อยากรู้ว่าที่เห็นคืออะไร โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน เราเป็นนักเขียนแต่เรื่องนี้เจอมากับตัวกับตาหลอนจนจำขึ้นใจ
ปีนี้เราอายุ 31 แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นก็ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้วล่ะแต่มันจำฝังใจติดตาเราก็ไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟัง แต่วันนี้นึกขึ้นมาได้เลยเอามาเล่าให้ฟัง
เรื่องสมัยเด็กๆ จำไม่ได้แล้วล่ะว่าอายุเท่าไหร่ที่แน่นอน กะเอาว่าประมาณ6-7ขวบ บ้านเราก็เป็นบ้านนอก ไกลความเจริญพอสมควร
เริ่มเลยแล้วกัน เรากับพี่ชายอายุห่างกันปีครึ่งหัวปีท้ายปีประมาณนั้น วันนั้นน้าสาวเป็นญาติห่างๆ กันอยู่บ้านห่างกันไม่มากเดินสักสองนาทีก็ถึง
แต่แต่งงานตรงกับงานแต่งของลุงคือ พี่ชายของแม่อยู่ที่อยุธยา แม่กับพ่อต้องไปงานแต่งของลุงที่อยุธยาไปแต่เช้ามืด
ช่วงหน้าหนาวหรือเปล่าจำไม่ได้แต่รู้ว่าทั้งสองคนทิ้งเรากับพี่ชายให้นอนหลับอยู่ในมุ้งบนบ้านไม่ได้พาเราสองคนไปด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากพ่อกับแม่ไปงานแต่งลุงแล้ว เราซึ่งเป็นเด็กตื่นกลางดึกหรือได้ยินเสียงดังก็จะตื่น
ตอนนั้นบ้านมืดมากแต่มีแสงไฟจากบ้านงานแต่งน้าส่องเข้ามาในตัวบ้าน
บ้านเราเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงแต่ถมดินใส่ใต้ถุนบ้านจนบ้านที่สูงเกือบสามเมตรจากพื้นดินเหลือสักเมตรได้จากพื้นดินถึงพื้นบ้าน
ในบ้านไม่ได้กั้นห้องเป็นโถงโล่งๆ ประตูหน้ากับฝาบ้านด้านหน้าใช้ไม้ตีระแนงมีช่องๆ ทำให้แสงสว่างจากหลอดไฟจากบ้านงานลอดเข้ามาในบ้าน
แสงไฟส่องมาถึงมุ้งที่กลางอยู่ในสุดของบ้านบ้านชิดขวาบ้าน เสียงเพลงจากงานแต่งปลุกเราตื่นขึ้นมา
สิ่งแรกที่เรามองหาคือพ่อกับแม่ไม่มี พ่อแม่ไปไหน เราอยากถามพี่แต่พี่หลับอยู่ข้างๆ เรา ใจเด็กอย่างเราหายวาบเมื่อตื่นมาไม่เจอพ่อกับแม่
นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเราลุกขึ้นนั่งมองไปรอบๆ มุ้ง ที่เราเห็นคือ เงาดำของผู้หญิงครึ่งตัวเหมือนเวลาเราถ่ายรูป 2 นิ้วประมาณนั้นอยู่ข้างมุ้งฝั่งติดข้างฝา
เรานะตกใจแต่คิดว่าเงาใครมาแกล้งเรา อยากรู้ว่าใครก็เอามือไปควานดู แต่ไม่มีเจอแต่ฝาบ้าน แล้วเงานั้นก็ไม่ได้หายไปไหนด้วย
เท่านั้นล่ะเราเขย่าพี่ชายที่นอนข้างๆ ร้องไห้ไปด้วยปลุกพี่ไปด้วย พี่เรามันก็งัวเงียตื่นขึ้นมาสิ เราก็บอกพี่นั่นผีๆ ผีๆ เท่านั้นล่ะกระเจิงวิ่งกันออกจากมุ้งไม่ทัน พ่อกับแม่ล็อกประตูบ้านเราสองคนออกไม่ได้ โชว์ดีที่ครัวบ้านเราล้อมสังกะสีไว้มีช่องที่เรากับพี่ปีนเล่นอยู่ประจำ
เราแข่งกับพี่เลยโดดลงจากบ้านจากตรงนั้นไม่กลัวเจ็บแต่กลัวผีมากกว่า ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปโน้นบ้านงานแต่งคนเยอะ
ร้องไห้ไปด้วยเล่าให้คนโตๆ ฟังเขาก็ไม่เชื่อ แต่บอกเลยว่าเรากลัวมากก จำฝังใจเลยเพราะมันใกล้มาก ทุกวันนี้ก็ยังจำได้ เล่ามาขนก็ลุกซู่เลย
วันนั้นถึงฟ้าจะสว่างแดดแรงแค่ไหนเราไม่กล้าขึ้นบ้านเลย จนพ่อกับแม่มานั่นล่ะ ส่วนพี่ชายเราขึ้นไปนอนกลางวันหน้าตาเฉย
เรานี้ไม่เอาไม่ขึ้นบ้านถ้าไม่มีใครไปด้วย ขนาดเราขึ้นไปพร้อมแม่เก็บมุ้งแล้วก็ไม่เจออะไร เรายังกลัวเกาะแม่แจเลย
หลังจากนั้นคนโตก็คุยกัน แม่ก็มาบอกว่าย่ามาอยู่เป็นเพื่อนไม่มีอะไร คือย่าเราตายไปแล้วตอนเรา3-4ขวบได้
เราจำได้ย่าเลี้ยงเรากับพี่เรา ไล่ตีเราสองคนที่หนีไปเล่นน้ำคลองได้ แต่เราบอกไม่ใช่ ที่เราเห็นผมยาวปะบ่าแต่ย่าเราผมแค่หู
พ่อเราบอกว่าเป็นแม่ของพี่ชายคนโตที่ตายไปตอนออกลูกอีกคน แม่เราเป็นเมียคนที่สองของพ่อหลังจากเมียแรกพ่อออกลูกสาวแล้วตาย
เล่ามาแล้วขนลุก ใครจะเชื่อไม่เชื่อแล้วแต่นะ เราเป็นนักเขียนแต่เรื่องนี้เจอมากับตัวเองสมัยเด็กๆ มันหลอนจนจำได้ชัดเจนมาก แต่จากวันนั้นก็ไม่เคยเจออีกเลย ไว้มาเล่าให้ฟังใหม่นะ มีอีกเรื่องที่น่าประหลาดเอาไว้ก่อนดีกว่า
มือใหม่หัดตั้งกระทู้ไม่รู้แท้็กยังไง เอาเป้นว่ามันเกี่ยวกับบ้านเลยแท็กชายคา ไม่รู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ยไหม แต่มันน่าจะพิสูจน์ได้เลยแท็กหว้ากอด้วย
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
แชร์เรื่องเล่าวัยเด็ก กับคนข้างมุ้ง
ปีนี้เราอายุ 31 แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นก็ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้วล่ะแต่มันจำฝังใจติดตาเราก็ไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟัง แต่วันนี้นึกขึ้นมาได้เลยเอามาเล่าให้ฟัง
เรื่องสมัยเด็กๆ จำไม่ได้แล้วล่ะว่าอายุเท่าไหร่ที่แน่นอน กะเอาว่าประมาณ6-7ขวบ บ้านเราก็เป็นบ้านนอก ไกลความเจริญพอสมควร
เริ่มเลยแล้วกัน เรากับพี่ชายอายุห่างกันปีครึ่งหัวปีท้ายปีประมาณนั้น วันนั้นน้าสาวเป็นญาติห่างๆ กันอยู่บ้านห่างกันไม่มากเดินสักสองนาทีก็ถึง
แต่แต่งงานตรงกับงานแต่งของลุงคือ พี่ชายของแม่อยู่ที่อยุธยา แม่กับพ่อต้องไปงานแต่งของลุงที่อยุธยาไปแต่เช้ามืด
ช่วงหน้าหนาวหรือเปล่าจำไม่ได้แต่รู้ว่าทั้งสองคนทิ้งเรากับพี่ชายให้นอนหลับอยู่ในมุ้งบนบ้านไม่ได้พาเราสองคนไปด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากพ่อกับแม่ไปงานแต่งลุงแล้ว เราซึ่งเป็นเด็กตื่นกลางดึกหรือได้ยินเสียงดังก็จะตื่น
ตอนนั้นบ้านมืดมากแต่มีแสงไฟจากบ้านงานแต่งน้าส่องเข้ามาในตัวบ้าน
บ้านเราเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงแต่ถมดินใส่ใต้ถุนบ้านจนบ้านที่สูงเกือบสามเมตรจากพื้นดินเหลือสักเมตรได้จากพื้นดินถึงพื้นบ้าน
ในบ้านไม่ได้กั้นห้องเป็นโถงโล่งๆ ประตูหน้ากับฝาบ้านด้านหน้าใช้ไม้ตีระแนงมีช่องๆ ทำให้แสงสว่างจากหลอดไฟจากบ้านงานลอดเข้ามาในบ้าน
แสงไฟส่องมาถึงมุ้งที่กลางอยู่ในสุดของบ้านบ้านชิดขวาบ้าน เสียงเพลงจากงานแต่งปลุกเราตื่นขึ้นมา
สิ่งแรกที่เรามองหาคือพ่อกับแม่ไม่มี พ่อแม่ไปไหน เราอยากถามพี่แต่พี่หลับอยู่ข้างๆ เรา ใจเด็กอย่างเราหายวาบเมื่อตื่นมาไม่เจอพ่อกับแม่
นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเราลุกขึ้นนั่งมองไปรอบๆ มุ้ง ที่เราเห็นคือ เงาดำของผู้หญิงครึ่งตัวเหมือนเวลาเราถ่ายรูป 2 นิ้วประมาณนั้นอยู่ข้างมุ้งฝั่งติดข้างฝา
เรานะตกใจแต่คิดว่าเงาใครมาแกล้งเรา อยากรู้ว่าใครก็เอามือไปควานดู แต่ไม่มีเจอแต่ฝาบ้าน แล้วเงานั้นก็ไม่ได้หายไปไหนด้วย
เท่านั้นล่ะเราเขย่าพี่ชายที่นอนข้างๆ ร้องไห้ไปด้วยปลุกพี่ไปด้วย พี่เรามันก็งัวเงียตื่นขึ้นมาสิ เราก็บอกพี่นั่นผีๆ ผีๆ เท่านั้นล่ะกระเจิงวิ่งกันออกจากมุ้งไม่ทัน พ่อกับแม่ล็อกประตูบ้านเราสองคนออกไม่ได้ โชว์ดีที่ครัวบ้านเราล้อมสังกะสีไว้มีช่องที่เรากับพี่ปีนเล่นอยู่ประจำ
เราแข่งกับพี่เลยโดดลงจากบ้านจากตรงนั้นไม่กลัวเจ็บแต่กลัวผีมากกว่า ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปโน้นบ้านงานแต่งคนเยอะ
ร้องไห้ไปด้วยเล่าให้คนโตๆ ฟังเขาก็ไม่เชื่อ แต่บอกเลยว่าเรากลัวมากก จำฝังใจเลยเพราะมันใกล้มาก ทุกวันนี้ก็ยังจำได้ เล่ามาขนก็ลุกซู่เลย
วันนั้นถึงฟ้าจะสว่างแดดแรงแค่ไหนเราไม่กล้าขึ้นบ้านเลย จนพ่อกับแม่มานั่นล่ะ ส่วนพี่ชายเราขึ้นไปนอนกลางวันหน้าตาเฉย
เรานี้ไม่เอาไม่ขึ้นบ้านถ้าไม่มีใครไปด้วย ขนาดเราขึ้นไปพร้อมแม่เก็บมุ้งแล้วก็ไม่เจออะไร เรายังกลัวเกาะแม่แจเลย
หลังจากนั้นคนโตก็คุยกัน แม่ก็มาบอกว่าย่ามาอยู่เป็นเพื่อนไม่มีอะไร คือย่าเราตายไปแล้วตอนเรา3-4ขวบได้
เราจำได้ย่าเลี้ยงเรากับพี่เรา ไล่ตีเราสองคนที่หนีไปเล่นน้ำคลองได้ แต่เราบอกไม่ใช่ ที่เราเห็นผมยาวปะบ่าแต่ย่าเราผมแค่หู
พ่อเราบอกว่าเป็นแม่ของพี่ชายคนโตที่ตายไปตอนออกลูกอีกคน แม่เราเป็นเมียคนที่สองของพ่อหลังจากเมียแรกพ่อออกลูกสาวแล้วตาย
เล่ามาแล้วขนลุก ใครจะเชื่อไม่เชื่อแล้วแต่นะ เราเป็นนักเขียนแต่เรื่องนี้เจอมากับตัวเองสมัยเด็กๆ มันหลอนจนจำได้ชัดเจนมาก แต่จากวันนั้นก็ไม่เคยเจออีกเลย ไว้มาเล่าให้ฟังใหม่นะ มีอีกเรื่องที่น่าประหลาดเอาไว้ก่อนดีกว่า
มือใหม่หัดตั้งกระทู้ไม่รู้แท้็กยังไง เอาเป้นว่ามันเกี่ยวกับบ้านเลยแท็กชายคา ไม่รู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ยไหม แต่มันน่าจะพิสูจน์ได้เลยแท็กหว้ากอด้วย
ขอบคุณที่อ่านค่ะ