Pop up you! .. เนื้อคู่ จู่ๆ ก็มา

กระทู้สนทนา
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนค่ะ  ชิวาว่า
ขอต้อนรับเช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใสด้วยตอนต่อของ ..Pop up you! เนื้อคู่ จู่ๆ ก็มา.. นะคะ
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>
http://ppantip.com/topic/33078356


♫   ♫  ♫  ♫
ตอน ๒ : ตกกระไดพลอยโจน

ภพรักที่ทำแผลให้ตัวเองอยู่ด้านในได้ยินแว่วๆ คล้ายใครพูดคุยกันเสียงดังจอแจยิ่งกว่านกกระจอกแตกรัง เดาอย่างเคยชินว่าคงไม่แคล้วเป็นเสียงของห้องข้างๆ ที่ชอบเปิดโทรทัศน์เสียงดังแต่เช้าอย่างไม่เกรงใจเพื่อนบ้าน ชายหนุ่มส่ายหัวเซ็งๆ เดินกลับออกมาพร้อมกล่องยาในมือ แต่แล้วในย่างก้าวที่กลับมาถึงในห้อง เขากลับต้องผงะ ทั้งคนเรียกและคนโดนเรียกแทบจะส่งเสียงพร้อมกัน

“เจ้าภพ”

“ย่า!”

สีหน้าย่ากึ่งดีใจกึ่งอยากแพ่นกบาลเขา ขณะที่เขานั้นอยากตีลังกาสักสามตลบกลับเข้าครัว ทว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ววางกระปุกยาลงที่เตียงแล้วยกมือไหว้ทุกๆ คน

“ไปไงมาไงกันครับ ทำไมถึงยกโขยงกันมาไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวแบบนี้ล่ะ”

“ยังมีหน้ามาถามอีกเจ้าภพ ไหนเอ็งรับปากว่าจะพาเมียกลับไปเยี่ยมบ้าน” ย่าทำเสียงเข้ม ส่วนพ่อก็ทำท่าฮึดฮัดประกอบคำถามของย่า ยังไม่ทันจะนึกคำแก้ตัวใดๆ แม่ก็เอ่ยแทรกขึ้นขัดตาทัพไว้ได้

“แล้วนั่นหัวไปโดนอะไรน่ะลูก” พร้อมๆ กับมือบอบบางที่เลื่อนขึ้นมาแตะแผลบนศีรษะเขา “โดนผู้ร้ายตีมาล่ะสิ แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิกเถอะเป็นตำรวจมันอันตราย”

ตำรวจ! รักเดียวหัวใจตกวูบ รีบรวบรวมสมาธิเพ่งไปที่ประตู กระเถิบเท้าอีกนิดเธอก็จะถึงประตูแล้ว ขณะที่นายตำรวจหนุ่มโบ้ยสายตามา

“ก็ยัยคนนี้สิครับ ตีหัวผม”

หัวขโมยสาวที่ยืนโด่อยู่สะดุ้งเฮือก .. ซวยแล้วไง!

นางปราณีส่ายหัว “ตาภพเอ๋ย โตจนหมาเลียดูตไม่ถึงแล้วยังทำตัวเป็นเด็กๆ อีกนะลูก” แล้วนางก็หันมาทางรักเดียว มือบางกวักไหวๆ ให้กับเธอ พลางส่งเสียงเรียกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “แม่หนูจ๊ะ เข้ามาหาแม่นี่มา”

รักเดียวกลืนน้ำลายเหนียวหนึบหนับลงคอขณะเดินขาสั่นๆ เข้าไปตามเสียงเรียก แขนบอบบางของนางผู้ที่มีแววตาเอื้ออารียื่นมาโอบไหล่เธอ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล

“มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากันสิลูก คนเป็นผัวเป็นเมียกัน” เท่านั้นแหละ รักเดียวสำลักน้ำลายไอแค่กๆ รอหายสำลักจะอ้าปากปฏิเสธและเล่าความจริง แต่ไม่ทันได้พูดอะไรชายหนุ่มร่างถึกเจ้าของห้องก็ทะยานเข้ามาดึงเธอออกจากวงโอบของคุณป้าใจดี แล้วเขาก็เอามือตะครุบปิดปากเธอพร้อมๆกับโน้มหน้ามากระซิบเสียงรอดไรฟันแบบข่มขู่

“เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นถ้าไม่อยากไปนอนในคุก” ว่าเสร็จก็หันไปแจกยิ้มใสซื่อและกล่าวกับทุกคนว่า “ไม่มีอะไรหรอกครับเราสองคนก็ชอบเล่นแรงๆ แบบนี้ทุกทีล่ะ” สถานการณ์จวนตัวแบบนี้ภพรักยังแอบยิ้มกับตัวเองอย่างภาคภูมิใจที่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้แนบเนียนสมกับเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนมือฉมัง ก่อนที่หัวแหลมๆ ของเขาจะคิดอะไรขึ้นมาได้อีกเรื่อง เขาลากแขนแม่สาวแปลกหน้าตัวเปี๊ยก ฝ่ายแม่สาวเองก็ดูจะงงๆ เดินตามเขามายังย่าและพ่อกับแม่ที่นั่งกันอยู่บนเตียง

ท่ามกลางวินาทีที่รักเดียวสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปจนหมดสิ้น ร่างสูงใหญ่ของนายตำรวจเจ้าของห้องย่อลงเข่าจรดพื้นตรงหน้าย่าและพ่อแม่ของเขา มือถึกๆ ยกขึ้นประนม

“ผมขอโทษย่า ขอโทษแม่ แล้วก็ขอโทษพ่อนะครับ” แล้วมือนั้นก็ก้มลงกราบแทบตักบุคคลทั้งสาม ทำแบบนั้นคนเดียวไม่พอใช้ปลายศอกกระทุ้งมาที่แขนเธอให้ทำตาม หญิงสาวกำลังสับสนเขาให้ทำอะไรก็ทำไปก่อน สมองบอกแบบนั้นสองมือเล็กเลยประสานขึ้นและก้มลงกราบแทบตักคนแปลกหน้าทั้งสามตามนายตำรวจไปเฉย  

“แม่หนูคนนี้หน้าตาน่ารัก ชื่อแซ่อะไรล่ะลูก” ย่าของเขาลูบผมเธอด้วยท่าทีอ่อนโยน

“ระ...รัก รักเดียวค่ะ” อ้อมแอ้มตอบอย่างไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง ย่าผงกศีรษะอย่างชื่นชมหันไปถามความเห็นจากพ่อกับแม่ สองคนนั้นยิ้มคล้อยตาม

“ดูสมกันดีกับตาภพ พวกเอ็งล่ะว่าไง”

ทุกคนยักคอให้กับความเห็นของย่าด้วยใบหน้าที่ชื่นบานอย่างพร้อมเพรียง

“ทำงานทำการอะไรล่ะลูก” แม่ถามขึ้นบ้าง

รักเดียวหันไปมองหน้านายควายถึกราวกับจะขอความช่วยเหลือ แต่เปล่าประโยชน์ ศอกใหญ่ๆ ของเขากระทุ้งลงมายังไหล่เธอเบาๆ ทำนองว่าหลับหูหลับตาตอบไปเหอะน่า หัวสมองเล็กๆ ตีบตื้อ คิดคำโกหกไม่ทัน ตอบตามความจริงมันไปเสียเลย

“นะ...นัก นักข่าวค่ะ”

“ดีๆ สมกันดี” ย่าบอก ดึงมือเขาไปทาบลงบนมือเธอ “คนหนึ่งเป็นตำรวจ คนหนึ่งเป็นนักข่าว เหมาะสมกันดียิ่งกว่ากิ่งทองกับใบหยกเสียอีก พ่อประนพกับแม่ปราณีว่าเหมือนข้าไหม”

ทุกคนพยักหน้าคล้อยตามไปกับความคิดความอ่านแบบผิดๆ ของคุณย่าหน้าแฉล้ม ในสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อที่ลุกลามต่อไปโดยไม่มีแนวโน้มว่าจะยุตินี้ รักเดียวเกือบจะหาจังหวะเหมาะๆ พุ่งตัวหนีออกไปทางประตูได้สำเร็จอยู่แล้วเชียว หากไม่เพราะว่าคุณลุงสูงวัยหันมาเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังขึงขังกับลูกชายของตน

“เจ้าภพ! เอาลูกสาวเขามาอยู่ด้วยแบบนี้พ่อแม่เขารู้เรื่องรู้ราวหรือยังล่ะ ทำให้มันถูกต้องตามครรลองหน่อย ข้าไม่อยากโดนถอนหงอกนะเว้ย” และหันมาทางรักเดียว “ว่าไงจ๊ะแม่หนู พ่อแม่ว่ายังไงบ้างที่มาอยู่กับลูกลุง เจ้าภพนี่มันใช้ไม่ได้ แต่หนูอย่าไปโกรธมันเลยนะวันๆ ใส่ใจแต่เรื่องงาน มีเมียทั้งทีไม่คิดจะให้เกียรติกันมั่ง”

รักเดียวเหมือนน้ำท่วมปาก กลืนก็ไม่เข้าคายก็ไม่ออก ท่องเสมอในใจว่ารอสบโอกาสก่อนเถอะจะพุ่งหลาวออกจากวงล้อมไปที่ประตูและรัวเท้าวิ่งไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว แต่ในระหว่างที่เธอกำลังสับสนอยู่กับการคิดวิธีเอาตัวรอด จู่ๆ นายตำรวจหนุ่มก็ปั้นคำพูดพิลึกพิลั่นขึ้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

“ผมก็กำลังจะทำให้ถูกต้องอยู่นี่ล่ะครับ รอหาจังหวะเหมาะๆ ก่อน เมียใครใครก็รัก ไม่มีทางทำให้เสื่อมเสียเกียรติหรอกน่า” เขาว่า

“แม่เข้าใจ” นางปราณีกล่าวขณะทอดแววตาห่วงใยมาทางลูกสะใภ้ “แต่เรื่องแบบนี้ปล่อยนานไม่ได้นะ เกิดท้องไส้ขึ้นมาฝ่ายหญิงเขาจะเสียหาย”

ลูกสะใภ้ฉบับชั่วคราวทำหน้าเหรอหรา

“แต่นี่นะ พ่อประนพ แม่ปราณี” คนเป็นย่าหันไปตบหลังมือบุคคลทั้งสองเบาๆ “รีบมีลูกซักทีก็ดีนะ ฉันอยากอุ้มเหลนก่อนตาย นี่ถ้าได้มีเหลนตัวน้อยๆ ให้เลี้ยงแก้เหงาฉันคงมีแรงใจให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหลายสิบปี” พลางฉีกยิ้ม เห็นฟันปลอมสีน้ำหมากแดงระยับเรียงราย รักดียวชักใจคอไม่ดี นึกอยากแกล้งเป็นลมขึ้นมาอีกรอบ แต่เหมือนรู้ทัน หมอนั่นหันมากระซิบ

“ห้ามเป็นลม” ก่อนที่จู่ๆ ก็กระหวัดแขนมาโอบไหล่เธอและบอกแก่ทุกคนว่า “รอให้ผมสะสางคดีนี้เสร็จ เราสองคนจะกลับไปจัดงานแต่งกันให้ถูกต้องตามประเพณีที่บ้าน รับรองย่าได้อุ้มเหลนสมใจแน่นอน ใช่ไหมครับ ที่รัก” แล้วโน้มหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราสกปรกลงมาที่แก้มเธอ หอมเสียงดังฟอดตามมาด้วยเสียงหัวเราะครึกครื้นของทุกคนที่ลอยฟุ้งไปทั่วทั้งห้องรักเดียวทนอยู่ในสถานการณ์บ้าๆ นี่ไม่ไหวอีกต่อไป เธอลุกพรวดขึ้นยืน

“คือความจริงหนูไม่ใช่...” แต่นายควายถึกลุกขึ้นตะครุบมือปิดปากเธอไว้ได้ยินแต่เสียงอุ๊บบบ! ที่หลุดรอดออกมา

“บอกว่าห้ามพูดไง หรือว่าอยากติดคุก!” เขากระซิบขึงขัง หันไปแค่นยิ้มโกหกกับทุกคน “ตะคริวกินขาน่ะครับ เมียผมเขาเป็นแบบนี้บ่อย เดี๋ยวตะคริว เดี๋ยวชักกระตุก ดีไม่ดีก็จะเป็นลมบ้าหมู”

นายบ้าเอ๊ย! นักข่าวสาวกัดฟันกรอด.. ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ถึงตาเธอเมื่อไหร่จะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก

“เอาล่ะ นี่มันยังเช้าอยู่เลย ปล่อยหนุ่มๆ สาวๆ ให้ได้พักผ่อนกันนะพ่อประนพ แม่ปราณี พวกเรากลับที่พักกันเถอะ” นางประนอมหันไปกล่าวแก่ทุกคน

ภพรักทำหน้านิ่ว “แต่ว่าจะพักยังไงล่ะครับ เล่นมาแบบปุบปับ ผมยังไม่ได้หาแม่บ้านไปทำความสะอาดให้เลย”

“โอ้ย ไม่ต้องห่วงเลยตาภพ ย่าให้เจ้าองอาจช่วยเป็นธุระให้แล้ว”

องอาจที่ย่าหมายถึงคงไม่แคล้วท่านรององอาจ ภพรักถอนหายใจอย่างเอ็ดหนาระอาใจ เข้าไปเกาะแขนย่า “ย่า บอกแล้วไงว่าอย่าไปรบกวนท่านรอง ย่าจะทำผมงานเข้าแล้วรู้ไหมครับ”

“งานข้ง งานเข้าอะไรข้าไม่รู้หรอก ข้ารู้แค่เจ้าองอาจตอนที่มันตีนเท่าฝาหอย ข้าเป็นคนแบ่งนมของพ่อเอ็งให้มันกิน เพราะแม่มันหนีไปมีผัวใหม่” พูดจบย่าก็เอามือเคาะกะโหลกเขาดังโป๊ก แล้วขนขบวนกันไปที่หน้าประตู แต่ไม่ทันจะเดินพ้นประตูออกไป ย่าก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้

“เอ้อ! ข้าก็เกือบลืม.. นั่นมะม่วงน้ำดอกไม้ที่สวน” ชี้มือไปที่ชะลอมผลไม้บนโต๊ะ “ต้นที่เอ็งปีนขึ้นไปเขย่ารังมดแดงใส่หัวนังหนูดอกรักตอนเด็กๆ ไงจำได้ไหมเจ้าภพ ตอนนี้ต้นมันใหญ่โตออกลูกดกแล้วดกอีก แม่หนูรักเดียวทานเยอะๆ นะจ๊ะ ลูกจะได้ดกเหมือนมะม่วงของย่า” ย่าพูดเพียงแค่นั้นใบหน้าเหรอหราของเธอก็ร้อนวูบวาบ นายตำรวจขี้เล่นที่ยังกอดกระชับร่างเธอเอาไว้แน่นพลันพูดขึ้นอีกว่า

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจัดให้เลยครึ่งโหล” แล้วก็ส่งเสียงหัวเราะอารมณ์ดี โดยเฉพาะคุณย่าหน้าแฉล้มที่หัวเราะร่วนน้ำหมากกระเซ็นเป็นสาย ทำเอาทุกคนพลอยส่งเสียงหัวเราะเฮฮาอารมณ์ดีขี้เล่นกันทั้งตระกูล จะมีก็เพียงรักเดียวที่กระฟัดกระเฟียดเงียบๆ ในใจอยู่ลำพัง

“เห็นรักใคร่กันดีแบบนี้ย่าก็เบาใจ” นางว่า ก่อนจะนำทีมทุกคนพากันออกไปจากห้อง

ได้เวลาเช็คบิลแล้วสินะ! รักเดียวยกมือขึ้นเท้าสะเอว

“นี่คุณตำรวจ เสียสติหรือไง อยู่ดีๆ ให้ฉันกุเรื่องหลอกคนอื่นแบบนั้น”

“คนอื่นที่ไหน นั่นมันย่า แล้วก็พ่อแม่ผม”

“คุณ! ฉันไม่ตลกนะ”

“ผมโดนคุณตีจนหัวแตกเนี่ย ถือว่าเราหายกัน”

รักเดียวถลึงตา อ้าปากจะเถียงอีก แต่ต้องหุบฉับ เพราะคนถือไพ่เหนือกว่าแทรกขึ้นทันที

“หรือคุณอยากให้ผมจับเข้าคุก ข้อหาเป็นหัวขโมยและทำร้ายร่างกาย” เขายักไหล่อย่างเป็นต่อ เธอจะเถียงอะไรเขาได้อีกล่ะ

“โอเค ถือว่าเราเจ๊ากัน งั้นฉันกลับ” พร้อมเดินจ้ำอ้าวไปเปิดประตู ตอนจะก้าวพ้นประตูห้อง ก็ได้ยินเขาพูดไล่หลังมาทำนองล้อเลียน

“คราวหน้าคราวหลังอย่างัดประตูเข้าห้องใครไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้อีกล่ะ ใช่ว่าจะมีผู้ชายที่ทั้งหล่อและเป็นสุภาพบุรุษแบบผมเยอะแยะถมเถหรอกนะ ร้อยตำรวจเอกภพรัก ขอเตือนด้วยความปรารถนาดี” ตวัดปลายมือทำท่าตะเบ๊ะแถมให้ด้วย

ชิ! รักเดียวสะบัดหน้าจนคอเคล็ดขณะเดินลิ่วๆ ออกมาจากห้องเขาและพุ่งตัวตรงไปที่ลิฟต์ อ้าว! นี่มันชั้นแปด...

ปัดโธ่เอ่ย เมื่อคืนตั้งใจจะกดลิฟต์ชั้นสิบแปดนี่นา

...จบตอนแล้วจ๊า...

ขอขอบคุณ ทุกๆ คนที่แวะเวียนมาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณกำลังใจจากคุณเขมปัณณ์ , คุณน้องเรือลัลล้า ที่กดถูกใจและส่งคอมเม้นท์จากตอนที่แล้วด้วยค่ะ
อย่าลืมติดตามตอนต่อๆ ไปกันด้วยน๊า ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่