เรื่องราวต่อไปนี่เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ที่ผมไม่แน่ใจว่าผมรักเธอจริงๆ หรือผมสงสารเธอกันแน่
ผมรู้จักผู้หญิงคนนึงทางทวิตเตอร์เมื่อต้นปีที่แล้ว เธอเป็นคนที่ตรงไปตรงมามากๆ และกล้าเปิดเผยชีวิตตัวเอง
เธอเล่าให้ผมฟังว่าเธอเกิดในครอบครัวของพนักงานการรถไฟ พ่อของเธอทำบ่อนการพนันอย่างลับๆ
เธอเล่าขำๆ ว่าชีวิตเธอเกือบจะกลายเป็นแม่เล้าคุมบ่อนแล้ว แถมเธอยังเคยเกือบถูกญาติในบ้านของเธอข่มขืนด้วย
จนแม่ของเธอต้องพามาอยู่กับป้าที่ต่างจังหวัด ด้วยความใฝดีของเธอที่ต้องทำงานตั้งแต่เด็กๆ
เธอพยายามจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้ แต่ก็ต้องเจอกับความลำบาก
เนื่องจากค่าครองชีพในการเรียนมหาลัยนั้นเอาเรื่องอยู่ ค่าเทอม ค่าหน่วยกิต และค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคม
เธอต้องขายแซนวิส ขายขนมไปเรียนไปด้วยจนจบปริญญาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนั้น
เธอใช้ชีวิตเป็นสาวเสริฟในผับแห่งหนึ่งในถนนข้าวสาร จนได้เจอกับแฟนคนแรกที่เป้นฝรั่งนักเขียน
เธอได้เรียนรู้ภาษาจากเขาและช่วยเขาเขียนสกู๊ปข่าวส่งต่างประเทศ แต่แล้ววันนึงเธอก็ได้พบว่าฝรั่งคนนี้
ไปนอนกับผู้หญิงอีกคน และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว นั่นทำให้เธอเสียใจและผิดหวังมาก
เธอตัดสินใจออกมาทำงานเป็นผู้ช่วยนักข่าวต่างประเทศ เริ่มจากสำนักข่าวประเทศเพื่อนบ้านก่อน
และที่นี่เธอก็ได้พบกับพระนักเคลื่อนไหวชาวพม่าและสนิทกัน จนกระทั่งสึกออกมาแต่งงานอยู่ด้วยกัน
จนมีความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศนั้น ทำให้สามีของเธอต้องหนี เธอเองก็ต้องพาลูกหนีด้วย
ความที่มีประสบการณ์ เธอได้งานใหม่ที่สำนักงานข่าวชั้นนำของโลก ได้บรรจุที่สำนักงานใหญ่ในอเมริกา
โชคชะตาก็พาเธอให้เป็นที่ถูกต้องใจของเจ้านาย และเจ้านายก็พยายามทุกอย่างที่จะให้เธอเป็นเด็กในคอนโทรลของเขา
ความที่เธอต้องทำงานที่นั่นที่ก็ให้ค่าตอบแทนที่สูงสำหรับคนเอเชีย เธอสามารถส่งเงินเลี้ยงลูกได้สบายๆ
บางทีชีวิตก็ไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากต้องไขว่คว้าโอกาสที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
แต่แล้วเธอก็ได้รับรู้ว่า นอกจากเธอยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่เป็นเด็กในคอนโทรลของเจ้านายของเธอ
และที่เจ็บปวดที่สุด ก็เมื่อรุ่นน้องของเธอที่เธอพาเข้ามาทำงานด้วย ก็เป็นหนึ่งในนั้น และพยายามเขี่ยเธอให้พ้นทาง
เพื่อเป็นเบอร์หนึ่งในฮาเร็มของผู้ชายคนนี้ พยายามกลั่นแกล้งเธอทุกอย่าง จนเธอต้องลาออกจากงานและกลับมาเมืองไทย
โชคยังเข้าข้างที่เธอยังได้ร่วมงานกับคนดีๆ ด้วยความเป็นมืออาชีพของเธอ แต่หัวใจเธอก็เจ็บปวดจนเหมือนจะรักใครไม่ได้อีก
ความเจับปวดมันทำให้เธอระบายทุกอย่างในชีวิตออกมาในทวิตเตอร์ และผมบังเอิญได้อ่านมัน
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ผมได้รุ้จักเธอ
(ต่อด้านล่าง)
...ผมไม่รู้ว่าผมรักเธอ หรือแค่สงสารกันแน่...
ผมรู้จักผู้หญิงคนนึงทางทวิตเตอร์เมื่อต้นปีที่แล้ว เธอเป็นคนที่ตรงไปตรงมามากๆ และกล้าเปิดเผยชีวิตตัวเอง
เธอเล่าให้ผมฟังว่าเธอเกิดในครอบครัวของพนักงานการรถไฟ พ่อของเธอทำบ่อนการพนันอย่างลับๆ
เธอเล่าขำๆ ว่าชีวิตเธอเกือบจะกลายเป็นแม่เล้าคุมบ่อนแล้ว แถมเธอยังเคยเกือบถูกญาติในบ้านของเธอข่มขืนด้วย
จนแม่ของเธอต้องพามาอยู่กับป้าที่ต่างจังหวัด ด้วยความใฝดีของเธอที่ต้องทำงานตั้งแต่เด็กๆ
เธอพยายามจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้ แต่ก็ต้องเจอกับความลำบาก
เนื่องจากค่าครองชีพในการเรียนมหาลัยนั้นเอาเรื่องอยู่ ค่าเทอม ค่าหน่วยกิต และค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคม
เธอต้องขายแซนวิส ขายขนมไปเรียนไปด้วยจนจบปริญญาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนั้น
เธอใช้ชีวิตเป็นสาวเสริฟในผับแห่งหนึ่งในถนนข้าวสาร จนได้เจอกับแฟนคนแรกที่เป้นฝรั่งนักเขียน
เธอได้เรียนรู้ภาษาจากเขาและช่วยเขาเขียนสกู๊ปข่าวส่งต่างประเทศ แต่แล้ววันนึงเธอก็ได้พบว่าฝรั่งคนนี้
ไปนอนกับผู้หญิงอีกคน และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว นั่นทำให้เธอเสียใจและผิดหวังมาก
เธอตัดสินใจออกมาทำงานเป็นผู้ช่วยนักข่าวต่างประเทศ เริ่มจากสำนักข่าวประเทศเพื่อนบ้านก่อน
และที่นี่เธอก็ได้พบกับพระนักเคลื่อนไหวชาวพม่าและสนิทกัน จนกระทั่งสึกออกมาแต่งงานอยู่ด้วยกัน
จนมีความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศนั้น ทำให้สามีของเธอต้องหนี เธอเองก็ต้องพาลูกหนีด้วย
ความที่มีประสบการณ์ เธอได้งานใหม่ที่สำนักงานข่าวชั้นนำของโลก ได้บรรจุที่สำนักงานใหญ่ในอเมริกา
โชคชะตาก็พาเธอให้เป็นที่ถูกต้องใจของเจ้านาย และเจ้านายก็พยายามทุกอย่างที่จะให้เธอเป็นเด็กในคอนโทรลของเขา
ความที่เธอต้องทำงานที่นั่นที่ก็ให้ค่าตอบแทนที่สูงสำหรับคนเอเชีย เธอสามารถส่งเงินเลี้ยงลูกได้สบายๆ
บางทีชีวิตก็ไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากต้องไขว่คว้าโอกาสที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
แต่แล้วเธอก็ได้รับรู้ว่า นอกจากเธอยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่เป็นเด็กในคอนโทรลของเจ้านายของเธอ
และที่เจ็บปวดที่สุด ก็เมื่อรุ่นน้องของเธอที่เธอพาเข้ามาทำงานด้วย ก็เป็นหนึ่งในนั้น และพยายามเขี่ยเธอให้พ้นทาง
เพื่อเป็นเบอร์หนึ่งในฮาเร็มของผู้ชายคนนี้ พยายามกลั่นแกล้งเธอทุกอย่าง จนเธอต้องลาออกจากงานและกลับมาเมืองไทย
โชคยังเข้าข้างที่เธอยังได้ร่วมงานกับคนดีๆ ด้วยความเป็นมืออาชีพของเธอ แต่หัวใจเธอก็เจ็บปวดจนเหมือนจะรักใครไม่ได้อีก
ความเจับปวดมันทำให้เธอระบายทุกอย่างในชีวิตออกมาในทวิตเตอร์ และผมบังเอิญได้อ่านมัน
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ผมได้รุ้จักเธอ
(ต่อด้านล่าง)