เจ้าชายมิชอัล บินอับดุลลอฮ์ บินอับดุลอะซีซ อัลซาอู๊ต เจ้าผู้ครองมหานครมักกะฮ์ เป็นตัวแทนในนามของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ บินอับดุลอะซีซ อัลซาอู๊ต ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองสองมัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์(คอดิมุล ฮารอมมัยต์ อัชชารีฟัยต์) ได้เดินทางมายังมัสยิดฮารอม เพื่อทำความสะอาดล้างอาคารบัยตุลลอฮ์ หรือกะบะฮ์ โดยมีอิหม่ามอับดุลเราะฮ์มาน อัซซุดัยต์ อิหม่ามมัสยิดฮารอมและประธานทั่วไปของสองมัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ บรรดาอูลามาฮ์(ปราชญ์ศาสนา) บุคคลสำคัญ รวมทั้งทูตานุทูตมุสลิมเข้าร่วม โดยกพิธีล้างอาคารบัยตุลลอฮ์จะใช้น้ำซัมซัมผสมกับน้ำหอมดอกกุหลาบจากเมืองฎออีฟ ในการทำความสะอาด
พิธีทำความสะอาดล้างบัยตุลลอฮ์ เป็นซุนนะฮ์(แบบอย่าง)ของท่านศาสดามุฮัมมัด เกิดขึ้นหลังท่านนบีได้พิชิตนครมักกะฮ์แล้ว จะมีขึ้น 2 ครั้งในรอบปี คือกลางเดือนมุฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือนแรกตามปฎิทินอิสลาม และในเดือนชะฮ์บาน เดือนที่8 ก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน
สำหรับกุญแจไขประตูวิหารกะบะฮ์ มีตระกูลเดียวเท่านั้นที่ได้รับกรรมสิทธิ์ให้ดูแลกุญแจ คือตระกูลชัยบะฮ์ ซึ่งตระกูลเก่าแก่นับพันปี ที่ได้รับสิทธิความไว้วางใจในการถือกุญแจประตูกะบะฮ์มาตั้งแต่ในสมัยนบีมุฮัมมัด
ในสมัยท่านศาสดามุฮัมมัดนั้น กุญแจวิหารกะบะฮ์ถูกถือโดยบรรดาเผ่าต่างๆในมักกะฮ์ หลังจากที่ท่านได้พิชิตมักกะฮ์ ท่านศาสดาได้มอบกุญแจให้กับท่านอุษมาน อิบนิ ฏอลหะฮ์ ดังที่ปรากฎในสายรายงาน(ฮาดิษ)ว่า
خُذُوهَا يَا بَنِي أَبِي طَلْحَةَ خَالِدَةٌ تَالِدَةٌ لَا يَأْخُذُهَا مِنْكُمْ إِلَّا ظَالِمٌ
ความว่า: รับไปสิ โอ้ บนี อบีฏอลหะฮ์(วงศ์วานของพ่อฎอลหะฮ์) นิรันดร์จนวันแห่งการฝื้นคืนชีพ และจะไม่มีใครนำไปจากเจ้า นอกจากผู้ปกครองที่กดขี่
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคอลีฟะฮ์(กาหลิบ) สุลฏอนหรือกษัตริย์ คนใดจะเข้าไปยังวิหารกะบะฮ์ จะต้องขอกุญแจจากคนตระกูลดังกล่าว จวบจนปัจจุบันผู้ที่ถือครองกุญแจ มีนามว่า เชค ซอแล๊ะ อัชชัยบีย์ ผู้ซึ่งเป็นลูกหลานของท่านอุษมาน อิบนิ ฏอลหะฮ์ ของวงศ์วานชัยบะฮ์
Via Haramain.info
เจ้าชายซาอุฯ ทรงทำความสะอาดวิหารกะบะฮ์ ฮิจเราะฮ์ที่1436 ศักราชใหม่ของอิสลาม
พิธีทำความสะอาดล้างบัยตุลลอฮ์ เป็นซุนนะฮ์(แบบอย่าง)ของท่านศาสดามุฮัมมัด เกิดขึ้นหลังท่านนบีได้พิชิตนครมักกะฮ์แล้ว จะมีขึ้น 2 ครั้งในรอบปี คือกลางเดือนมุฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือนแรกตามปฎิทินอิสลาม และในเดือนชะฮ์บาน เดือนที่8 ก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน
สำหรับกุญแจไขประตูวิหารกะบะฮ์ มีตระกูลเดียวเท่านั้นที่ได้รับกรรมสิทธิ์ให้ดูแลกุญแจ คือตระกูลชัยบะฮ์ ซึ่งตระกูลเก่าแก่นับพันปี ที่ได้รับสิทธิความไว้วางใจในการถือกุญแจประตูกะบะฮ์มาตั้งแต่ในสมัยนบีมุฮัมมัด
ในสมัยท่านศาสดามุฮัมมัดนั้น กุญแจวิหารกะบะฮ์ถูกถือโดยบรรดาเผ่าต่างๆในมักกะฮ์ หลังจากที่ท่านได้พิชิตมักกะฮ์ ท่านศาสดาได้มอบกุญแจให้กับท่านอุษมาน อิบนิ ฏอลหะฮ์ ดังที่ปรากฎในสายรายงาน(ฮาดิษ)ว่า
خُذُوهَا يَا بَنِي أَبِي طَلْحَةَ خَالِدَةٌ تَالِدَةٌ لَا يَأْخُذُهَا مِنْكُمْ إِلَّا ظَالِمٌ
ความว่า: รับไปสิ โอ้ บนี อบีฏอลหะฮ์(วงศ์วานของพ่อฎอลหะฮ์) นิรันดร์จนวันแห่งการฝื้นคืนชีพ และจะไม่มีใครนำไปจากเจ้า นอกจากผู้ปกครองที่กดขี่
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคอลีฟะฮ์(กาหลิบ) สุลฏอนหรือกษัตริย์ คนใดจะเข้าไปยังวิหารกะบะฮ์ จะต้องขอกุญแจจากคนตระกูลดังกล่าว จวบจนปัจจุบันผู้ที่ถือครองกุญแจ มีนามว่า เชค ซอแล๊ะ อัชชัยบีย์ ผู้ซึ่งเป็นลูกหลานของท่านอุษมาน อิบนิ ฏอลหะฮ์ ของวงศ์วานชัยบะฮ์
Via Haramain.info