ตำรวจไทยVSชาวต่างชาติ (ถึงกับบอกว่า..ไม่มาแล้วเมืองไทย)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆในพันทิป เราขอออกตัวไว้ก่อนนะคะว่า..นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตและปกติไม่ค่อยชอบเขียนเรื่องราวเพราะเป็นคนเรียงลำตดับไม่เก่งค่ะ^^ อาจจะวกไปวนมานิดนึงให้อภัยด้วยนะคะ แต่อยากขอความรู้จากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในพันทิปค่ะ

เริ่มเลยนะคะ...เหตุเกิดที่จ.ภูเก็ตในวันที่ 25ก.ย.57  เราได้รับสายจากแฟนซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ขอแทนเค้าว่าAนะคะ Aบอกเราว่าเค้าถูกจับเพราะชกต่อยกับต่างชาติอีกคน ขอแทนว่าชื่อ B เราจึงถามว่าให้ไปหาที่ภูเก็ตมั๊ยเพราะขณะนั้นเราทำงานอยู่ที่กทม. Aก็บอกไม่เป็นไรแค่เรื่องชกต่อยกัน แล้วเราได้คุยกับตำรวจเค้าถามว่าpassport A อยู่ไหน..เราก็ตอบไปว่าในเซฟที่บ้านเพราะเค้ากลัวหาย แล้วตำรวจก็บอกว่าตอนนี้เค้าถูกควบคุมตัวแล้วให้Fax passportมา(แล้วบอกเบอร์แบบความเร็วสูง)  แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะแค่ผู้ชายต่างชาติ2คนชกต่อยกัน 500ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้รับการติดต่อจากแฟนเราอีกเลย..จน 2ทุ่มเราเลิกงานก็โทรไปหาแฟนเรา ติดค่ะแต่ไม่มีคนรับสาย 4-5ครั้งได้ ทีนี้เราไม่สบายใจแล้วค่ะ นั่งคิดอยู่ซักพักว่าจะทำไงดี...เราเลยโทรไปถามน้องที่ทำสระว่ายทำที่บ้านว่าคุณA อยู่บ้านมั๊ย น้องบอกว่า..ไม่ครับผมว่าน่าจะยังไม่ได้กลับมาจากโรงพัก เราเลยบอกว่า..ถ้าเคลียงานเสร็จแล้วรบกวนไปดูคุณAให้พี่หน่อยนะ ซื้อข้าวกับน้ำไปให้แกด้วย

23.30น. โดยประมาณ...น้องทำสระก็ไปถึง แล้วโทรมาหาเราว่าคุณAถูกขังอยู่ แต่ตำรวจหน้าห้องขังบอกว่าเอาไปให้ไม่ได้เดี๋ยวรบกวนเค้านอนกันหมดแล้ว พรุ่งนี้8โมงจะเอาเข้าไปให้ นั่นล่ะค่ะ ทำเอาเรานอนไม่หลับทั้งคืน พอตี3อาบน้ำแต่งตัวไปสนามบิน ไฟล์แรกของวันศุกร์ที่26ก.ย. ภูเก็ตประมาณ9โมงกว่า นั่งtaxiไปถึงโรงพักประมาณ9.30น.

เมื่อถึงโรงพัก มุ่งหน้าประกันตัว...ด้วยความที่เราผู้หญิงคนเดียว ไม่เคยขึ้นโรงขึ้นศาล ถามคนนู้นคนนี้ทีว่าประกันตัวผู้ต้องหาที่ไหน ก็ชี้กันคนละทิศละทาง กว่าจะได้เรื่องก็งงอยู่นาน==' ไปถึงก็แจ้งกับร้อยเวรเจ้าของคดีว่า เราต้องการประกันตัวMr.A เค้าก็ไปถามนายว่าจะให้ประกันตัวมั๊ยไม่มีpassport (ถาม_ยังว่ามีมั๊ย) เราก็บอกเรามีpassport มาค่ะ ระหว่างรอเคลียเรื่องประกันตัวรอทนายเราก็เข้าไปคุยกับแฟนเรา จากนี้เป็นคำบอกเล่าของMr.A ตั้งแตืถูกจับจนถึงเวลาที่เราไปประกันตัว

Mr.A มีเรื่องชกต่อยกับ Mr.B โดยทางMr.Aขับรถขึ้นไปทางวัดชื่อดังแห่งหนึ่งของภูเก็ตซึ่งเป็นระแวกบ้านเค้า เพื่อไปถ่ายภาพมุมสูงของบ้าน พอจอดรถเสร็จMr.Bตามขึ้นมาและด่าทอว่าMr.Aขับรถตัดหน้ามอเตอร์ไซค์จนเกือบล้ม ก็ตามประสาค่ะเถียงกันไปด่กันไปจากนั้นทางMr.Bก็โทรตามชาวต่างชาติด้วยกันมา ซึ่งเป็นพ่อของMr.Bทำให้เรื่องยิ่งเลวร้ายทั้ง2พยายามจะหาเรื่องMr.A เค้าจึงยก2ขึ้นเพื่อบอกเค้าไม่อยากมีเรื่องและให้หยุดแต่กลับไม่เป็นไปตามนั้นค่ะ เกิดการชกต่อยกัน..ใช่ค่ะ2ต่อ1แต่อีกฝั่งสู้ไม่ได้เพราะแฟนเคยเรียนมวยและเทควันโด จากนั้นMr.Bเลยโทรตามภรรยา(ไทย)และญาติๆมา ซึ่งบ้านของMr.Bก็อยู่แถวนั้นค่ะ เมื่อภรรยาMr.Bมาถึงเค้าก็สายตรงถึงตำรวจเจ้าของคดี ตำรวจมาถึงก็ควบคุมตัวMr.Aไปโดยไม่ได้ถามไถ่อะไร ถามถึงพยาน ณ ตอนนั้นมีแค่ต่างชาติ3คนที่มีเรื่องกัน ไม่มีคนอื่นอยู่ในที่เกิดเหตุ คนที่อ้างตัวว่าเป็นพยานต่างเป็นญาติของภรรยาMr.B ซึ่งมาในที่เกิดเหตุหลังจากทุกอย่างสงบลง
ตำรวจนำตัวMr.Aไปโรงพักค่ะ ตำรวจนำตัใไปสอบปากคำโดยตำรวจไม่ได้สอบถามเหตุการณ์ใดๆจากMr.A ผู้ให้การณ์และบอกเล่าเรื่องทั้งหมดเป็นภรรยาไทยของMr.B แต่เอ๊ะ!!!! ภรรยาMr.Bไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี่!!!!!


ปล.1 ที่เรากล้ามาเล่าไม่ใช่เพราะMr.Aเป็นแฟนเรานะคะ แต่เราเล่าจากหลักฐานที่เรามีซึ่งไม่ใช่พยานบุคคล

ปล.2 ระหว่างMr.A กับ Mr.B เคยเป็นเพื่อนรักกันค่ะ แต่ขัดผลประโยชน์กัน บอกเลยว่าMr.A โดนโกงไปเกือบล้านเพราะคำว่าเพื่อน แต่รายละเอียดขอไม่เล่านะคะ แต่ถ้าใครอยากรู้หลังไมค์มาค่ะ เผื่อจะมีทางออกของปัญหามาแชร์กัน^^


**เดี๋ยวเรามาเล่านะขอแว้บไปทำงานก่อนค่ะ แล้วจะมาเล่าให้ฟังคะว่าภรรยาMr.B เล่าเรื่องอะไรให้ตำรวจฟัง และระหว่างถูกคุมขังMr.A ได้รับอะไรจากตำรวจไทยบ้าง??
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่