โมจิ (Mochi) ข้าวเหนียวหุงแล้วตำตุ้บตั้บๆจนกลายเป็นก้อนแป้งเหนียวหนุบหนับ กินแล้วมันเขี้ยวนั้น เป็นของกินอมตะคู่ประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลาช้านาน
แต่สมัยนี้การตำโมจิทานกันเองของชาวบ้านก็เริ่มค่อยๆหายไป เพราะการตำจะต้องใช้ครกและสากขนาดใหญ่ และคนที่มีกำลังหลายๆคนช่วยกัน โมจิในปัจจุบันหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้า ราคาไม่แพง ถ้าต้องการตำทานเอง ก็ยังมีเครื่องทำโมจิไฟฟ้า แค่กดปุ่มก็สามารถทำโมจิสดๆทานเองที่บ้านได้
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไม่ให้ธรรมเนียมนี้หายไปจากประเทศ ที่ต่างๆในญี่ปุ่นจัดให้มีการตำโมจิทานประจำปีอย่างน้อยๆปีละหน โดยเฉพาะในช่วงก่อนขึ้นปีใหม่ เนื่องจากจะเป็นฤดูกาลที่คนทานโมจิมากเป็นพิเศษ อีกทั้งโมจิจะใช้เป็นเครื่องประดับมงคลต้อนรับเทพเจ้าด้วย (ในรูป)
หมู่บ้านที่จขกท.อาศัยอยู่ในเมืองเซนได เพิ่งมีเทศกาลการตำโมจิของหมู่บ้านไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เริ่มต้นจากเอาข้าวโมจิแช่น้ำทิ้งไว้คืนหนึ่ง
วันรุ่งขึ้นก็เอามาหุงในลังถึง หมู่บ้านของจขกท.เอามาทำกันในสวนสาธารณะเลยค่ะ
พอสุกก็เอามาใส่ครกไม้ขนาดใหญ่ แล้วก็ใช้สากยักษ์ที่รูปร่างเหมือนค้อน ตอกๆตำๆหลายๆหนจนข้าวกลายเป็นก้อนแป้ง
ลำบากหน่อยตรงที่การยกสากขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อฟาดตำก้อนแป้งมหึมานั้นต้องใช้แรงมาก แต่ในหมู่บ้านที่อยู่นี่มีแต่ผู้สูงอายุเสียเยอะ (นี่คือปัญหาสังคมของญี่ปุ่นขณะนี้) ยังดีที่อีกสักพักมี 2 หนุ่มมาช่วย
เหนื่อยก็จริงแต่โมจิที่ได้อร่อยสุดๆเลยล่ะค่ะ อุ่นๆนุ่มเหนียวกำลังดี เอามาคลุกเคล้ากับสิ่งที่เราอยากทาน เช่นถั่วแดงบดหวาน (an) ผงถั่วเหลือง (kinako) งาบด (goma) หรืออื่นๆ
ที่เซนได วิธีทานที่เป็นเอกลักษณ์คือทานกับถั่วหมัก(natto )
โมจิถั่วแระบด (Zunda mochi) เป็นของพื้นเมืองเซนไดที่นิยมซื้อให้เป็นของฝากกันค่ะ
ขนมที่คล้ายๆโมจิคือOhagi เป็นข้าวที่ตำแบบไม่ละเอียด (อาจเป็นข้าวโมจิหรือข้าวธรรมดาผสมโมจิก็ได้) แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนๆ
ที่เซนไดมีของน่าทานอีกอย่างคือ Zunda ohagi ค่ะ
Zenzai คือถั่วแดงต้มใส่น้ำตาลและเกลือ แล้วใส่โมจิปิ้ง
จุเฮียวโมจิ เป็นแป้งโมจิแผ่นบางๆห่อครีมชีสหวานๆข้างใน (Juhyo หรือ Ice monster เป็นปรากฏการณ์การจับตัวของเกร็ดหิมะบนสนชนิดหนึ่งบนเทือกเขาสูงไม่ไกลจากเซนไดค่ะ)
เมืองทางเหนือเซนไดขึ้นไป มีการทานโมจิกันอย่างโปรดปรานจนถึงกับเป็นอาหารหลัก จ.อิวะเตะที่อยู่เหนือเซนไดไปชั่วโมงเศษๆ มีหลายร้านที่เสริฟเซ็ตโมจิมื้อกลางวัน เช่นในรูป เซ็ตนี้ 880 เยน มีโมจิปรุง 9 รสชาติคือ วอลนัต ผักเขียว กุ้งแห้ง ขิง หัวไชเท้าฝนปรุงรสน้ำส้ม เต้าหู้หวาน ถั่วแระบด ถั่วแดงบดหวาน และงาดำบดหวาน โมจิแต่ละก้อนรสต่างๆกัน ทานไม่เบื่อเลยค่ะ
นอกจากนั้นก็มี ซะกุระโมจิ ที่ทั่วญี่ปุ่นทานเพื่อฉลองวันเด็กผู้หญิง (3 มีค.)กัน ข้างในเป็นไส้ถั่วแดง ข้างนอกเป็นโมจิที่ห่อด้วยใบซะกุระแช่น้ำเกลืออีกชั้น เวลาทานอย่าลอกใบออกนะคะ เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆของใบนี่คือความน่าทานของขนมชนิดนี้ กัดเข้าปากทานทั้งใบเลยค่ะ
คะชิวะโมจิ คือโมจิที่ญี่ปุ่นทานฉลองวันเด็กผู้ชาย (5 พค.) ข้างในเป็นถั่วแดง (อีกแล้ว)หรืออาจเป็นถั่วขาวบดก็ได้ ข้างนอกเป็นแป้งโมจิหุ้มด้วยใบคะชิวะ เวลาทานให้ลอกใบออกค่ะ
นอกจากนั้น โมจิก็ยังนำมาใส่ในซุปทานฉลองปีใหม่ ตามธรรมเนียมชาวเซนได เรียกว่า เซนไดโซนิ (Sendai Zoni)
เครื่องปรุงที่ใส่คือ หัวไชเท้า แครอท รากโกโบ เต้าหู้แห้งโคยะ ไข่ปลาแซลมอน โมจิ ผักเซริ และน้ำซุปค่ะ
จะให้หรูหน่อยก็อาจใส่ปลาย่าง (ปลาฮะเซะ) ลงไปด้วยก็ได้
เขียนไปเขียนมา จขกท.เกิดหิวแล้วค่ะ วันนี้ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะคะ วันหลังจะเขียนวิธีทำด้วย
แม่บ้านไทยเล่าวิธีกินโมจิของชาวเซนได (Japan)
แต่สมัยนี้การตำโมจิทานกันเองของชาวบ้านก็เริ่มค่อยๆหายไป เพราะการตำจะต้องใช้ครกและสากขนาดใหญ่ และคนที่มีกำลังหลายๆคนช่วยกัน โมจิในปัจจุบันหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้า ราคาไม่แพง ถ้าต้องการตำทานเอง ก็ยังมีเครื่องทำโมจิไฟฟ้า แค่กดปุ่มก็สามารถทำโมจิสดๆทานเองที่บ้านได้
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไม่ให้ธรรมเนียมนี้หายไปจากประเทศ ที่ต่างๆในญี่ปุ่นจัดให้มีการตำโมจิทานประจำปีอย่างน้อยๆปีละหน โดยเฉพาะในช่วงก่อนขึ้นปีใหม่ เนื่องจากจะเป็นฤดูกาลที่คนทานโมจิมากเป็นพิเศษ อีกทั้งโมจิจะใช้เป็นเครื่องประดับมงคลต้อนรับเทพเจ้าด้วย (ในรูป)
หมู่บ้านที่จขกท.อาศัยอยู่ในเมืองเซนได เพิ่งมีเทศกาลการตำโมจิของหมู่บ้านไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เริ่มต้นจากเอาข้าวโมจิแช่น้ำทิ้งไว้คืนหนึ่ง
วันรุ่งขึ้นก็เอามาหุงในลังถึง หมู่บ้านของจขกท.เอามาทำกันในสวนสาธารณะเลยค่ะ
พอสุกก็เอามาใส่ครกไม้ขนาดใหญ่ แล้วก็ใช้สากยักษ์ที่รูปร่างเหมือนค้อน ตอกๆตำๆหลายๆหนจนข้าวกลายเป็นก้อนแป้ง
ลำบากหน่อยตรงที่การยกสากขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อฟาดตำก้อนแป้งมหึมานั้นต้องใช้แรงมาก แต่ในหมู่บ้านที่อยู่นี่มีแต่ผู้สูงอายุเสียเยอะ (นี่คือปัญหาสังคมของญี่ปุ่นขณะนี้) ยังดีที่อีกสักพักมี 2 หนุ่มมาช่วย
เหนื่อยก็จริงแต่โมจิที่ได้อร่อยสุดๆเลยล่ะค่ะ อุ่นๆนุ่มเหนียวกำลังดี เอามาคลุกเคล้ากับสิ่งที่เราอยากทาน เช่นถั่วแดงบดหวาน (an) ผงถั่วเหลือง (kinako) งาบด (goma) หรืออื่นๆ
ที่เซนได วิธีทานที่เป็นเอกลักษณ์คือทานกับถั่วหมัก(natto )
โมจิถั่วแระบด (Zunda mochi) เป็นของพื้นเมืองเซนไดที่นิยมซื้อให้เป็นของฝากกันค่ะ
ขนมที่คล้ายๆโมจิคือOhagi เป็นข้าวที่ตำแบบไม่ละเอียด (อาจเป็นข้าวโมจิหรือข้าวธรรมดาผสมโมจิก็ได้) แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนๆ
ที่เซนไดมีของน่าทานอีกอย่างคือ Zunda ohagi ค่ะ
Zenzai คือถั่วแดงต้มใส่น้ำตาลและเกลือ แล้วใส่โมจิปิ้ง
จุเฮียวโมจิ เป็นแป้งโมจิแผ่นบางๆห่อครีมชีสหวานๆข้างใน (Juhyo หรือ Ice monster เป็นปรากฏการณ์การจับตัวของเกร็ดหิมะบนสนชนิดหนึ่งบนเทือกเขาสูงไม่ไกลจากเซนไดค่ะ)
เมืองทางเหนือเซนไดขึ้นไป มีการทานโมจิกันอย่างโปรดปรานจนถึงกับเป็นอาหารหลัก จ.อิวะเตะที่อยู่เหนือเซนไดไปชั่วโมงเศษๆ มีหลายร้านที่เสริฟเซ็ตโมจิมื้อกลางวัน เช่นในรูป เซ็ตนี้ 880 เยน มีโมจิปรุง 9 รสชาติคือ วอลนัต ผักเขียว กุ้งแห้ง ขิง หัวไชเท้าฝนปรุงรสน้ำส้ม เต้าหู้หวาน ถั่วแระบด ถั่วแดงบดหวาน และงาดำบดหวาน โมจิแต่ละก้อนรสต่างๆกัน ทานไม่เบื่อเลยค่ะ
นอกจากนั้นก็มี ซะกุระโมจิ ที่ทั่วญี่ปุ่นทานเพื่อฉลองวันเด็กผู้หญิง (3 มีค.)กัน ข้างในเป็นไส้ถั่วแดง ข้างนอกเป็นโมจิที่ห่อด้วยใบซะกุระแช่น้ำเกลืออีกชั้น เวลาทานอย่าลอกใบออกนะคะ เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆของใบนี่คือความน่าทานของขนมชนิดนี้ กัดเข้าปากทานทั้งใบเลยค่ะ
คะชิวะโมจิ คือโมจิที่ญี่ปุ่นทานฉลองวันเด็กผู้ชาย (5 พค.) ข้างในเป็นถั่วแดง (อีกแล้ว)หรืออาจเป็นถั่วขาวบดก็ได้ ข้างนอกเป็นแป้งโมจิหุ้มด้วยใบคะชิวะ เวลาทานให้ลอกใบออกค่ะ
นอกจากนั้น โมจิก็ยังนำมาใส่ในซุปทานฉลองปีใหม่ ตามธรรมเนียมชาวเซนได เรียกว่า เซนไดโซนิ (Sendai Zoni)
เครื่องปรุงที่ใส่คือ หัวไชเท้า แครอท รากโกโบ เต้าหู้แห้งโคยะ ไข่ปลาแซลมอน โมจิ ผักเซริ และน้ำซุปค่ะ
จะให้หรูหน่อยก็อาจใส่ปลาย่าง (ปลาฮะเซะ) ลงไปด้วยก็ได้
เขียนไปเขียนมา จขกท.เกิดหิวแล้วค่ะ วันนี้ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะคะ วันหลังจะเขียนวิธีทำด้วย