..หมายถึง ฌานจิตที่เป็นโลกุตตระ ...
เพราะฉะนั้น ใครที่มาพูดมั่วๆว่า นิพพานชั่วคราวอะไรต่างๆ ใครๆก็อาจจะเห็นนิพพานได้ ไม่ยาก แบบที่ท่านพุทธทาสพูด... นั่นคือการพูดที่ผิดหลักธรรม เป็นนิพพานปลอม
นิพพานจะปรากฏให้จิตเห็น(หรือสำนวนในตำราว่า จิตมีนิพพานเป็นอารมณ์) เช่น ตอนเกิดอริยมรรควิถี ได้บรรลุมรรคผลตามขั้นนั้นๆ..หรือ ตอนที่พระอริยะที่ชำนาญในการเข้าสมาบัติ ท่านกำหนดจิตของท่านเพื่อเข้าผลสมาบัติ
นิพพานจะไม่โผล่มาปรากฏให้จิตรู้เห็นในวิถีอื่นๆเห็นได้เลย ..แม้พระอริยะก็ตาม ไม่ว่าขั้นไหน ถ้าจิตของท่านอยู่ในวิถีอื่นๆ นิพพานก็จะไม่ปรากฏให้จิตท่านเห็นในตอนนั้น ถ้าพระอริยะท่านนั้นประสงค์จะเห็นนิพพาน ท่านก็ต้องกำหนดจิตเข้าผลสมาบัติเอา จึงจะเห็นนิพพานได้
เพราะนิพพานเป็นโลกุตตระ และชวนะที่เป็นโลกุตตระต้องเป็นอัปปนาชวนะเท่านั้น
(สรุปเกร็คความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับนิพพาน..มาจากการฟังเทปอภิธรรมบางส่วน)
นิพพานจะปรากฏกับจิตที่เข้าสู่อัปปนาวิถีหรือเป็นฌานจิต เท่านั้น,นิพพานจะไม่ปรากฏกับจิตที่อยู่ในวิถีอื่นๆที่ไม่ใช่อัปปนาฯ
เพราะฉะนั้น ใครที่มาพูดมั่วๆว่า นิพพานชั่วคราวอะไรต่างๆ ใครๆก็อาจจะเห็นนิพพานได้ ไม่ยาก แบบที่ท่านพุทธทาสพูด... นั่นคือการพูดที่ผิดหลักธรรม เป็นนิพพานปลอม
นิพพานจะปรากฏให้จิตเห็น(หรือสำนวนในตำราว่า จิตมีนิพพานเป็นอารมณ์) เช่น ตอนเกิดอริยมรรควิถี ได้บรรลุมรรคผลตามขั้นนั้นๆ..หรือ ตอนที่พระอริยะที่ชำนาญในการเข้าสมาบัติ ท่านกำหนดจิตของท่านเพื่อเข้าผลสมาบัติ
นิพพานจะไม่โผล่มาปรากฏให้จิตรู้เห็นในวิถีอื่นๆเห็นได้เลย ..แม้พระอริยะก็ตาม ไม่ว่าขั้นไหน ถ้าจิตของท่านอยู่ในวิถีอื่นๆ นิพพานก็จะไม่ปรากฏให้จิตท่านเห็นในตอนนั้น ถ้าพระอริยะท่านนั้นประสงค์จะเห็นนิพพาน ท่านก็ต้องกำหนดจิตเข้าผลสมาบัติเอา จึงจะเห็นนิพพานได้
เพราะนิพพานเป็นโลกุตตระ และชวนะที่เป็นโลกุตตระต้องเป็นอัปปนาชวนะเท่านั้น
(สรุปเกร็คความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับนิพพาน..มาจากการฟังเทปอภิธรรมบางส่วน)