“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของท่านแล้ว แม่ทัพโฮวา”

    หัวหน้านักบวชกล่าวอย่างสงบภายใต้การเฝ้าจับตาจากมวลชนแห่งอิซีอุส มหานครที่ได้นามมาจากดวงอาทิตย์ที่หนึ่ง ซึ่งมีขนาดโตกว่าฝาแฝดอีกดวงของมันเกือบเท่าตัว อิซีอุสจะเคลื่อนขึ้นสู่ฟากฟ้าเป็นดวงแรก และลาลับเป็นดวงสุดท้ายเสมอ

    อิซีอุส เทพเจ้าผู้ครอบครองฟากฟ้าแห่งตะวันตก

    หัวหน้านักบวชในชุดคลุมสีขาวขยับเดินเข้ามาใกล้นักโทษที่แขนทั้งสี่ของเขาถูกตีตรวนเอาไว้อย่างแน่นหนา แม่ทัพโฮวาผู้กล้าแกร่ง และเป็นเสาหลักแห่งกองกำลังของนครแห่งนี้

    “ข้าเข้าใจดี ว่าท่านกำลังอยู่ในความโศกเศร้าและสับสน” นางกล่าวเบาๆ กับเขา “การจากไปของภรรยา และบุตรทั้งหมดของท่านนั้นช่าง...โหดร้ายยิ่งนัก” มันเป็นโรคระบาดที่น่าหวาดหวั่น อันมีสาเหตุความเป็นมาที่น่าเคลือบแคลง เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่ฤดูกาลของโรค ราวกับมีใครนำมันเข้ามาแพร่ภายในเมืองอย่างจงใจ

    นางรู้จักนิสัยใจคอของแม่ทัพผู้นี้ และนั่นยิ่งทำให้ทุกอย่างยุ่งยากมากขึ้น ตอนนี้นางมีทั้งมวลชน ความมั่นคงแห่งนคร ความมั่นคงในอำนาจของหัวหน้านักบวช  และหัวใจของตนให้ต้องจัดการไปพร้อมกัน “...แต่ท่านก็ไม่ควรกล่าวเช่นนั้นออกมา” นางจ้องมองใบหน้าที่แข็งกระด้างของเขาอย่างไร้ความหวัง มือทั้งสี่ของนางยกขึ้นกอดอกอย่างลืมตัว “...แต่ท่านมีความสำคัญต่อกองทัพ ขอเพียงท่านยอมกล่าวขออภัยต่อองค์อิซีอุสเบื้องหน้าชาวเมืองผู้ศรัทธาเหล่านี้ ท่านย่อมได้รับการอภัย”

    นางมองตาเขาอย่างอ้อนวอน นี่เป็นเพียงหนทางเดียวที่นางคิดออก ไม่ว่าอิซีอุสจะพอพระทัยหรือไม่ แต่นางผู้เป็นหัวหน้านักบวชจะอภัยให้กับเขา อำนาจของนางจะคงอยู่ ความมั่นคงแห่งนครรัฐจะคงอยู่ และที่สำคัญที่สุดคือหัวใจของนางเอง

    ความเงียบของลานกว้างถูกทำลายลงด้วยเสียงอันราบเรียบของแม่ทัพโฮวา

    “...ข้า...ได้กล่าวว่า เทพอิซีอุสนั้น...ช่างใจดำยิ่งนัก” มีเสียงฮือฮาดังขึ้นจากทุกทิศก่อนที่หัวหน้านักบวชจะยกแขนซ้ายทั้งสองขึ้นเพื่อให้ทุกคนสงบลง

    “...ข้า...ได้คุกเข่าลงในมหาวิหาร เฝ้าสวดอ้อนวอนอยู่ถึงสามวัน สามคืนเพื่อภรรยา และบุตรของข้า ไม่ใช่เพื่อให้ทุกคนรอดชีวิต เจตนาแห่งองค์เทพนั้นยิ่งใหญ่เหลือประมาณ ข้าเพียงร้องขอให้ใครสักคน ใครก็ได้...ใคร...สักคน หรือแม้แต่จะนำชีวิตของข้าไปแทน...” เสียงของเขาจางหายไปอย่างไม่อาจควบคุม

    หลายคนในฝูงชนต่างก้มหน้าลง แต่อีกจำนวนที่มากกว่ากลับยกมือขวาข้างหนึ่งจับที่ศีรษะของตน ส่วนอีกข้างชูขึ้นไปบนท้องฟ้า ไปยังทิศทางของร่างอวตารแห่งเทพอิซีอุสที่กำลังลอยอยู่บนนั้น

    “ข้าขอกล่าวว่า…” น้ำเสียงนั้นราบเรียบจนนางต้องบังคับตัวเองไม่ให้ยกมือทั้งสี่ขึ้นปิดหู “เทพอิซีอุสช่างใจดำยิ่งนัก” เขาตะโกนออกไปสุดเสียง

    ทุกคนบนลานกว้างต่างยืนนิ่งจนคล้ายเวลาได้ถูกหยุดเอาไว้ ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะร้องตะโกนขึ้นพร้อมกับหินก้อนแรกที่ถูกขว้างออกไป ก่อนติดตามด้วยก้อนที่สอง สาม และสี่ โฮวาหยัดยืนอย่างทายท้า สองตาของเขาจ้องมองลูกไฟบนฟากฟ้า ราวกับต้องการให้มันเผาไหม้ดวงจิตที่สถิตอยู่ภายในร่างของเขาให้มอดไหม้ไป

    ไม่มีสิ่งใดที่นางจะทำได้อีกแล้ว หัวหน้านักบวชจำต้องล่าถอยออกมา

    เสียงกลองพลันดังขึ้นอย่างเร่งร้อนจากทางประตูเมือง พร้อมเสียงร้องตะโกนอย่างแตกตื่น “ศัตรู บุก ศัตรู บุก” กองทัพจากเออวีอุส นครอันแสนป่าเถื่อนได้เคลื่อนเข้ามาประชิดกำแพงนครอย่างลอบเร้น โรคระบาดที่ยังไม่อาจควบคุม การสูญเสียแม่ทัพโฮวาไปอย่างน่าเสียดาย นางเชื่อว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    มันต้องเป็นแผนของแม่ทัพมุฮาม ด้วยความช่วยเหลือจากเออวีอุส ดวงอาทิตย์ที่สองผู้น่าชิงชังนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย “ไปที่ประตูเมือง” นางรีบร้องออกคำสั่ง โดยไม่สนใจร่างของโฮวาที่อยู่ใต้กองหินอีกต่อไป “ไปที่ประตูเมือง” นางร้องสั่งอีกครั้ง ภายในร่างคล้ายกับได้รับพลังจากแสงอาทิตย์เบื้องบนจุดให้ลุกโชนขึ้น

    การคาดเดาของนางนั้นไม่พลาดผิด มุฮามได้ส่งคนป่วยจำนวนมากให้แอบปะปนเข้ามาภายในเมืองแห่งนี้อย่างจงใจ แต่การที่ครอบครัวของแม่ทัพโฮวาต้องล้มตายลงทั้งหมด จนทำให้โฮวากล่าวประณามเทพเจ้าของตนนั้นล้วนเป็นผลพลอยได้ที่คาดไม่ถึง แม่ทัพฝีมือกล้าแข็งอย่างโฮวากลับต้องมาตายด้วยก้อนหินจากมวลชนของตนเองย่อมนับเป็นพลังบันดาลจากองค์เทพเออวีอุส เทพเจ้าผู้ครอบครองฟากฟ้าแห่งตะวันออก อย่างไม่พลาดผิด เทพผู้แย่งชิงอย่างอิซีอุสคงถึงเวลาที่จะต้องดับสูญลงแล้ว

    ภายใต้ดวงอาทิตย์ทั้งสอง มันคือการหลั่งเลือดเพื่อเทพเจ้าอันน่าจดจำ มันไม่ใช่ครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน

    ”...ท่านอาจารย์หมายความว่ามหานครโบราณทั้งสองแห่งนี้ต่างทำสงครามรบพุ่งกันเรื่อยมาภายใต้นามของอิซีอุส กับเออวีอุส ดวงอาทิตย์ที่หนึ่ง และสองตามที่พวกเขานับถืออย่างนั้นหรือครับ” นักศึกษาหนุ่มใช้มือขวาข้างหนึ่งลูบคาง ในขณะที่มือขวาอีกข้างขยับแว่นหนาให้เข้าที่

    “หลักฐานว่าไว้อย่างนั้น” อาจารย์ผู้เฒ่าว่า

    “แต่ว่าทั้งดวงอาทิตย์ที่หนึ่งและสอง...” นักศึกษาหนุ่มยังไม่อยากเชื่อ

    “ใช่ ทุกสามปี แต่เรื่องนั้นยังไม่มีใครรู้จนกระทั่งมหานครทั้งสองได้ล่มสลายไปแล้ว”

    ด้วยวงโคจรที่แปลก ทำให้ตำแหน่งบนฟากฟ้าของดวงอาทิตย์ทั้งสองนั้นจะเกิดการสับเปลี่ยนกันในทุกสามปี อิซีอุส จะกลายเป็นเออวีอุส เออวีอุส จะกลายเป็นอิซีอุส นั่นหมายความว่ามหานครทั้งสองต่างสลับกันนับถือเทพเจ้าของศัตรูเรื่อยมา และทำสงครามในนามของเทพเจ้าแห่งอาทิตย์แฝดนั้นจนย่อยยับลงไปทั้งคู่ในที่สุด