สวัสดีค่ะ
วันนี้วันเกิดปีที่ 36 ของเราเลยอยากแบ่งปันเรื่องราว และภาพถ่ายสวยๆ ของตัวเองที่ไปถ่ายมาที่กระบี่รอบล่าสุด เรียกว่ากระทู้พลีชีพก็ว่าได้ ^^ ส่วนที่มาของภาพเซทนี้ มีเพื่อนช่างภาพคนนึงเค้าถ่ายรูปเพื่อนที่เรารู้จัก จากหน้าปกติเป็นสวยขึ้นมาก เราเลยอยากให้เค้าถ่ายรูปสวยๆ บ้างก่อนที่จะแก่ จังหวะดีที่เค้ามากระบี่เลยขอให้เค้าถ่ายรูปให้ จึงเป็นที่มาของรูปชุดนี้ค่ะ
ส่วนที่มาตั้งกระทู้นี้คือ
๑. เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการลดความอ้วน
๒. สำหรับสาวๆ ที่คิดว่าตัวเองไม่สวยเอาซะเลย วิธีการทำให้สวยไม่อยากนอกจากแต่งหน้า แต่งตัวแล้ว Photoshop ช่วยคุณได้ ดังในภาพ ^^
๓. คนที่เคยอ้วนน่าจะพอเข้าใจ พอเราผอมเราก็อยากมีรูปเก็บใช่ไหมคะ เราเองก็มีเป็นหนึ่งในนั้น
๔. ข้อสุดท้ายคือ เราส่องกระทู้ในห้องโต๊ะเครื่องแป้งมานาน คิดเสมอว่าตัวเองก็เคยอ้วน วันหนึ่งจะตั้งกระทู้กับเค้าบ้าง จนวันนี้มีอัลบั้มสวยๆ มาอวดเลยถือโอกาสนำเรื่องราวมาแบ่งปันในวันนี้ ^^
ปล. tag ห้องกล้องเพราะ รูปสวยนี้ต้องแต่งรูปพอสมควร ^^
ตั้งแต่เด็ก จนโตจะเป็นเด็กอวบๆ แต่ไม่ค่อยอ้วนมาตลอด
พอประถมสามก็เริ่มใส่แว่น สาเหตุมาจากชอบอ่านหนังสือในที่มืด อันนี้ของข้ามมาจนถึงอนุปริญญา ว่าด้วยน้ำหนักกันต่อเลย น้ำหนักตอนเรียนอนุปริญญาจะอยู่ที่ 53 -55 กิโลกรัมมาโดยตลอด
จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรีค่ะ ก่อนรับปริญญาเป็นช่วงว่างงาน เราทำงานพาร์ทไทม์มาตลอด ทีนี้แม่ขายขนมชิ้น เวลาขายไม่หมดก็เสียดาย กินๆ กระหน่ำมาก จากน้ำหนัก 53 ก็เพิ่มเรื่อยๆ จึงถึงขีดสุด น้ำหนัก 60 กิโลกรัม 555
คราวนี้แหละ ใกล้รับปริญญาแล้ว (รับปี ๕๓) จำได้ว่าสองเดือนสุดท้ายก่อนรับปริญญา คราวนี้เริ่มเครียดต้องลดความอ้วนให้ได้ เริ่มจากยาชุด ชุดละ 250 บาทต่อ 1 สัปดาห์ เริ่มจาก 1 ชุดก่อน หมอห้ามโน่นนี่สารพัด (ที่หมอห้ามทำได้ไม่ต้องกินยาน่าเอาอยู่นะ ) ปรากฎว่าโหยค่ะ ทำตามที่หมอบอกไม่ได้ กินยาแล้วรู้สึกไม่ดี เลยหยุด
หันมากินยาระบายส้มแขก...... ไม่ได้ผล
วิธีที่สามล้างพิษของหมอสาทิส เฮือกสุดท้าย อดข้าว 10 วัน เลือกผลไม้ 1 อย่าง สาวเลือกสับปะรด (ซ่าส์ไหม) ทำไปได้ 9 วันแตกที่ข้าวมันไก่... น้ำหนักลดไป 5 กิโลกรัม แต่ทรงยังคงที่
10 วันต่อมา รับปริญญา ตามภาพ ^^
หลังจากรับปริญญา กลับมานั่งทำใจ ปล่อยร่างกายอิสระ เริ่มกลับมาอ้วน รูปนี้ตอนไปเที่ยวกทม. (ดูเป็นเด็กบ้านนอกมาก ^^ ) ทีแรกจำปีไม่ได้ จำได้แต่ไปหลังจากรถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดประมาณ เกือบปี
วัดพระแก้ว
กลับมาจากกทม. เริ่มตั้งใจลดความอ้วนอย่างจริงจัง เริ่มจากออกกำลังกาย ควบกับปรับวิธีกิน เพราะสาวเป็นคนที่ท้องผูกบ่อยมาก เลยเริ่มกินผัก ผลไม้ที่มีผลต่อการระบาย ตัดขนมหวานทุกชนิด กินข้าวมื้อละ 1 ทัพพีถ้าหิวมาก กินกับเยอะๆ แทน แต่จะระวังเรื่องของทอด และกินแป้งน้อยๆ ค่ะ
เวลาผ่านไปน้ำหนักลดลงเรื่อยๆและเข้าที่จนถึง 48 กิโลกรัม (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ) จนปี 50 มาอยู่ตรัง รูปนี้ถ่ายช่วงปีแรก
รูปนี้ไปงานหมั้นเพื่อนสามปีก่อน
งานแต่งงานสองปีก่อน
อีกหนึ่งรูปงานแต่งงงานเมื่อต้นปีค่ะ
จนมาถึงอัลบั้มสวยๆ ของเราบ้าง เราถ่ายที่อ่าวนางปรินซ์วิลล์ ที่พักของเรา และไร่เลย์ค่ะ
จากสาวแว่น ต้องมาใส่คอนเทคเลนส์ครั้งแรก ทรมานมาก ต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่เพื่ออัลบั้มชุดนี้ แต่ก็คุ้มค่ามาก
ชุดที่ถ่ายมีสามชุด
ชุดที่สอง
ถ่ายที่ไร่เลย์ค่ะ พี่ช่างภาพเราทำทุกอย่าง ถ่ายรูป แต่งหน้า ออกแบบชุด เป็นช่างภาพเราต้องอดทน ^^
มาถึงชุดสุดท้าย
หวังว่าเรื่องราวของเรา คงเป็นประโยชน์กับสาวๆ ที่อยากสวย เราต้องมีแรงบันดาลใจ อยากคิดช้า ก่อนที่จะอายุเยอะนะคะ ^^
ปล.ถามว่าหลังจากนี้เราจะเปลี่ยนตัวเองด้วยการใส่คอนเทคเลนส์ไหม ขอบอกว่าไม่กล้าแล้วค่ะ พอแล้ว ตอนนี้ก็กลับมาเป็นสาวแว่นเหมือนเหมือน ^^
เมื่อสาวแว่น (เคยอ้วน) อยากมีอัลบั้มสวยๆ สักหนึ่งอัลบั้ม
วันนี้วันเกิดปีที่ 36 ของเราเลยอยากแบ่งปันเรื่องราว และภาพถ่ายสวยๆ ของตัวเองที่ไปถ่ายมาที่กระบี่รอบล่าสุด เรียกว่ากระทู้พลีชีพก็ว่าได้ ^^ ส่วนที่มาของภาพเซทนี้ มีเพื่อนช่างภาพคนนึงเค้าถ่ายรูปเพื่อนที่เรารู้จัก จากหน้าปกติเป็นสวยขึ้นมาก เราเลยอยากให้เค้าถ่ายรูปสวยๆ บ้างก่อนที่จะแก่ จังหวะดีที่เค้ามากระบี่เลยขอให้เค้าถ่ายรูปให้ จึงเป็นที่มาของรูปชุดนี้ค่ะ
ส่วนที่มาตั้งกระทู้นี้คือ
๑. เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการลดความอ้วน
๒. สำหรับสาวๆ ที่คิดว่าตัวเองไม่สวยเอาซะเลย วิธีการทำให้สวยไม่อยากนอกจากแต่งหน้า แต่งตัวแล้ว Photoshop ช่วยคุณได้ ดังในภาพ ^^
๓. คนที่เคยอ้วนน่าจะพอเข้าใจ พอเราผอมเราก็อยากมีรูปเก็บใช่ไหมคะ เราเองก็มีเป็นหนึ่งในนั้น
๔. ข้อสุดท้ายคือ เราส่องกระทู้ในห้องโต๊ะเครื่องแป้งมานาน คิดเสมอว่าตัวเองก็เคยอ้วน วันหนึ่งจะตั้งกระทู้กับเค้าบ้าง จนวันนี้มีอัลบั้มสวยๆ มาอวดเลยถือโอกาสนำเรื่องราวมาแบ่งปันในวันนี้ ^^
ปล. tag ห้องกล้องเพราะ รูปสวยนี้ต้องแต่งรูปพอสมควร ^^
พอประถมสามก็เริ่มใส่แว่น สาเหตุมาจากชอบอ่านหนังสือในที่มืด อันนี้ของข้ามมาจนถึงอนุปริญญา ว่าด้วยน้ำหนักกันต่อเลย น้ำหนักตอนเรียนอนุปริญญาจะอยู่ที่ 53 -55 กิโลกรัมมาโดยตลอด
จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรีค่ะ ก่อนรับปริญญาเป็นช่วงว่างงาน เราทำงานพาร์ทไทม์มาตลอด ทีนี้แม่ขายขนมชิ้น เวลาขายไม่หมดก็เสียดาย กินๆ กระหน่ำมาก จากน้ำหนัก 53 ก็เพิ่มเรื่อยๆ จึงถึงขีดสุด น้ำหนัก 60 กิโลกรัม 555
คราวนี้แหละ ใกล้รับปริญญาแล้ว (รับปี ๕๓) จำได้ว่าสองเดือนสุดท้ายก่อนรับปริญญา คราวนี้เริ่มเครียดต้องลดความอ้วนให้ได้ เริ่มจากยาชุด ชุดละ 250 บาทต่อ 1 สัปดาห์ เริ่มจาก 1 ชุดก่อน หมอห้ามโน่นนี่สารพัด (ที่หมอห้ามทำได้ไม่ต้องกินยาน่าเอาอยู่นะ ) ปรากฎว่าโหยค่ะ ทำตามที่หมอบอกไม่ได้ กินยาแล้วรู้สึกไม่ดี เลยหยุด
หันมากินยาระบายส้มแขก...... ไม่ได้ผล
วิธีที่สามล้างพิษของหมอสาทิส เฮือกสุดท้าย อดข้าว 10 วัน เลือกผลไม้ 1 อย่าง สาวเลือกสับปะรด (ซ่าส์ไหม) ทำไปได้ 9 วันแตกที่ข้าวมันไก่... น้ำหนักลดไป 5 กิโลกรัม แต่ทรงยังคงที่
10 วันต่อมา รับปริญญา ตามภาพ ^^
วัดพระแก้ว
กลับมาจากกทม. เริ่มตั้งใจลดความอ้วนอย่างจริงจัง เริ่มจากออกกำลังกาย ควบกับปรับวิธีกิน เพราะสาวเป็นคนที่ท้องผูกบ่อยมาก เลยเริ่มกินผัก ผลไม้ที่มีผลต่อการระบาย ตัดขนมหวานทุกชนิด กินข้าวมื้อละ 1 ทัพพีถ้าหิวมาก กินกับเยอะๆ แทน แต่จะระวังเรื่องของทอด และกินแป้งน้อยๆ ค่ะ
รูปนี้ไปงานหมั้นเพื่อนสามปีก่อน
งานแต่งงานสองปีก่อน
อีกหนึ่งรูปงานแต่งงงานเมื่อต้นปีค่ะ
จากสาวแว่น ต้องมาใส่คอนเทคเลนส์ครั้งแรก ทรมานมาก ต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่เพื่ออัลบั้มชุดนี้ แต่ก็คุ้มค่ามาก
ชุดที่ถ่ายมีสามชุด
ชุดที่สอง
ถ่ายที่ไร่เลย์ค่ะ พี่ช่างภาพเราทำทุกอย่าง ถ่ายรูป แต่งหน้า ออกแบบชุด เป็นช่างภาพเราต้องอดทน ^^
มาถึงชุดสุดท้าย
หวังว่าเรื่องราวของเรา คงเป็นประโยชน์กับสาวๆ ที่อยากสวย เราต้องมีแรงบันดาลใจ อยากคิดช้า ก่อนที่จะอายุเยอะนะคะ ^^
ปล.ถามว่าหลังจากนี้เราจะเปลี่ยนตัวเองด้วยการใส่คอนเทคเลนส์ไหม ขอบอกว่าไม่กล้าแล้วค่ะ พอแล้ว ตอนนี้ก็กลับมาเป็นสาวแว่นเหมือนเหมือน ^^