Pinocchio ซีรีส์ -- เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยชวนให้ติดตาม -- ชื่อตอน ตอนที่ 17

กระทู้สนทนา
ชื่อตอนมาจากวรรณคดีคลาสสิค

ตอนที่ 17 ตราบาปสีเลือด – The Scarlet Letter (นวนิยาย)
ผลงานนักเขียนชาวอเมริกัน Nathaniel Hawthorne

เมืองบอสตัน รัฐเมสสาชูเชสต์ ยุคเร่ิมก่อตั้งรกรากย้ายถิ่นฐานของชาวยุโรปสู่อเมริกา ฝูงชนรวมตัวกันเป็นสักขีพยานการลงโทษประจานหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ เฮสเทอร์ เพรนเน่ ต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งถูกตัดสินมีความผิดจริงฐานประพฤติผิดกามคุณ (Adultery) เพราะแอบคบหากับชายคนหนึ่งอย่างลับๆจนคลอดทารกน้อย ทั้งที่เธอได้แต่งงานแล้ว โดยถูกพิพากษาให้ต้องติดเครื่องหมายอักษร A สีแดง (ย่อมาจาก Adultery) ไว้ทีหน้าอก เป็นตราบาปสีเลือดตลอดไป นอกจากนี้ จะต้องขึ้นไปยืนแสดงตัวบนเวทีตรงสี่แยกเป็นเวลาสามชั่วโมง ให้ได้รับความอับอาย และเป็นที่จดจำต่อชุมชนมิให้เอาเยี่ยงอย่าง เมื่อเธอปรากฏกายบนเวที หลายคนในฝูงชนรู้สึกหวั่นไหวกับความงามและความกล้าหาญของเธอ ที่ยอมรับการลงโทษอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่สะทกสะท้าน พร้อมยืนยันอย่างแข็งขันไม่ยอมปริปากถึงชายผู้เป็นบิดาของทารกเกิดใหม่

ขณะอยู่บนเวที เอสเทอร์มองลงมา สังเกตเห็นชายร่างเล็กคนหนึ่ง จำได้ว่าเป็นสามีที่จากหายไป เธอเข้าใจว่าเขาได้เสียชีวิตแล้วจากการเดินทางในมหาสมุทร เมื่อทราบว่า ภรรยาตนต้องโทษประพฤติผิดกามคุณ เขาสาบานจะสืบหาชายชู้ของเธอให้พบ และให้ต้องได้รับโทษอย่างสาสมกับความทุกข์และความละอายที่ภรรยาผู้เป็นที่รักของตนต้องแบกรับ เขาเปลี่ยนชื่อตนเสียใหม่เป็น โรเจอร์ ชิลลิ่งเวิร์ท พร้อมดำเนินการสืบหาตามที่ตั้งใจ

ท่านสาธุคุณ จอห์น วิลสัน และหัวหน้าโบสถ์ประจำเมือง ท่านอาเธอร์ ดิมม์สเดล ทำการสอบสวนเฮสเทอร์ แต่เธอปฏิเสธเปิดเผยชื่อชายลึกลับผู้นั้น เมื่อกลับมาห้องขัง ผู้คุมได้ให้เธอพบกับโรเจอร์ ชิลลิ่งเวิร์ท ซึ่งบัดนี้ เป็นคุณหมอที่มาคอยช่วยตรวจอาการและดูแลเฮสเลอร์กับทารกน้อย ชิลลิ่งเวิร์ทคาดคั้นให้เธอบอกกับตน เมื่อเฮสเทอร์ยังคงปฏิเสธ เขาขอให้เธอสาบานจะปกปิดสถานะที่แท้จริงของเขาไว้เป็นความลับ เพื่อจะได้สืบหาด้วยตนเอง มิเช่นนั้นเขาจะทำร้ายเธอและลูกน้อยเสีย

หลังถูกปล่อยตัวจากห้องขัง เฮสเทอร์ใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่ายโดดเดี่ยวกับ เพิร์ล บุตรสาวตัวน้อย  ในกระท่อมหลังหนึ่งไกลออกไปจากเมือง ยังชีพด้วยงานเย็บปักถักร้อย เธอต้องทุกข์ใจกับพฤติกรรมแปลกประหลาดของลูกสาว ครั้งเป็นทารกน้อย เพิร์ล ชื่นชอบอย่างมากกับอักษรตัว A สัญลักษณ์บาปที่หน้าอกของแม่ เมื่อโตขึ้น เพิร์ลกลายเป็นเด็กหัวรั้นและเอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย พฤติกรรมของเธอเป็นที่กล่าวขาน ส่งผลให้สมาชิกของโบสถ์ประจำเมืองต้องการนำเด็กน้อยไปจากการดูแลของเฮสเทอร์

เมื่อทราบเช่นนั้น เฮสเทอร์มาเจรจาขอร้องต่อผู้ว่าการเบลลิ่งแฮม ซึ่งมีท่านสาธุคุณวิลสันและดิมม์สเดล ร่วมอยู่ด้วย พอถูกซักถามถึงการปฏิบัติตนในหลักศาสนาอย่างเคร่งครัดดีงามหรือไม่ เฮสเทอร์นิ่งเฉยไม่ยอมตอบใดๆแม้จะรู้ถึงผลเสียที่ตามมา อันทำให้สภาพความเป็นผู้ปกครองบุตรสาวต้องสั่นคลอน เฮสเทอร์จึงแอบมาพบบาทหลวงหัวหน้าโบสถ์ ดิมม์สเดล ซึ่งต่อมาได้ชักจูงผู้ว่าการ ขอให้เพิร์ลอยู่ในความดูแลของเฮสเทอร์ต่อไป

เนื่องจากสุขภาพของบาทหลวงดิมม์สเดลทรุดโทรมลง ชาวเมืองต่างยินดีที่มี ชิลลิ่งเวิร์ท  เป็นคุณหมอคนใหม่อยู่ในเมือง คอยให้การรักษาหัวหน้าโบสถ์ผู้เป็นที่รักของทุกๆคน เมื่อมีโอกาสได้ใกล้ชิดสนิทสนมและตรวจอาการของดิมม์สเดล ชิลลิ่งเวิร์ทเริ่มส่งสัยว่า การป่วยนี้น่าจะเป็นผลจากการสำนึกผิดต่อบาปโทษบางอย่างที่เคยก่อไว้ แต่ยังมิได้สารภาพ เขาประยุกต์หลักการทางจิตวิทยานำมาใช้วิเคราะห์โรคกับบาทหลวงผู้นี้ด้วยระแคะระคายว่า ดิมม์สเดลอาจเป็นพ่อของเพิร์ล เพราะในคำ่วันหนึ่ง เมื่อเขาดึงผ้าห่มของดิมม์สเดลออก วางไว้ข้างเตียงนอนขณะทำการรักษา ชิลลิ่งเวิร์ทสังเกตเห็นรอยประทับจากการกดทับบนหน้าอกของบาทหลวงที่กำลังหลับอยู่ เป็นรอยอักษรตัว A

เมื่อมิอาจทนทุกข์ทรมานจากจิตสำนึกต่อความผิดของตน บาทหลวงดิมม์สเดลแอบไปที่สี่แยกซึ่งเฮสเทอร์เคยต้องโทษประจานเมื่อหลายปีก่อน ปีนขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีเดียวกัน เขาแลเห็นเฮสเทอร์กับเพิร์ล จึงเรียกให้เขาไปหา พร้อมสารภาพสำนึกบาปโทษในใจต่อคนทั้งสอง แต่ก็ไม่กล้าหาญพอที่จะสารภาพเช่นนี้ต่อสาธารณชน ทันใดนั้น ดิมม์สเดลมองบนท้องฟ้า เห็นเป็นดาวตกขนานใหญ่เป็นรูปร่างอักษรตัว A ขณะเดียวกัน เพิร์ลชี้ไปที่ร่างเงาของโรเจอร์ ชิลลิ่งเวิร์ทในระยะไกล เฮสเทอร์รู้สึกตกใจอย่างยิ่งกับอาการทรุดโทรมของดิมม์สเดล ชายคนรัก จึงดำริที่จะเปิดเผยคำสัญญาที่ให้ไว้กับสามี เธอได้ปรึกษากับชิลลิ่งเวิร์ทในเรื่องนี้ พร้อมทั้งกล่าวเตือนเขามิให้หมกหมุ่นกับความอาฆาตพยาบาท ความคิดแก้แค้นควรจะต้องยุติเสียเพื่อรักษาจิตวิญญาณของตนไว้

เฮสเทอร์มาพบกับดิมม์สเดลในป่า คราวนี้ เธอมิได้ติดอักษรตราบาปบนหน้าอก บอกเรื่องราวของชิลลิ่งเวิร์ทผู้เป็นสามีและความปราถนาของเขาที่จะแก้แค้นต่อชายผู้เป็นพ่อของเพิร์ล เธอขอร้องดิมม์สเดลให้แอบหนีไปจากบอสตัน ลงเรือไปยุโรป และจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน เมื่อได้วางแผนการณ์เช่นนี้ ท่านบาทหลวงหัวหน้าโบสถ์ก็ค่อยมีพละกำลังเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น กระตือรือร้นด้วยความหวัง แต่เพิร์ลกลับไม่ยอมรับรู้และเห็นชอบด้วย

ในวันเลือกตั้งวันหนึ่ง บาดหลวงดิมม์สเดลขึ้นเทศนาอันเป็นบทเทศนาที่ดีที่สุดบทหนึ่ง ขณะเดินแถวออกจากโบสถ์ถึงกลางสี่แยก ดิมม์สเดลล้มลง เมื่อมองออกไป เห็นเฮลเทอร์และเพิร์ลแลดูอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาจึงปีนขึ้นไปบนเวที กล่าวสารภาพบาปโทษของตน และสิ้นใจในอ้อมแขนของเฮสเทอร์ หลังจากเหตุการณ์นั้น มีผู้ยืนยันว่าได้เห็นรอยปั๊มประทับด้วยโลหะร้อนเป็นอักษรตัว A บนหน้าอกของเขา จากนั้นไม่นาน ชิลลิ่งเวิร์ทก็เสียชีวิตหลังพลาดโอกาสแก้แค้น เขาได้มอบทรัพย์สินทั้งหมดที่มีให้กับเพิร์ล มากพอที่เธอและมารดาจะสามารถเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยุโรปได้

หลายปีต่อมา เฮสเทอร์กลับมาบอสตัน เธอนำอักษรตราบาปสีเลือดมาติดที่หน้าอกอีกครั้ง เหมือนเมื่อในอดีต เธอเป็นบุคคลที่หญิงสาวทั่วไปพากันมาแสดงความเห็นอกเห็นใจ เมื่อเสียชีวิตลง เธอถูกฝังไว้เคียงข้างบาทหลวงดิมม์สเดล มีจารึกบนป้ายหินที่หลุมฝังศพว่า “บนผืนแผ่นดินอันธการ อักษร A ถูกตรึงติด...ตราไว้ (On a field, sable, the letter A gules.)” .......

….จะมีใครยอมติดอักษรตราบาป “นกสองหัว” (เป็น a whistle-blower) หรือไม่ ก็ไม่ต่างจากพ่อของเธอ อินฮายอม เพราะธรรมชาติแห่งจิตสำนึกของเธอและความรักต่อดัลโพ แต่แม่ของเธอมิอาจทำได้ จิตสำนึกของเธออ่อนแอ ความทะเยอทะยานของเธอยิ่งใหญ่ เธอเห็นว่าไม่เสียหายอะไร หากต้องกล่าว 1 เรื่องเท็จ แลกกับการได้กล่าว 99 เรื่องจริง  แต่กลายเป็นว่า 1 เรื่องเท็จนั้นนั่นเองที่ทำให้อีก 99 เรื่องจริงเป็นเรื่องเหลวไหล เหมือนที่ดัลโพชี้ประเด็นไว้ตอนท้ายว่า ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่ แช โอ๊ะ พูด แม้เธอจะพูดเรื่องจริง เพราะทั้งหมดเป็นเพียงข้อมูลเพื่อสร้างผลกระทบ (Facts & Impact) ถึงตอนนี้ แช โอ๊ะได้รับโอกาสติดอักษรนั้นอีกครั้ง เธอจะยืนหยัดได้อีกหรือไม่ เมื่อได้ประจักษ์ถึงความกล้าหาญและมุ่งมันในตัวลูกสาวและดัลโพ จะรู้สึกได้ไหมถึงความละอายของตนต่อความขลาดกลัวในหลายปีที่ผ่านมา.....

ขอบคุณ: cliffsnotes.com
ขอบคุณ: joonni.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่