ศศินันท์ชี้ กรณีแจ้งข้อหา ม.112 นักวิชาการอเมริกัน สะท้อนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนไม่เปลี่ยน ถูกโยงเจรจากำแพงภาษี
.
.
วันนี้ (9 เมษายน) ที่อาคารรัฐสภา ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดพิษณุโลกไม่ให้ประกันตัว Paul Chambers อาจารย์สัญชาติอเมริกัน คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หลังถูกแจ้งข้อหาในความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถูกโยงเข้ากับการเจรจามาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา
.
ศศินันท์ระบุว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่เราจะอภิปรายในญัตติด่วนของวันนี้เช่นกัน กรณีของ Paul ทำให้เห็นว่าสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากรัฐบาลเผด็จการก่อนหน้านี้ เพราะหากดูเหตุผลของการไม่ให้ประกันตัวว่าเพราะมีอัตราโทษสูง และพนักงานสอบสวนคัดค้าน เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ตนเองเป็นทนายความแรกๆ
.
“บรรยากาศหลายๆ อย่างไม่ได้แตกต่างกัน ทั้งการจับกุมดำเนินคดี เพราะครั้งนี้ไม่ใช่คดีที่ประชาชนทั่วไปแจ้ง แต่เป็นกองทัพแจ้งด้วยซ้ำ จึงเป็นเรื่องที่รัฐกระทำต่อบุคคล และยิ่ง Paul เป็นบุคคลสัญชาติอเมริกัน จึงถูกโยงกับเรื่องของมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา”
.
ศศินันท์กล่าวด้วยว่า อย่างที่ได้เคยอภิปรายไปในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าวิธีจัดการของรัฐบาลสามารถกระทำได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นกองอำนวยการรักษาความสงบมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้ที่มีอำนาจกำกับดูแลและมอบนโยบายก็คือนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลเอง
.
ศศินันท์ระบุว่า หากจำได้ ในสมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง จะมาจากการแถลงของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ประกาศว่าจะดำเนินคดีมาตรา 112 ทุกคดี สถานการณ์ทางการเมืองก็เปลี่ยนไปทันที ดังนั้นฝ่ายบริหารมีความสามารถในการบริหารจัดการสถานการณ์ทางการเมืองได้อยู่แล้ว
.
ด้าน สหัสวัต คุ้มคง สส. ชลบุรี พรรคประชาชน กล่าวเสริมว่า หลายฝ่ายอาจสงสัยว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทำไมเราจึงหยิบยกเรื่องนิรโทษกรรมมาพูด ความจริงไม่ใช่เรา แต่ผู้เสนอญัตตินี้มาคือรัฐบาลเองด้วยซ้ำ แต่ยิ่งเราเผชิญปัญหาจากภายนอกมากมาย ยิ่งจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาภายใน ควรลดความขัดแย้งภายในให้ได้มากที่สุด เพื่อจะจับมือกันเดินไปข้างหน้า โดยการนิรโทษกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งในการลดความขัดแย้งของสังคม
.
สหัสวัตกล่าวว่า การนิรโทษกรรมเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะเงื่อนไขหนึ่งที่สหรัฐฯ มองว่าไทยมีขีดความสามารถเรื่องสิทธิมนุษยชนค่อนข้างต่ำ การนิรโทษกรรมก็จะเพิ่มน้ำหนักในการเจรจาได้มากขึ้น แม้ว่าจะเจรจากับสหรัฐฯ ไม่สำเร็จ ยังมีเป้าหมายคือสหภาพยุโรป ที่ก็มีเงื่อนไขเรื่องสิทธิมนุษยชน มาตรา 112 และนักโทษการเมือง อยู่ในการเจรจา FTA เช่นเดียวกัน
.
“จังหวะเวลาอย่างนี้ยิ่งต้องควรหยิบเรื่องนิรโทษกรรมมาคุยกัน เพื่อให้สังคมเดินหน้า เพื่อสร้างแต้มต่อของพวกเราในการต่อรองกับเวทีนานาชาติ ถ้ารัฐบาลเห็นความสำคัญเรื่องนี้ และพูดอยู่เสมอว่าเราจะต้องจับมือกันเดินไปข้างหน้า รัฐบาลควรมีความชัดเจนมากกว่านี้ ทั้งการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เอง หรือออกมาพูดชัดๆ เลยว่า เรื่องนี้จะถูกนำมาพูดคุยในสมัยประชุมหน้า ไม่เลื่อนแบบนี้อีก” สหัสวัตกล่าว
.
.
ทวงถามความจริงใจรัฐบาล เมื่อไรจะชง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ ครม. ผิดหวังถูกเลื่อนพิจารณาในสภา
https://thestandard.co/gov-amnesty-bill-delay/
.
วันนี้ (9 เมษายน) ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน พร้อมด้วย สหัสวัต คุ้มคง สส. ชลบุรี, วีรนันท์ ฮวดศรี สส. ขอนแก่น, พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส. สมุทรปราการ และ พุธิตา ชัยอนันต์ สส. เชียงใหม่ พรรคประชาชน รับหนังสือจากเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน
.
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ในฐานะตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เปิดเผยว่า ได้ติดตามสถานการณ์และทราบว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรเลื่อนวาระด่วนขึ้นมา 2 เรื่อง ทั้งร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 4 ฉบับ มาพิจารณาในสัปดาห์นี้ เรายินดีที่สภาเห็นความสำคัญของการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ยุติการดำเนินคดีกับผู้ที่แสดงออกจากการเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีคดีที่ค้างอยู่หลายพันคดี
.
เราได้รับแจ้งว่า ให้เตรียมเข้าชี้แจงต่อสภาเมื่อช่วงเช้านี้ยังเข้าใจว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อยู่ในวาระด่วนที่ต้องมีการพิจารณา ก่อนที่จะทราบว่ารัฐบาลถอนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออก เราก็เข้าใจว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้ง 4 ฉบับจะถูกยกมาพิจารณาก่อน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ ถึงเหตุผลการเสนอเรื่องการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกาขึ้นมาพิจารณาแทน
.
“4-5 วันที่ผ่านมาเราตกใจว่าเรื่องของเราจะกลายเป็นวาระด่วน วันนี้เราจึงรู้สึกผิดหวัง เนื่องจากถูกหลอกว่า นิรโทษกรรมเป็นเรื่องสำคัญ แต่เมื่อถึงวันจริง คาสิโนไม่ได้คุย เรื่องของเราก็ไม่ถูกคุยอยู่ดี
.
ขอเน้นย้ำว่าอยากเห็นความจริงใจจากสภาและรัฐบาลมากกว่านี้ หากมีความจริงใจต่อกัน ยกเลิกคดีทางการเมืองสามารถทำได้ โดยการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของคณะรัฐมนตรีหรือพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล เพื่อให้เข้าสู่การพิจารณาทันทีเร่งด่วน ไม่ใช่แค่เอามาประกบกับคาสิโน” ยิ่งชีพระบุ
.
ด้านศศินันท์กล่าวว่า วันนี้เราตั้งใจที่จะอภิปรายร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่เพิ่งทราบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะมีการเลื่อน ซึ่งมีการประเมินสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อวานว่าญัตติด่วนเรื่องการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกาอาจลากยาว เรารู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามที่ได้แถลงว่าจะยื่นญัตติด่วน
.
ก่อนปิดสมัยประชุมสภาที่แล้ว ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าจะยื่นร่างกฎหมายนี้ทันที จนสัปดาห์นี้จะปิดสมัยประชุมสภาแล้ว เรายังไม่เห็นวี่แววร่างของ ครม. หาก ครม. มีการยื่นร่างเข้ามาจะเป็นการพิจารณาเร่งด่วนตัวของมันเอง
.
“สิ่งที่อยากทวงถามจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคือ จะมีการยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ ครม. หรือพรรคเพื่อไทย เข้ามาเมื่อไร เพื่อแสดงถึงความจริงใจว่ารัฐบาลไม่ได้เห็นความสำคัญเฉพาะเรื่องคาสิโนอย่างเดียว แต่เห็นความสำคัญเรื่องอิสรภาพของพี่น้องประชาชนด้วย” ศศินันท์กล่าว
.
“อัทธ์ พิศาลวานิช”ชี้ ไทยเสี่ยงจากผลนโยบายทรัมป์ อัดรัฐบาลช้า
.
“อัทธ์ พิศาลวานิช” ชี้ทรัมป์ขึ้นภาษีภายใต้ “หลักการ - หลักกู” อัดรัฐบาลล่าช้ารับมือนโยบายทรัมป์ ไทยเตรียมเจอผลกระทบจากการส่งออก สินค้าทะลักเข้าไทย
.
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญการค้าระหว่างประเทศ กล่าวในการเสวนาโต๊ะกลม (Roundtable) “Trump’s Global Quake: Thailand Survival Strategy” ว่า ที่มาที่ไปของภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มาจากการที่ สหรัฐขาดดุลการค้ามหาศาลถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ 2. มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี โดยทรัมป์ให้ความสำคัญในเรื่องนี้พอๆ กับมาตรการขึ้นภาษี และ 3.อิทธิพลของสินค้าจีนและอิทธิพลเศรษฐกิจของประเทศจีนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยการคำนวณภาษีในครั้งนี้มีทั้งหลักการ และหลักกู ไปพร้อมกับสูตรทางเศรษฐศาสตร์
.
โดยหลักการก็ใช้สูตรเศรษฐศาสตร์โดยค่าความยืดหยุ่นการนำเข้าสินค้าเข้าสหรัฐ ต่อราคาน้ำเข้าที่ 4 หมายความว่า ถ้าราคานำเข้าลดลง 1% ทำให้การนำเข้า เพิ่มขึ้น 4% ถ้าใช้ 7 แทนที่ 0.25 จะทำให้ภาษีที่เก็บจากไทยเหลือ 10-15% ขณะที่หลักกูคือจะขึ้นเท่าไรอยู่กับตนเอง
.
“นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลกภายใต้หลักเกณฑ์ 2 เรื่อง คือ หลักการ และหลักกู” นายอัทธ์ กล่าว
.
สำหรับประเทศไทย เท่าที่เห็นในขณะนี้คือ รัฐบาลแอ็กชันช้า ซึ่งเราเจอภาษีถึง 36% ดังนั้นจึงมองว่าทางรอดของไทยคือ 2 ทาง คือ 1. การตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีเหมือนจีน ที่สหรัฐขึ้นภาษีเพิ่ม จีนก็สวนด้วยการขึ้นภาษีเพิ่ม ซึ่งไทยจะกล้าสวนหรือไม่ โดยขณะนี้จีนโดนภาษี 104% ทำให้เห็นว่า 2 มหาอำนาจตอบโต้กัน ดังนั้นเศรษฐกิจโลกจะแย่ 2. การเจรจา (มอบคลาน) เหมือนกับเวียดนามที่ทำอยู่ ขณะนี้ที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยุโรป เริ่มเข้าสู่การเจรจาแล้วแต่ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่การเจรจา
.
จากสถานการณ์ดังกล่าวเมื่อไทยยังไม่เข้าสู่การเจรจาไทยจะได้ผลกระทบจากการส่งสินค้าไทยไปสหรัฐ ก็จะลำบากยากจากภาษีที่ขึ้นถึง 36% และไทยจะเจอกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวซึ่งไม่แน่ใจว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ recession หรือไม่ และไทยจะเจอกับผลกระทบจากห่วงโซ่การผลิต โดยสินค้าหลายตัวของไทยโยงกับสินค้าจีน เมื่อจีนส่งสินค้าไปขายสหรัฐไม่ได้ กระทบต่อการส่งออก ส่งผลให้สินค้าจีนทะลักเข้าไทย
.
นายอัทธ์ กล่าวว่า ไทยพึ่งพาตลาดจีนมาก ซึ่งภายใต้สถานการณ์แบบนี้สหรัฐไม่ชอบจีน ซึ่งไทยมีสถานการณ์การสวมสินค้าไทยไปสหรัฐ ขณะที่จีนจะมีการเคลื่อนย้ายการลงทุนไปในประเทศอาเซียน โดยไทยเป็นเป้าหมายแรก แม้มาเลเซีย อินโดนีเซีย จะมีสินค้าเข้าไป แต่รัฐบาลเหล่านี้มีการบริหารจัดการที่ดี มีอำนาจต่อรองกับจีน แต่ไทยมีอะไรต่อรองจากจีนจากสินค้าจีนทะลักเข้าไทยมากจากโรงงานจีนที่อยู่ในไทย โดยเราดีใจกับตัวเลขการลงทุนจีนในไทย แต่การจ้างงาน วิศวกรไทย วัตถุดิบเท่าไร ซึ่งตนไม่มีตัวเลขแต่ขอสรุปว่า ไทยมีจุดเสี่ยงมากภายใต้นโยบายทรัมป์
.
นายอัทธ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางลดผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ ในเรื่องของการตอบโต้ตัดออกได้เลย สิ่งที่ทำได้คือ การเจรจา ซึ่งมี 2 ทางคือ ไทยเจรจากับสหรัฐ และใช้กลุ่มอาเซียน โดยตรงมองว่า ไทยต้องเจรจากับสหรัฐโดยตรง ในส่วนแรกสินค้าอุตสาหกรรมที่เราโดนกระทบหนักก็ต้องเจรจาลดผลกระทบ โดยอาจนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในเรื่องวัตถุดิบ นวัตกรรม สารสกัด ขณะที่สินค้าเกษตรควรเปิดนำเข้าบางชนิด เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าวสาลี เนื้อสัตว์ โดยจะช่วยลดการขาดดุลการค้าสหรัฐได้ นอกจากนี้ในส่วนของการลงทุนไทยควรสนับสนุนให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในสหรัฐในกลุ่มเกษตรอาหาร แปรรูป สุขภาพ โรงแรม ภัตตาคาร ขณะที่ยังมีสินค้าอีกกว่า 1,000 รายการที่ได้ไม่ถูกเก็บภาษีจากสหรัฐ ดังนั้นเราควรพิจารณาและเร่งส่งออก
.
ส่วนผลกระทบของทรัมป์จะทำให้สหรัฐสู่ recession หรือไม่นั้น มองว่า ยังเร็วไปที่จะประเมิน อย่างไรก็ตามผลของการขึ้นภาษีจีน 10 - 54% จะทำให้สหรัฐ มีรายได้ ประมาณ 2 ล้านล้านสหรัฐภายใต้ฉากทัศน์นี้ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจา ในส่วนของการส่งออกตัวเลขประเมินไว้จะทำให้การส่งออกไทยไปสหรัฐรวมถึงตลาดอื่นๆ ทั่วโลกลดลงประมาณ 7 แสนล้านบาท ถึง 1 ล้านล้านบาทในปีนี้
JJNY : 5in1 สิทธิมนุษยชนไม่เปลี่ยน│ทวงถามความจริงใจรัฐ│“อัทธ์”อัดรบ.ช้า│หุ้นไทยฮวบแล้ว 4.77 แสนล.│“สเปน-เวียดนาม”จับมือ
.
.