"เมื่อตะวันลับลา ฟ้าก็มองมืดหม่น ทนเงียบเหงาอ้างว้าง
เมื่อเธอลาลับไกล กลับอุ่นไอมิสร่าง ใจฉันค้างเคียงเธอ..."
หากหน้าที่ของหนังสักเรื่องคือการให้อรรถรสความบันเทิงแก่ผู้ชม หนังตลกทำให้เราหัวเราะ หนังดราม่าทำให้เราอิน หนังแอคชั่นทำให้เรามันส์ หนังเศร้าทำให้เราเสียน้ำตา หนังเรื่องนี้ก็ทำหน้าที่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์เท่าที่หนังเรื่องหนึ่งจะทำได้ และทำได้ดีจนเราและคนดูในโรงคนอื่นๆไม่อยากลุกจากเก้าอี้จนไตเติ้ลท้ายจบก็ยังนั่งกันต่อ นั่นคือที่มาว่าทำไมหนังสารคดีเรื่องนี้จึงได้ 10 คะแนนเต็ม (โชคดีที่ไม่ได้ซื้อป๊อปคอร์นเอสเอฟกินเลยไม่ต้องหักคะแนนความไม่อร่อยของป๊ออปคอร์น)
หนังถ่ายทำเรื่องจริงชีวิตของปู่สมบูรณ์ที่ดูแลย่าละเมียดที่ปวดด้วยโรคไตเรื้อรัง ชีวิตของผู้ชายแก่ๆคนหนึ่งที่ทำหน้าที่คนรักที่ดีได้ยอดเยี่ยมทุกเวลาวินาที ดูแล้วไม่อยากแก่เลย ชีวิตรักที่คนชอบพูดกันว่าอยากอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าดูเป็นเรื่องเพ้อฝันไปทันที เพราะชีวิตจริงถึงตอนนั้นมันไม่ได้สวยหรูพร่ำเพ้อเรื่องรักกันอีกต่อไปแล้ว มันคือการดูแลกัน เอาใจใส่แม้ในยามที่อีกคนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ปู่สมบูรณ์ต้องคอยเปลี่ยนน้ำยาล้างไตให้คุณย่าทุก 4 ชั่วโมง เที่ยงคืน ตีสี่ก็ต้องตื่นมาเปลี่ยน ต้องจดปริมาณน้ำเข้าน้ำออกในร่างกาย ทำกับข้าว อาบน้ำล้างหน้า ล้างก้น พาไปอึ พาไปถ่าย จนเกิดคำถามขึ้นในใจตัวเองว่า ถ้าเราอยู่ถึงป่านนั้นใครจะมาทำให้เราได้อย่างนี้
หนังถ่ายทำแบบไปข้างหน้าตั้งแต่ปี 2009-2012 คือไม่มีบท ผกกต้องไปกินไปนอนอยู่ที่บ้านปู่สมบูรณ์เพื่อบันทึกเรื่องราวทุกอย่าง ปู่ตื่นมาเปลี่ยนน้ำยาล้างไต ปู่พาย่าไปรพ. จนกระทั่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันเมื่ออยุธยาบ้านของปู่เจอวิกฤติน้ำท่วมหนักในปี 2011 เราก็ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของคนอยุธยาในช่วงน้ำท่วมว่าเขาอยู่เขากินกันอย่างไร และการดูแลผู้ป่วยที่บ้านซึ่งเคลื่อนย้ายตัวเองไม่ได้นั้นเขาต้องเจออุปสรรคมากแค่ไหน หนังพาให้เราจมดิ่งกับความรู้สึกทุกรูปแบบ มันอึนๆ มันตันๆ มันมีความอึดอัดกับสิ่งที่เห็น มันสะท้อนชีวิตคนจนในประเทศเราได้แบบหมดเปลือก มันสะท้อนระบบสาธารณสุขของไทยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่คนจนๆจะเขาถึง แถมมันยังบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ สังคม การเมืองไว้ทั้งหมด เป็นจดหมายเหตุคนจนที่ควรบันทึกเก็บไว้ให้ลูกหลานชาวไทยได้ดูต่อไปนานแสนนาน
อยากให้เพื่อนๆที่เป็นหมอหรือบุคลากรในโรงพยายาลได้ดูจัง ว่ากว่าที่ญาติจะแบกคนไข้สักคนไปถึงรพ.เพื่อให้ได้รับการรักษาตามนัดทุกเดือนมันยากลำยากแค่ไหน บางครั้งยังต้องเจอหมอ พยาบาลดุด่าอีก ว่าทำไมไม่รู้เรื่อง ทำไมไม่ทำตามที่บอก คือเราจะเข้าใจเลยว่าชีวิตความเป็นอยู่ที่บ้านเขากับที่เราอยู่มันคนละเรื่องเลย ในเรื่องปู่สมบูรณ์ทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำยาล้างไตทางหน้าท้องได้แบบปลอดเชื้อ ฉีดแอลกอล์ ปิดหน้ากากทุกครั้งก็นับว่าสุดยอดแล้ว ดูเรื่องนี้หมอทุกคนจะเข้าใจคนไข้และญาติได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหมอที่ชอบเอาเรื่องคนไข้มาบ่นลงเฟซบุค คุณไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ญาติและคนไข้เขาทำมันคือดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้แล้ว
การถ่ายทอดเรื่องราวของหนังแม้จะเป็นแนวสารคดีทุนต่ำ กล้องถ่ายภาพอาจจะไม่คมชัด แต่ผกกก็วางองค์ประกอบศิลป์ได้งดงามลงตัว มุมกล้อง และแสงที่มันตกกระทบต่างๆคือดูสวยมากๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นคือไม่ใช่การจัดฉาก มันคือถ่ายจากของจริงซึ่งต้องยอมรับในฝีมือ
คนอื่นอาจจะบอกว่ามันคือหนังสารคดี หนังชีวิตดราม่า แต่สำหรับผมมันคือ"หนังรัก"ชั้นดี เป็นรักที่จริงแท้ที่สุด รักแท้ไม่สามารถบอกได้ตั้งแต่แรกเห็น ไม่สามารถบอกได้หลังจากคบกันไปสิบปี ยี่สิบปี เราจะรู้ว่ารักนั้นคือรักแท้ตราบเมื่อเราได้ดูแลกันและกันตราบจนเท่าที่ลมหายใจของอีกคนจะหมดไปและอีกคนยังคงอยู่ ภาพลุงสมบูรณ์แต่งชุดดำพายเรือไปวัดประกอบเพลง"ฉันจะฝันถึงเธอ"ทำเอาผมและผู้คนในโรงสะอื้นกันลั่น มันจริง มันสัมผัสได้ถึงพลังความรักที่คนคนหนึ่งมีให้อีกคน และก็ถึงกับต้องปล่อยโฮตอนฉากที่ซูมหน้าปู่แล้วปู่น้ำตาไหลพรากออกมา
ดูแล้วเกิดคำถาม จะมีใครรักเราได้ขนาดนั้นไหม ดูแล้วเกิดความสงสาร ยังมีอีกกี่ล้านครอบครัวไทยที่เข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุขโดยที่พวกเขาไม่เคยออกมาร่ำไรคร่ำครวญขอร้องให้ผู้มีหน้าที่ดูแลจัดการรับรู้เรื่องนี้ ดูแล้วเดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกอึนๆ ตาแดง แล้วก็เดินโต๋เต๋ๆไปที่รถ พอถึงรถปิดประตูเท่านั้นแหละ ปล่อยโฮเลย และก็อีกคำถามที่เกิดคือ ตอนนี้ชีวิตของปู่สมบูรณ์จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ปู่จะอยู่อย่างไร ถ้าเงินที่จ่ายค่าตั๋วเข้าไปดูชีวิตปู่จะมีส่วนหนึ่งแบ่งไปให้ปู่ คนดูอย่างเราก็จะยินดียิ่งนัก เป็นการขอบคุณที่ปู่อนุญาตให้ทีมงานเข้าไปถ่ายทำแล้วนำเรื่องราวรักแท้ของปู่มาจุดประกายและให้พลังชีวิตกับเรา หวังว่าโรงหนังหรือนายทุนจะใจดีฉายโปรแกรมนี้ต่อ อยากบอกต่อให้คนไทยไปดูเรื่องนี้กันเยอะๆครับ
"...เมื่อตะวันนิทรา ฟ้าจะรอพบจันทร์ ฉันจะฝันถึงเธอ..."
เพลงนี้ถ้าใครที่ไม่เคยฟังมาก่อนจะรู้สึกอินกับหนังมาก หลายคนบอกไม่ถูกที่ไม่ถูกจังหวะเหมือนจงใจเค้นไปหน่อย แต่โดยส่วนตัวมองว่า มันเข้ามานี่แหละดีแล้ว ทำให้คนดูไม่รู้สึกว่า ปู่สมบูรณ์ เป็นสารคดีที่หนักเกินไป มีช่วงซึ้งๆ
อยากบอกต่อให้คนที่รู้จักและเพื่อนๆไปดูกันมากๆ
CR :
https://www.facebook.com/overhyp
"ปู่สมบูรณ์" นี่คือสารคดีหรือหนังรักก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าทำให้เราน้ำตาร่วง และอยากบอกต่อให้ไปดูกันเยอะๆ
"เมื่อตะวันลับลา ฟ้าก็มองมืดหม่น ทนเงียบเหงาอ้างว้าง
เมื่อเธอลาลับไกล กลับอุ่นไอมิสร่าง ใจฉันค้างเคียงเธอ..."
หากหน้าที่ของหนังสักเรื่องคือการให้อรรถรสความบันเทิงแก่ผู้ชม หนังตลกทำให้เราหัวเราะ หนังดราม่าทำให้เราอิน หนังแอคชั่นทำให้เรามันส์ หนังเศร้าทำให้เราเสียน้ำตา หนังเรื่องนี้ก็ทำหน้าที่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์เท่าที่หนังเรื่องหนึ่งจะทำได้ และทำได้ดีจนเราและคนดูในโรงคนอื่นๆไม่อยากลุกจากเก้าอี้จนไตเติ้ลท้ายจบก็ยังนั่งกันต่อ นั่นคือที่มาว่าทำไมหนังสารคดีเรื่องนี้จึงได้ 10 คะแนนเต็ม (โชคดีที่ไม่ได้ซื้อป๊อปคอร์นเอสเอฟกินเลยไม่ต้องหักคะแนนความไม่อร่อยของป๊ออปคอร์น)
หนังถ่ายทำเรื่องจริงชีวิตของปู่สมบูรณ์ที่ดูแลย่าละเมียดที่ปวดด้วยโรคไตเรื้อรัง ชีวิตของผู้ชายแก่ๆคนหนึ่งที่ทำหน้าที่คนรักที่ดีได้ยอดเยี่ยมทุกเวลาวินาที ดูแล้วไม่อยากแก่เลย ชีวิตรักที่คนชอบพูดกันว่าอยากอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าดูเป็นเรื่องเพ้อฝันไปทันที เพราะชีวิตจริงถึงตอนนั้นมันไม่ได้สวยหรูพร่ำเพ้อเรื่องรักกันอีกต่อไปแล้ว มันคือการดูแลกัน เอาใจใส่แม้ในยามที่อีกคนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ปู่สมบูรณ์ต้องคอยเปลี่ยนน้ำยาล้างไตให้คุณย่าทุก 4 ชั่วโมง เที่ยงคืน ตีสี่ก็ต้องตื่นมาเปลี่ยน ต้องจดปริมาณน้ำเข้าน้ำออกในร่างกาย ทำกับข้าว อาบน้ำล้างหน้า ล้างก้น พาไปอึ พาไปถ่าย จนเกิดคำถามขึ้นในใจตัวเองว่า ถ้าเราอยู่ถึงป่านนั้นใครจะมาทำให้เราได้อย่างนี้
หนังถ่ายทำแบบไปข้างหน้าตั้งแต่ปี 2009-2012 คือไม่มีบท ผกกต้องไปกินไปนอนอยู่ที่บ้านปู่สมบูรณ์เพื่อบันทึกเรื่องราวทุกอย่าง ปู่ตื่นมาเปลี่ยนน้ำยาล้างไต ปู่พาย่าไปรพ. จนกระทั่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันเมื่ออยุธยาบ้านของปู่เจอวิกฤติน้ำท่วมหนักในปี 2011 เราก็ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของคนอยุธยาในช่วงน้ำท่วมว่าเขาอยู่เขากินกันอย่างไร และการดูแลผู้ป่วยที่บ้านซึ่งเคลื่อนย้ายตัวเองไม่ได้นั้นเขาต้องเจออุปสรรคมากแค่ไหน หนังพาให้เราจมดิ่งกับความรู้สึกทุกรูปแบบ มันอึนๆ มันตันๆ มันมีความอึดอัดกับสิ่งที่เห็น มันสะท้อนชีวิตคนจนในประเทศเราได้แบบหมดเปลือก มันสะท้อนระบบสาธารณสุขของไทยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่คนจนๆจะเขาถึง แถมมันยังบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ สังคม การเมืองไว้ทั้งหมด เป็นจดหมายเหตุคนจนที่ควรบันทึกเก็บไว้ให้ลูกหลานชาวไทยได้ดูต่อไปนานแสนนาน
อยากให้เพื่อนๆที่เป็นหมอหรือบุคลากรในโรงพยายาลได้ดูจัง ว่ากว่าที่ญาติจะแบกคนไข้สักคนไปถึงรพ.เพื่อให้ได้รับการรักษาตามนัดทุกเดือนมันยากลำยากแค่ไหน บางครั้งยังต้องเจอหมอ พยาบาลดุด่าอีก ว่าทำไมไม่รู้เรื่อง ทำไมไม่ทำตามที่บอก คือเราจะเข้าใจเลยว่าชีวิตความเป็นอยู่ที่บ้านเขากับที่เราอยู่มันคนละเรื่องเลย ในเรื่องปู่สมบูรณ์ทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำยาล้างไตทางหน้าท้องได้แบบปลอดเชื้อ ฉีดแอลกอล์ ปิดหน้ากากทุกครั้งก็นับว่าสุดยอดแล้ว ดูเรื่องนี้หมอทุกคนจะเข้าใจคนไข้และญาติได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหมอที่ชอบเอาเรื่องคนไข้มาบ่นลงเฟซบุค คุณไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ญาติและคนไข้เขาทำมันคือดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้แล้ว
การถ่ายทอดเรื่องราวของหนังแม้จะเป็นแนวสารคดีทุนต่ำ กล้องถ่ายภาพอาจจะไม่คมชัด แต่ผกกก็วางองค์ประกอบศิลป์ได้งดงามลงตัว มุมกล้อง และแสงที่มันตกกระทบต่างๆคือดูสวยมากๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นคือไม่ใช่การจัดฉาก มันคือถ่ายจากของจริงซึ่งต้องยอมรับในฝีมือ
คนอื่นอาจจะบอกว่ามันคือหนังสารคดี หนังชีวิตดราม่า แต่สำหรับผมมันคือ"หนังรัก"ชั้นดี เป็นรักที่จริงแท้ที่สุด รักแท้ไม่สามารถบอกได้ตั้งแต่แรกเห็น ไม่สามารถบอกได้หลังจากคบกันไปสิบปี ยี่สิบปี เราจะรู้ว่ารักนั้นคือรักแท้ตราบเมื่อเราได้ดูแลกันและกันตราบจนเท่าที่ลมหายใจของอีกคนจะหมดไปและอีกคนยังคงอยู่ ภาพลุงสมบูรณ์แต่งชุดดำพายเรือไปวัดประกอบเพลง"ฉันจะฝันถึงเธอ"ทำเอาผมและผู้คนในโรงสะอื้นกันลั่น มันจริง มันสัมผัสได้ถึงพลังความรักที่คนคนหนึ่งมีให้อีกคน และก็ถึงกับต้องปล่อยโฮตอนฉากที่ซูมหน้าปู่แล้วปู่น้ำตาไหลพรากออกมา
ดูแล้วเกิดคำถาม จะมีใครรักเราได้ขนาดนั้นไหม ดูแล้วเกิดความสงสาร ยังมีอีกกี่ล้านครอบครัวไทยที่เข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุขโดยที่พวกเขาไม่เคยออกมาร่ำไรคร่ำครวญขอร้องให้ผู้มีหน้าที่ดูแลจัดการรับรู้เรื่องนี้ ดูแล้วเดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกอึนๆ ตาแดง แล้วก็เดินโต๋เต๋ๆไปที่รถ พอถึงรถปิดประตูเท่านั้นแหละ ปล่อยโฮเลย และก็อีกคำถามที่เกิดคือ ตอนนี้ชีวิตของปู่สมบูรณ์จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ปู่จะอยู่อย่างไร ถ้าเงินที่จ่ายค่าตั๋วเข้าไปดูชีวิตปู่จะมีส่วนหนึ่งแบ่งไปให้ปู่ คนดูอย่างเราก็จะยินดียิ่งนัก เป็นการขอบคุณที่ปู่อนุญาตให้ทีมงานเข้าไปถ่ายทำแล้วนำเรื่องราวรักแท้ของปู่มาจุดประกายและให้พลังชีวิตกับเรา หวังว่าโรงหนังหรือนายทุนจะใจดีฉายโปรแกรมนี้ต่อ อยากบอกต่อให้คนไทยไปดูเรื่องนี้กันเยอะๆครับ
"...เมื่อตะวันนิทรา ฟ้าจะรอพบจันทร์ ฉันจะฝันถึงเธอ..."
เพลงนี้ถ้าใครที่ไม่เคยฟังมาก่อนจะรู้สึกอินกับหนังมาก หลายคนบอกไม่ถูกที่ไม่ถูกจังหวะเหมือนจงใจเค้นไปหน่อย แต่โดยส่วนตัวมองว่า มันเข้ามานี่แหละดีแล้ว ทำให้คนดูไม่รู้สึกว่า ปู่สมบูรณ์ เป็นสารคดีที่หนักเกินไป มีช่วงซึ้งๆ
อยากบอกต่อให้คนที่รู้จักและเพื่อนๆไปดูกันมากๆ
CR : https://www.facebook.com/overhyp