JJNY : ปชน. จัดหนักซักฟอก│เท้งยันล็อกเป้านายกฯแต่แรก│ยื่นสอบ “ประธาน ป.ป.ช.” ปมคลิปหลุด│โรมลุกถามนายกฯ เมินสอบปธ.กสทช.

ดุเดือดแน่! ปชน. จัดหนักซักฟอก ยัน ข้อมูลอภิปรายไม่รั่ว โต้คนแซะเหมือนกระทู้สด
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9651881
 
 
พรรคประชาชน จัดเต็ม! โรม โว ซักฟอกครั้งนี้ ดุเดือดแน่ ยัน ข้อมูลอภิปรายไม่รั่ว เหน็บ คนแซะเหมือนกระทู้สด ไม่เข้าใจการทำงานในสภา
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณีการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ตนตอบคำถามยากมาก เพราะยังเป็นความลับของเรา
แต่ยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เราจัดเต็มแน่นอน เราเตรียมข้อมูลมาเป็นอย่างดีและดีกว่าหลายครั้ง ข้อมูลหลายอย่างที่ได้รับมาจากหลายทิศทางจะช่วยทำให้เราสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างเข้มข้น
 
ซึ่งบางเรื่องประชาชนอาจเดาได้ แต่เป้าที่เราได้จะมีความชัดขึ้น จึงทำให้การอภิปรายในครั้งนี้เข้มข้นดุเดือดสมที่ประชาชนรอคอย และไม่ใช่แค่ความดุเดือดในเนื้อหา แต่ตนคิดว่าคือความร้ายแรงที่ประเทศเราต้องแบกรับภาระด้วย
 
เมื่อถามกรณีที่รัฐบาลมองว่าเหมือนเป็นกระทู้สด นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องแยกให้ออกระหว่างกระทู้สดกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จริงๆ คนในพรรครัฐบาลก็เป็นสส.มานาน และหลายคนก็เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ เราต้องกล่าวหาต่อรัฐบาลและรัฐบาลก็มีโอกาสที่จะชี้แจง ดังนั้น ไม่ใช่กระทู้สดแน่นอน คนที่พูดเรื่องนี้อาจจะไม่เข้าใจการทำงานในสภาฯ
 
เมื่อถามว่าเนื้อหาส่วนใหญ่อาจจะมาจากกระทู้สด แต่จะมาลงลึกในรายละเอียดตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนว่าไม่เกี่ยวกับกระทู้สด เรื่องนี้เป็นการตรวจสอบรัฐบาล และการทำหน้าที่ของพรรคประชาชนเราทำบนพื้นฐานของเนื้อหาสาระและพยานหลักฐานอยู่แล้ว ส่วนที่มีการพูดกันว่าอาจจะเป็นเรื่องเดิมนั้น รอดูดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
 
ย้ำว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่บนพื้นฐานข้อมูล และตรงไปตรงมา ไม่ใช่ประเภทเอากระดาษแผ่นเดียวมาพูดกันแบบเยิ่นเย้อแน่นอน เราเป็นพรรคการเมืองที่ต้องการทำให้สภาเห็นว่า เราไม่สมควรที่จะไว้วางใจบุคคลที่เรากล่าวหาอย่างไรบ้าง” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
เมื่อถามว่าญัตติหลุด กระทบต่อการอภิปรายหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่กระทบมาก เพราะที่หลุดเป็นแค่ญัตติ แต่ยืนยันว่าในการทำหน้าที่อภิปรายหรือเนื้อหาสาระของพวกเรายังไม่มีอะไรหลุด



เท้ง ไม่รู้ญัตติหลุด ยันล็อกเป้านายกฯแต่แรก ไม่ใช่ 10 รมต. มั่นใจพาดพิงทักษิณได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5068372

ไม่ผิดคาด! ‘ฝ่ายค้าน’ ยื่นซักฟอกรัฐบาล หมายหัว ‘นายกรัฐมนตรี’ แต่เพียงผู้เดียว ‘เท้ง’ ซัด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไร้ภาวะผู้นำ ปล่อยให้ ‘บิดา’ ชักนำ-จูงใจ มีส่วนช่วยบริหารราชการแผ่นดิน บอกพูดถึง ‘ทักษิณ’ ได้แน่ ถ้าญัตตินี้ถูกบรรจุ ยันตั้งใจพุ่งเป้านายกฯอยู่แล้ว ไม่ทราบโพยมั่วหลุดว่อนเมื่อวานมาจากไหน เบรกดราม่า ‘ฝ่ายค้าน’ ดีล ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ แลกข้อมูล ขอรอดูความเข้มข้นเนื้อหาวันอภิปราย แย้มมีหลักฐานคอร์รัปชัน อย่าปรามาส ในอดีตเคยถึงขั้นยุบสภามาแล้ว
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
 
โดย นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงรายชื่อ 166 คน ประกอบด้วยพรรคประชาชน 143 คน, พรรคเป็นธรรม 1 คน, พรรคพลังประชารัฐ 19 คน และพรรคไทยสร้างไทย 3 คน ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านขออภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่เพียงผู้เดียว เนื้อหาในการอภิปรายจะครอบคลุมทุกประเด็น หลายกระทรวง หลายพรรคร่วมรัฐบาล เราเชื่อว่าปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินเกิดขึ้นจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำ ไม่สามารถควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้ ขาดวุฒิภาวะขาดความรู้ความสามารถ มีการแต่งตั้งบุคคลที่เขาขอมา มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีอำนาจเหนือตนเอง รวมถึงยินยอมให้ผู้เป็นบิดาสามารถชักนำ จูงใจ มีส่วนให้บริหารราชการแผ่นดินได้ เราเชื่อว่าทุกปัญหาเกิดจากนายกรัฐมนตรี เราเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีเพียงผู้เดียว และต้องตอบชี้แจงด้วยตนเองเท่านั้น
 
ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ตนจะนำญัตตินี้ไปตรวจสอบตามระเบียบข้อบังคับ หลังจากนั้นจะส่งญัตติไปให้รัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลแจ้งมาว่าพร้อมเมื่อไหร่ แต่ทางรัฐบาลได้แจ้งไว้แล้วว่าพร้อมให้อภิปรายในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนจะใช้เวลาอย่างไร เป็นเรื่องที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ และฝ่ายรัฐบาลต้องไปตกลงกัน ซึ่งตนมอบหมายให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานในที่ประชุม ตนหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นไปได้ด้วยดีและเป็นประโยชน์กับประชาชน
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งใจอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตั้งแต่แรกหรือแก้เกมข้อสอบรั่ว นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราตั้งใจอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตั้งแต่แรก ส่วนกระแสข่าวที่มีข้อสอบรั่ว ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง
 
ส่วนตัวญัตติที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เป็นเฟคนิวส์หรือไม่ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ตนไม่แน่ใจว่าทางผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลมาจากไหน แต่ขณะนี้ข้อเท็จจริง ก็เปิดเผยตามที่เรายื่นญัตติ
 
เมื่อถามว่า ไม่กล้าอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเขาส่งข้อมูลให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการวิเคราะห์ทางการเมือง ไม่ว่าเราจะดำเนินการอย่างไร ก็จะมีการวิเคราะห์อีกด้านเสมอ ขอให้ติดตามเนื้อหาในการอภิปราย เพียงแต่ว่าการลงมติ เราลงแค่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
เมื่อถามว่าอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว จะกว้างออกทะเลไปหรือไม่ และมั่นใจในผู้อภิปรายว่าจะเอาอยู่หรือ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า อยากให้ติดตาม เป็นประเด็นที่เจาะจง มีหลักฐานค่อนข้างชี้ชัด ส่วนการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวจะเป็นสิ่งที่อยากให้ประชาชนได้เห็นปัญหาของรัฐบาลชุดนี้
 
แน่นอนครับ ตัวผมเชื่อมั่นใจพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เตรียมเนื้อหามาเป็นอย่างดี รวมถึงพรรคประชาชน เราได้เตรียมเนื้อหามาอย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
เมื่อถามว่าการอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวจะกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า หากดูที่ตัวเนื้อหาในญัตติค่อนข้างครอบคลุมในหลายประเด็น ตนอยากให้แยกการอภิปรายและการลงมติ หากตามกรอบญัตติ สะท้อนปัญหาทุกอย่างของรัฐบาล และอภิปรายได้ครอบคลุมแน่นอน ส่วนการลงมติจะพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี ส่วนประเด็นการเมืองที่เราจะไปขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ตนไม่อยากให้มองอย่างนั้น เราตรวจสอบทุกอย่างตรงไปตรงมา
 
เมือถามถึงการเอ่ยชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะผิดข้อบังคับหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในตัวญัตติมีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เรื่องนี้อยู่ที่ประธานสภาฯเอง เมื่อพิจารณาญัตติแล้ว ตนเชื่อว่าไม่ได้ขัดข้อบังคับแต่อย่างใด ถ้าบรรจุญัตติได้ตามนี้ แปลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถพูดถึงนายทักษิณได้ เพราะเป็นปัญหาสำคัญของประเทศในปัจจุบัน
 
เมื่อถามว่าจะต้องถึงขั้นยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า โดยกระบวนการปกติของสภาฯ จะลงมติไม่ไว้วางใจก่อน แต่แน่นอนว่าทุกครั้งสามารถดำเนินการอื่นๆได้ เช่น กรณีที่อดีตพรรคก้าวไกลยื่นถอดถอนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
 
เมื่อถามว่าหวังผลถึงขนาดยุบสภาฯเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งตนไม่สามารถตอบแทนรัฐบาลได้ แต่เชื่อว่าเนื้อหาที่เราเตรียมมา เข้มข้นและพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีหลายคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีเอง ส่วนมีข้อมูลชี้ชัดถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นเลยหรือไม่ ตนมีหลักฐานที่ชี้ชัดให้เห็นถึงการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี
 
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมาสภาฯในวันนี้ มีนัยยะอะไรหรือไม่ หรือเป็นเพราะฝ่ายค้านยื่นซักฟอก นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาสภาฯ หากมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองก็จะดี มองว่าประชาชนคาดหวังให้นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคนเดียวแบบนี้ เป็นการกตัญญูต่อพรรคร่วมเลยไม่ซักฟอกหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พรรคร่วมฝ่ายค้านเรามองที่เนื้อหาเป็นหลัก แต่ที่ตัดสินใจยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเพราะรากเหง้าปัญหาในการตัดตั้งรัฐบาลมาจากนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะตัดสินว่ามีการต่อรองกันระหว่างฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลในการแลกเนื้อหา จนทำให้เราไม่สามารถอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาลได้ อยากให้มองที่เนื้อหาว่าเราดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ ขอให้รอดูคนที่อภิปรายต่อไปว่าเนื้อหาจะเข้มข้นแค่ไหน



ฝ่ายค้านยื่นสอบ “ประธาน ป.ป.ช.” ปมคลิปหลุด พ่วงเหตุยุติสอบ “แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน” ของประวิตร
https://ch3plus.com/news/political/morning/434018

ฝ่ายค้าน ยื่น “วันนอร์” สอบประธานป.ป.ช. ปมคลิปหลุด พ่วงกรณียุติสอบ “แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน” ของ “พล.อ.ประวิตร” และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองให้เปิดเผยรายละเอียดคดี
 
ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วย ตัวแทน สส.ฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 236 ประกอบมาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) กล่าวหา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วยมีเหตุอันควรสงสัยว่า กรรมการ ป.ป.ช.กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อ บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
 
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านเข้าชื่อเพื่อยื่นร้องให้มีการตรวจสอบ ป.ป.ช. โดยได้เข้าชื่อทั้งหมด 145 ชื่อ ประกอบด้วยพรรคประชาชน 143 คน พรรคเป็นธรรม 1 และสว. 1 คน โดยเนื้อหาคำร้องตามมาตรา 236 ประกอบไปด้วยหลักฐาน 18 รายการ มี 3 ประเด็นหลัก คือ 

1. ข้อกล่าวหา 5 ป.ป.ช. ต่อกรณีที่มีมติยุติการสืบหาข้อเท็จจริงของทรัพย์สินพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในกรณีแหวนเพชรและนาฬิกา 

2. ข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. 9 คน ที่ดำรงตำแหน่งในช่วง 16 มี.ค.2566-13 พ.ค.2567 ซึ่งเป็นข้อกล่าวเฉพาะตัว ป.ป.ช.ที่ลงมติไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองในเรื่องการเปิดเผยรายละเอียดของคดีดังกล่าวของพล.อ.ประวิตร 

3. ข้อกล่าวหาต่อนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. ในกรณีคลิปหลุดล่าสุดที่มีการเข้าพบประธานรัฐสภา พร้อมกับ สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่