☆☆☆ซีรีส์พาไป :: ตอน เพนิซิลิน (Penicillin) ยาปฏิชีวนะตัวแรกของโลก !!!☆☆☆

        


        ช่วงนี้เห็นช่อง 3 จะเอาซีรีส์ " Dr.Jin หมอข้ามศตวรรษ" มาลงที่ช่อง 3SD  เลยไปหามาดูซะหน่อย
เพราะถ้ารอดูคงไม่มีเวลาเพราะทำงานไม่เป็นเวลา  ตอนนี้ดูไปได้ ถึง EP.7 ปรากฏว่าเหมือนเปิดกะโหลกตัวเอง ได้รู้สึ่งที่ไม่เคยรู้
อยากให้ทุกคนได้ดูนะ(มีคนบอกว่าเวอร์ชันญี่ปุ่นสนุกกว่าแต่ง้วนไม่เคยดูนะครับ กะว่าดูเวอร์ชันนี้จบจะไปหาเวอร์ชันญี่ปุ่นดูต่อ)

        ดูไปถึง Ep.6 ก็มีเรื่องยาปฏิชีวนะตัวแรกของโลก ชื่อยาเพนนิซิลินที่หมอจินทำเพื่อรักษากามโรคให้กีแซง (นางโลมหรือโสเภณีนั่นละฮะท่านผู้ชม) ที่ติดกามโรคจากฝรั่งดูแล้วแบบอยากรู้ว่ามันมันสร้างยังไง  คนที่คิดคนแรกเขาทำยังไงถึงได้มา   ดูเสร็จก็หาข้อมูลเลยครับ
อ่านแล้วทึ่งดี เลยเอามาตั้งกระทู้แบ่งๆความรู้กัน

เพนิซิลิน (Penicillin) ยาปฏิชีวนะตัวแรกของโลก !!!




   สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ อย่าง “จุลินทรีย์”  ได้รายล้อมเราไปทุกหนทุกแห่ง  ไม่เว้นแม้แต่ในร่างกายของเราเอง  และจุลินทรีย์ส่วนใหญ่ในร่างกายของเราก็คือ แบคทีเรียขนาดเล็ก  ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะก่อให้เกิดโรคแก่เราได้  ก็ต่อเมื่อมันได้แพร่เชื้อเข้าไปในร่างกายของเรา  และผลิตสารพิษออกมาสร้างความเสียหายแก่เซลล์ต่าง ๆ

          ในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย  ทำได้โดยการใช้ยาปฏิชีวนะ  สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่  2 ยาที่ใช้รักษาเป็นยาที่ค่อนข้างอันตราย เช่น สารหนู  ซึ่งปริมาณที่ใช้ในการรักษาใกล้เคียงกับปริมาณที่ก่อให้เกิดพิษมาก  จึงยากที่จะควบคุมให้ใช้ได้อย่างปลอดภัย



Penicillin



      จนกระทั่งได้มีการค้นพบยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพ  สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียในร่างกายของมนุษย์ได้อย่างไม่เป็นอันตรายมากนัก  นั่นก็คือ  “ยาเพนิซิลิน (Penicillin)”

Alexander Fleming  
  
  
  
          เพนิซิลิน หรือ ฟีนอกซิลเมตทิลเพนิซิลลิน (Phenoxymethylpenicillin) เป็นยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย  ค้นพบโดย อเล็คซานเดอร์ เฟลมมิง (Alexander Fleming)  เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2471  ซึ่งขณะนั้นเขาทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่วิทยาลัยเซนต์แมรี่

          ว่ากันว่าประวัติการค้นพบยาเพนิซิลิน นี้เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดขณะที่ อเล็คซานเดอร์  เฟลมิง  กำลังทำการทดลองเชื้อแบคทีเรีย สเตปฟิโลคอกคัส (Staphylococcus)  ที่ทำให้เกิดโรคเซฟติซีเมีย (Septicemia) หรือภาวการณ์ติดเชื้อในกระแสเลือด





     เขาได้เพาะเชื้อแบคทีเรียลงบนจานทดลอง และปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส  แต่แล้ววันหนึ่งผู้ช่วยของเขาได้ลืมปิดฝาจานทดลอง  ทำให้พบว่ามีเชื้อราสีเขียวชนิดหนึ่งขึ้นที่จานเต็มไปหมด  บริเวณรอบ ๆ เชื้อรานี้กลายเป็นวงใส ๆ และแบคทีเรียสเตปฟิโลคอกคัสถูกฆ่าเป็นวงกว้าง   ซึ่งต่อมาพบว่าราเหล่านี้ก็คือ ราเพนนิซิลเลียม (Pennicillium family) นั่นเอง


ปฏิกิริยาของราเพนิซิลเลียมที่มีต่อเชื้อแบคทีเรีย  
  


    
       เพนิซิลเลียม (Penicillium)  เป็นราที่พบได้ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง มีชื่อเรียกกันว่า green mold และ blue mold   ตามสีสปอร์ของรา  ซึ่งเชื้อราชนิดนี้สามารถสร้างสารยับยั้งการเจริญต่อแบคทีเรียชนิดแกรมบวกได้  ดังเช่น รา Penicillium notatum   ที่มีผลต่อแบคทีเรียแกรมบวกอย่าง Staphylococcus  ต่อมาจึงมีการนำราเพนิซิลเลียมมาสกัดเป็น ยาเพนิซิลิน  ซึ่งถือว่าเป็นยาปฏิชีวนะตัวแรกของโลก




Penicillium sp.          

ความสำเร็จในการคิดค้นยาเพนิซิลินนี้  ทำให้วิธีการรักษาโรคติดเชื้อเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก  เนื่องจากประสิทธิภาพของยาเพนิซิลินที่สามารถยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรียได้นั่นเอง!!!

          โดยทั่วไปแล้ว  ผนังเซลล์แบคทีเรียที่ประกอบไปด้วย Peptidoglycan สานกันเป็นร่างแห  และเชื่อมต่อกันด้วยโปรตีนที่เรียกว่า Penicillin Binding Proteins (PBP)


โครงสร้างของเซลล์แบคทีเรีย




          และโครงสร้างของเพนิซิลินจะมี  Beta-lactamsm ring  ซึ่ง Beta-lactamsm ring นี้เองจะไปจับกับ Penicillin Binding Proteins (PBP)  ของแบคทีเรีย  ทำให้ไม่เกิดการสร้าง Peptidoglycan  อันเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์แบคทีเรีย

โครงสร้าง amoxicillin (กลุ่มยาปฏิชีวนะในกลุ่ม penicillin)
(โครงสร้างที่เรียกว่า beta-lactam คือวงแหวนสี่เหลี่ยมจัตุรัส)
  

      
          ท้ายที่สุด  เมื่อแบคทีเรียถูกยับยั้งการสร้างผนังเซลล์  ทำให้สภาพเซลล์ไม่สมบูรณ์  มันไม่สามารถทนทานต่อความกดดันภายในเซลล์ที่สูงกว่าสภาพภายนอกได้  เซลล์ของแบคทีเรียจึงแตกและตายไปในที่สุด




         จากผลงานการคิดค้นยาเพนิซิลินนี้ทำให้ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง ได้รับพระราชทานยศเป็นท่าน เซอร์ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง  และได้รับ รางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ ในปี ค.ศ 1946

         แม้ปัจจุบันนี้เวลาจะผ่านล่วงเลยมากว่า 84 ปีแล้ว  แต่ผลงานของเขาก็ยังคงสร้างคุณประโยชน์ให้แก่คนรุ่นปัจจุบันอยู่ถึง ณ ตอนนี้


เครดิต
http://www.vcharkarn.com/varticle/44132
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000164074
http://www.doctor.or.th/article/detail/5640
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่