่คุยที่พวกเขาหาว่าไปโรงแรมด้วยว่าอิปามมันโพสด่าเราในเฟส พี่ผู้เขาให้เราสังเกตุพฤติกรรมผู้หญิงคนนี้จนทำงานได้เดือนกว่าๆก็โดนไล่ออกแต่ตอนออกพี่ผู้ชายที่เราไปค่อยรายงานเขาบอกกับอิปามว่าเราเป็นคนมาฟ้อง อ่าว เลย(อันนี้พี่นันท์เล่าให้ฟังอีกที) เราก็แบบเห้ยทำไมไม่โทษตัวเองวะ ทำงานนิดหน่อยๆ ตกเย็นก็ออกไปหาผัว เสร็จก็กลับมานอน ตื่นสายก็บอกพี่ที่คุ้มงานมันว่าช่วยงานเรา เรานิอึ้งเลย กูให้ช่วยตอนไหน !! ) จบเรื่องปาม ต่อเรื่องทะเลาะกับพี่บี เขาก็บอก ก็เราเป็นแบบนี้ปากร้ายเหวี่ยงวีนไง ถึงทำให้ทุกอย่างมันแย่ หรอ แล้วพี่มีสิทธ์อะไรมาตัดสิน ว่าหนูเป็นคนแบบนั่นแบบนี้ พี่รู้จักหนูได้ครึ่งชีวิตยัง ไหนจะเรื่องไปนอนกับพี่ผู้ชายอีก พวกพี่คิดกันได้ไงวะ คิดกับหนูแบบนี้ได้ไง พี่บีพี่บอ รีบถามเลยค่าา ว่าใครเล่าให้เราฟัง เอามาจากไหน เราก็บอก คิดว่าคุยกันเบาหรอ ไม่คิดบางหรอก็มีกันแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ยิน เงียบกริบกันหมดค่ะ เลยถามไปว่า เอายังไงว่ามาดิ จะให้ออกไหม จะได้ออก กูก็เบื่อแล้ว เราก็เก้บของค่ะ ออกมานั่งรอแท็กซี่ พี่นันท์ตกใจมากค่ะ มาปลอบมาั้งเราว่าอย่าทำแบบนี้ เธอและคนอื่นไม่เสียแต่ถ้างานเสียไม่ดีไม่สงสารเจ้านายหรอหน้าที่เรามีเราคนเดียวนะ คิดให้ดี เราก็แบบเออเรามีความรับผิดชอบพอ เลยสงบลง เรื่องนี้มากไปค่ะ เราก็เริ่มสนิทกับพี่นันท์มากขึ้น คราวนี้คุยทุกเรื่องค่ะ มีอะไรคุยหมดคุยกันแค่สองคน(เราคิดแบบนั่นค่ะ) คุยทุกอย่างมีอะไรระบายยๆๆๆๆ
จนกระทั้งเรื่องก็มาอีกแล้วค่ะ
เรื่องพี่นันท์