คำสาปที่ตามติด กี่ภพชาติก็ยังตอกตรึง
การทัศนศึกษาครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยดี รินจงและปราณีพาเด็กเที่ยงอย่างสนุกสนาน จงถึงเวลากลับ
ตะวันคล้อยบ่าย รถที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้มารับเด็กๆ โดยครูปราณีเป็นผู้คุมเด็กขึ้นรถ ส่วนครูรินจง
เอารถส่วนตัวมาเพราะเมื่อเช้าเธอเข้าไปที่เขตในเมืองจึงต้องมาเอง ครูปราณีกับเด็กๆออกจากกู่ขึ้นรถและกลับโรงเรียน
ส่วนรินจงเธอเห็นดอกไม้ที่หน้าทางเข้ากู่จึงขออนุญาตเจ้าหน้าที่จะเก็บไปใส่แจกันที่บ้าน
ฟ้าสีสดใสตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนๆ ลมพัดโชยเย็นสบาย ทำให้ปลายผมของผู้เก้บดอกไม้ปลิวตามแรงลม
เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บของในสำนักงาน รินจงเองก็เก็บดอกไม้เพียงพอแล้ว ดอกดาวกระจายสีชมพูและสีเหลือง
เติมกำมือของครูสาว สายลมที่เย็นสบายกลับเย็นวาบขึ้นมาทันใดจนคนที่โดยลมต้องกายต้องหันหลังหลับไปมอง
กู่เก่าที่จัดสวนสวยก็ยังมีแต่สิ่งที่จัดให้เห็น ไร้สิ่งไหวติงมีแค่ใบไม้ที่ปลิวตามลมเท่านั้น รินจงนำดอกไม้ขึ้นรถและขับออกไป
ขับออกไปพร้อมกับสายตาของใครคนนึงที่มองดูรถนั้นจนสุดทาง
"ควันอะไรล่ะนิ เต็มห้องไปหมด" ภาพที่รินจงเห็นเป็นควันหรือหมอกอะไรสักอย่างเต็มห้องของเธอ
" ฮือ..................... ข้าของสาปแช่งเจ้าตราบนิรันดร์อย่าได้หลุดพ้น" เสียงนั้นดังจนผู้ได้ยินแก้วหูแทบแตก
"เจ้า เจ้า เจ้า !!!!!!!!!!!!!!!!!!!! "
รินจงสะดุ้งตื่นจนตกเตียง เหงื่อเปียกเต็มตัว ฝันที่ได้ยินแต่เสียง กับหมอก ทำให้เธอฉงนยิ่งนัก
รุ่งเช้าทางเขตได้ส่งครูมาเพิ่มอีกหนึ่งคน เธอชื่อว่า อัปสร รูปร่างหน้าตาดั่งปั้นมา สวยปานรูปสลักที่กู่เมื่อวาน
แววตานั้นดำลึกเย็นแปลกๆ ตามที่รินรู้สึก น้ำเสียงนุ่มหวานน่าหลงใหลขนาดผู้หญิงด้วยกันยังหลงกับรูปลักษณ์นี้
เธอสอนวิชาสังคมศึกษา คนแรกที่เธอมาตีสนิทคือ รินจงนี่เอง ครูสร เป็นมิตรมากเมื่อได้รู้จัก คุยสนุกและยิ้มเก่ง
รินจงและอัปสรจึงสนิทกันในเวลาไม่นานนัก ครูทุกคนก็เช่นกัน แต่ครูอัปสรกลับไ่ม่ค่อยสนิทกับครูนำชัย ไม่ค่อยมองหน้าหรือแม้แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่พูดด้วยซึ่งรินจงและปรานี ก็สังเกตเห็นแต่ก็คิดว่าอัปสรคงไม่ชอบคุยกับผู้ชายละมั้ง
"ใหมคำ ใหมคำ ข้าเจอเจ้าแล้ว จำข้าได้หรือไม่ " เสียงนั้นเกิดในภวังค์ของรินจงอีกครั้ง
"ใหม.............คำ............ใหมคำ!!!!"
รินจงสะดุ้งตื่น พร้อมกับคำถาม
' ใหมคำ คือใคร'
สาปนาง ตอนที่ 2
การทัศนศึกษาครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยดี รินจงและปราณีพาเด็กเที่ยงอย่างสนุกสนาน จงถึงเวลากลับ
ตะวันคล้อยบ่าย รถที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้มารับเด็กๆ โดยครูปราณีเป็นผู้คุมเด็กขึ้นรถ ส่วนครูรินจง
เอารถส่วนตัวมาเพราะเมื่อเช้าเธอเข้าไปที่เขตในเมืองจึงต้องมาเอง ครูปราณีกับเด็กๆออกจากกู่ขึ้นรถและกลับโรงเรียน
ส่วนรินจงเธอเห็นดอกไม้ที่หน้าทางเข้ากู่จึงขออนุญาตเจ้าหน้าที่จะเก็บไปใส่แจกันที่บ้าน
ฟ้าสีสดใสตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนๆ ลมพัดโชยเย็นสบาย ทำให้ปลายผมของผู้เก้บดอกไม้ปลิวตามแรงลม
เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บของในสำนักงาน รินจงเองก็เก็บดอกไม้เพียงพอแล้ว ดอกดาวกระจายสีชมพูและสีเหลือง
เติมกำมือของครูสาว สายลมที่เย็นสบายกลับเย็นวาบขึ้นมาทันใดจนคนที่โดยลมต้องกายต้องหันหลังหลับไปมอง
กู่เก่าที่จัดสวนสวยก็ยังมีแต่สิ่งที่จัดให้เห็น ไร้สิ่งไหวติงมีแค่ใบไม้ที่ปลิวตามลมเท่านั้น รินจงนำดอกไม้ขึ้นรถและขับออกไป
ขับออกไปพร้อมกับสายตาของใครคนนึงที่มองดูรถนั้นจนสุดทาง
"ควันอะไรล่ะนิ เต็มห้องไปหมด" ภาพที่รินจงเห็นเป็นควันหรือหมอกอะไรสักอย่างเต็มห้องของเธอ
" ฮือ..................... ข้าของสาปแช่งเจ้าตราบนิรันดร์อย่าได้หลุดพ้น" เสียงนั้นดังจนผู้ได้ยินแก้วหูแทบแตก
"เจ้า เจ้า เจ้า !!!!!!!!!!!!!!!!!!!! "
รินจงสะดุ้งตื่นจนตกเตียง เหงื่อเปียกเต็มตัว ฝันที่ได้ยินแต่เสียง กับหมอก ทำให้เธอฉงนยิ่งนัก
รุ่งเช้าทางเขตได้ส่งครูมาเพิ่มอีกหนึ่งคน เธอชื่อว่า อัปสร รูปร่างหน้าตาดั่งปั้นมา สวยปานรูปสลักที่กู่เมื่อวาน
แววตานั้นดำลึกเย็นแปลกๆ ตามที่รินรู้สึก น้ำเสียงนุ่มหวานน่าหลงใหลขนาดผู้หญิงด้วยกันยังหลงกับรูปลักษณ์นี้
เธอสอนวิชาสังคมศึกษา คนแรกที่เธอมาตีสนิทคือ รินจงนี่เอง ครูสร เป็นมิตรมากเมื่อได้รู้จัก คุยสนุกและยิ้มเก่ง
รินจงและอัปสรจึงสนิทกันในเวลาไม่นานนัก ครูทุกคนก็เช่นกัน แต่ครูอัปสรกลับไ่ม่ค่อยสนิทกับครูนำชัย ไม่ค่อยมองหน้าหรือแม้แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่พูดด้วยซึ่งรินจงและปรานี ก็สังเกตเห็นแต่ก็คิดว่าอัปสรคงไม่ชอบคุยกับผู้ชายละมั้ง
"ใหมคำ ใหมคำ ข้าเจอเจ้าแล้ว จำข้าได้หรือไม่ " เสียงนั้นเกิดในภวังค์ของรินจงอีกครั้ง
"ใหม.............คำ............ใหมคำ!!!!"
รินจงสะดุ้งตื่น พร้อมกับคำถาม ' ใหมคำ คือใคร'