ความรับผิดชอบของร้านอาหาร
วันนี้ไปทานอาหารเย็นเวลาประมาณ 20:45 ที่ร้านฮัลเลลูย่า (Hallelujah Beer Garden) ถนนพัฒนาการทางที่จะออกไปมอเตอร์เวย์ได้ (ลงยูเทิร์นเกือกม้าจากมอเตอร์เวย์เข้าทางลัดออกพัฒนาการ ร้านอยู่ซ้ายมือ)
ปกติร้านนี้ถือว่าเป็นร้านประจำ ไปแทบทุกอาทิตย์ ทั้งวันธรรมดาหรือวันหยุด
ด้วยเหตุที่อาหารอร่อยรสชาดดี แม้ว่าราคาอาหารจะสูง เพราะราคาต่ำสุดจะอยู่ที่ 150 อาหารจานเดียวพวกข้าวผัดอยู่ที่ 190 และเฉลี่ย 250 - 400 ในรายการอาหารส่วนใหญ่
วันนี้สั่งเมนูเดิมสันคอหมูย่างแบบเยอรมัน ราคา 320 บาท
โดยมีเครื่องเคียงเป็นโคลสลอว์ และสามารถเลือกได้ระหว่างมันบด และเฟรนช์ฟราย ซึ่งก็เลือกมันบดมา พร้อมขอน้ำจิ้มแจ่วแบบทุกครั้ง
เมื่ออาหารมาเสริฟ ปรากฎว่าโคลสลอว์ที่ชอบกินมาก แปลงร่างเป็นซาวเคร้า จึงเรียกน้องพนักงานมาถาม และบอกว่าในเมนูนี้ปกติจะเป็นโคลสลอว์ เหตุใดจึงเป็นซาวเคร้า
น้องก็ไปสอบถามและนำโคลสลอว์มาให้ในขนาดปริมาณเหมือนที่เสริฟ แต่ใส่ในถ้วยแบ่งขนาดเล็ก
โดยมิได้ทำอะไรกับซาวเคร้าที่อยู่ในจานหลักแต่ประการใด
ประเด็นอยู่ที่เมื่อเรียกเก็บเงิน ทางร้านได้เรียกเก็บเงินค่าโคลสลอว์มาในราคา 120 บาท!
สอบถามพนักงาน แจ้งบอกว่า "เพราะเราไม่คืนซาวเคร้า" ที่ใส่มาในจานหลัก???
ในฐานะคนเคยทำร้านอาหาร
- การจะนำอาหารที่ผิดไปเปลี่ยนนั้น เป็นหน้าที่ของทางร้าน หรือลูกค้าต้องนำยกไปเปลี่ยน? และอยากถามต่อว่าซาวเคร้าที่ใส่จานพร้อมอาหารอื่นๆ พร้อมเสริฟให้ลูกค้าไปแล้วนั้น จะเอาไปเก็บไว้เสริฟลูกค้าท่านอื่นอีกหรือ
- ทางลูกค้าไม่มีทางทราบได้ว่า การที่ลูกค้าสอบถามถึงอาหารมาตรฐานปกติที่มีอยู่ในเมนู ทั้งๆ ที่ทางร้านทำมาเสริฟผิด จะด้วยเหตุใดของทางร้านก็แล้วแต่ และทางร้านทำอาหารมาเสริมให้ถูกต้อง
ลูกค้าต้องเป็นคนนำอาหารจานดังกล่าวที่มีเครื่องเคียงผิดกลับไปเปลี่ยนหรือคืนด้วยตนเองหรือ
- เงิน 120 บาทไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่การบริหารจัดการ หากคิดว่าเงิน 120 บาทจากลูกค้าประจำคนนึง จะทำให้ทางพนักงานไม่ถูกด่า (ที่จริงรายการต่างๆ ของร้านอาหารยกเลิกได้อยู่แล้ว) ประการสำคัญ วันนี้ลูกค้าก็ต้องการวัดใจร้านเช่นกัน เพราะไปทานกับกลุ่มเพื่อนๆเดือนนึงเฉลี่ยค่าใช้จ่ายอยู่ที่ไม่น่อยกว่า 10,000 บาท ปกติเวลาไปทานอาหารทิปแต่ละครั้งก็ไม่น่อยกว่า 100 บาทอยู่แล้ว ดังนั้นเงิน 120 บาทจึงไม่ใช่ประเด็น และวันนี้ก็จ่ายไปด้วย
ที่จริงจะปฏิเสธการจ่ายก็ได้เพราะไม่ได้สั่ง แต่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด และสิ่งที่เห็นก็พิสูจน์จิตสำนึกของผู้ให้บริการและการดูและลูกค้าของทางร้านเอง
การบริหารจัดการกับอาหารจานผัก (โคลสลอว์) ที่มีต้นทุนไม่เกิน 40 บาท กับเงิน 120 ที่ทางร้านอยากได้มากและ loyalty ของลูกค้า
ก็ขอบคุณครับ
ผมก็คงไม่ไปร้านนี้อีก แม้ว่าอาหารจะอร่อย (ตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วว่า อร่อยเพราะอะไร?)
มีเพื่อนก็จะบอกเพื่อน บอกลูกบอกหลานให้ทราบถึงนโยบายการจัดการของร้าน
เพราะก็มีร้านอื่นๆ อีกหลายร้านที่พร้อมจะเต็มใจบริการลูกค้า และไม่ต้องกลัวว่าจะเจอซาวเคร้าที่เหลือมาจากโต๊ะอื่นหรือไม่ หรือจะโดนคิดเงินค่าโคลสลอว์ที่ไม่ได้สั่งหรือเปล่า
ก็ฝากเตือนเพื่อนๆ ไว้ว่า หากทางร้านจัดอะไรมาผิด ก็ควรคืนไปก่อนให้เขาเอาไปเขี่ยเก็บ
แล้วจัดมาใหม่จะได้ไม่เสียอารมณ์และโดนชาร์จ
เมื่อต้องจ่ายเงินค่าผักโคลสลอว์ 120 บาท ทั้งที่ไม่ได้สั่ง!!! ความรับผิดชอบของ ร้านฮัลเลลูย่าพัฒนาการ (Hallelujah)
วันนี้ไปทานอาหารเย็นเวลาประมาณ 20:45 ที่ร้านฮัลเลลูย่า (Hallelujah Beer Garden) ถนนพัฒนาการทางที่จะออกไปมอเตอร์เวย์ได้ (ลงยูเทิร์นเกือกม้าจากมอเตอร์เวย์เข้าทางลัดออกพัฒนาการ ร้านอยู่ซ้ายมือ)
ปกติร้านนี้ถือว่าเป็นร้านประจำ ไปแทบทุกอาทิตย์ ทั้งวันธรรมดาหรือวันหยุด
ด้วยเหตุที่อาหารอร่อยรสชาดดี แม้ว่าราคาอาหารจะสูง เพราะราคาต่ำสุดจะอยู่ที่ 150 อาหารจานเดียวพวกข้าวผัดอยู่ที่ 190 และเฉลี่ย 250 - 400 ในรายการอาหารส่วนใหญ่
วันนี้สั่งเมนูเดิมสันคอหมูย่างแบบเยอรมัน ราคา 320 บาท
โดยมีเครื่องเคียงเป็นโคลสลอว์ และสามารถเลือกได้ระหว่างมันบด และเฟรนช์ฟราย ซึ่งก็เลือกมันบดมา พร้อมขอน้ำจิ้มแจ่วแบบทุกครั้ง
เมื่ออาหารมาเสริฟ ปรากฎว่าโคลสลอว์ที่ชอบกินมาก แปลงร่างเป็นซาวเคร้า จึงเรียกน้องพนักงานมาถาม และบอกว่าในเมนูนี้ปกติจะเป็นโคลสลอว์ เหตุใดจึงเป็นซาวเคร้า
น้องก็ไปสอบถามและนำโคลสลอว์มาให้ในขนาดปริมาณเหมือนที่เสริฟ แต่ใส่ในถ้วยแบ่งขนาดเล็ก
โดยมิได้ทำอะไรกับซาวเคร้าที่อยู่ในจานหลักแต่ประการใด
ประเด็นอยู่ที่เมื่อเรียกเก็บเงิน ทางร้านได้เรียกเก็บเงินค่าโคลสลอว์มาในราคา 120 บาท!
สอบถามพนักงาน แจ้งบอกว่า "เพราะเราไม่คืนซาวเคร้า" ที่ใส่มาในจานหลัก???
ในฐานะคนเคยทำร้านอาหาร
- การจะนำอาหารที่ผิดไปเปลี่ยนนั้น เป็นหน้าที่ของทางร้าน หรือลูกค้าต้องนำยกไปเปลี่ยน? และอยากถามต่อว่าซาวเคร้าที่ใส่จานพร้อมอาหารอื่นๆ พร้อมเสริฟให้ลูกค้าไปแล้วนั้น จะเอาไปเก็บไว้เสริฟลูกค้าท่านอื่นอีกหรือ
- ทางลูกค้าไม่มีทางทราบได้ว่า การที่ลูกค้าสอบถามถึงอาหารมาตรฐานปกติที่มีอยู่ในเมนู ทั้งๆ ที่ทางร้านทำมาเสริฟผิด จะด้วยเหตุใดของทางร้านก็แล้วแต่ และทางร้านทำอาหารมาเสริมให้ถูกต้อง
ลูกค้าต้องเป็นคนนำอาหารจานดังกล่าวที่มีเครื่องเคียงผิดกลับไปเปลี่ยนหรือคืนด้วยตนเองหรือ
- เงิน 120 บาทไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่การบริหารจัดการ หากคิดว่าเงิน 120 บาทจากลูกค้าประจำคนนึง จะทำให้ทางพนักงานไม่ถูกด่า (ที่จริงรายการต่างๆ ของร้านอาหารยกเลิกได้อยู่แล้ว) ประการสำคัญ วันนี้ลูกค้าก็ต้องการวัดใจร้านเช่นกัน เพราะไปทานกับกลุ่มเพื่อนๆเดือนนึงเฉลี่ยค่าใช้จ่ายอยู่ที่ไม่น่อยกว่า 10,000 บาท ปกติเวลาไปทานอาหารทิปแต่ละครั้งก็ไม่น่อยกว่า 100 บาทอยู่แล้ว ดังนั้นเงิน 120 บาทจึงไม่ใช่ประเด็น และวันนี้ก็จ่ายไปด้วย
ที่จริงจะปฏิเสธการจ่ายก็ได้เพราะไม่ได้สั่ง แต่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด และสิ่งที่เห็นก็พิสูจน์จิตสำนึกของผู้ให้บริการและการดูและลูกค้าของทางร้านเอง
การบริหารจัดการกับอาหารจานผัก (โคลสลอว์) ที่มีต้นทุนไม่เกิน 40 บาท กับเงิน 120 ที่ทางร้านอยากได้มากและ loyalty ของลูกค้า
ก็ขอบคุณครับ
ผมก็คงไม่ไปร้านนี้อีก แม้ว่าอาหารจะอร่อย (ตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วว่า อร่อยเพราะอะไร?)
มีเพื่อนก็จะบอกเพื่อน บอกลูกบอกหลานให้ทราบถึงนโยบายการจัดการของร้าน
เพราะก็มีร้านอื่นๆ อีกหลายร้านที่พร้อมจะเต็มใจบริการลูกค้า และไม่ต้องกลัวว่าจะเจอซาวเคร้าที่เหลือมาจากโต๊ะอื่นหรือไม่ หรือจะโดนคิดเงินค่าโคลสลอว์ที่ไม่ได้สั่งหรือเปล่า
ก็ฝากเตือนเพื่อนๆ ไว้ว่า หากทางร้านจัดอะไรมาผิด ก็ควรคืนไปก่อนให้เขาเอาไปเขี่ยเก็บ
แล้วจัดมาใหม่จะได้ไม่เสียอารมณ์และโดนชาร์จ