จากกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้นัดสอบคำให้การ “ตู้ห่าว” กับพวก รวม 23 คน ฐานสมคบค้ายา-ฟอกเงิน ในวันนี้ (23 ม.ค.)ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักกการเมือง ได้เดินทางมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อช่วงเวลา 09.00 น. พร้อมระบุว่า ตนเดินทางมาในวันนี้ในฐานะประชาชนเพราะต้องการดูว่ากระบวนการยุติธรรม จะให้ความยุติธรรมกับตนในฐานะประชาชนหรือไม่ วันนี้เป็นวันแรกจึงมาติดตามโดยจะมานั่งฟังอย่างเรียบร้อยภายในศาล วันนี้ศาลจะนัดดูพยานหลักฐาน ดูคำให้การ สอบถามจำเลยว่าจะปฎิเสธหรือรับสารภาพ ตนเข้าใจว่านายตู้ห่าวและเครือข่ายก็คงจะปฎิเสธเพราะโทษหนัก
ในวันนี้ตนจะมาตามเรื่องนี้เพราะมีการข่มขู่พยาน เรื่องนี้เกิดขึ้นสด ๆ ร้อนเมื่อวานนี้ ตนมีหลักฐานจึงได้รายงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติ ซึ่งได้ส่งทีมงานบินด่วน ไปสอบพยานว่ามีการข่มขู่อย่างไร มีการเขียนข้อความมาหาพยานโดยมีการเสนอเงินทอง ให้พยานไม่ต้องมาให้การ ทำแบบนี้เขาเรียกว่าเป็นการ”เล่นแผนใต้ดิน” ต่อไปคาดว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อให้หลุดพ้นคดี
ส่วนตัวเคยพูดไปแล้วว่าเราต้องร่วมกันทำลาย”การวิ่งเต้น” เพราะอดีตที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่า การวิ่งเต้นนี่เองทำให้คนไม่ดีหลุดคดีไปจำนวนมาก วันนี้ตนเชื่อว่า จะมีการยื่นขอประกันตัวแต่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ทำเรื่องขอคัดค้านประกันตัวไปแล้ว และตนก็อยากจะรู้ว่าจะเกิดปาฎิหาริย์ ให้ประกันตัวหรือไม่
เมื่อวานนี้ตนได้แจ้งไปยังพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า มีพยานสำคัญ 2 คน ในต่างจังหวัดถูกข่มขู่ให้ถอนตัวจากการเป็นพยาน โดยมีบุคคลต้องสงสัย 3-4 คน ขับรถมาวนเวียนบริเวณหน้าบ้าน พร้อมทั้งส่งข้อความมาข่มขู่ จึงทำให้ตกใจกลัว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้นำกำลังขึ้นเครื่องบินไปตรวจสอบด่วนในเรื่องดังกล่าว และใช้มาตรการคุ้มครองพยานไว้เรียบร้อยแล้ว และจะเสนอให้พนักงานสอบสวนขอถอนประกันของพันตำรวจเอกหญิง ที่เป็นจำเลยร่วมและได้ประกันตัวมาเพียงคนเดียว เนื่องจากถูกดำเนินคดีเพียงข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งคณะทำงานก็เตรียมแจ้งข้อหาองค์กรอาชกรรมข้ามชาติ และมีพฤติกรรมข่มขู่พยาน ซึ่งสามารถขอให้ศาลเพิกถอนประกันได้
ที่ผ่านมานายตู้ห่าว ยังพฤติกรรมข่มขู่พยานอีกหลายคน มีอิทธิพลและมีความพยายามทำลายหลักฐาน ด้วยวิธีการใต้ดิน แต่ก็เชื่อมั่นว่ากระบวนยุติธรรมจะสามารถลงโทษกลุ่มขบวนการเหล่านี้ได้
ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนที่ถ่ายคลิปวิดีโอแล้วนำไปโพสต์ว่า สามารถจ้างตำรวจไทยขับรถนำขบวนไปที่พัทยา จังหวัดชลบุรีได้ โดยมีการอำนวยความสะดวกตั้งแต่ลงเครื่องบิน รับกระเป๋าสัมภาระ และไม่ต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองนั้น นายชูวิทย์ เชื่อว่า เป็นกลุ่มขบวนการธุรกิจทุนจีนสีเทาเหมือนกัน และมีมานานแล้วแต่เพิ่งมีคนถ่ายคลิปเผยแพร่ ซึ่งก็ทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศ ที่ทำให้ชาวต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยมีเงินก็สามารถซื้อได้ เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่มีคลิปของนายตู้ห่าว พูดในลักษณะเดียวกัน
https://www.topnews.co.th/news/565724
“ชูวิทย์” ลุยหนัก ติดตาม “คดีตู้ห่าว” อ้างมี 2 พยานปากสำคัญ ถูกกลุ่มจีนสีเทาข่มขู่
ในวันนี้ตนจะมาตามเรื่องนี้เพราะมีการข่มขู่พยาน เรื่องนี้เกิดขึ้นสด ๆ ร้อนเมื่อวานนี้ ตนมีหลักฐานจึงได้รายงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติ ซึ่งได้ส่งทีมงานบินด่วน ไปสอบพยานว่ามีการข่มขู่อย่างไร มีการเขียนข้อความมาหาพยานโดยมีการเสนอเงินทอง ให้พยานไม่ต้องมาให้การ ทำแบบนี้เขาเรียกว่าเป็นการ”เล่นแผนใต้ดิน” ต่อไปคาดว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อให้หลุดพ้นคดี
ส่วนตัวเคยพูดไปแล้วว่าเราต้องร่วมกันทำลาย”การวิ่งเต้น” เพราะอดีตที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่า การวิ่งเต้นนี่เองทำให้คนไม่ดีหลุดคดีไปจำนวนมาก วันนี้ตนเชื่อว่า จะมีการยื่นขอประกันตัวแต่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ทำเรื่องขอคัดค้านประกันตัวไปแล้ว และตนก็อยากจะรู้ว่าจะเกิดปาฎิหาริย์ ให้ประกันตัวหรือไม่
เมื่อวานนี้ตนได้แจ้งไปยังพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า มีพยานสำคัญ 2 คน ในต่างจังหวัดถูกข่มขู่ให้ถอนตัวจากการเป็นพยาน โดยมีบุคคลต้องสงสัย 3-4 คน ขับรถมาวนเวียนบริเวณหน้าบ้าน พร้อมทั้งส่งข้อความมาข่มขู่ จึงทำให้ตกใจกลัว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้นำกำลังขึ้นเครื่องบินไปตรวจสอบด่วนในเรื่องดังกล่าว และใช้มาตรการคุ้มครองพยานไว้เรียบร้อยแล้ว และจะเสนอให้พนักงานสอบสวนขอถอนประกันของพันตำรวจเอกหญิง ที่เป็นจำเลยร่วมและได้ประกันตัวมาเพียงคนเดียว เนื่องจากถูกดำเนินคดีเพียงข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งคณะทำงานก็เตรียมแจ้งข้อหาองค์กรอาชกรรมข้ามชาติ และมีพฤติกรรมข่มขู่พยาน ซึ่งสามารถขอให้ศาลเพิกถอนประกันได้
ที่ผ่านมานายตู้ห่าว ยังพฤติกรรมข่มขู่พยานอีกหลายคน มีอิทธิพลและมีความพยายามทำลายหลักฐาน ด้วยวิธีการใต้ดิน แต่ก็เชื่อมั่นว่ากระบวนยุติธรรมจะสามารถลงโทษกลุ่มขบวนการเหล่านี้ได้
ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนที่ถ่ายคลิปวิดีโอแล้วนำไปโพสต์ว่า สามารถจ้างตำรวจไทยขับรถนำขบวนไปที่พัทยา จังหวัดชลบุรีได้ โดยมีการอำนวยความสะดวกตั้งแต่ลงเครื่องบิน รับกระเป๋าสัมภาระ และไม่ต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองนั้น นายชูวิทย์ เชื่อว่า เป็นกลุ่มขบวนการธุรกิจทุนจีนสีเทาเหมือนกัน และมีมานานแล้วแต่เพิ่งมีคนถ่ายคลิปเผยแพร่ ซึ่งก็ทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศ ที่ทำให้ชาวต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยมีเงินก็สามารถซื้อได้ เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่มีคลิปของนายตู้ห่าว พูดในลักษณะเดียวกัน
https://www.topnews.co.th/news/565724