เมื่อแรกเกิด คุณไม่รู้อะไรเลย
ชีวิตมีแต่การรับรู้ ซึ่งเต็มไปด้วยการลองผิดลองถูก
มีเพียงสัญชาตญาณนำหน้า ทุกการผลิตซ้ำ จนกลายเป็นนิสัยหรือแบบแผนตัวตน
โลกภายในตัวคุณ ก็ไม่รู้ มีเพียงเป็นไปเองเฉกเช่นธรรมชาติที่ดำเนินไป
ร่างกายคือระบบของธรรมชาติที่ย่อส่วนลงมาให้คุณได้สัมผัส รู้จักหรือเรียนรู้เพื่อจะเข้าใจ..หรือไม่ก็แล้วแต่..
ปฐมการควบคุมตัวเอง ก็คือ ลมหายใจ มันคือต้นธารของการรู้และโยงใยไปสู่ทั้งระบบทั้งร่าง
มันเป็นสิ่งอ่อน อ่อนไหว ไม่เป็นรูปธรรม แต่กลับหล่อเลี้ยงในฐานะอีกมิติหนึ่งนอกเหนืออาหาร ที่จำต้องไปเบียดแทรกชีวิตอื่น
ดังนั้น สิ่งอ่อนกลับไปควบคุมสิ่งที่เป็นรูปธรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเลือดเนื้อ อวัยวะและโครงร่าง สถาปนาเป็นความคิด และอารมณ์-ความรู้สึก
แต่ลมหายใจก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้ โดยปราศจากพลังจากเลือดเนื้อ ซึ่งมาจากหัวใจ คอยปั้มของเหลวสีแดงไปทั้งร่าง
ทั้งปอดและหัวใจจึงทำงานประสานกันชั่วชีวิต ..................
แต่ชีวิตเริ่มแรกในครรภ์นั้น หัวใจกลับเป็นสิ่งแรกที่เคลื่อนไหวหรือทำงาน ภายใต้จักรวาลภายในท้องของผู้ให้กำเนิด
ซึ่งก็คือ การพึ่งพิงสิ่งอื่น เพื่อถือกำเนิดมา เพราะ ไม่มีชีวิตใดก่อเกิดมาได้ โดยปราศจากชีวิตอื่นก่อนหน้า
และเมื่อคนเราตาย ....หัวใจก็เป็นอวัยวะที่ทำงานส่วนสุดท้ายของการส่งวิญญาณ อีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่า ลมหายใจหรือลักษณะการทำงานของลมหายใจ ก็คือ ตัวตนที่แตกต่างในมนุษย์
และมันสะท้อนพลังชีวิตที่แตกต่างกันในแต่ละคนได้อีกด้วย เพราะ มันจะโยงไปสู่ระบบเผาผลาญพลังงาน
ความช้าเร็วในการเคลื่อนไหว รวมถึงภาวะอารมณ์หรือการแสดงออกได้ด้วย ซึ่งมันก็ทำงานคู่ขนานกับหัวใจเสมือนเหรียญสองด้าน
ฉะนั้น ถ้าคุณรู้จักควบคุมลมหายใจ ชีวิตก็จะไม่ไหลไปตามกระแส สมดุลระหว่างภายใน-ภายนอกก็จักคืนกลับ
คุณภาพชีวิตก็จักถูกเรียกคืน โดยประสิทธิภาพของการรู้จักตนเองขั้นพื้นฐาน ...
ลมหายใจ
ชีวิตมีแต่การรับรู้ ซึ่งเต็มไปด้วยการลองผิดลองถูก
มีเพียงสัญชาตญาณนำหน้า ทุกการผลิตซ้ำ จนกลายเป็นนิสัยหรือแบบแผนตัวตน
โลกภายในตัวคุณ ก็ไม่รู้ มีเพียงเป็นไปเองเฉกเช่นธรรมชาติที่ดำเนินไป
ร่างกายคือระบบของธรรมชาติที่ย่อส่วนลงมาให้คุณได้สัมผัส รู้จักหรือเรียนรู้เพื่อจะเข้าใจ..หรือไม่ก็แล้วแต่..
ปฐมการควบคุมตัวเอง ก็คือ ลมหายใจ มันคือต้นธารของการรู้และโยงใยไปสู่ทั้งระบบทั้งร่าง
มันเป็นสิ่งอ่อน อ่อนไหว ไม่เป็นรูปธรรม แต่กลับหล่อเลี้ยงในฐานะอีกมิติหนึ่งนอกเหนืออาหาร ที่จำต้องไปเบียดแทรกชีวิตอื่น
ดังนั้น สิ่งอ่อนกลับไปควบคุมสิ่งที่เป็นรูปธรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเลือดเนื้อ อวัยวะและโครงร่าง สถาปนาเป็นความคิด และอารมณ์-ความรู้สึก
แต่ลมหายใจก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้ โดยปราศจากพลังจากเลือดเนื้อ ซึ่งมาจากหัวใจ คอยปั้มของเหลวสีแดงไปทั้งร่าง
ทั้งปอดและหัวใจจึงทำงานประสานกันชั่วชีวิต ..................
แต่ชีวิตเริ่มแรกในครรภ์นั้น หัวใจกลับเป็นสิ่งแรกที่เคลื่อนไหวหรือทำงาน ภายใต้จักรวาลภายในท้องของผู้ให้กำเนิด
ซึ่งก็คือ การพึ่งพิงสิ่งอื่น เพื่อถือกำเนิดมา เพราะ ไม่มีชีวิตใดก่อเกิดมาได้ โดยปราศจากชีวิตอื่นก่อนหน้า
และเมื่อคนเราตาย ....หัวใจก็เป็นอวัยวะที่ทำงานส่วนสุดท้ายของการส่งวิญญาณ อีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่า ลมหายใจหรือลักษณะการทำงานของลมหายใจ ก็คือ ตัวตนที่แตกต่างในมนุษย์
และมันสะท้อนพลังชีวิตที่แตกต่างกันในแต่ละคนได้อีกด้วย เพราะ มันจะโยงไปสู่ระบบเผาผลาญพลังงาน
ความช้าเร็วในการเคลื่อนไหว รวมถึงภาวะอารมณ์หรือการแสดงออกได้ด้วย ซึ่งมันก็ทำงานคู่ขนานกับหัวใจเสมือนเหรียญสองด้าน
ฉะนั้น ถ้าคุณรู้จักควบคุมลมหายใจ ชีวิตก็จะไม่ไหลไปตามกระแส สมดุลระหว่างภายใน-ภายนอกก็จักคืนกลับ
คุณภาพชีวิตก็จักถูกเรียกคืน โดยประสิทธิภาพของการรู้จักตนเองขั้นพื้นฐาน ...