ซีรีย์ ลาออกมารวย ช่วยด้วย!! ตูเจ๊ง จนสำเร็จ Part.3
.
.
กลับมาเล่ากันต่อในช่วงที่แล้ว...
ผม : (Music)"ตะลึง ตึง ตึง... ตะลึง ตึง ตึง... ตะลึง ตึง ตึง..." (เพลงหยุด!) ขอโทษครับพี่เจ (ไม่ฮาพาตูเครียดเลย)
ก็อารมณ์มันค้างจาก Part 2 นี่นา ว่าแต่พี่เจเจอวิกฤตขนาดนี้เนี่ย จะจัดการยังไงต่อครับ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ
.
พี่เจ : ก่อนที่พี่จะเล่าต่อเนี่ย... ช่วยสั่งคาปูชิโน กะ มาม่อนเค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน ให้พี่หน่อยละกันนะ
.
ผม : ได้ครับพี่! น้องๆ ขอบลาๆ ตามนี้นะ ให้ไวๆ พี่เค้าเริ่มหิวละ...
หลังจากพี่เจทาน คาปูชิโน กะมาม่อนเค้กไป 2 คำ ก็เริ่มเล่าให้ผมฟังต่อ...
.
.
ระหว่างที่พี่กำลังตะลึง! กับปัญหาที่เราเผชิญหน้าอยู่นั้น...
หัวหน้าเรียกประชุมประจำเดือนพอดี น้องที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์ด้วยกัน
ก็หันมาบอกว่า... พี่เจ! วันนี้เรามีประชุมนะพี่...
.
คงเป็นเพราะเห็นพี่ นั่งคิดอะไรอยู่ในใจ แบบไม่พูดไม่จากับใครเลยทั้งวัน
ก็เลยทัก เพื่อเรียกสติกลับคืนมา ไม่งั้นเดี๋ยวเงินเกินเงินขาดพาลจะยุ่งไปทั้งแผนก
พอถึงเวลาทุกคนเดินขึ้นไปรวมกันที่ห้องประชุมชั้น 3
หัวหน้าฉายสไลด์ให้ดู เรามีโครงการดีๆจากสำนักงานใหญ่
.
ให้ตกแต่งสวนหน้าสาขา และบริเวณชั้นล่างของสาขา
มีการจัดแข่งขันกัน ระหว่างสาขา เพื่อชิงเงินรางวัลด้วย
อยากให้พวกเราช่วยกัน ใครจะอาสาอะไรบ้าง ใครจะเสนอไอเดีย แบบไหนดี
.
แต่ละฝ่ายต่างพากันเสนอไอเดีย แต่งแบบนั้นสิ แบบนี้ดีกว่า...
Marketing เสนอ...บลา บลา บลา
Operation เสนอ...บลา บลา บลา
ฝ่ายตรวจสอบ  เสนอ...บลา บลา บลา
.
เพื่อให้เกิดความยุติธรรม เรามาโหวตกันดีกว่า...
ใครชอบไอเดีย Marketing ยกมือ! ผลปรากฎ ยกกันใหญ่ 11 เสียง วู้วว วู้ววว
ใครชอบไอเดีย Operation ยกมือ! ผลปรากฏ ยกกันหมด รวมทั้งผู้จัดการสาขา เย้ เย้ !
ใครชอบไอเดีย ฝ่ายตรวจสอบ ยกมือ!  ผลปรากฏ ยกกันอยู่ 2 คน (มองหน้ากันเองเลิ่กลั่ก) เรียกเสียงฮ่าาา ได้ไม่น้อย...
.
(ดนตรีบรรเลงเพลง... ฮึกเหิม... ยังกะจะออกรบ "ยุทธหัตถี" ช้างชนช้าง! เอ้าาา ดื่มมมม !!!)
เมื่อฝ่ายพี่เป็นผู้กำชัยในครานี้ แผนการรบ เพื่อตีค่ายข้าศึกให้พ่ายแพ้สิ้นไปจึงอุบัติขึ้น...
.
โป๊ก !!! เจๆ เป็นอะไรอ่ะ พี่เรียกไม่ได้ยินรึไง  (พี่มัวแต่ใจลอย... หัวหน้า แกเลยเดินมาเขกหัวพี่)
เรื่องตกแต่งสวนอ่ะ พี่มอบหมายให้เจรับไปดูแลนะ พี่มีงบประมาณให้.................เท่านี้นะ ครับพี่ เดี๋ยวเจจัดการให้ครับ
.
ด้วยความที่พี่อ่านหนังสือเยอะ อ้อ !... ลืมบอกไป
พี่ขอเล่าขยายความตรงนี้หน่อยนะ  หนังสือที่พี่อ่าน
ส่วนใหญ่ 90 % จะเป็นพวกหนังสือตกแต่งบ้านและสวน
.
พี่ชอบดู ชอบศึกษา บางเล่มพี่ก็คิดว่า ว้าว! แต่งสวนสวยมากเลยอ่ะ
(มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง กุ๊งกิ๊ง ยุ้งยิ้ง ชักเยอะๆแระ...)
เค้าทำได้ เราก็ต้องทำได้สิ คิดแล้วก็เริ่มลงมือ (ททท.= ทำทันที)
.
.
"ใช้ทรัพยากรที่เรามี ให้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อน  
ไม่ใช่มองหาสิ่งที่คนอื่นมี แบบนั้นเราจะขาดทั้งชีวิต"
.
.
พี่ก็หัดทำ หัดตกแต่งสวนเองที่บ้าน ไปๆมาๆ
เริ่มรับงานตกแต่งต้นไม้ดอกไม้บ้าง ตามโอกาสจะอำนวย
ก็ได้เรียนรู้เรื่องตกแต่งต้นไม้ แต่งสวน ได้ไปเรียนรู้กับพี่ที่เค้าขายต้นไม้ดอกไม้ด้วย
ก็ทำให้ทักษะ การตกแต่ง การออกแบบพัฒนามากขึ้น
.
พี่ยังเคยคิดจะเปิดร้านขายต้นไม้ดอกไม้ รับตกแต่งสวนเลย
แต่คิดอีกทียังไม่ถึงเวลา และโอกาสที่เหมาะสม ขอทำงานเก็บเงินไปก่อนดีกว่า...
ทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทางผู้จัดการสาขา เค้าถึงมอบหมายให้พี่รับงานนี้ไปดูแล
.
ส่วนร้านกาแฟพี่ ก็ยังขายได้เรื่อยๆนะ ยังไม่ถึงกับวิกฤตจนต้องเลิกกิจการ
ช่วงหลังพี่ไม่ได้เอาขนมปังกะแซนวิชมาขายแล้ว เพื่อเป็นการลดต้นทุนลง เพราะเพื่อนๆที่ทำงานพี่
สั่งข้าวกล่องมาทานกันตอนเช้า และพักเที่ยง แต่ก็ยังสั่งกาแฟ ชาเขียว ฯลฯ ที่ร้านพี่ด้วย...
.
หลังจากพวกเราช่วยกันตกแต่งสวนหน้าสาขา และตกแต่งต้นไม้ประดับประดาด้วยลูกโป่งเรียบร้อย
ออกมาสวยใช้ได้ทีเดียว พวกเราถ่ายรูปปีใหม่กัน และส่งไปประกวด หวังอย่างเดียวคือ ชนะ!
ผลปรากฏว่า...เราได้รองอันดับ 2 ได้เงินรางวัลมานิดหน่อย หัวหน้าก็ซื้อข้าวเที่ยงเลี้ยงกันในสาขา
คนอื่นดีใจรึเปล่าพี่ไม่รู้ พี่รู้แต่เพียงว่า... พี่ดีใจมากกก ฟินฝุดๆ ถือว่าเป็นรางวัลความสำเร็จแรกในชีวิต...
.
พี่เลยคิดทบทวน ถามใจเราดูว่า ตกลงเราจะเอาดีด้านไหนกันแน่ ?
ต้องเลือกสักอย่างนึง เพราะจับปลาสองมือไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่ใช้แห... เย้ยยย !!!
.
พี่เลยตัดสินใจ เซ้งร้านกาแฟให้น้องที่มาช่วยขายนี่แหละ เค้าจะได้มีอาชีพ
มีกิจการของตัวเอง พร้อม survey ที่ขายใหม่และต่อรองค่าเช่าที่ให้ด้วย
พี่สอนหมดทุกอย่าง ทุกกระบวนท่า ซื้อของที่ไหน คำนวณต้นทุนกำไรยังไง
ก็ตัดใจขายในราคาหลักหมื่นนิดๆ  (หลังจากนั้น...ได้ข่าวว่ากิจการน้องไปได้ดี พี่ก็ดีใจกับเค้าด้วย)
.
หลังจากนั้น อยู่มาวันนึง
มีลูกค้าของทางแบงค์เข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินที่สาขา
ได้สอบถามว่า "ตกแต่งสาขาใหม่หรอ... สวยดีนะ ใครทำอ่ะ"
.
ด้วยความที่ไม่ให้น่าเกลียด พี่เลยตอบไปว่า "ขอบคุณครับ... พวกเราทุกคนช่วยกันทำครับ"
เป็นโครงการดีๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้ว...รู้สึกประทับใจเมื่อแรกเห็นครับ
.
ลูกค้ารายนั้นก็กลับไป ครั้งต่อมา มาถามอีก แต่ไม่ได้ถามเจ้าหน้าที่แล้ว เดินเข้าไปคุยกับ
ผู้จัดการสาขาเลย ทำทีเหมือนเข้าไปทักทายคุยเล่นตามประสาลูกค้าขาประจำ แต่ก็แอบถามว่า...
ใครเป็นเจ้าของไอเดียตกแต่ง ผู้จัดการเลยตอบไปว่า... "น้องเจครับ น้องเจที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ครับ"
.
ลูกค้าตอบ... "อืมมม ตกแต่งสวยดีนะค่ะ พี่มีธุระไปต่อพอดี....
ไม่รบกวนเวลาทำงานของผู้จัดการดีกว่า ขอตัวก่อนนะค่ะ ขอบคุณค่ะ"
.
หลังเลิกงาน ผู้จัดการก็เดินมาบอกพี่ว่า "เจ ลูกค้าฝากชมมาว่า ตกแต่งสาขาสวยนะ" พี่ก็ตอบ "ขอบคุณครับพี่"
เราก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คิดว่าคงเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากนั้น 1 เดือนต่อมา...
.
ลูกค้ารายนั้นได้ส่งคนมาทาบทามพี่ว่า  "สนใจไปร่วมงานด้วยกันมั้ย"
เจ๊ฝากมาบอกว่า... ขอคำตอบด่วนที่สุด !!!  ภายใน 1 สัปดาห์ !!!
โดยยื่นข้อเสนอแบบปิดประตูปฎิเสธ แต่ไม่ใช่งานตกแต่งสวนดอกไม้นะ...
.
.
แต่เป็นงาน... "........จุด......จุด......จุด.........."
.
.
พักเบรค ชมสิ่งที่น่าสนใจกันสักครู่!! แล้วกลับมาลุ้นกันต่อว่า...
พี่เจจะตัดสินใจยังไง  จะลาออกไปตามฝัน หรือจะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา...
เอ๊ะ! แล้วงานนั้นเป็นงานอะไร หวังว่าคงไม่ใช่ ...."ผัวเจ๊"..... นะค๊าฟ โอ้ววว ไม่นะพี่เจ...
.
.
(ติดตาม Part 4 ได้เร็วๆนี้ครับ...)