ก่อนอื่น ออกตัวก่อนเลยนะคะ ว่าสมัครสมาชิกใหม่ เพื่อมาขอร้องให้สามชิกในพันธ์ทิพย์ช่วยเหลือหน่อยค่ะ ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายมาก

เรื่องมันเริ่มจาก ปู่เรามีลูก 3 คน นั่นคือ ลุง 2 คน (เป็นแฝด) แล้วก็พ่อเราเป็นคนสุดท้องค่ะ
ก่อนปู่จะเสีย ปู่มีที่ดิน 1 ผืน ก็บอกให้ลูกๆแบ่งกัน ลุงคนที่เป็นแฝดคนน้อง แบ่งออกไปก่อนค่ะ โอนเป็นชื่อแกเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนที่เหลือ ที่ต้องเป็นของพ่อ และลุงอีกคน ด้วยความที่พ่อ เป็นคนใจใหญ่ ขี้เกรงใจคน และไว้ใจคนมาก เลยบอกลุงว่า ไม่ต้องแบ่ง ให้เป็นชื่อลุงคนเดียวไปเลย เวลาขายจะได้ไม่ต้องโอนกันหลายรอบ (พ่อไม่ได้กะเอาไว้ปลูกบ้านค่ะ เพราะมีบ้านของแม่อีกหลัง กะว่าจะเอาที่ตรงนี้ขายเลย)
อีกสักพัก พ่อจะต้องใช้เงินไปลงทุน แกเลยขอยืมโฉนดที่ดินที่อยู่ที่ลุงไปจำนองที่ ธกส. เป็นเงินประมาณ 2 แสนกว่าบาท
เวลาล่วงเลยมานานพอสมควร พ่อไม่ได้จ่ายเงินให้ ธกส. จนถูก ธกส.ส่งจดหมายมาทวงยอดหนี้ทั้งหมด รวมดอกเบี้ยแล้วประมาณเกือบ 7 แสนบาท
แต่พอดีกับช่วงนั้น รัฐบาลจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูฯ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
พ่อได้รับเลือกให้เข้าโครงการ ซึ่งทางโครงการจะตัดดอกเบี้ยออกทั้งหมด เหลือแต่เงินต้น และให้ผ่อนชำระเป็นรายปี เป็นเวลา 7 ปี
ซึ่งมีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือ จะต้องผ่อนให้ตรงเวลาทุกปี ถ้ามีการผิดนัดชำระ ทางโครงการจะยกเลิก แล้วจะดึงดอกเบี้ยจาก ธกส. มาเท่าเดิม (ข้อมูลนี้ไม่ค่อยแน่ใจนะคะ ถามแม่มาอีกที)
และอีกอย่าง จะสามารถปิดยอดได้ก็ต่อเมื่อชำระหนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี

ปัญหามันเกิดเมื่อกลางปีที่แล้วค่ะ
มีคนมาขอซื้อที่ผืนนี้กับลุงค่ะ ลุงตกลงขายในราคา 2.1 ล้านบาท ซึ่งทางลุงได้แจ้งกับคนซื้อแล้วว่า ที่ดินมีปัญหาที่ยังติดจำนองอยู่กับกองทุน ยังไม่สามารถโอนได้ ทางคนซื้อไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน

(**ลุงได้ตกลงกับพ่อว่า จะแบ่งคนล่ะครึ่ง แต่เป็นการตกลงโดยที่ไม่ได้มีสัญญาใดๆ เพราะเชื่อใจล้วนๆเลยค่ะ**)

คนซื้อกับลุงก็เลยทำสัญาวางเงินมัดจำกันงวดแรก 2 แสนบาท ส่วนที่เหลือ รอจนกว่า จะครบตามสัญญาการชำระหนี้ที่ว่า ต้องผ่อนชำระอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะปิดยอดหนี้ได้ ซึ่งจะครบ 3 ปี สิ้นปีนี้ค่ะ
โดยที่ 1 แสน ลุงเอาไปใช้ส่วนตัว ส่วนอีกแสนที่ต้องเป็นส่วนของพ่อ ลุงบอกว่า จะนำไปชำระหนี้ที่กองทุนให้
ทางบ้านเราก็ตกลง ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ

พอถึงเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว เรามีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินประมาณ 2 แสนบาท
เลยให้พ่อ โทรไปถามที่ลุง ให้ลุงโทรไปคุยกับคนซื้อว่าจะขอมัดจำเพิ่ม
ทางลุงรับปากจะโทรให้ วันรุ่งขึ้น ลุงโทรมาบอกว่า วันมะรืนจะโอนมาให้
จนถึงวันที่ลุงนัด เราโทรหาก็ไม่รับ ให้พ่อโทรก็ไม่รับ จนช่วงบ่ายๆ ลุงให้แฟนแกรับ แล้วบอกว่า "ไม่ได้นะ คนซื้อไม่ให้"
เราก็เลยโทรไปคุยกับแม่ กับพ่อ ให้แกลองโทรไปคุยกัยคนซื้อให้
คนซื้อบอกกับเราว่า "เค้าพร้อมจะจ่าย อยากได้เท่าไหร่ก็บอกได้ แต่ต้องให้คนที่มีชื่อในโฉนด เป็นคนโทรมายืนยัน และยินยอม การรับเงินมัดจำเพิ่ม"
และอีกอย่าง เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ลุงมาขอมัดจำเพิ่มไปอีก 2 แสน แต่แกไม่บอกใครเลยค่ะ เรารู้มาจากคนซื้อเองเลย

สรุปว่า ลุงเอามัดจำไปแล้ว 3 แสน ส่วนบ้านเรา ได้มาชำระหนี้ของกองทุนแค่ 1 แสนบาท

เราให้พ่อเราโทรไปคุยกับลุงหลาบรอบมาก แต่แกปฏิเสธทุกอย่าง แกไม่ให้ แกบอกว่า กลัวเงินในส่วนของพ่อจะหมดซะก่อน ถ้าเอาออกมาใช้มากๆ
ซึ่งพ่อเราก็บอกไปแล้วว่า ถึงยังไง ถ้าโอนแล้ว แบ่งเงินกัน พ่อก็จะเอาให้เราอยู่ดี มันเป็นส่วนที่เราควรจะได้อยู่แล้ว
แต่แกก็อ้างเหตุผลไปเรื่อย จนถึงตอนนี้ ผ่านมากว่า 5 วันแล้ว ที่เรายังตกลงกันไม่ได้เลย

เครียดจนทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ T^T

ประเด็นที่กลัวคือ ทางเราไม่มีเอกสารอะไรใดๆ ที่บ่งชี้ว่าที่เป็นของพ่อเราครึ่งนึง แบบนี้ ลุงจะสามารถโกงเราได้ใช่ไหมค่ะ
คือ ถ้าลุงพูดมาเลยว่า ถ้าโอนแล้ว เรากับพ่อ ก็จะไม่ได้อะไรเลย เราจะไม่ต้องหวังอะไร
แต่ในเมื่อเคยตกลงกันแล้วว่าจะต้องแบ่งกันคนล่ะครึ่ง ซึ่งเป็นมรดกที่ปู่ทิ้งไว้ให้ พ่อเราต้องมีสิทธิ์ครึ่งนึง ใช่รึเปล่าค่ะ
ถ้าเป็นแบบนี้ เรามีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้างค่ะ
ไม่รุ้จะขอร้องลุงยังไงแล้ว

ชาวพันธ์ทิพย์ ใครพอจะรู้เรื่องทางกฎหมาย หรือ จะแก้สถานการณ์แบบนี้ยังไงดี รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยคะ