จะแปลเหตุผลที่สังคมไทยมีสินสอดให้ฝรั่งเข้าใจยังไงดี

คือตอนนี้กำลังเรียนเรื่องการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมมีปัญหาครับ

จะแปลตัวภาษาจากไทยเป็นอังกฤษให้ฝรั่งเข้าใจ แล้วมันดูมีเหตุมีผลยังไงดีครับ คือ เช่น

ค่าสินสอด พ่อแม่บางคนกลัวลูกไม่มีหลักประกัน แต่งไปอยู่ดีๆ ผู้ชายมีชู้ขึ้นมากลัวลูกลำบากส่วนใหญ่เค้าก็ไม่คืนก่อน เพราะจะยึดไว้เป็นหลักประกันให้ลูก ถ้ามีปัญหาอะไรลูกตัวเองจะต้องไม่ลำบาก พ่อแม่จะคำนึงถึงข้อนี้มาก

ส่วนบางคนก็คืน ถ้าผู้ใหญ่มั่นใจในตัวเด็กทั้งสองมากๆก็จะคืนให้ไปตั้งเนื้อตั้งตัวกันค่ะ

อันนี้แล้วแต่คนจริงๆ อยู่ที่ผู้ใหญ่ว่าคิดยังไง


หรือ
สินสอด ล้านเนี่ย มันเหมือนเป็นค่าน้ำนมที่แม่เลี้ยงพวกเธอมา
แล้วก็ ถือเป็นการพิสูจน์ในความมั่นคงของผู้ชายด้วย
แต่ผุ้หญิงไม่ได้มีเจตนาเกาะผู้ชายกินหรอก แต่คงประมาณว่า ขอให้ผู้ชายมีกินมีใช้ แบบไม่ต้องลำบาก และมาเกาะเธอกิน อะไรประมาณนั้น)
สรุปคือ ตัวเลข10ล้าน จะเป็นตัวพิสูจน์ความมั่นคงได้.........


อย่างข้างบนนี้เราเข้าใจแบบไทยๆ ใช่ มั้ย แต่พอจะแปลมาเป็นอีกภาษาหนึ่ง มันดูไม่ได้เลย ไม่มีเหตุอะไรรองรับเลย ดูเห็นแก่ตัวสุดๆ ฝรั่งมันจะเกิดคำถามขึ้นมาทันที แล้วยู รักกันยังไง ทำไมมีพ่อแม่มาเกี่ยวแล้วพ่อแม่ยูจะไปยุ่งเกียวตลอดมั้ย แล้วเงินเข้ามาเกี่ยวข้องกับความรักได้ไง ทำไมต้องเก็บ แต่งแล้วใช้เงินค่าเลี้ยงดู แล้วไอ้ค่าน้ำนม กรูจะแปลให้ฝรั่งมันเข้าใจยังดีว่ะ มันจะต้องถามแน่ว่าแล้วผู้ชายเลี้ยงมาใช้อย่างอื่นเลี้ยงเหรอ ตอนแรกว่าจะใช้คำว่าวัฒธรรมง่าย แต่มันต้องถามกลับว่าวัมนธรรมนี้มายังไง มีฐานคิดอะไร จะบอกว่าสมัยก่อนผู้ชายต้องเข้าบ้านฝ่ายหญิง แล้วตอนนี้ต้องเข้าอีกรึเปล่า แล้วทำไมต้องจ่ายเงินเยอะๆกับงานแต่ง

หรือ การพิสูจน์ความมั่นคง จากสินสอด แต่ไม่ได้เกาะนะแค่อยากรู้ความมั่งคง คือพอแปลแล้วมันไม่เมดเซนกัน

อีกอันคือมันจะต้องถามแน่ว่า แล้วการได้เงินมาได้ยังไง สมมุติเงิน เดือน ละ 2หมืน แล้วค่าสินสอด 5 ล้าน มันจะได้ได้ไงว่ะ เก็บเงินเอง หรืออย่างที่สัมคมไทย เรื่องค่าสินสอดเนี่ย มันเป็นการพิสูจน์ความตั้งใจของฝ่ายชาย มันไม่เมคเซนแปลแล้วมันไม่ได้เหตุผล
แล้วทำไมผุ้หญิงสวยๆ การศึกษาดีๆ ถึงค่าสินสอดแพง
พาพันขอบคุณ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
มันหาอะไรไปอธิบายให้มันเมคเซ้นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะมันเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก
ความคิดเห็นที่ 17
สบายมาก จัดหั้ย ...

ค่าสินสอด พ่อแม่บางคนกลัวลูกไม่มีหลักประกัน แต่งไปอยู่ดีๆ ผู้ชายมีชู้ขึ้นมากลัวลูกลำบากส่วนใหญ่เค้าก็ไม่คืนก่อน เพราะจะยึดไว้เป็นหลักประกันให้ลูก ถ้ามีปัญหาอะไรลูกตัวเองจะต้องไม่ลำบาก พ่อแม่จะคำนึงถึงข้อนี้มาก
ส่วนบางคนก็คืน ถ้าผู้ใหญ่มั่นใจในตัวเด็กทั้งสองมากๆก็จะคืนให้ไปตั้งเนื้อตั้งตัวกันค่ะ
อันนี้แล้วแต่คนจริงๆ อยู่ที่ผู้ใหญ่ว่าคิดยังไง


The money is just an insurance. In case of you turned into f**ker jerk, she will have enough fund to take care of her self.
Parents are very serious about this. You need to pay in cash, gold and land.
In very rare case, some parents return this money to both of you to start your life. Anyway, do not expect that.
It's depends on each family.

สินสอด ล้านเนี่ย มันเหมือนเป็นค่าน้ำนมที่แม่เลี้ยงพวกเธอมา
แล้วก็ ถือเป็นการพิสูจน์ในความมั่นคงของผู้ชายด้วย
แต่ผุ้หญิงไม่ได้มีเจตนาเกาะผู้ชายกินหรอก แต่คงประมาณว่า ขอให้ผู้ชายมีกินมีใช้ แบบไม่ต้องลำบาก และมาเกาะเธอกิน อะไรประมาณนั้น)
สรุปคือ ตัวเลข10ล้าน จะเป็นตัวพิสูจน์ความมั่นคงได้.........


This money is a cost of her mother milk, your father feed you by grass, idiot.
It's to prove that you've enough money.
Hold on, it doesn't mean we're going to rob you, just need to make sure your will have enough money for me. Something like that.
10 million Baht is appropriate amount, my mother's milk imported from Venus, your father's grass is from Mars. Okay?

ตอนจบ แถมให้

Finally, as I described and trying to explain to you about this traditional. You should realized that you need to shut up and pay.

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 28
ไม่ได้เข้ามาตอบคำถามนะ ต้องขอโทษจขกท.ไว้ก่อน ที่ไม่ตอบแล้วมาเม้นท์ทำไม

เพราะเราอ่านที่คุณเขียนตอบ ๆ มาเรารู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเหมือนคุณไม่ได้อยากรู้ว่าจะพูดเป็นอังกฤษอย่างไร
แต่เพราะคุณต่อต้านและอคติกับมันจนไม่สามารถจะหาคำอธิบายให้มันได้ต่างหาก

ส่วนตัวเรานั้นไม่เคยยึดติดกับประเพณีความเชื่ออะไรอยู่แล้ว ไม่ว่าไทยหรือฝรั่ง เรื่องเยอะทั้งนั้น
เราไม่เรียกสินสอด น้องสาวเราก็ไม่ จดทะเบียนยังไม่อยากจะจดเลย
แต่เราเข้าใจและไม่ก้าวก่ายคนที่เค้ายึดติดค่านิยมพวกนี้นะ
หลายกระทู้ รวมทั้งคห.ในนี้เค้าก็อธิบายว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไรอยู่แล้ว

ฉะนั้น ถึงเราจะไม่ศรัทธาค่านิยมนี้ แต่เราก็ไม่สนว่าฝรั่งจะคิดอะไรยังไง รับได้ไม่ได้
คือให้อธิบายอ่ะได้ แต่ไม่จำเป็นต้องไปโน้มน้าวหรือเอาให้แน่ใจว่าต้องเห็นด้วยกะชั้นนะ ไม่งั้นไม่ยอม
ค่านิยมของฝรั่งบางอย่างที่เราส่ายหัวดิก เรายังไม่เห็นจะต้องรอให้ใครมาโน้มน้าวให้เราเชื่อและเข้าใจเลย
ต่างคนต่างอยู่ไปไม่ต้องเถียงกัน มีเรื่องอื่นที่น่าปวดหัวอีกเยอะ ขืนเถียงเอาชนะกันหมดทุกเรื่องปวดหัวตาย
ความคิดเห็นที่ 31
เลิกแปลครับ จขกท.

ไม่ควรอธิบายอะไร ที่ตัวเองไม่เข้าใจ ให้คนอื่นฟังครับ โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรม
ความคิดเห็นที่ 11
ประเพณี สินสอด นั้น แต่โบราณเป็นการเสนอจากฝ่ายเจ้าบ่าว
ว่าพ่อแม่เจ้าสาว เลี้ยงลูกมาเป็นแม่ศรีเรือน มีค่าควรทรัพย์เท่าไร

เขายกย่องหญิงสาวที่มีคนหมายปองกันมากหลาย ว่า แม่ร้อยชั่ง อันเป็นจำนวนเงินที่สูงมากในยุคนั้น
ถ้าฝ่ายเจ้าบ่าวอยากได้ไปร่วมครองเรือน เขาก็กล้าเสนอสินสอดมหาศาลนั้น

อยู่ไปๆอย่างไร กลายเป็นฝ่ายพ่อแม่ผู้หญิงตั้งราคาสินสอดเอาไว้ ไม่มีปัญญามาสู่ขอ ก็อดไป
ถือว่าเป็นเงินชดเชยค่าเลี้ยงดูลูกสาวมาจนโต แข่งกันตั้งราคา ไม่ให้น้อยหน้าชาวบ้าน

จะว่าเอาธรรมเนียมสินสอดมาจากอินเดีย ที่บ้านผู้หญิงเป็นฝ่ายจ่ายเงิน ให้ผู้ชายคุณสมบัติสูงๆ เช่น เป็นหมอ เป็นทนาย
ก็พูดไม่ถนัด เพราะฝ่ายที่รับเงินสินสอดไปนั้น ต้องมาหาเลี้ยงฝ่ายที่จ่ายไปชั่วชีวิต จ่ายหนเดียว ได้คุ้มค่า

แต่บ้านเรา คนจ่ายสินสอด ยังต้องทำมาหาเลี้ยงตัวเป็นเกลียวอยู่ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่