เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราอาจละเลยน่ะ พอได้อ่านรู้สึกขอบคุณมาก เพราะ บ้างครั้งเวลากินยาจะแบบยังไม่ตอนนี้ก็ได้ อีกแปบอีกห้านาทีอะไรแบบนี้ หลังจากนี้จะให้ความสำคัญมากชึ้น มันสำคัญจริงๆน่ะ
- เพราะ เราต้องการให้ได้รับยาขณะท้องว่าง เพื่อให้ยาดูดซึมได้ดีที่สุด ยาจำพวกที่ต้องกินแบบนี้ ได้แก่ เพนนิซิลลิน, แอมพิซิลิน, ไรแฟมพิซิล เป็นต้น
กินหลังอาหารทันที = กินก่อนอาหารทันที = กินพร้อมอาหาร
- ยาบางตัวหากกินตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพราะอาหารมาก ทำให้คลื่นใส้อาเจียน แต่ถ้ากินพร้อมอาหารจะช่วยลดการระคายเคืองได้ ยาพวกนี้ได้แก่ ยาแก้ปวดชนิดต่างๆ เช่น แอสไพริน, ยาแก้ปวดข้อ เช่น เพนนิลบิวทาโซน, ไอบูโปรเฟน, อินโดเมดทาชิน เป็นต้น
กินยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง
- ยาบางชนิดจะออกฤทธิ์นาน เมื่อกินหลังอาหาร เช่น ยาลดกรด ซึ่งมีผู้ทดลองได้ผลว่า ถ้าให้ยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง ยาจะออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง
กินก่อนนอน
- ยาบางชนิดกินแล้วทำให้ง่วงมึนงง เช่น ยาคลายกังวล ยาแก้แพ้ ซึ่งเป็นส่วนผสมของยาแก้หวัด ลดน้ำมูก จึงควรกินก่อนนอน
การกินยาก่อนอาหาร-หลังอาหาร สำคัญอย่างไร?
กินหลังอาหารทันที = กินก่อนอาหารทันที = กินพร้อมอาหาร
- ยาบางตัวหากกินตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพราะอาหารมาก ทำให้คลื่นใส้อาเจียน แต่ถ้ากินพร้อมอาหารจะช่วยลดการระคายเคืองได้ ยาพวกนี้ได้แก่ ยาแก้ปวดชนิดต่างๆ เช่น แอสไพริน, ยาแก้ปวดข้อ เช่น เพนนิลบิวทาโซน, ไอบูโปรเฟน, อินโดเมดทาชิน เป็นต้น
กินยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง
- ยาบางชนิดจะออกฤทธิ์นาน เมื่อกินหลังอาหาร เช่น ยาลดกรด ซึ่งมีผู้ทดลองได้ผลว่า ถ้าให้ยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง ยาจะออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง
กินก่อนนอน
- ยาบางชนิดกินแล้วทำให้ง่วงมึนงง เช่น ยาคลายกังวล ยาแก้แพ้ ซึ่งเป็นส่วนผสมของยาแก้หวัด ลดน้ำมูก จึงควรกินก่อนนอน