."เสริมสิน" ฟ้องคอลัมนิสต์ อ้างทิ้งหุ้นเนชั่นให้โซลูชั่น

กระทู้สนทนา
เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๘) เวลา ๑๔.๐๐ น. ที่ศาลอาญา นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ในฐานะทนายความ ของนายเสริมสิน สมะลาภา รองประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้นของ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เดินทางมาแทนนายเสริมสินเพื่อยื่นฟ้อง นาย ธนา ทุมมานนท์ คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ชื่อดัง ที่เขียนบทความลงในเฟสบุ๊คของตนที่ใช้ชื่อว่า “Tana Toommanon (Baypalace)” ในระหว่างวันที่ ๑๙ ถึงวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๗

โดย นายธนา ได้กล่าวว่า กลุ่มทักษิณพยายามครอบงำบริษัทสื่อต่างๆ และทีวีดิจิตอลอีกหลายช่อง ในส่วนของบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท SLC นายธนา ก็อ้างว่าเป็นนอมินีของกลุ่มทักษิณ เพื่อให้เข้ามาซื้อสื่อในกลุ่มเนชั่น

ทั้งนี้ นายธนา ได้ลงข้อความอันเป็นเท็จในเฟสบุ๊คของตน โดยกล่าวหาพาดพิงถึงนายเสริมสินว่า “SLC เข้าซื้อสื่อในกลุ่มเนชั่น โดยเอาหุ้นในมือเสริมสินรวบรวมมาให้ขายต่อ SLC” นอกจากนี้ นายธนา ยังกล่าวเท็จโดยพยายามทำให้ผู้อ่านเข้าใจไปได้ว่านายเสริมสินให้ความร่วมมือกับกลุ่มทักษิณในการครอบงำสื่อ

ข้อความดังกล่าวทำให้นายเสริมสิน เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกต่อว่าว่าไม่มีอุดมการณ์ หักหลังเพื่อนร่วมงานที่บริษัทเนชั่น ทำให้คนเข้าใจผิดไปได้ว่าร่วมมือกับกลุ่มทักษิณในการครอบงำสื่อ  และยังทำให้นายเสริมสิน ได้รับความเสียหายจากการสูญเสียความน่าเชื่อถือในการระดมทุนเพื่อใช้ในการลงทุน ซึ่งข้อความดังกล่าว นายวิรัตน์ ขอยืนยันว่าตนได้พูดคุยกับนายเสริมสิน และตรวจสอบเอกสารต่างๆ แล้วพบว่าเป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะ

1. บริษัท SLC ซื้อหุ้นเนชั่นจากตลาดหลักทรัพย์ โดยนายเสริมสิน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นเนชั่นของบริษัท SLC แต่อย่างใด และไม่เคยรู้จักหรือสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับผู้บริหารของ SLC และ 2. นายเสริมสินไม่ได้ให้ความร่วมมือและอยู่เบื้องหลังการครอบงำสื่อของกลุ่มทักษิณ ตามที่นายธนากล่าวอ้าง

ตนจึงได้รับเป็นทนายความให้นายเสริมสิน ในการฟ้องร้องนายธนา ทุมมานนท์ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา, ข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษทางอาญาทั้งจำทั้งปรับ และหลังจากนั้นตนจะไปยื่นฟ้องนายธนา เป็นจำเลยในคดีแพ่ง เรื่องเดียวกันนี้ ในข้อหาละเมิด ทำให้นายเสริมสิน ได้รับความเสียหาย สูญเสียความน่าเชื่อถือในการระดมทุนเพื่อใช้ในการลงทุน และเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น ๕๐ ล้าน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่