ผมเจอผู้หญิงคนนึงเมื่อ 3 ปีก่อน เราเจอกันที่ร้านอาหารแห่งนึง เราได้เดินชนกัน. โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะทางแคบมากแล้วคนก็เยอะ หลังจากนั้นเรามองหน้ากัน ต่างคนต่างเขิน เราก็แยกย้ายกันไป. พอจะกลับบ้านผมกลับเจอเธออีกครั้ง แล้วเธอก็เข้ามาขอเป็นเพื่อน และ แรกเบอร์กันไป หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกันมาตลอด เจอกัน.เที่ยวด้วยกัน ระยะเวลาผ่านไปหลายเดือน เราจึงตัดสินใจคบกันในที่สุด หลังจากนั้นผ่านมา 2 ปีกว่า เรามีบุตรด้วยกัน
1 คน ได้ลูกสาวตัวน้อย น่ารัก ปากชมพู แก้มเยอะมาก ก่อนแรกเกิด เวลาผ่านไป 2 เดือน น้องมีอาการตัวเหลือง
ผมจึงพาลูกน้อยไปพบ คุณหมอ ที่ศูนย์แห่งหนึ่ง เขานั้นบอกว่า เป็นเรื่องปกติ ให้น้องกินน้ำ และ โดนแดดยามเช้าอ่อน บ่อยๆ จะหายเอง
หลังจากนั้น 4 เดือนน้องน้ำหนักลดและอาการเก่าก็ยังไม่หาย แต่อาการตัวเหลืองเบาลง ผมจึงกลับไปถามคุณหมออีกครั้ง ได้คำตอบเช่นเดิม
ผมจึงตัดสินใจ พาน้องไป รพ. แห่งหนึ่งใจกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คน
หลังจากคุณหมอตรวจลูกสาวเสร็จ ตรวจพบว่า น้องเป็นโรคท่อถุงน้ำดีตีบ ส่งผลให้ตับแย่ลง ถ้าเกิน 4 เดือนต้องเปลื่ยนตับ (ผมมา 4 เดือนพอดี)
ผลตรวจว่าตับลูกผม แข็งไปแล้ว ครึ่งนึง เลยจำเป็นต้องอยู่ห้อง Icu แผนกเด็กอ่อน หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน น้องอาการดีขึ้น ย้ายขึ้นไปรักษาน้องที่ห้องรวม แม่สามารถนอนเฝ้าน้องได้ มีการให้ยาเกี่ยวกับวิตามิน และ อีกหลายตัว น้องงอแงตลอดเวลา และ หลับบ่อยมาก หลังจากนั้นน้องอาการดีขึ้น คุณหมอเลย อนุญาติให้กลับบ้านได้ หลังจากกลับบ้านนั้น ผ่านไปไม่กี่วันนักน้องก็มีอาการหายใจไม่เต็มปอด เนื่องจาก. ตับขยายใหญ่ขึ้น
กินพื้นที่ในท้องมากขึ้น ทำให้ท้องใหญ่ขึ้นมากกว่าเด็กปกติ ผมจึงรีบพาไป รพ. เดิมทันที น้องก็กลับเข้าห้อง ICU อีกครั้ง แต่ครั้งในใช้เวลาเข้า
ประมาณครึ่งเดือนและย้ายกลับขึ้นไปชั้นบนเป็นห้องเดี่ยว แม่ สามารถเฝ้าได้เช่นเดิม น้องก็นอนรักษาตัวในห้องนั้น จนผมได้คุยกับหมอ
ถึงวิธีแก้ไข เรื่องตับของลูกสาวผม คุณหมอบอกว่า อาจจะต้องปลูกถ่ายตับ จาก พ่อแม่ สู่ลูก แฟนผมจึงออกหน้าก่อนว่า ให้ฉันเป็นคนให้
คุณหมอจึงบอกแฟนผมว่า คุณสามารถให้ก่อนลูกคุณจะขวบนึงได้ถ้าหลังจากนั้นจะให้ไม่ได้ เพราะ เลือดคุณกับลูกคนละ กรุ๊ป กัน
หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ลูกผมมีอาการหายใจเองไม่ค่อยไหว เหนื่อย ท้องใหญ่ขึ้น จนคุณหมอบอกว่า. ต้องรีบผ่าก่อนขวบแล้ว เพราะถ้ารอเวลา
น้องอาจไม่รอด เพราะ เป็นระยะสุดท้าย คุณหมอจึงเดินเข้ามาถาม ว่า ตกลง ใครเป็นคนให้ตับครับ
ผมจึงถามถึงความเสี่ยง และ เปอร์เซนรอด
คุณหมอ:. เรื่องการผ่าตัดใหญ่ใช้เวลา 10ชม. บวกลบ เล็กน้อย มีโอกาศเสี่ยงมากอยู่แล้ว แต่ที่หมอทำมาไม่เคยมีใครเสียตอนผ่านะ
ผม:แล้วเปอร์เซนคนไหนให้ลูกแล้วมีผล สำเร็จ สูงสุดครับ
คุณหมอ:คุณพ่อหน้าจะดีที่สุดเพราะกรุ๊ปเลือดตรงกันนะครับ
ผมจึงตกลงทันที คุณหมอเลยเรียก พยาบาลให้รีบตรวจสุขภาพ ต่างๆ ของผมให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน พยาบาลเลยบอกผมเจาะเลือดวันนี้เลยไหม
ผมจึงตอบตกลงไปทันที ผมเป็นคนกลัวเข็ม และ มีดหมอมากถึง มากที่สุด พอขึ้นไปเจาะเลือดปุ๊ป บรรยากาศเงียบสงบมาก เจาะทั้งหมด 15 หลอด
แต่ผมเจาะไปได้ 7 หลอดโดยประมาณ เหงื่อเริ่มออก หน้าเริ่มซีด น่ามืด ครับ จะเป็นลมแต่ไม่ถึงขั้นล่วงนะครับ เขาจึงหยุดที่ 7 หลอดก่อน พออาการหาย ผมจึงให้เจาะอีกข้างรอบนี้ผ่านไปด้วยดี พอรับขวดเลือดเสร็จ ผมรีบวิ่งขึ้นไปส่งเลือดที่ห้องแล็บ จูน ผมไม่รู้มันคืออะไร เขาเรียกกันในภาษาหมอ
คุณหมอบอกว่า เจาะ เลือดมาผิดเกือบหมดเลย เพราะ การจะนำไปตวรจแต่ละครั้ง หัวสีของขวดจะบอกว่าตรวจอะไร แต่เอามาผิดสีเกือบหมด
(เห็นว่าขวดรุ่นใหม่กับรุ่นเก่า)ผมจึงต้องกลับมาเจาะเลือดอีกครั้งในวันถัดไป อีก 9 ขวด แต่รอบนี้อาการ เป็นลม ของผมไม่มีเลย
เพราะคุณพยาบาลเขาชวนผมคุยตลอด จึงทำให้ผมลืมมองเข็ม หลังจากนั้นมีการตรวจมากมาย ขอข้ามไปนะครับ
หลังจากนั้นคุณหมอก็ปรึกษากันในวงใน ในการผ่าตัดครั้งนี้. เป็นเวลาหนึ่งเดือน พร้อมกับรอน้องให้แข็งแรงพร้อมผ่าตัดครั้งนี้พร้อมกัน
หลังจากนั้น หมอได้เริ่มนัดเวลาผ่าตัดออกมาคือ เดือน ธันวาคม ปี 57 จำวันไม่ได้ครับ แหะๆ
ผมถึงกลับเครียดไปสักพักเพราะผมค่อนข้างกลัวจริงๆ เลยทีเดียว
ก่อนวันผ่าหนึ่งวันคุณหมอได้ให้ผมมานอน รพ. เพื่อเตรียมตัวในการผ่าตัดใหญ่ครั้งนี้ พักผ่อนเยอะๆ แต่ผมไม่หลับทั้งคืน เนื่องจาก ตื่นเต้นมากๆ
เช้ารุ่งขึ้นคุณพยาบาลได้เข็นเตียงนอนมา เพื่อให้ผมนอนและเข็นไปห้องผ่าตัด แต่ก่อนหน้าที่จะไป ผมจึงขอยาหมอแก้เครียด. หมอให้มาครึ่งเม็ด
คุณหมอบอกจะรู้สึกเบลอๆ เวลากิน แต่จะฟังหมอ และ ทำตามที่หมอสั่งถูก หลังจากนั้นก็เข็นไปห้องผ่าตัด ทำการ เปลื่ยนเตียงเรียบร้อย
หลังจากนั้น ผมเหมือนกะพริบตาแค่ครั้งเดียว หันมาอีกทีผ่าเสร็จแล้ว มองดูเข็มนาฬิกา เวลาผ่านไป เกือบ 10 ชม. (หายกลัวเลยครับ)
ผมจึงถามคุณพยาบาลว่าแล้ว ลูกสาวผมละ ตอนนั้นยาชาผมยังอยู่จึงไม่เจ็บเลย พยาบาลบอก ยังผ่าอยู่เลยค่ะ แต่เขาว่าผ่านไปได้ด้วยดีนะ
ลูกสาวผม ผ่าหลังผม 3 ชม.
หลังจากนั้นผมถูกย้ายไป ICU. เพราะต้องดูอาการหลังผ่า อาการปวดผมก็เริ่มมา ปวดทั้งหมดของร่างกาย เป็นแผลกดทับหลายจุด ทรมานจิตมากๆ
แต่ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะ สมองผมไปหาลูกอย่างเดียว พอทราบว่าลูกปลอดภัย ผมจึงหลับแบบไม่รู้ตัว
หลังจากนั้น 2 วันผมก็พยายามเดิน เพื่อที่จะให้หมออนุญาติ ไปหาลูกสาวผมได้ครับ เวลาผ่านไป ผมฟื้นตัวเร็วมาก คุณหมอจึงอนุญาติให้ไปหาลูกและกลับบ้านได้ แต่เวลาล่วงมาแล้วรวมเป็นหนึ่งอาทิตย์ ผมรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก. เห็นลูกปากแดงๆ ตัวขาวๆ น่ารักมากครับ
หลังจากการผ่าตัด ลูกสาวผมก็เล่นทั้งวัน ยิ้มทั้งวัน กลางคืนก็ไม่ค่อยนอน แถมไม่ชอบเล่น ตุ๊กตา แต่ชอบเล่น สลิ้งฉีดยา สงสัยโตมาเป็นหมอแน่ๆ
อยากบอกว่าให้ รัก พ่อแม่ มากๆครับ เขายินดีที่จะแรกชีวิตเพื่อให้คุณอยู่ เมื่อคุณได้เป็นพ่อแม่คน คุณเองจะเข้าใจ
อยากเล่าเรื่อง ชีวิตของการเป็นพ่อ
1 คน ได้ลูกสาวตัวน้อย น่ารัก ปากชมพู แก้มเยอะมาก ก่อนแรกเกิด เวลาผ่านไป 2 เดือน น้องมีอาการตัวเหลือง
ผมจึงพาลูกน้อยไปพบ คุณหมอ ที่ศูนย์แห่งหนึ่ง เขานั้นบอกว่า เป็นเรื่องปกติ ให้น้องกินน้ำ และ โดนแดดยามเช้าอ่อน บ่อยๆ จะหายเอง
หลังจากนั้น 4 เดือนน้องน้ำหนักลดและอาการเก่าก็ยังไม่หาย แต่อาการตัวเหลืองเบาลง ผมจึงกลับไปถามคุณหมออีกครั้ง ได้คำตอบเช่นเดิม
ผมจึงตัดสินใจ พาน้องไป รพ. แห่งหนึ่งใจกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คน
หลังจากคุณหมอตรวจลูกสาวเสร็จ ตรวจพบว่า น้องเป็นโรคท่อถุงน้ำดีตีบ ส่งผลให้ตับแย่ลง ถ้าเกิน 4 เดือนต้องเปลื่ยนตับ (ผมมา 4 เดือนพอดี)
ผลตรวจว่าตับลูกผม แข็งไปแล้ว ครึ่งนึง เลยจำเป็นต้องอยู่ห้อง Icu แผนกเด็กอ่อน หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน น้องอาการดีขึ้น ย้ายขึ้นไปรักษาน้องที่ห้องรวม แม่สามารถนอนเฝ้าน้องได้ มีการให้ยาเกี่ยวกับวิตามิน และ อีกหลายตัว น้องงอแงตลอดเวลา และ หลับบ่อยมาก หลังจากนั้นน้องอาการดีขึ้น คุณหมอเลย อนุญาติให้กลับบ้านได้ หลังจากกลับบ้านนั้น ผ่านไปไม่กี่วันนักน้องก็มีอาการหายใจไม่เต็มปอด เนื่องจาก. ตับขยายใหญ่ขึ้น
กินพื้นที่ในท้องมากขึ้น ทำให้ท้องใหญ่ขึ้นมากกว่าเด็กปกติ ผมจึงรีบพาไป รพ. เดิมทันที น้องก็กลับเข้าห้อง ICU อีกครั้ง แต่ครั้งในใช้เวลาเข้า
ประมาณครึ่งเดือนและย้ายกลับขึ้นไปชั้นบนเป็นห้องเดี่ยว แม่ สามารถเฝ้าได้เช่นเดิม น้องก็นอนรักษาตัวในห้องนั้น จนผมได้คุยกับหมอ
ถึงวิธีแก้ไข เรื่องตับของลูกสาวผม คุณหมอบอกว่า อาจจะต้องปลูกถ่ายตับ จาก พ่อแม่ สู่ลูก แฟนผมจึงออกหน้าก่อนว่า ให้ฉันเป็นคนให้
คุณหมอจึงบอกแฟนผมว่า คุณสามารถให้ก่อนลูกคุณจะขวบนึงได้ถ้าหลังจากนั้นจะให้ไม่ได้ เพราะ เลือดคุณกับลูกคนละ กรุ๊ป กัน
หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ลูกผมมีอาการหายใจเองไม่ค่อยไหว เหนื่อย ท้องใหญ่ขึ้น จนคุณหมอบอกว่า. ต้องรีบผ่าก่อนขวบแล้ว เพราะถ้ารอเวลา
น้องอาจไม่รอด เพราะ เป็นระยะสุดท้าย คุณหมอจึงเดินเข้ามาถาม ว่า ตกลง ใครเป็นคนให้ตับครับ
ผมจึงถามถึงความเสี่ยง และ เปอร์เซนรอด
คุณหมอ:. เรื่องการผ่าตัดใหญ่ใช้เวลา 10ชม. บวกลบ เล็กน้อย มีโอกาศเสี่ยงมากอยู่แล้ว แต่ที่หมอทำมาไม่เคยมีใครเสียตอนผ่านะ
ผม:แล้วเปอร์เซนคนไหนให้ลูกแล้วมีผล สำเร็จ สูงสุดครับ
คุณหมอ:คุณพ่อหน้าจะดีที่สุดเพราะกรุ๊ปเลือดตรงกันนะครับ
ผมจึงตกลงทันที คุณหมอเลยเรียก พยาบาลให้รีบตรวจสุขภาพ ต่างๆ ของผมให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน พยาบาลเลยบอกผมเจาะเลือดวันนี้เลยไหม
ผมจึงตอบตกลงไปทันที ผมเป็นคนกลัวเข็ม และ มีดหมอมากถึง มากที่สุด พอขึ้นไปเจาะเลือดปุ๊ป บรรยากาศเงียบสงบมาก เจาะทั้งหมด 15 หลอด
แต่ผมเจาะไปได้ 7 หลอดโดยประมาณ เหงื่อเริ่มออก หน้าเริ่มซีด น่ามืด ครับ จะเป็นลมแต่ไม่ถึงขั้นล่วงนะครับ เขาจึงหยุดที่ 7 หลอดก่อน พออาการหาย ผมจึงให้เจาะอีกข้างรอบนี้ผ่านไปด้วยดี พอรับขวดเลือดเสร็จ ผมรีบวิ่งขึ้นไปส่งเลือดที่ห้องแล็บ จูน ผมไม่รู้มันคืออะไร เขาเรียกกันในภาษาหมอ
คุณหมอบอกว่า เจาะ เลือดมาผิดเกือบหมดเลย เพราะ การจะนำไปตวรจแต่ละครั้ง หัวสีของขวดจะบอกว่าตรวจอะไร แต่เอามาผิดสีเกือบหมด
(เห็นว่าขวดรุ่นใหม่กับรุ่นเก่า)ผมจึงต้องกลับมาเจาะเลือดอีกครั้งในวันถัดไป อีก 9 ขวด แต่รอบนี้อาการ เป็นลม ของผมไม่มีเลย
เพราะคุณพยาบาลเขาชวนผมคุยตลอด จึงทำให้ผมลืมมองเข็ม หลังจากนั้นมีการตรวจมากมาย ขอข้ามไปนะครับ
หลังจากนั้นคุณหมอก็ปรึกษากันในวงใน ในการผ่าตัดครั้งนี้. เป็นเวลาหนึ่งเดือน พร้อมกับรอน้องให้แข็งแรงพร้อมผ่าตัดครั้งนี้พร้อมกัน
หลังจากนั้น หมอได้เริ่มนัดเวลาผ่าตัดออกมาคือ เดือน ธันวาคม ปี 57 จำวันไม่ได้ครับ แหะๆ
ผมถึงกลับเครียดไปสักพักเพราะผมค่อนข้างกลัวจริงๆ เลยทีเดียว
ก่อนวันผ่าหนึ่งวันคุณหมอได้ให้ผมมานอน รพ. เพื่อเตรียมตัวในการผ่าตัดใหญ่ครั้งนี้ พักผ่อนเยอะๆ แต่ผมไม่หลับทั้งคืน เนื่องจาก ตื่นเต้นมากๆ
เช้ารุ่งขึ้นคุณพยาบาลได้เข็นเตียงนอนมา เพื่อให้ผมนอนและเข็นไปห้องผ่าตัด แต่ก่อนหน้าที่จะไป ผมจึงขอยาหมอแก้เครียด. หมอให้มาครึ่งเม็ด
คุณหมอบอกจะรู้สึกเบลอๆ เวลากิน แต่จะฟังหมอ และ ทำตามที่หมอสั่งถูก หลังจากนั้นก็เข็นไปห้องผ่าตัด ทำการ เปลื่ยนเตียงเรียบร้อย
หลังจากนั้น ผมเหมือนกะพริบตาแค่ครั้งเดียว หันมาอีกทีผ่าเสร็จแล้ว มองดูเข็มนาฬิกา เวลาผ่านไป เกือบ 10 ชม. (หายกลัวเลยครับ)
ผมจึงถามคุณพยาบาลว่าแล้ว ลูกสาวผมละ ตอนนั้นยาชาผมยังอยู่จึงไม่เจ็บเลย พยาบาลบอก ยังผ่าอยู่เลยค่ะ แต่เขาว่าผ่านไปได้ด้วยดีนะ
ลูกสาวผม ผ่าหลังผม 3 ชม.
หลังจากนั้นผมถูกย้ายไป ICU. เพราะต้องดูอาการหลังผ่า อาการปวดผมก็เริ่มมา ปวดทั้งหมดของร่างกาย เป็นแผลกดทับหลายจุด ทรมานจิตมากๆ
แต่ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะ สมองผมไปหาลูกอย่างเดียว พอทราบว่าลูกปลอดภัย ผมจึงหลับแบบไม่รู้ตัว
หลังจากนั้น 2 วันผมก็พยายามเดิน เพื่อที่จะให้หมออนุญาติ ไปหาลูกสาวผมได้ครับ เวลาผ่านไป ผมฟื้นตัวเร็วมาก คุณหมอจึงอนุญาติให้ไปหาลูกและกลับบ้านได้ แต่เวลาล่วงมาแล้วรวมเป็นหนึ่งอาทิตย์ ผมรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก. เห็นลูกปากแดงๆ ตัวขาวๆ น่ารักมากครับ
หลังจากการผ่าตัด ลูกสาวผมก็เล่นทั้งวัน ยิ้มทั้งวัน กลางคืนก็ไม่ค่อยนอน แถมไม่ชอบเล่น ตุ๊กตา แต่ชอบเล่น สลิ้งฉีดยา สงสัยโตมาเป็นหมอแน่ๆ
อยากบอกว่าให้ รัก พ่อแม่ มากๆครับ เขายินดีที่จะแรกชีวิตเพื่อให้คุณอยู่ เมื่อคุณได้เป็นพ่อแม่คน คุณเองจะเข้าใจ