ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นแบบยาวๆ เลยนะคะ (จะข้ามไปอ่านย่อหน้าถัดไปเลยก็ได้^_^) นี่เป็นการตั้งกระทู้ในพันทิปเป็นครั้งแรกเลย อาจจะจิ้มนู่นนี่ผิด พิมพ์ผิดบ้างต้องขออภัยนะคะ ปกติจะตามส่องตามอ่านแบบเงียบๆ ซะมากกว่า วันนี้บังเอิญมีเรื่องอัดอั้นตันใจ อยากจะระบาย ที่จริงตอนแรกอยากจะโวยวายด้วยซ้ำ แต่นั่งท่องพุธโทๆ ใจเย็นลงแล้ว ^^ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้คงให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้อ่านกันขำ แล้วก็เผื่อว่าใครจะไปทานบุฟเฟ่ต์ที่ร้านนี้จะได้ไม่พลาดแบบหนู T^T เจ็บใจยิ่งนัก
เริ่มกันเลยดีกว่า พอดีว่าวันนี้มีเรียนทางฟากสยามช่วงเช้า 9.00 - 12.00 น. แต่วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วกว่ากำหนด ประมาณสิบโมงครึ่งได้ ด้วยความที่ตื่นมาเรียนแต่เช้าเนื่องจากบ้านอยุ่ไกล เลยไม่ได้กินข้าวเช้า ด้วยสภาพหิวซก!! ก็เลยมองหาร้านอาหารใกล้แถวนั้น ที่จริงก็เล็งๆกับเพื่อนมาหลายอาทิตย์แล้วว่าอยากจะกินบุฟเฟ่ต์ หลังจากเดินวนเวียนสำรวจราคา โปรโมชั่น ของแต่ละร้านมาหลายอาทิตย์แล้ว เป็นไงเป็นกันเดินตรงดิ่วขึ้นบันไดเลื่อนไปยังร้าน sukishi buffet ในกระเป๋ามีส่วนลดของ carrot reward อยู่ 10% คำนวณแล้วไหวอยู่ (คิดในใจ พฤหัส ศุกร์กินข้าวตึกจุลนะเธอ งบหมดๆๆ เป็นโรงอาหารมหาลัยนะคะ)
พอเข้าไปในร้านเพื่อความชัวร์ก็ยื่นส่วนลดให้พี่ตรงแคชเชียร์ดู "พี่คะ ส่วนลดอันนี้ใช้ได้มั้ย?" ทำหน้าตาบ๊องแบ๊ว ต้องใช้ได้สิ ต้องใช้มั้ยคะ .............. ......... เหมือนขาดการติดต่อ ตู้ดๆๆๆ พี่พนักงาน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น ผจก. หรือ ผช.ผจก. ยืนจ้องส่วนลดอยู่พักนึง!! บนหน้ามีเครื่องหมายคำถามประมาณว่ากระดาษใบนี้มันคืออารายยย... แล้วพี่เค้าก็พลิกไปพลิกมา อ่านๆๆ (คิดในใจ จะได้กินมั้ยน้าา ซูชิเเซลมอนที่เล็งเอาไว้ ข้าวก็หิว) เอิ่มม... ใช้ได้ครับ ดีใจได้กินสักที คิดว่าจะอด เริ่มเวลาทานประมาณ 11.23 น. ลืมบอกไปว่าไปทานกันสองสาว ก็เลยอดใช้ส่วนลด 15% ของทรู อันนั้นต้องอย่างสามคน
ทีนี้ก็เริ่มปฏิบัติการกินแหลกก พาร์ทนี้ข้ามไปได้นะคะ เนื่องจากเป็นช่วงเช้า ทั้งร้านก็เลยมีอยู่โต๊ะเดียว ใครจะบ้าแบบเราสองคนมากินบุฟเฟ่ต์แต่เช้า 555+ ที่นับๆได้ก็กินกันไปร่วม หกสิบจาน!!! โยนลงหม้อ โกยๆๆๆ เป่าปู๊ดดด ร้อนๆๆๆ รีบกินหิวมาก มือไม้สั่นน ต่อด้วยไอติมของหวานอีกไม่อั้น ต่อขอแอบบ่นนิดนึง วันนี้ซูชิ ที่ร้านไม่ปลื้มเลย ตักมาแค่สี่ห้าชิ้นยังไม่อยากทานเลย ฝันสลายยย ซูชิแซลมอนของช้านนน มันกลายเป็นข้าวปั้น คือแบบ ข้าวปั้นจิริงๆ วันนี้ข้าวแฉะไป แล้วมันบีบๆ อัดๆ ไม่อร่อยเลย (คิดในใจอีกแล้ว ซูชิวังหลัง อร่อยกว่าเยอะ) มื้อนี้เลยไม่ค่อยได้แตะซูชิ แต่อย่างอื่นก็ถือว่าโอเค ทั้งกุ้งทอด ทาโกยากิ ไข่ตุ๋น ของสดก็มีในสายพานตลอด ที่จริงแอบเขิลพี่พนักงานที่เติมของหลังร้าน เพื่อนบอกว่าพี่เค้ามองมาที่โต๊ะเราแล้วแอบขำด้วย ก็นั่งกันอยู่สองคนทั้งร้าน แต่จานบนสายพานหายไปไหนเยอะแยะ 555+ ก็หนูหิว >_<
หลายๆ คนที่อ่านคงงงว่าไอที่เล่ามาตั้งยาวมันเกี่ยวกับชื่อหัวข้อกระทู้ตรงไหน มันเป็นไรที่เจ็บปวดมาก อ้าก!!! ทานไปสักพักเริ่มตึงๆ ใกล้หมดเวลาแล้วสปีดในการกินก็ลดลง ช่วงสิบเอ็ดโมงกว่าก็เริ่มมีลูกค้าเค้ามาในร้านอีกสองสามโต๊ะ ไอเราก็อิ่มแล้วแหละก็จิ้มๆ ไรใส่ปากไปเรื่อย เดินไปเติมน้ำ ตักไอติมบ้างก็เลยเดินผ่านโต๊ะข้างๆ เอ๊ะ!!! หมูอะไรในจานสีดำ ดูน่ากินจัง เอามาจากไหนน้าาา ทำไมเราไม่ได้ พี่เค้าสั่งเพิ่มกันหรอ เราก็เก็บความสงสัยไว้ พอดีว่าหมดเวลาแล้วก็เลยรีบเดินไปจ่ายเงิน กลัวจะโดนปรับเอา พอจ่ายเงินเสร็จ เดินมาหน้าจะกลับไปเรียนต่อแล้วแหละ หางตาของข้าพเจ้าดันบังเอิญ!!!! ไปเห็นไอหมูหน้าตาน่ากินจานนั้นอยู่บนโบวชัวร์ของร้าน มุมบนด้านขวา "welcome serve ...เนื้อหมูคุโรบุตะสไลด์" !!! ปรอทท พุ่งปี้ดดด ทำไมช้านนไม่ได้กิน ยืนคิดกันอยู่หน้าร้าน หรือเพราะเราใช้ส่วนลด10% เลยไม่ได้กิน เหยยมันไม่น่าใช่ หรือเค้าสั่งเพิ่ม หรือเค้าไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์ บ้าา นี่มันร้านบุฟเฟ่ต์ ราคาก็มีราคาเดียว เพื่อนบอกช่างมันเถอะ ไปเรียนกัน ...... ไม่ !!!! ข้าพเจ้า คาใจมากกก ทำไมไม่ได้กิน ไอหมูในจานดำๆ ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในร้าน .....
. .....ฉีกยิ้มกว้างๆ ^____^ " พี่คะทำไมโต๊ะหนูไม่เห็นมีหมูคุโรบูตะสไลด์คะ" จำได้ว่าถามประมาณนี้ตอนนั้นปี้ดมากก ที่แคชเชียร์มีพี่พนักงานยืนอยู่สองคน ได้รีบคำตอบกลับมาว่า "อ้าว ไม่ได้รับหมูคุโรบุตะหรอคะ" พี่คะถ้าหนูได้กินจะเดินกลับมาถามมั้ยคะเนี่ย
อันนี้คิดในใจนะ 555+ คือสีหน้าพี่พนักงานตอนนั้นเงิบทั้งคู่
ยัยเด็กเเว่นมายืนโวยวายอะไร ยังข้องใจถามต่อ "พี่คะ แล้วทำไมโต๊ะหนูถึงไม่ได้เสริฟหมูคุโรบุตะ" กลับได้รับคำตอบว่า "เกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร'' ==" "แล้วพี่จะรับผิดชอบอะไรมั้ยคะ" "ต้องขออภัยด้วยคะ" แล้วก็ยิ้มแหะๆ.... ข้าพเจ้าทำไรไม่ได้ ได้แต่เดินจากมา แล้วก็บ่นๆๆกับเพื่อน
คือแบบก็ยอมเสียเงินกินมื้อละสามร้อยแล้ว อะไรที่เราจะได้ก็ควรต้องได้สิ ทำไมทำกับหนูแบบนี้ พี่บอกว่าสื่อสารผิดพลาด พี่ก็ยืนเมาท์กันอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่หนูเข้ามาในร้าน ถ้าคนเยอะเต็มร้าน พนง ไม่ว่างเสริฟ อันนี้หนูยังพอเข้าใจ แต่นี้ทั้งร้านมีหนูอยู่โต๊ะเดียว แล้วทำไมพี่ไม่สนใจหนูสักนิด ว่าได้รับอาหารแล้วหรือยัง เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอหมูคุโรบุตะจานใหญ่ๆ อันนั้นมันต้องสั่งเพิ่มเองหรืออะไร คือเราเห็นโต๊ะข้างๆเพิ่งเข้ามาก็เอามาเสริฟแต่แรกแล้ว แล้วทำไมโต๊ะเราไม่ได้ (น่าตามันน่ากินมากก) เสียใจมว๊ากกก
บ่นมายืดยาวแล้ว ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ถ้าใครจะไปกิน sukishi ก็อย่าลืมสั่งหมูคุโรบูตะนะคะ เดี๋ยวจะมานั่งบ่นพึมพำแบบเราอยู่คนเดียว ใครได้กินแล้วเป็นไงมาบอกด้วยน้า ถ้ามันไม่อร่อยเราจะได้ไม่เจ็บใจมาก
ปล. ยืมไอดีเพื่อนมาโพสต์นะคะ
พี่คะ "หมูคุโรบุตะหนูหายไปไหน" @ร้าน Sukishi Buffet สาขา MBK
เริ่มกันเลยดีกว่า พอดีว่าวันนี้มีเรียนทางฟากสยามช่วงเช้า 9.00 - 12.00 น. แต่วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วกว่ากำหนด ประมาณสิบโมงครึ่งได้ ด้วยความที่ตื่นมาเรียนแต่เช้าเนื่องจากบ้านอยุ่ไกล เลยไม่ได้กินข้าวเช้า ด้วยสภาพหิวซก!! ก็เลยมองหาร้านอาหารใกล้แถวนั้น ที่จริงก็เล็งๆกับเพื่อนมาหลายอาทิตย์แล้วว่าอยากจะกินบุฟเฟ่ต์ หลังจากเดินวนเวียนสำรวจราคา โปรโมชั่น ของแต่ละร้านมาหลายอาทิตย์แล้ว เป็นไงเป็นกันเดินตรงดิ่วขึ้นบันไดเลื่อนไปยังร้าน sukishi buffet ในกระเป๋ามีส่วนลดของ carrot reward อยู่ 10% คำนวณแล้วไหวอยู่ (คิดในใจ พฤหัส ศุกร์กินข้าวตึกจุลนะเธอ งบหมดๆๆ เป็นโรงอาหารมหาลัยนะคะ)
พอเข้าไปในร้านเพื่อความชัวร์ก็ยื่นส่วนลดให้พี่ตรงแคชเชียร์ดู "พี่คะ ส่วนลดอันนี้ใช้ได้มั้ย?" ทำหน้าตาบ๊องแบ๊ว ต้องใช้ได้สิ ต้องใช้มั้ยคะ .............. ......... เหมือนขาดการติดต่อ ตู้ดๆๆๆ พี่พนักงาน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น ผจก. หรือ ผช.ผจก. ยืนจ้องส่วนลดอยู่พักนึง!! บนหน้ามีเครื่องหมายคำถามประมาณว่ากระดาษใบนี้มันคืออารายยย... แล้วพี่เค้าก็พลิกไปพลิกมา อ่านๆๆ (คิดในใจ จะได้กินมั้ยน้าา ซูชิเเซลมอนที่เล็งเอาไว้ ข้าวก็หิว) เอิ่มม... ใช้ได้ครับ ดีใจได้กินสักที คิดว่าจะอด เริ่มเวลาทานประมาณ 11.23 น. ลืมบอกไปว่าไปทานกันสองสาว ก็เลยอดใช้ส่วนลด 15% ของทรู อันนั้นต้องอย่างสามคน
ทีนี้ก็เริ่มปฏิบัติการกินแหลกก พาร์ทนี้ข้ามไปได้นะคะ เนื่องจากเป็นช่วงเช้า ทั้งร้านก็เลยมีอยู่โต๊ะเดียว ใครจะบ้าแบบเราสองคนมากินบุฟเฟ่ต์แต่เช้า 555+ ที่นับๆได้ก็กินกันไปร่วม หกสิบจาน!!! โยนลงหม้อ โกยๆๆๆ เป่าปู๊ดดด ร้อนๆๆๆ รีบกินหิวมาก มือไม้สั่นน ต่อด้วยไอติมของหวานอีกไม่อั้น ต่อขอแอบบ่นนิดนึง วันนี้ซูชิ ที่ร้านไม่ปลื้มเลย ตักมาแค่สี่ห้าชิ้นยังไม่อยากทานเลย ฝันสลายยย ซูชิแซลมอนของช้านนน มันกลายเป็นข้าวปั้น คือแบบ ข้าวปั้นจิริงๆ วันนี้ข้าวแฉะไป แล้วมันบีบๆ อัดๆ ไม่อร่อยเลย (คิดในใจอีกแล้ว ซูชิวังหลัง อร่อยกว่าเยอะ) มื้อนี้เลยไม่ค่อยได้แตะซูชิ แต่อย่างอื่นก็ถือว่าโอเค ทั้งกุ้งทอด ทาโกยากิ ไข่ตุ๋น ของสดก็มีในสายพานตลอด ที่จริงแอบเขิลพี่พนักงานที่เติมของหลังร้าน เพื่อนบอกว่าพี่เค้ามองมาที่โต๊ะเราแล้วแอบขำด้วย ก็นั่งกันอยู่สองคนทั้งร้าน แต่จานบนสายพานหายไปไหนเยอะแยะ 555+ ก็หนูหิว >_<
หลายๆ คนที่อ่านคงงงว่าไอที่เล่ามาตั้งยาวมันเกี่ยวกับชื่อหัวข้อกระทู้ตรงไหน มันเป็นไรที่เจ็บปวดมาก อ้าก!!! ทานไปสักพักเริ่มตึงๆ ใกล้หมดเวลาแล้วสปีดในการกินก็ลดลง ช่วงสิบเอ็ดโมงกว่าก็เริ่มมีลูกค้าเค้ามาในร้านอีกสองสามโต๊ะ ไอเราก็อิ่มแล้วแหละก็จิ้มๆ ไรใส่ปากไปเรื่อย เดินไปเติมน้ำ ตักไอติมบ้างก็เลยเดินผ่านโต๊ะข้างๆ เอ๊ะ!!! หมูอะไรในจานสีดำ ดูน่ากินจัง เอามาจากไหนน้าาา ทำไมเราไม่ได้ พี่เค้าสั่งเพิ่มกันหรอ เราก็เก็บความสงสัยไว้ พอดีว่าหมดเวลาแล้วก็เลยรีบเดินไปจ่ายเงิน กลัวจะโดนปรับเอา พอจ่ายเงินเสร็จ เดินมาหน้าจะกลับไปเรียนต่อแล้วแหละ หางตาของข้าพเจ้าดันบังเอิญ!!!! ไปเห็นไอหมูหน้าตาน่ากินจานนั้นอยู่บนโบวชัวร์ของร้าน มุมบนด้านขวา "welcome serve ...เนื้อหมูคุโรบุตะสไลด์" !!! ปรอทท พุ่งปี้ดดด ทำไมช้านนไม่ได้กิน ยืนคิดกันอยู่หน้าร้าน หรือเพราะเราใช้ส่วนลด10% เลยไม่ได้กิน เหยยมันไม่น่าใช่ หรือเค้าสั่งเพิ่ม หรือเค้าไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์ บ้าา นี่มันร้านบุฟเฟ่ต์ ราคาก็มีราคาเดียว เพื่อนบอกช่างมันเถอะ ไปเรียนกัน ...... ไม่ !!!! ข้าพเจ้า คาใจมากกก ทำไมไม่ได้กิน ไอหมูในจานดำๆ ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในร้าน .....
. .....ฉีกยิ้มกว้างๆ ^____^ " พี่คะทำไมโต๊ะหนูไม่เห็นมีหมูคุโรบูตะสไลด์คะ" จำได้ว่าถามประมาณนี้ตอนนั้นปี้ดมากก ที่แคชเชียร์มีพี่พนักงานยืนอยู่สองคน ได้รีบคำตอบกลับมาว่า "อ้าว ไม่ได้รับหมูคุโรบุตะหรอคะ" พี่คะถ้าหนูได้กินจะเดินกลับมาถามมั้ยคะเนี่ย อันนี้คิดในใจนะ 555+ คือสีหน้าพี่พนักงานตอนนั้นเงิบทั้งคู่ ยัยเด็กเเว่นมายืนโวยวายอะไร ยังข้องใจถามต่อ "พี่คะ แล้วทำไมโต๊ะหนูถึงไม่ได้เสริฟหมูคุโรบุตะ" กลับได้รับคำตอบว่า "เกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร'' ==" "แล้วพี่จะรับผิดชอบอะไรมั้ยคะ" "ต้องขออภัยด้วยคะ" แล้วก็ยิ้มแหะๆ.... ข้าพเจ้าทำไรไม่ได้ ได้แต่เดินจากมา แล้วก็บ่นๆๆกับเพื่อน
คือแบบก็ยอมเสียเงินกินมื้อละสามร้อยแล้ว อะไรที่เราจะได้ก็ควรต้องได้สิ ทำไมทำกับหนูแบบนี้ พี่บอกว่าสื่อสารผิดพลาด พี่ก็ยืนเมาท์กันอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่หนูเข้ามาในร้าน ถ้าคนเยอะเต็มร้าน พนง ไม่ว่างเสริฟ อันนี้หนูยังพอเข้าใจ แต่นี้ทั้งร้านมีหนูอยู่โต๊ะเดียว แล้วทำไมพี่ไม่สนใจหนูสักนิด ว่าได้รับอาหารแล้วหรือยัง เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอหมูคุโรบุตะจานใหญ่ๆ อันนั้นมันต้องสั่งเพิ่มเองหรืออะไร คือเราเห็นโต๊ะข้างๆเพิ่งเข้ามาก็เอามาเสริฟแต่แรกแล้ว แล้วทำไมโต๊ะเราไม่ได้ (น่าตามันน่ากินมากก) เสียใจมว๊ากกก
บ่นมายืดยาวแล้ว ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ถ้าใครจะไปกิน sukishi ก็อย่าลืมสั่งหมูคุโรบูตะนะคะ เดี๋ยวจะมานั่งบ่นพึมพำแบบเราอยู่คนเดียว ใครได้กินแล้วเป็นไงมาบอกด้วยน้า ถ้ามันไม่อร่อยเราจะได้ไม่เจ็บใจมาก
ปล. ยืมไอดีเพื่อนมาโพสต์นะคะ