การได้อัตตาที่หยาบ ได้แก่ กามภพ,  การได้อัตตาที่สำเร็จด้วยใจ ได้แก่ รูปภพ,  การได้อัตตาที่ไม่มีรูป ได้แก่ อรูปภพ การได้อัตตาเฉพาะอย่าง  ๓  อ

ไม่ได้จะพยายามทำให้ธรรมเสียฮะ แต่อยากลองคุยว่าทำไมเป็นแบบนี้เพื่อเข้าถึงความเป็นเช่นนั้นเองของสิ่งนี้ฮะ มั่วนะฮะ ย้ำว่าใช้กาลามสูตรนะฮะคุณ ไม่ใช่ตถาคตภาษิตขนาดนั้นฮะ อายตนะ6 มี ฤทธิ์ทางใจ มี อิทธิวิธิ

ปัจจยาการของอุปาทานเป็นต้น อุปาทาน ๔, ภพ ๓, ภูมิ ๔, และ ชาติทุกขัง 1)   อุปาทาน ๔ ๑.    กามุปาทาน ๒.   ทิฏฐุป

กามในสังโยชน์เบื้องต่ำ๕ที่พระอนาคามีละได้แล้วมันคือกามวิตกมิใช่กามตัณหาอย่างที่ปุถุชนส่วนใหญ่เข้าใจกัน!!? ในโพสต์ที่แล้วอาตมาได้กล่าวถึงผู้ละกามตัณหาได้แล้วอย่างอุจาดตาในแบบฉบับของชีเปลือยในศาสนาเชน..

สงสัย

รู้แต่คร่าวๆ ไม่ละเอียดว่า กฏแห่งกรรม ผลของจากการกระทำ ทั้ง กรรมดี ผลจากการกระทำ ทั้งกาย วาจา ใจ ผลมีความสุข กาย ใจ ขณะมีชีวิต และไปสวรรค์ หรือสุคติภูมิเมื่อเสียชีวิต กรรมไม่ดี ผลจากการกระทำ ทั้งก

ยังไม่ต้องพูดถึงจิต มาดูว่าเกิดตัวตนได้อย่างไร การตอบสนองต่อสิ่งมากระทบ ทำให้เกิดความรู้สึก สิ่งมากระทบคือรูปกับนาม รูปคืออนุภาคทั้งหมดในธรรมชาติรวมทั้งรูปตัวเราเอง อนุภาคเสียง แสง  นามคือผลจากกา

อากาส วิญญาณ อากิญ เนวสัญญาฯ