เนื่องจากเดือนนี้ตามปฏิทินอิสลาม คือเดือนรอบีอุลเอาวัล ปีฮิจเราะฮ์ศักราช (ฮ.ศ.) 1436
ซึ่งถือเป็นเดือนเกิดของท่านนบีมูฮัมมัด ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ขอความโปรดปรานของอัลลอฮ์ และสันติสุขจงมีแด่ท่าน
ก็ขออนุญาตตั้งกระทู้ เพื่อทบทวนลำดับเหตุการณ์อย่างย่อ ที่เกี่ยวกับท่านนบีฯ ครับ
หากผิดพลาดอย่างไร ท่านผู้รู้กรุณาช่วยชี้แจงและแก้ไขด้วย ขอบคุณครับ

นบีมูฮัมมัด (ซล.)
ชื่อ: มูฮัมมัด บุตรอับดุลลอฮฺ บุตรอับดุลมุฏฏอลิบ บุตรฮาซิม
เชื้อสาย: อาหรับกุเรช
เกิด: เมืองมักกะฮ์ ซาอุดีอาระเบีย วันจันทร์ ที่ 12 เดือนรอบีอุลเอาวัล ปีช้าง (ราว คศ. 570)
เสียชีวิต: เมืองมะดีนะฮ์ ซาอุดีอาระเบีย ราว คศ. 632 หรือ ฮศ.11 (อายุราว 62-63 ปี)
บิดา: อับดุลลอฮ์ บุตรอับดุลมุฏฏอลิบ
มารดา: อามีนะฮ์ บุตรสาววาฮับ
ผู้ดูแลต่อจากบิดามารดา: อาบูฎอลิบ
....................

ก่อนกำเนิด
เกี่ยวกับท่านนบี
- ปู่ของท่านนบีฯ  (อับดุลมุฏฏอลิบ) ได้บนบานหลักจากมีลูก 10 คน โดยการเชือดลูกคนใดคนหนึ่ง ผลการเสี่ยงทายตกเป็นของอับดุลลอฮ์ (บิดาของท่านนบีฯ) แต่หลายคนทักท้วง จึงไปเสี่ยงทายใหม่ระหว่างลูกชาย กับอูฐร้อยตัว ผลตกเป็นอูฐร้อยตัว จึงได้เชือดอูฐบนบานแทน
- เมือบิดาของท่านนบี โตขึ้น ปู่ของท่านจึงได้ทำพิธีแต่งงานบิดาของท่านกับมารดาของท่านนบี (อามีนะฮ์)

อื่นๆ
- ชาวอาหรับมักกะฮ์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มตั้งภาคี เคารพพระเจ้าหลายองค์รวมถึงอัลลอฮ์ มีรูปปั้นตั้งเวียนรอบกะบะฮ์ มีการทำฮัจญ์แต่ก็ไม่ใช่รูปแบบปัจจุบัน
ให้ความสำคัญกับลูกชาย บางส่วนถึงกับจับทารกเพศหญิงฝังทั้งเป็นเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ลูกสาว สุรา ดนตรี นารีถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา
- ตระกูลของท่านมีหน้าที่ดูแลน้ำและอาหารให้แก่แขกต่างบ้านต่างเมืองที่มาเวียนรอบกะบะฮ์ ซึ่งปู่ของท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ดูแลที่ดีที่สุดเท่าทีเคยมี

...............................
ปีที่ถือกำเนิด (ปีช้าง)
เกี่ยวกับท่านนบี
- บิดาของท่านออกไปค้าขายที่เมืองซาม (ซีเรีย) แต่เสียชีวิตระหว่างทาง
- มารดาของท่านได้ให้กำเนิดท่านนบี โดยขณะให้กำเนิดมารดาท่านได้เห็นแสงสว่างพุ่งออกมาจากตัวนาง
ซึ่งส่องไกลจนทำให้ปราสาทเมืองซีเรียสว่าง
- ครบเจ็บวัน ปู่ของท่านได้เชือดสัตว์และเรียกชาวกุเรชให้มากินเลี้ยงและเยี่ยมหลาน เมื่อถูกถามชื่อ
ปูของท่านบอกว่าได้ตั้งชื่อว่า มูฮัมมัด (ผู้ได้รับการสรรเสริญ) เพื่อหวังจะให้พระเจ้าสรรเสริญเขาในชั้นฟ้า
และสิ่งถูกสร้างต่างๆ บนดินก็ได้สรรเสริญเขาเช่นกัน
- เมื่อครั้งที่ท่านนบีฯ เกิดนั้น อบูละฮับ (ผู้เป็นลุงของท่าน) ได้ยินดีถึงกับปล่อยทาสหญิงผู้หนึ่งชื่อ ซุวัยบะฮ์ ให้เป็นอิสระ
แต่มาซุวัยบะฮ์ก็ได้รับหน้าที่เลี้ยงและให้นมท่านนบีเป็นการชั่วคราว
- ต่อมาตามธรรมเนียมอาหรับสมัยนั้นเด็กจะต้องมีแม่นม แต่ไม่มีใครจะรับท่านนบี เนื่องจากเป็นเด็กกำพร้าพ่อ
ฮาลีเมาะฮ์ ซึ่งอยู่ชานเมือง ได้เข้าเมืองแล้วไม่มีทารกคนไหนเหลือให้รับไปเลี้ยง ยกเว้นท่านนบี นางจึงได้รับท่านนบีไป
แต่นั่นกลับส่งผลให้ความเป็นอยู่ของนางและสามีดีขึ้น เช่นสัตว์ที่เลี้ยงก็ให้น้ำนมเต็มทุกครั้งซึ่งไม่เคยพบก่อนจะรับท่านนบีมาเลี้ยง

อื่นๆ
- อับรอฮะฮ์ ทาสเอธิโอเปียผู้ได้ปกครองเยเมน ได้ยกทัพช้างมายังมักกะฮ์หวังจะมาทำลายกะบะฮ์
(เนื่องจากศาสนสถานที่ตัวเองทำขึ้นหวังเป็นคู่แข่งมักกะฮ์ แต่กลับแทบไม่มีใครมาเวียน)
แต่สุดท้ายถูกกองทัพนกจำนวนมหาศาล ปล่อยก้อนหินไฟใส่ทัพช้าง จนต้องถอยทัพกลับไปเยเมนและเสียชีวิตที่นั่น
เหตุการณ์ดังกล่าวถูกกล่าวถึงสั้นๆ ในอัลกุรอาน บทที่ 105 (อัลฟีล-ช้าง)
- เกิดเหตุแผ่นดินไหวในเปอร์เซีย (แถวอิรัก-อิหร่าน) จนทำให้พระราชวังจักรพรรดิเปอร์เซียสั่นสะเทือนจนพังทลาย
และไฟศักดิ์สิทธิ์ในวิหารของโซโรแอสเตอร์ที่ลุกไหม้มาเป็นพันปีได้ดับลง

----------------------------------------
ท่านนบีฯ อายุราว 2 ขวบ
เกี่ยวกับท่าน
- ฮะลีมะฮ์ แม่นมได้ส่งท่านนบีฯ กลับไปให้อามีนะฮ์ มารดาของท่าน แต่ด้วยความรักในท่านนบีฯ และกลัวเรื่องโรคในมักกะฮ์
จึงได้ขอท่านนบีฯไปเลี้ยงดูต่อ ต่อก็พามาเยี่ยมปู่ทุกปี
- ครั้งหนึ่งเมื่อท่านนบีฯ ออกไปนอกบ้านกับพี่น้อง (ลูกของแม่นม) ต่อมาลูกของนางก็รีบกลับเข้าบ้านมาบอกว่า
ท่านนบีถูกชายชุดขาวสองคนจับท่านนอนแล้วผ่าท้องท่าน จึงรีบออกไปตามหาท่านนบี แล้วท่านบีก็ได้เล่าเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้วยความกลัวอันตราย จึงได้ส่งท่านนบีกลับไปยังอามีนะฮ์มารดาของท่าน

--------------------------------------
ท่านนบีอายุราว 6 ขวบ
เกี่ยวกับท่าน
- อามีนะฮ์มารดาของท่านนบีฯ พาท่านนบีฯ ไปเยี่ยมญาติที่มะดีนะฮ์ และเสียชีวิตระหว่างทางกลับ
- อับดุลมุฏฏอลิบ ปู่ของท่าน ทำหน้าที่ดูแลท่านนบีต่อ ท่านมีความรักหลานคนนี้มากจนยอมให้หลานคนนี้ของท่านนั่งบนที่นั่งใต้เงากะบะฮ์
ที่นั่งดังกล่าวแม้แต่ลูกของท่านก็ยังนั่งไม่ได้ครับ และเมื่อปู่จะกินข้าว ก็ต้องเรียกท่านนบีให้มากินข้าวด้วยเสมอ

------------------------------------
ท่านนบีอายุราว 8 ขวบ
เกี่ยวกับท่าน
- อับดุลมุฏฏอลิบ ปู่ของท่านได้เสียชีวิต ภาระการเลี้ยงดูจึงตกเป็นของ อบูฏอลิบ ลุงท่านหนึ่งของท่านนบี
- อบูฏอลิบ ลุงคนนี้เป็นคนที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่ความรักที่มีต่อท่านนบีฯ ก็มีอย่างมากมาย
ใส่ใจเป็นพิเศษกับอาหารที่ท่านนบีรับประทาน ถ้าในวงข้าวไม่มีท่านนบีฯ อยู่ด้วย แม้จะมีลูกอยู่ ก็ไม่ทำให้ลุงคนนี้พอใจครับ
และยังพาท่านนบีฯ ไปไหนมาไหนตลอดไม่ให้คลาดสายตา
- ครั้งหนึ่งได้พาท่านนบีฯ พร้อมกับคาราวสินค้า ไปที่ซาม ระหว่างทางได้พบกับ บาฮีเราะฮ์ พระในศาสนาคริสต์
บาฮีเราะฮ์เห็นผิดสังเกตว่า มีก้อนเมฆลอยตามนบีเป็นเงาให้ผู้เดียว และเมื่อท่านพักใต้ต้นไม้เมฆก้อนดังกล่าวก็ลอยมีที่ต้นไม้
บาฮีเราะฮ์จึงขอเลี้ยงข้าวคาราวานดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่ของท่านนบีฯ จนกระทั่งเรื่องบิดา
ตอนแรกอบูฏอลิบ บอกพระว่าท่านนบีคือลูก แต่พระปฏิเสธบอกไม่ใช่ลูก อบูฏอลิบจึงสารภาพความจริง
พระดังกล่าวจึงแนะนำให้พาท่านนบีกลับมักกะฮ์เพราะถ้ายิวรู้ พวกยิวอาจจะทำอันตราย เนื่องจากท่านนบีฯ มีอนาคตที่ยิ่งใหญ่
เนื่องจากท่านเป็นนบีที่ถูกทำนายไว้ มีสัญลักษณ์อยู่ระหว่างหัวไหล่ครับ

------------------------------------
ท่านนบีอายุราว 20 ปี
เกี่ยวกับท่าน
- เกิดสงครามกลางเมืองมักกะฮ์ ชื่อสงครามฟิญัร ซึ่งเกิดในเดือนศักดิ์สิทธิ์ (เดือนที่ห้ามสู้รบ)
แตกแยกออกเป็นสองฟากระหว่าง กินานะฮ์+กุเรช และก็อยซ์อัยลาน
ลุงของท่านนบีได้พาท่านไปร่วมศึก และท่านทำหน้าที่เอาลูกศรให้ลุงของท่าน
สุดท้ายทางเผ่ากินานะฮ์ได้รับชัยชนะและมีการทำทำสัญญาสงบศึก
- จากนั้นในมักกะฮ์มีการทำสนธิสัญญาอัลฟุดุล ซึ่งเป็นสัญญาที่จะดูแลเพื่อนบ้านและคุ้มครองคนแปลกถิ่นที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองให้ปลอดภัย ซึ่งท่านนบีก็ได้ร่วมสัญญาดังกล่าวครับ

------------------------------------------------------------
ท่านนบีอายุราว 25 ปี
เกี่ยวกับท่าน
- ท่านหญิงคอดีเญาะฮ์ บุตรสาวของคุวัยลิด  
สตรีหม้าย ผู้เป็นแม่ค้าและร่ำรวยที่สุดในบรรดาสตรีมักกะฮ์
ได้ยินกิตติศัพท์ถึงความเป็นผู้เชื่อถือไว้วางใจได้ และคุณลักษณะที่ดีของท่านนบีฯ
จึงได้เสนอให้ท่านนบีฯ ทำการค้าให้นาง โดยนำสินค้าของนางไปขายที่ซีเรีย
และจะให้ค่าตอบแทนที่ดีกว่าทุกๆ คนที่นางเคยให้
- ต่อมาด้วยความมีชื่อเสียงของท่าน และความซื่อสัตย์เชื่อถือได้ตลอดจนคุณลักษณะที่ดีของท่าน
ท่านหญิงจึงเสนอแต่งงานกับท่านนบี
ท่านนบีได้บอกข้อเสนอของนางให้ฮัมซะฮ์ลุงท่านหนึ่งของท่านนบีฯ ลุงฮัมซะฮ์จึงได้พาท่านนบีไปหมั้นหมาย
กับบิดาของท่านหญิงคอดีเญาะฮ์ แล้วงานแต่งงานก็มีขึ้น สินสอดเป็นอูฐสาวยี่สิบตัว
- ว่ากันว่าท่านหญิงคอดีเญาะฮ์แต่งกับท่านนบีเมื่ออายุราว 40 ปี บางแหล่งกล่าวว่า 35 ปี
นอกจากนี้นางยังเป็นภรรยาคนแรกของท่านนบี และท่านนบีไม่ได้แต่งงานกับหญิงอื่นเลยขณะที่นางยังมีชีวิตอยู่
และท่านนบีฯ ยังรักและนึกถึงนางเสมอแม้ว่านางจะจากไปก่อนท่านก็ตาม
- ท่านนบีมีลูกกับท่านหญิง 6 คน ชาย 2 (กอซิม, อับดุลลอฮ์) และหญิง 4 (รุก็อยยะฮ์, ซัยนับ, อุมมฺกัลซม, ฟาฏิมะฮ์)
เรียกได้ว่านอกจากท่านหญิงคอดีเยาะฮ์แล้วท่านนบีไม่ได้มีลูกกับภรรยาท่านอื่นอีก
ยกเว้น มาเรีย ทาสหญิงซึ่งให้กำเนิดลูกชายแก่ท่าน 1 คน (อิบรอฮีม)
ลูกเกือบทุกคนเสียชีวิตก่อนท่านนบีฯ เว้นแต่ ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ลูกสาวคนหนึ่งของท่าน ซึ่งเสียชีวิตหลังจากท่านเป็นเวลาไม่นานครับ

------------------------------------------
ท่านนบีอายุราว 35 ปี
เกี่ยวกับท่าน
- ชาวกุเรชมีความเห็นที่จะบุรณะกะบะฮ์ใหม่เนื่องจากกลัวปัญหาน้ำท่วมเข้าไปในกะบะฮ์อีกทั้งเคยมีคนเข้าไปขโมยของในกะบะฮ์
โดยจะทำประตูให้สูงขึ้นกว่าเดิม แต่พอรื้อไปก็เจองูตัวใหญ่ การรื้อก็ชะงัก ต่อมางูตัวใหญ่ก็ถูกนกฉกไป
การรื้อจึงดำเนินต่อ จนถึงตอนที่จะวางหินดำไป ต่างก็แย่งที่จะเป็นคนเอาหินไปวาง สุดท้ายตกลงว่าจะให้มีคนตัดสิน
คือคนแรกที่เข้ามาทางประตูมัสยิด (ฮะรอม) นี้จะเป็นผู้ตัดสิน
ท่านนบีฯ ปรากฎตัวที่ประตูคนแรก ทุกคนจึงดีใจเพราะท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้เชื่อถือได้ ท่านได้บอกให้นำเสื้อคลุม
แล้วท่านยกหินไปวาง จากนั้นให้ผู้นำแต่ละเผ่าจับชายเสื้อคลุมแล้วยกไปที่ตำแหน่งที่จะวางหิน จากนั้นท่านก็เป็นคนนำหินไปวางไว้