ต้นเหตุให้เกิดกรรมคือ ผัสสะ ความดับแห่งกรรมมี เพราะมีความดับแห่งผัสสะ

กรรมชั่วคือกรรมดำ มีผล(วิบาก)ดำ

กรรมดีคือกรรมขาว มีผล(วิบาก)ขาว

กรรมทั้งดำทั้งขาว มีผล(วิบาก)ทั้งดำทั้งขาว)



เจตนาละกรรมดำ ที่มีผลดำเสีย

เจตนาละกรรมขาม ที่ผลขาวเสีย

เจตนาละกรรมทั้งดำทั้งขาว ที่มีผลทั้งดำทั้งขาวเสีย

เจตนาละกรรมทั้ง ๓ อย่างนี้ เป็นกรรมไม่ดำไม่ขาว มีผลไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม
อ้างอิง ไตร. บาลีสยามรัฐ ม.ม. ๑๓ / ๘๒ / ๘๘ พุทธ ๒๖๕.




อีกนัยหนึ่ง
กรรมไม่ดำไม่ขาว มีผลไม่ดำไม่ขาว คือ มรรคอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดประการ

เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม ได้แก่

สัมมาทิฏฐิคือความเห็นชอบ                          

สัมมาสังกัปปะคือความดำริชอบ

สัมมาวาจาคือวาจาชอบ

สัมมากัมมันตะคือการงานชอบ

สัมมาอาชีวะคืออาชีพชอบ

สัมมาวายามะคือความเพียรชอบ  

นี้เรียกว่า กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม

อ้างอิง จตุกฺก. อํ. ๒๑ / ๓๒๐- / ๒๓๗. อริย. ๘๖๒.


ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยพิจารณาที



                                                  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่