‘ดุสิตโพล’ เผยดัชนีการเมืองไทย ก.พ.ผลงานฝ่ายค้านสูงสุด ชอบตัดไฟ – เน็ตแก๊งคอลฯ ของรัฐบาล
https://www.dailynews.co.th/news/4452373/
“ดุสิตโพล” เผยดัชนีการเมืองไทย ก.พ.68 พบ ผลงานฝ่ายค้านสูงสุด ชอบตัดไฟ - เน็ตแก๊งคอลฯ ของรัฐบาล ส่วน “แพทองธาร - ณัฐพงษ์” ผลงานโดนใจ
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.68 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “
ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,179 คน(สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. 68 กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ก.พ.68 เฉลี่ย 5.02 คะแนน ลดลงจากเดือนม.ค.68 ที่ได้ 5.06 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงานของฝ่ายค้านเฉลี่ย 5.42 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล เฉลี่ย 4.59 คะแนน
เมื่อถามถึง นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนก.พ.2568 โดยในส่วนของรัฐบาล ภาพรวม ได้แก่ ลำดับ 1 น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 46.08 ลำดับ 2 นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร้อยละ 30.63 ลำดับ3 น.ส.
ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ร้อยละ 23.29
ส่วนฝ่ายค้าน ภาพรวม ได้แก่ ลำดับ 1 นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ร้อยละ 48.24 ลำดับ 2 นาย
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร้อยละ 31.50 ลำดับ 3 น.ส.
รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ร้อยละ 20.26
เมื่อถามถึง ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนก.พ. 2568 ปรากฎผลดังนี้ ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน ก.พ.ได้แก่ ลำดับ1 ตัดไฟ-ตัดเน็ต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร้อยละ 43.64 ลำดับ 2 แจกเงิน 10,000 บาท ร้อยละ 30.67 ลำดับ 3 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2568 ร้อยละ 25.69
ขณะที่ผลงานฝ่ายค้าน ภาพรวม ได้แก่ ลำดับ 1 จี้ตัดไฟข้ามแดน ร้อยละ 45.23 ลำดับ 2 ชำแหละงบประกันสังคม ร้อยละ 32.86 ลำดับ 3 ยื่นแก้รัฐธรรมนูญ ร้อยละ 21.91
'เลขาสภา' เสนอ 'วันนอร์' บรรจุญัตติซักฟอกแล้ว เผย ไม่ตัดข้อความใดๆ
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1169092
"ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์" ระบุเสนอแฟ้มให้ “วันนอร์” บรรจุญัตติซักฟอกแล้ว เผย ไม่ตัดข้อความใดๆ ส่วนข้อกังวลอภิปรายโยงคนนอก เป็นดุลยพินิจของ “ปธ.สภาฯ” จะพิจารณา
ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบความถูกต้องของญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ขณะนี้การตรวจสอบความถูกต้องของลายมือชื่อและเนื้อหาของญัตติได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้เสนอแฟ้มให้กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เพื่อให้พิจารณาบรรจุในระเบียบวาระแล้ว
เมื่อถามว่าในญัตติได้ระบุชื่อของนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกมองว่าเป็นบุคคลภายนอก ตามข้อบังคับทำได้หรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ที่จะพิจารณาหากมีข้อกังวลในการอภิปราย
“
การตรวจสอบนั้นไม่ได้เสนอให้ตัดข้อความใดในญัตติออก จึงเป็นการเสนอให้ ประธานสภาฯ บรรจุญัตติในระเบียบวาระตามขั้นตอนปกติ ส่วนที่จะพิจารณาความเหมาะสมหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของประธาน ว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายบุคคล” เลขาธิการสภาฯ กล่าว.
สว. จ่อถกญัตติการทำหน้าที่ ดีเอสไอ ขาดประสิทธิภาพ-ถูกฝ่ายการเมืองครอบงำ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9656404
วุฒิสภา จ่อถกญัตติ ปัญหาการทำหน้าที่ ‘ดีเอสไอ-ยธ.’ ขาดประสิทธิภาพ-ถูกฝ่ายการเมืองครอบงำ ปมปล่อยทุนจีนเทา-ให้สิทธิพิเศษผู้ต้องขังบางราย
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ คือ การเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย เสนอโดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.กลุ่มกฎหมาย และคณะ
ทั้งนี้ สาระของญัตติที่เสนอดังกล่าวมีการอ้างถึงรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดให้รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้รัฐมีมาตรฐานคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรมให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยเคร่งครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำ
แต่ที่ผ่านมาพบว่ากระบวนการยุติธรรมไทยขาดประสิทธิภาพ และมีการแทรกแซง ครอบงำจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะการดำเนินคดีพิเศษของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งพบว่าที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ทำคดีล่าช้า ไม่สามารถทำให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษอย่างแท้จริง
รวมถึงไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดและปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เช่น การดำเนินคดีกับนายทุนชาวจีนสีเทาในข้อหายาเสพติดฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่เป็นปัญหายาวนาและทวีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
นอกจากนี้ ในการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมยังเป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น กรณีการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมามีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส และไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
โดยผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิในการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้อภิปรายระดมความคิดเห็นเพื่อพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย และเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการตามข้อบังคับวุฒิสภา ข้อ 35
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญัตติดังกล่าว พล.ต.ต.
ฉัตรวรรษ และคณะ รวม 11 คน ได้ยื่นเสนอต่อกลุ่มงานญัตติ เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้รับการบรรจุในวาระประชุมทันที
สำหรับ สว.ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติดังกล่าว ได้แก่ พล.ต.ต.
ฉัตรวรรษ น.ส.
อมร ศรีบุญนาค น.ส.
อัจฉรพรรณ หอมรส นายเ
อนก วีระพจนานันท์ นาย
อภิชา เศรษฐวราธร นาย
ชวภณ วัธนเวคิน นาย
ชีวะภาพ ชีวะธรรม นาย
วิวัฒน์ รุ้งแก้ว พล.อ.
สวัสดิ์ ทัศนา นาย
อภิชาติ งามกมล และนาย
พรเพิ่ม ทองศรี
JJNY : ดัชนีผลงานฝ่ายค้านสูงสุด│เสนอ'วันนอร์'บรรจุญัตติซักฟอก│สว.จ่อถกญัตติการทำหน้าที่ DSI│‘เซเลนสกี’หารือ‘สตาร์เมอร์’
https://www.dailynews.co.th/news/4452373/
“ดุสิตโพล” เผยดัชนีการเมืองไทย ก.พ.68 พบ ผลงานฝ่ายค้านสูงสุด ชอบตัดไฟ - เน็ตแก๊งคอลฯ ของรัฐบาล ส่วน “แพทองธาร - ณัฐพงษ์” ผลงานโดนใจ
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.68 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,179 คน(สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. 68 กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ก.พ.68 เฉลี่ย 5.02 คะแนน ลดลงจากเดือนม.ค.68 ที่ได้ 5.06 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงานของฝ่ายค้านเฉลี่ย 5.42 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล เฉลี่ย 4.59 คะแนน
เมื่อถามถึง นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนก.พ.2568 โดยในส่วนของรัฐบาล ภาพรวม ได้แก่ ลำดับ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 46.08 ลำดับ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร้อยละ 30.63 ลำดับ3 น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ร้อยละ 23.29
ส่วนฝ่ายค้าน ภาพรวม ได้แก่ ลำดับ 1 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ร้อยละ 48.24 ลำดับ 2 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร้อยละ 31.50 ลำดับ 3 น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ร้อยละ 20.26
เมื่อถามถึง ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนก.พ. 2568 ปรากฎผลดังนี้ ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน ก.พ.ได้แก่ ลำดับ1 ตัดไฟ-ตัดเน็ต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร้อยละ 43.64 ลำดับ 2 แจกเงิน 10,000 บาท ร้อยละ 30.67 ลำดับ 3 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2568 ร้อยละ 25.69
ขณะที่ผลงานฝ่ายค้าน ภาพรวม ได้แก่ ลำดับ 1 จี้ตัดไฟข้ามแดน ร้อยละ 45.23 ลำดับ 2 ชำแหละงบประกันสังคม ร้อยละ 32.86 ลำดับ 3 ยื่นแก้รัฐธรรมนูญ ร้อยละ 21.91
'เลขาสภา' เสนอ 'วันนอร์' บรรจุญัตติซักฟอกแล้ว เผย ไม่ตัดข้อความใดๆ
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1169092
"ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์" ระบุเสนอแฟ้มให้ “วันนอร์” บรรจุญัตติซักฟอกแล้ว เผย ไม่ตัดข้อความใดๆ ส่วนข้อกังวลอภิปรายโยงคนนอก เป็นดุลยพินิจของ “ปธ.สภาฯ” จะพิจารณา
ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบความถูกต้องของญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ขณะนี้การตรวจสอบความถูกต้องของลายมือชื่อและเนื้อหาของญัตติได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้เสนอแฟ้มให้กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เพื่อให้พิจารณาบรรจุในระเบียบวาระแล้ว
เมื่อถามว่าในญัตติได้ระบุชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกมองว่าเป็นบุคคลภายนอก ตามข้อบังคับทำได้หรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ที่จะพิจารณาหากมีข้อกังวลในการอภิปราย
“การตรวจสอบนั้นไม่ได้เสนอให้ตัดข้อความใดในญัตติออก จึงเป็นการเสนอให้ ประธานสภาฯ บรรจุญัตติในระเบียบวาระตามขั้นตอนปกติ ส่วนที่จะพิจารณาความเหมาะสมหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของประธาน ว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายบุคคล” เลขาธิการสภาฯ กล่าว.
สว. จ่อถกญัตติการทำหน้าที่ ดีเอสไอ ขาดประสิทธิภาพ-ถูกฝ่ายการเมืองครอบงำ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9656404
วุฒิสภา จ่อถกญัตติ ปัญหาการทำหน้าที่ ‘ดีเอสไอ-ยธ.’ ขาดประสิทธิภาพ-ถูกฝ่ายการเมืองครอบงำ ปมปล่อยทุนจีนเทา-ให้สิทธิพิเศษผู้ต้องขังบางราย
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ คือ การเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย เสนอโดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.กลุ่มกฎหมาย และคณะ
ทั้งนี้ สาระของญัตติที่เสนอดังกล่าวมีการอ้างถึงรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดให้รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้รัฐมีมาตรฐานคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรมให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยเคร่งครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำ
แต่ที่ผ่านมาพบว่ากระบวนการยุติธรรมไทยขาดประสิทธิภาพ และมีการแทรกแซง ครอบงำจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะการดำเนินคดีพิเศษของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งพบว่าที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ทำคดีล่าช้า ไม่สามารถทำให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษอย่างแท้จริง
รวมถึงไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดและปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เช่น การดำเนินคดีกับนายทุนชาวจีนสีเทาในข้อหายาเสพติดฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่เป็นปัญหายาวนาและทวีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
นอกจากนี้ ในการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมยังเป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น กรณีการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมามีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส และไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
โดยผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิในการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้อภิปรายระดมความคิดเห็นเพื่อพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย และเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการตามข้อบังคับวุฒิสภา ข้อ 35
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญัตติดังกล่าว พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ และคณะ รวม 11 คน ได้ยื่นเสนอต่อกลุ่มงานญัตติ เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้รับการบรรจุในวาระประชุมทันที
สำหรับ สว.ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติดังกล่าว ได้แก่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ น.ส.อมร ศรีบุญนาค น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส นายเอนก วีระพจนานันท์ นายอภิชา เศรษฐวราธร นายชวภณ วัธนเวคิน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา นายอภิชาติ งามกมล และนายพรเพิ่ม ทองศรี