ผม เป็น FC บิ๊กมาตั้งแต่ เค้าทำ Chef Table อยากทำแต่ไม่อยากกิน โดยเปิดครัวที่ชั้นสองของรพ.พิมพ์บ้านเค้า จะไปกิน ก็เดินแหวกกองเครือ่งพิมพ์ และกระดาษ ขึ้นไปทานบนชั้นสอง บ้านกัน แต่ร้านเค้าดังนะ ฮ้อตมาก คิวจองยาวข้าม สองสามเดือน เพราะว่า รับได้แค่รอบล่ะ 10 กว่าคนเท่านั้น ผมชอบนะ เป็น Classic French menu ราคาดี ปริมาณเยอะ อิ่ม ราคาไม่แรง(ประมาณ 3 พันต่อคน) ผมแวะเวียนไปกินหลายรอบ
แต่คนเยอะเกิน เค้าเลยไปเปิด #อยากย่าง อีกร้าน ไม่ห่างจากร้านเดิมนั้น อันนั้น เป็นร้านอาหาร Ala Carte Menu ให้เลือกสั่ทงเอง มี เกือบ 20 โต๊ะ รับลูกค้าได้มาก
ปีที่แล้ว บิ๋กเค้ายอมปิด Chef Tabl ซุ่มซ้อมฝีมือเพื่อ เข้าแข่ง Top Chef ไทยแลนด์ และด้วยประสพการณ์ที่สะสมมาทั้ง จาก การเป็นเชฟ ที่ฝรั่งเศษ และ ร้านของตัวเอง ดังนั้น ไม่แปลกใจมากที่เค้า คว้าแช้มป์ Top Chef Thailand 2023 มาได้
หลังจากนั้น เค้าซุ่ม ทำ Patt Restuarant นี้ขึ้นมาโดยใช้พื้นที่ด้านหลังของโรงพิมพ์ ของครอบครัวเดิม มาทำ โดยยังคง คอนเซ็ป ให้เห็นร่องรอยของโรงพิมพ์ รากฐานของธุรกิจบ้านเค้า

ตำแหน่งร้านตาม หมุด Google Restuarant Patt เลย หรือ จะหา อยากทำไม่อยากกิน ก็ได้ ร้านอยู่ที่เดียวกันต่างกันตรงประตูเข้าเท่านั้น
ที่จอดรถ ก็จอดหน้าร้าน ชิดๆ กันและบริเวณรอบๆ แต่ถ้าคนเยอะเต็ม เค้าก็จะแนะให้ไปจอด ที่ 611 ซอยวีรภาพ เหมือนร้านอยากย่าง แล้ว มีรถกอล์ฟ มาส่งที่นี่

หลังจากทดลอง Test Menu กับ คนสนิท เค้าประมาณ 2 เดือน ร้านเค้าเพิ่ง เปิด Soft Opening จริง คืนวันศุกร์ที่ 4 ก่อนที่ผม จะไปทานวันเสาร์ที่ 5 เพียงวันเดียว เรียกว่ายังหมาดๆ ลูกค้ายังไม่ค่อยรู้กัน



วันผมไป โชคดี คนยังไม่มาก ได้จอดรถหน้าร้านเดิม #อยากทำแต่ไม่อยากกินเลย ส่วน ร้าน Patt คือ ประตูถัดไป
ร้านนี้ น่าจะเป็นร้านที่ป้ายหน้าร้านเล็กที่สุดถ้าไม่มีพนักงาน ลงมาต้อนรับ นำเข้า น่าจะไม่เห็นร้าน ขนาดเค้าบอกให้ดูยังต้องส่อง 555555



เข้าไปชั้นล่าง อารมณ๊ประมาณ พิพิธภัณฑ์ ของครอบครัว ตั้ง พวกเครื่อง พิมพ์ต่างๆ ให้เห็นรากฐานอาชีพหลักดั้งเดิมของบ้าน

และ แน่นอน มี Trophy Top Chef Thailand 2023 ตั้ง อยู่กับเครื่องพิมพ์ด้วย
จากนั้น พนักงาน นำขึ้นลิฟต์ ขึ้นสู่ชั้น 3 ที่เป็น Dining Room
เปิดลิฟต์ ออก มาว้าววววววววว เลย ร้านสวยมาก





เค้าตกแต่ง แนวยุโรป คล้าย พวก กรีก - โรมัน โดยเฉพาะชุดพนักงานหญิง จะมองคล้ายสาวในสำนักโรมัน ดูดีเลย
ตัวห้องอาหารทำเป็น Open kitchenครัวเปิด ให้เห็นการทำงานของเชฟ และทีม ตกแต่งหรู และประดับตกแต่งด้วยผ้าม่านที่เป็นเหมือนม้วนกระดาษ และฟันเฟืองเครื่องพิมพ์ กระจกตกแต่งคล้ายหน้าปัดนาฬิกาเลขโรมัน แต่สังเกตดึๆ มันคือ อักษร PATTPATT...ต่อๆ วนกันไป
ชื่อ Patt ตอนแรกผมคิดว่าชื่อแฟนเชฟบิ๊ก แต่จริงๆ คือชื่อโรงพิมพ์ ของครอบครัว ที่มาจากนามสกุล เค้า และ คือชื่อเล่นสมัยทำงานเป็นเชฟที่ต่างประเทศที่ฝรั่งเอานามสกุลมาเรียกด้วย
โซนห้องอาหารชั้น 3 นี้ ผมเห็นมีโต๊ะ ประมาณ 6 โต๊ะ โดยรับได้โต๊ะล่ะ 2-3 คน ดังนั้นส่วนนี้รับได้แค่ สิบกว่าคน


แต่มี เค้าน์เต้อรหน้าครัว เสริมนั่งดูเชฟทำ และเสริฟ หน้าเค้าน์เต้อร์ เหมือนโอมากาเสะ ซึ่ง อาหาร แนว Contemporray เสริฟ แบบนี้ได้สบาย อีก 10 กว่าที่
คุยกับบิ๊ก เค้าบอกลงทุนไปราวๆ 20 ล้าน ใช้พนักงาน 25 คนดูแลแขก แค่ นี้ทำวันละรอบ ผมดูแล้วกำไรยากเหมือนกัน
บิ๊กบอกว่า ตรงนี้ทำเอามัน ได้ตรงอยากย่าง ซึ่งแมสหน่อย มาช่วยซัพพอร์ต
ที่ผมจองไปทานวันเสาร์ นี่ ทราบโดยบังเอิญว่าจะเปิด เพราะก่อนหน้า ไปจอง #อยากทำแต่ไม่อยากกิน เค้าบอกปิดแล้ว ก็ เลยไปทาน อยากย่างแทน
เค้าบอก กำลังจะเปิด เลย โทรจอง ทันที ดังนั้น เลยเป็นลูกค้า กลุ่มที่ 2 ที่ มาทานลูกค้ายังไม่ทราบแต่ก้อมีจองมา 5 โต๊ะเกือบเต็ม



ห้องน้ำ อยู่ด้านข้างหลังครัว สะอาดสวยงามมาตรฐาน รร 5 ดาว
อาหารที่นี่เป็น contemporray menu อาหารร่วมสมัย ต่างกับ แนวคลาสสิคเดิมของเชฟบิ๊ก
แต่กระแสแนว comtemporary มาแรง ผมว่าน่าจะอิทธิพลจาก การแข่งขันทำอาหารของสารพัดเชฟด้วย ทำให้อาหารเมนูดัดแปลงสร้างสรรค์อย่างนี้ มาแรง ไล่ตามชิม ไม่หมดซักที 555

ของ Patt ตอนนี้จัดเป็น 2 package
Best of Patt 6 คอร์ส 3468 ++
และ Patt's Experience 4488++ ไม่รวมน้ำ และเครื่องดื่ม

วันนี้ลองทานเป็นชุด 8 คอร์ส และ เค้ามี แถม Canape ก่อนเข้าคอร์ส สามคำ
และ มี Petit Fours อาหารอบคำเล็กๆ ปิดท้าย อีก 5 คำ (คิดว่า 6 คอร์สก้อน่าจะมีด้วยนะ แต่ไม่แน่ใจ)
มาลองดูอาหารกัน
Canape 3 คำแรก ก่อนเข้าคอร์ส


Apitizer คำแรก crap salad cold tatare กับไอศครีมสัปปะรด กินง่ายอร่อย เข้ากันได้ดี
กินง่ายขนาด วางปุ๊บหยิบใส่ปาก ลืมถ่ายรูปหายไปเลย 5555
คำที่2ผัดโหงวก้วยตับไก่ ในรูปกระทงทอง อร่อยกลมกล่อม
คำสุดท้าย เป็นซีซ่าร์สลัดที่ใช้ไก่กรอบแทนเบค่อนกรอบ ห่อเป็นคำพอดีคำ กินง่ายอร่อย
สามคำนี้เชฟบิ๊กมาเสริฟทักทาย บรรยายให้ที่โต๊ะตามคลิป ด้านล่าง

Apizerในคอร์สคำแรก เป็น Cevicheกุ้งแชบ๊วย (เมนูนี้ แต่ก่อนผมเคยอ่านเป็น เซบิเช่ แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นภาษาสเปน เพราะว่าเป็ตำหรับอาหารจากเปรู เลยออกเสียง เซบิเช เหมือนทีมบอล Valencia =บาเลนเซีย) กุ้งแชบ๊วยกับ กับconsomme jellyกุ้ง ซอร์เบต์ชมพู่ดอง อร่อยสดชื่น เข้ากันได้ดีกุ้งสดเด้งอร่อย ชอบ

Apizer อีกคำ เป็น sashimi ปลา ชิมา อามาจิ แต่ทำ คอนเซปเป็นฮื่อแซ ปลาดิบจียโดนเอาถั่วงาในน้ำจิ้มปลาดิบจีน ทำเป็นแผ่นทับหน้า และ มี เลม่อนซอร์เบต์กินตัดเลี่ยนกลมกล่อม (ปล เมนูนี้กับ ข้างบนเป็นตัวเลืกให้ คนล่ะ 1 อย่าง ผมไปสองคน เลยเลือกคนล่ะอย่าง ดังนั้น เมนูถ้าจะเกินท8 คอร์ส)

Apitizer จานต่อไป Hotate Chawanmushi เป็นไข่ตุ๋นหอยเชล์ ท้อปหน้าด้วยกระเพราะปลาสด ใส่กังป๋วย (หอยเชลตากแห้ง)ปลาหมึก หอย และ Top หน้า ด้วยคาร์เวียร์ ถ้วยนี้อร่อย หอมกลิ่นกังป๋วย แต่รสติดเค็มไปนิดดดด นึง ความนุ่มไข่ตุ๋นละมุน ตัดกัยเนื้อหอยเชลและปลาหมึกเคี้ยวกรุบ อร่อย

เป๋าฮ้อ กับถั่วและหน่อไม้ฝรั่ง ใน ซอร์ส Beurre Blanc ผักแขยง และน้ำมันผักชี คอร์สนี้เป๋าฮื้อ อร่อยแต่น้อยไปนิด 555


แกงเหลืองปลากระพงGI ปลาสามน้ำ แห่งทะเลสาปสงขลา
จานนี้เชฟบิ๊กก้อมาเสริฟ และบรรยายปลา GI แห่งทะเลสาปสงขลานี้เอง
ตอนนี้กระแส อาหารที่ระบุ GI หรือ Geograpical Indicatio หรือ ข้อบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กำลังถูกนำม่ใช้แพ่หลายในวงการอาหาร เช่น ข้าวจากทุ่งกุลา กุ้งแม่น้ำจากแม่น้ำตาปลี ปลาช่อนจากลำน้ำแม่ลาสิงหบุรี และปลากระพง 3น้ำจาก ทะเลสาปสงขลา ก้อใช่ ช่วยยืนยันคุณภาพจากแหล่งที่มาเพิ่มมูลค่าได้
จานนี้ปลาทอดมาสุกพอดี แต่หนังกรอบมาก มองไปคล้ายชิ้นเค็กมากกว่า เสริฟมาคู่กับแตงโมปลาแห้งชิ้นพอดีคาำราดด้วยซุปแกงเหลืองรสกลางๆไม่เผ็ดจัดเหมือนแกงเหลืองใต้

จานเบาๆ อีกจานก่อนเข้า เมนคอร์ส มีสองตัวเลือก ให้เลือกคนล่ะหนึ่ง แน่นอนเราเลือกคนล่ะอย่าง
ตัวแรก Olive Striploin เสริฟมากับ Ravioli เนื้อ ให้เดาคาดว่าคงเป็นคอนเซ็ปใช้ทรัพยากรทุกอย่างให้คุ้มค่าเนื้อชิ้นเสริฟเป็นสเต็ค ส่วนเศษจับห่อเป็น Ravioli เกี๊ยวอิตาลีไม่เสียของ ราดด้วยซอสสมุนไพรไทย

อีกตัวเลือก เป็น อกเป็ดเขาใหญ่ dry age ย่าง และเช่นกันเศษเนื้อเป็นจับห่อรวมทำเป็นถุงทองเป็ดมาคู่กันราดด้วยซอร์สตัวเดียวกัน
เข้าสู่เมนคอร์ส แรก Pithivier ไก่ยัดใส้เห็ดมอเรล

เมนูนี้เห็นตอนเค้ายกมาให้ดูทั้ก้อนก่อนสไลด์ นี่ นึกเลย มันคือ Chicken Wellington นี่แหว่า 555555

พอเค้าเอาไปหั่นสไลด์มาให้ เห็น แยกชั้น มี เห็ดMorel ยัดไส้ กลางเนื่อลูกไก่ แล้ว ห่อด้วย ผักชีบดเป็นครึม และหุ้มน้อกสุดด้วยแป้งพายย่าง หอมอร่อย ราดด้วย ซอสข่า ตัวเห็ดมอเรล หรือ เห็ดย่น นี่ เป็น เห็ดไฮโซ ราคาแพง กก.ล่ะ ใกล้หมื่น บาทไม่แพัทรัฟเฟิ่ล เชฟน้อยคนใช้ แต่เชฟบิ๊กชอบใช้ ในหลายเมนู ตัวนี้แม้ราคาจะถูกกว่า ทรัฟเฟิล แต่เวลากินมันต้องใช้มากกว่า
เมนูนี้ มีเนื้อน่องไก่ย่างด้วยถ่านขาว และ มี Consomme ไก่หอมๆ ให้ซดตัดเลี่ยน
เมนคอร์สที่สอง เป็นข้าวอบปูไข่

เค้ายกลงจากเตามาให้ดู ความน่ากินทั้งหม้อก่อนเอาไปจัดจาร เห็นก้านผักเขียวๆ คล้ายคะน้ำถามเค้า มันคือ Celtuce (ค้นดูเค้าเรียกผักกาดก้าน)

ข้าวที่ใช้เป็นข้าวหอมมะลิ GI จากกาฬสินธ์ ราดด้วย โฟมพริกเหลือง ซอส Beurre Blanc มะกอกจีน และมี consomme ปูมาให้ซดหอมๆ ด้วย อร่อยเช่นกัน
Note จบคอร์ส ีคาว ยังไม่จบกระทิ้พอดีข้อความยาวเกิน หมื่น
ต่อที่ความเห็น ที่ 2 นะครับ
[CR] == พาชม พาชิม ไป #Restuarnt Patt ร้านใหม่ เชฟบิ๊ก Top Chef Thailand 2023 ที่เพิ่งเปิดหมาดๆ ==
แต่คนเยอะเกิน เค้าเลยไปเปิด #อยากย่าง อีกร้าน ไม่ห่างจากร้านเดิมนั้น อันนั้น เป็นร้านอาหาร Ala Carte Menu ให้เลือกสั่ทงเอง มี เกือบ 20 โต๊ะ รับลูกค้าได้มาก
ปีที่แล้ว บิ๋กเค้ายอมปิด Chef Tabl ซุ่มซ้อมฝีมือเพื่อ เข้าแข่ง Top Chef ไทยแลนด์ และด้วยประสพการณ์ที่สะสมมาทั้ง จาก การเป็นเชฟ ที่ฝรั่งเศษ และ ร้านของตัวเอง ดังนั้น ไม่แปลกใจมากที่เค้า คว้าแช้มป์ Top Chef Thailand 2023 มาได้
หลังจากนั้น เค้าซุ่ม ทำ Patt Restuarant นี้ขึ้นมาโดยใช้พื้นที่ด้านหลังของโรงพิมพ์ ของครอบครัวเดิม มาทำ โดยยังคง คอนเซ็ป ให้เห็นร่องรอยของโรงพิมพ์ รากฐานของธุรกิจบ้านเค้า
ตำแหน่งร้านตาม หมุด Google Restuarant Patt เลย หรือ จะหา อยากทำไม่อยากกิน ก็ได้ ร้านอยู่ที่เดียวกันต่างกันตรงประตูเข้าเท่านั้น
ที่จอดรถ ก็จอดหน้าร้าน ชิดๆ กันและบริเวณรอบๆ แต่ถ้าคนเยอะเต็ม เค้าก็จะแนะให้ไปจอด ที่ 611 ซอยวีรภาพ เหมือนร้านอยากย่าง แล้ว มีรถกอล์ฟ มาส่งที่นี่
หลังจากทดลอง Test Menu กับ คนสนิท เค้าประมาณ 2 เดือน ร้านเค้าเพิ่ง เปิด Soft Opening จริง คืนวันศุกร์ที่ 4 ก่อนที่ผม จะไปทานวันเสาร์ที่ 5 เพียงวันเดียว เรียกว่ายังหมาดๆ ลูกค้ายังไม่ค่อยรู้กัน
วันผมไป โชคดี คนยังไม่มาก ได้จอดรถหน้าร้านเดิม #อยากทำแต่ไม่อยากกินเลย ส่วน ร้าน Patt คือ ประตูถัดไป
ร้านนี้ น่าจะเป็นร้านที่ป้ายหน้าร้านเล็กที่สุดถ้าไม่มีพนักงาน ลงมาต้อนรับ นำเข้า น่าจะไม่เห็นร้าน ขนาดเค้าบอกให้ดูยังต้องส่อง 555555
เข้าไปชั้นล่าง อารมณ๊ประมาณ พิพิธภัณฑ์ ของครอบครัว ตั้ง พวกเครื่อง พิมพ์ต่างๆ ให้เห็นรากฐานอาชีพหลักดั้งเดิมของบ้าน
และ แน่นอน มี Trophy Top Chef Thailand 2023 ตั้ง อยู่กับเครื่องพิมพ์ด้วย
จากนั้น พนักงาน นำขึ้นลิฟต์ ขึ้นสู่ชั้น 3 ที่เป็น Dining Room
เปิดลิฟต์ ออก มาว้าววววววววว เลย ร้านสวยมาก
เค้าตกแต่ง แนวยุโรป คล้าย พวก กรีก - โรมัน โดยเฉพาะชุดพนักงานหญิง จะมองคล้ายสาวในสำนักโรมัน ดูดีเลย
ตัวห้องอาหารทำเป็น Open kitchenครัวเปิด ให้เห็นการทำงานของเชฟ และทีม ตกแต่งหรู และประดับตกแต่งด้วยผ้าม่านที่เป็นเหมือนม้วนกระดาษ และฟันเฟืองเครื่องพิมพ์ กระจกตกแต่งคล้ายหน้าปัดนาฬิกาเลขโรมัน แต่สังเกตดึๆ มันคือ อักษร PATTPATT...ต่อๆ วนกันไป
ชื่อ Patt ตอนแรกผมคิดว่าชื่อแฟนเชฟบิ๊ก แต่จริงๆ คือชื่อโรงพิมพ์ ของครอบครัว ที่มาจากนามสกุล เค้า และ คือชื่อเล่นสมัยทำงานเป็นเชฟที่ต่างประเทศที่ฝรั่งเอานามสกุลมาเรียกด้วย
โซนห้องอาหารชั้น 3 นี้ ผมเห็นมีโต๊ะ ประมาณ 6 โต๊ะ โดยรับได้โต๊ะล่ะ 2-3 คน ดังนั้นส่วนนี้รับได้แค่ สิบกว่าคน
แต่มี เค้าน์เต้อรหน้าครัว เสริมนั่งดูเชฟทำ และเสริฟ หน้าเค้าน์เต้อร์ เหมือนโอมากาเสะ ซึ่ง อาหาร แนว Contemporray เสริฟ แบบนี้ได้สบาย อีก 10 กว่าที่
คุยกับบิ๊ก เค้าบอกลงทุนไปราวๆ 20 ล้าน ใช้พนักงาน 25 คนดูแลแขก แค่ นี้ทำวันละรอบ ผมดูแล้วกำไรยากเหมือนกัน
บิ๊กบอกว่า ตรงนี้ทำเอามัน ได้ตรงอยากย่าง ซึ่งแมสหน่อย มาช่วยซัพพอร์ต
ที่ผมจองไปทานวันเสาร์ นี่ ทราบโดยบังเอิญว่าจะเปิด เพราะก่อนหน้า ไปจอง #อยากทำแต่ไม่อยากกิน เค้าบอกปิดแล้ว ก็ เลยไปทาน อยากย่างแทน
เค้าบอก กำลังจะเปิด เลย โทรจอง ทันที ดังนั้น เลยเป็นลูกค้า กลุ่มที่ 2 ที่ มาทานลูกค้ายังไม่ทราบแต่ก้อมีจองมา 5 โต๊ะเกือบเต็ม
ห้องน้ำ อยู่ด้านข้างหลังครัว สะอาดสวยงามมาตรฐาน รร 5 ดาว
อาหารที่นี่เป็น contemporray menu อาหารร่วมสมัย ต่างกับ แนวคลาสสิคเดิมของเชฟบิ๊ก
แต่กระแสแนว comtemporary มาแรง ผมว่าน่าจะอิทธิพลจาก การแข่งขันทำอาหารของสารพัดเชฟด้วย ทำให้อาหารเมนูดัดแปลงสร้างสรรค์อย่างนี้ มาแรง ไล่ตามชิม ไม่หมดซักที 555
ของ Patt ตอนนี้จัดเป็น 2 package
Best of Patt 6 คอร์ส 3468 ++
และ Patt's Experience 4488++ ไม่รวมน้ำ และเครื่องดื่ม
วันนี้ลองทานเป็นชุด 8 คอร์ส และ เค้ามี แถม Canape ก่อนเข้าคอร์ส สามคำ
และ มี Petit Fours อาหารอบคำเล็กๆ ปิดท้าย อีก 5 คำ (คิดว่า 6 คอร์สก้อน่าจะมีด้วยนะ แต่ไม่แน่ใจ)
มาลองดูอาหารกัน
Canape 3 คำแรก ก่อนเข้าคอร์ส
Apitizer คำแรก crap salad cold tatare กับไอศครีมสัปปะรด กินง่ายอร่อย เข้ากันได้ดี
กินง่ายขนาด วางปุ๊บหยิบใส่ปาก ลืมถ่ายรูปหายไปเลย 5555
คำที่2ผัดโหงวก้วยตับไก่ ในรูปกระทงทอง อร่อยกลมกล่อม
คำสุดท้าย เป็นซีซ่าร์สลัดที่ใช้ไก่กรอบแทนเบค่อนกรอบ ห่อเป็นคำพอดีคำ กินง่ายอร่อย
สามคำนี้เชฟบิ๊กมาเสริฟทักทาย บรรยายให้ที่โต๊ะตามคลิป ด้านล่าง
Apizerในคอร์สคำแรก เป็น Cevicheกุ้งแชบ๊วย (เมนูนี้ แต่ก่อนผมเคยอ่านเป็น เซบิเช่ แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นภาษาสเปน เพราะว่าเป็ตำหรับอาหารจากเปรู เลยออกเสียง เซบิเช เหมือนทีมบอล Valencia =บาเลนเซีย) กุ้งแชบ๊วยกับ กับconsomme jellyกุ้ง ซอร์เบต์ชมพู่ดอง อร่อยสดชื่น เข้ากันได้ดีกุ้งสดเด้งอร่อย ชอบ
Apizer อีกคำ เป็น sashimi ปลา ชิมา อามาจิ แต่ทำ คอนเซปเป็นฮื่อแซ ปลาดิบจียโดนเอาถั่วงาในน้ำจิ้มปลาดิบจีน ทำเป็นแผ่นทับหน้า และ มี เลม่อนซอร์เบต์กินตัดเลี่ยนกลมกล่อม (ปล เมนูนี้กับ ข้างบนเป็นตัวเลืกให้ คนล่ะ 1 อย่าง ผมไปสองคน เลยเลือกคนล่ะอย่าง ดังนั้น เมนูถ้าจะเกินท8 คอร์ส)
Apitizer จานต่อไป Hotate Chawanmushi เป็นไข่ตุ๋นหอยเชล์ ท้อปหน้าด้วยกระเพราะปลาสด ใส่กังป๋วย (หอยเชลตากแห้ง)ปลาหมึก หอย และ Top หน้า ด้วยคาร์เวียร์ ถ้วยนี้อร่อย หอมกลิ่นกังป๋วย แต่รสติดเค็มไปนิดดดด นึง ความนุ่มไข่ตุ๋นละมุน ตัดกัยเนื้อหอยเชลและปลาหมึกเคี้ยวกรุบ อร่อย
เป๋าฮ้อ กับถั่วและหน่อไม้ฝรั่ง ใน ซอร์ส Beurre Blanc ผักแขยง และน้ำมันผักชี คอร์สนี้เป๋าฮื้อ อร่อยแต่น้อยไปนิด 555
แกงเหลืองปลากระพงGI ปลาสามน้ำ แห่งทะเลสาปสงขลา
จานนี้เชฟบิ๊กก้อมาเสริฟ และบรรยายปลา GI แห่งทะเลสาปสงขลานี้เอง
ตอนนี้กระแส อาหารที่ระบุ GI หรือ Geograpical Indicatio หรือ ข้อบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กำลังถูกนำม่ใช้แพ่หลายในวงการอาหาร เช่น ข้าวจากทุ่งกุลา กุ้งแม่น้ำจากแม่น้ำตาปลี ปลาช่อนจากลำน้ำแม่ลาสิงหบุรี และปลากระพง 3น้ำจาก ทะเลสาปสงขลา ก้อใช่ ช่วยยืนยันคุณภาพจากแหล่งที่มาเพิ่มมูลค่าได้
จานนี้ปลาทอดมาสุกพอดี แต่หนังกรอบมาก มองไปคล้ายชิ้นเค็กมากกว่า เสริฟมาคู่กับแตงโมปลาแห้งชิ้นพอดีคาำราดด้วยซุปแกงเหลืองรสกลางๆไม่เผ็ดจัดเหมือนแกงเหลืองใต้
จานเบาๆ อีกจานก่อนเข้า เมนคอร์ส มีสองตัวเลือก ให้เลือกคนล่ะหนึ่ง แน่นอนเราเลือกคนล่ะอย่าง
ตัวแรก Olive Striploin เสริฟมากับ Ravioli เนื้อ ให้เดาคาดว่าคงเป็นคอนเซ็ปใช้ทรัพยากรทุกอย่างให้คุ้มค่าเนื้อชิ้นเสริฟเป็นสเต็ค ส่วนเศษจับห่อเป็น Ravioli เกี๊ยวอิตาลีไม่เสียของ ราดด้วยซอสสมุนไพรไทย
อีกตัวเลือก เป็น อกเป็ดเขาใหญ่ dry age ย่าง และเช่นกันเศษเนื้อเป็นจับห่อรวมทำเป็นถุงทองเป็ดมาคู่กันราดด้วยซอร์สตัวเดียวกัน
เข้าสู่เมนคอร์ส แรก Pithivier ไก่ยัดใส้เห็ดมอเรล
เมนูนี้เห็นตอนเค้ายกมาให้ดูทั้ก้อนก่อนสไลด์ นี่ นึกเลย มันคือ Chicken Wellington นี่แหว่า 555555
พอเค้าเอาไปหั่นสไลด์มาให้ เห็น แยกชั้น มี เห็ดMorel ยัดไส้ กลางเนื่อลูกไก่ แล้ว ห่อด้วย ผักชีบดเป็นครึม และหุ้มน้อกสุดด้วยแป้งพายย่าง หอมอร่อย ราดด้วย ซอสข่า ตัวเห็ดมอเรล หรือ เห็ดย่น นี่ เป็น เห็ดไฮโซ ราคาแพง กก.ล่ะ ใกล้หมื่น บาทไม่แพัทรัฟเฟิ่ล เชฟน้อยคนใช้ แต่เชฟบิ๊กชอบใช้ ในหลายเมนู ตัวนี้แม้ราคาจะถูกกว่า ทรัฟเฟิล แต่เวลากินมันต้องใช้มากกว่า
เมนูนี้ มีเนื้อน่องไก่ย่างด้วยถ่านขาว และ มี Consomme ไก่หอมๆ ให้ซดตัดเลี่ยน
เมนคอร์สที่สอง เป็นข้าวอบปูไข่
เค้ายกลงจากเตามาให้ดู ความน่ากินทั้งหม้อก่อนเอาไปจัดจาร เห็นก้านผักเขียวๆ คล้ายคะน้ำถามเค้า มันคือ Celtuce (ค้นดูเค้าเรียกผักกาดก้าน)
ข้าวที่ใช้เป็นข้าวหอมมะลิ GI จากกาฬสินธ์ ราดด้วย โฟมพริกเหลือง ซอส Beurre Blanc มะกอกจีน และมี consomme ปูมาให้ซดหอมๆ ด้วย อร่อยเช่นกัน
Note จบคอร์ส ีคาว ยังไม่จบกระทิ้พอดีข้อความยาวเกิน หมื่น
ต่อที่ความเห็น ที่ 2 นะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น