คิดถึงอดีตในวัยเด็กจัง...เกือบ 30 ปีที่ผ่านไปทำไมเร็วเหมือนฝัน

กระทู้สนทนา
- ไปโรงเรียน ไหล่ซ้ายสะพายย่ามหนังสือที่แสนจะหนักจนไหล่เอียงข้าง  มือขวาหิ้วปิ่นโตข้าว ใส่รองเท้าแตะหูหนีบ ที่ใช้ตะปูขัดไว้จนหูหนีบติดแม่โป้ง ผมหยักศก หัวฟูๆ  บางครั้งมีเหาด้วย   555   แม่ให้ตังค์มาโรงเรียน เป็นเหรียญ ฉันผูกหนังยางไว้กับเสื้อ  แบ๊นแบน รู้หมดเลยว่ามีกี่บาท  แต่ไม่แคร์หรอกเพราะฉันมีปิ่นโตมาด้วย   เอ้าวันไหนถ้าแม่ออกไปรับจ้าง ต้องกระเตงน้อง เอวอีกข้างก็ไม่ว่างซะแล้ว แอ่นไปจนถึงโรงเรียนเลยทีเดียว
- ในโรงเรียน (โรงเรียนบ้านหนองยาง ต.คู้ยายหมี ค้นหาดูเอาแล้วกันว่าอยู่จังหวัดไหนเนอะ) ฉันอยู่ตึกไม้ เบื่อมากเมื่อถึงทุกวันศุกร์ ลูกมะพร้าวผ่าครึ่ง กับเทียนไขคนละเล่ม   ต้องถูจนกระดานขึ้นเงา  พอเห็นผลงานของตัวเองแล้วภูมิใจมาก  อยากจะลงไปนอน แต่ก็ทำไม่ได้เดี๋ยวกระดานจะหายเงา  ครูให้ถูอีกรอบเหนื่อยแน่ๆ
- กลับจากโรงเรียนฉันรีบโยนย่ามไว้บนบ้านทันที เดี๋ยวกลับมา..... ชวนเพื่อนออกไปท้องนากัน  ครูสั่งให้หาดินเหนียว ในวิชาศิลปะ  ไปหาเอาตามคันนานั่นแหละ ขากลับไม่วายเก็บผักแว่นเอามาฝากแม่ด้วย  เอาดินเหนียวมาปั้นๆ แล้วส่ง ง่ายดี   วิชาศิลปะ ฉันไม่ชอบเลย  เดี๋ยวให้วาดรูป เดี๋ยวให้ระบายสี     สมุดวาดเขียน ดินสอสี สีน้ำ พู่กัน  ฉันก็ไม่มีสักอย่าง    เคยดูเดี่ยวของโน้ต อุดม ทำไมมันเหมือนกันอย่างนี้  ดินสอนี่สั้นแล้วสั้นอีก มีดโกนด้ามยาวสีเขียวเอาไว้เหลาดินสอ  ยางลบที่ลบแล้ว กระดาษด๊ำดำ ใช้นำลายแต้มกระดาษ กระดาษก็ขาดอีก
-  งานบ้านของเด็ก 7-8 ขวบ  กลับจากโรงเรียน อันดับแรกหยิบไม้กวาด กวาดบ้านก่อนเลย ไม่เคยถู 555 (รอแม่สั่ง)  หาบน้ำใส่ตุ่ม นึกภาพพอออกกันไหม ถังปี๊บเจาะใช้ไม้ขัด ทำสายไว้หาบ หาบทีใส่น้ำครึ่งปี๊บ (มิน่าล่ะ ตัวถึงเตี้ยมาจนทุกวันนี้ ) น้ำบ่อใช้ทั้งกิน ทั้งอาบ ทั้งซักผ้า ล้างจาน   ใช้หมดเลย  ตุ่มบนบ้านไว้กิน ทำกับข้าว  ตุ่มน้ำข้างล่างอยู่ติดกอกล้วยเอาไว้อาบ  และงานสุดท้าย หุงข้าวค่ะ นึกถึงบ้านที่เป็นหลังคาจาก แล้วมีชานบ้านยื่นออกมาเป็นครัว แล้วใบจากก็จะลาดต่ำลงมาด้วย เวลาก่อไฟหุงข้าวนี่ ฉันกลัวสุดๆ  ใช้ท่อนไม้สุมๆ รองเท้าแตะที่ขาดใส่ไม่ได้แล้ว ปาดเอามาทำเชื้อไฟ  เวลาไฟมันรุกโชน แล้วมีลมมาด้วย ไม่อยากคิดเลย  แต่มันก็ผ่านไปด้วยดี ไม่เคยมีเหตุการณ์แฮะ  เออเนอะยังแปลกใจตัวเองอยู่เลย ว่าทำไมอายุแค่นั้น ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ  ปัจจุบันลูกสาวอายุ 11 ขวบ หุงข้าวหม้อไฟฟ้า ง้ายง่าย ยังหุงไม่เป็นเลย
-  พอมืดก็เตรียมตัวอาบน้ำ ทำการบ้านต่อ  ที่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้นะคะ จ๊น จน  ตะเกียงค่ะ กว่าจะทำการบ้านเสร็จ เขม่าควันของตะเกียงนี่เต็มผมเอาเลย  คิดในแง่ดี นี่เป็นวิธีกำจัดเหาอีกทาง    วันไหนน้ำมันก๊าดหมด ก็เตรียมตัวอยู่แบบมืดๆ  แบบว่า พ่อ กับ แม่ กว่าจะกลับมาจากงานรับจ้าง ร้านขายน้ำมันก๊าซก็ปิดพอดี
- วันหยุด เช้ามาก็เตรียมตัวไปดูทีวี เด็กๆ ทุกคนจะมารวมตัวกัน ณ บ้านหลังหนึ่งที่รวยที่สุดในหมู่บ้าน ...เค้ามีทีวีจอดำ...สมัยนั้นจอสียังไม่มี...ทำเล่นเป็นเนียนๆ  ตาก็คอยเหล่มอง ว่าเมื่อไหร่จะเปิดทีวีให้ดูซะทีนะ  
- เช้าวันหยุดได้ดูการ์ตูนย์สมใจแระ  ต่อไปเข้าไปเล่นป่ามัน เพื่อนหลายๆ คน มันสนุกจริงๆ นะ   เป็นเด็กนี่จินตนาการล้ำเลิศน่ะ  สมมุติต้นมันต้นนี้เป็นบ้าน  ต้นนั้นเป็นร้านขายอาหาร  ต้นโน้นเป็นร้านขายขนม ต้นเนี๊ยเป็นโรงเรียน    ก็ตามประสา เล่นจนถึงเวลาเที่ยง ก็กลับบ้านใครบ้านมัน เดี๋ยวค่อยมาเล่นต่อในช่วงบ่าย
- อาหารก็กินแบบเรียบง่าย เงินนี่แทบไม่ได้ใช้เลย (หรือไม่มีให้ใช้ก็ไม่รู้สินะ อิอิ) แกงขี้เหล็กใส่แคบหมู  แกงผักหวานใส่ไขมดแดง ยอดมะขามอ่อนก็อร่อย  แกงสายบัวกับปลาหมอ  แกงบอนกับปลาหลด  ผัดผักบุ้งนา แกงหน่อไม้ใส่ปลาร้า (แกงเปรอะ)  น้ำปลาร้าซาวข้าวโรยพริกป่นก็อร่อย
- นานๆ มีหนังขายยามาให้ดูฟรีซะที  หมู่บ้านคึกคักทีเดียว ดูได้ครึ่งแรกก็เบรกขายยาก่อน  ส่วนใหญ่ก็จะเห็นซื้อกัน ยาหม่อง , ยาถ่ายพยาธิ ถ้าใครซื้อไปกินแล้ว ถ่ายพยาธิออกมาได้นำมาแลกเป็นเงินได้อีก อิอิ   ก็ฉายประมาณ 2 -3 เรื่อง ขายได้หลายเบรกเลย ส่วนเด็กๆ หลับตั้งแต่เบรกแรกแระ
- ถึงหน้าเกี่ยวข้าวเด็กๆ นี่สนุกมาก ผู้ใหญ่ก็เกี่ยวข้าวไป ส่วนเด็กๆ ก็เล่นบนขนำนา  พอถึงเวลาพักเที่ยงทุกคนก็จะมารวมตัวกันกินข้าว กินไปคุยไป หัวเราะไป คนชนบทเค้ามีอะไรก็ช่วยเหลือกัน  พอหมดหน้าเกี่ยวข้าว ยังเหลือขุดรูปู วิดบ่อหาปลาอีก

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน  ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย รายละเอียดเยอะแยะ ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือได้ก็มี  ทุกวันนี้มาอยู่ในสังคมแวดล้อมที่ทันสมัยมีการพัฒนาไปมาก  คิดถึงอดีตจังค่ะ  ยังเคยพูดกับสามีเลยว่า ถ้าลูกๆ โตและเอาตัวรอดกันได้แล้ว เรากลับไปอยู่ แบบเศรษฐกิจพอเพียงกันดีไหม ปลูกบ้านไม้ยกพื้นสูงท่ามกลางท้องนาของเรา ปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงไก่ไข่ไว้กิน  มีอุปกรณ์ในการทำมาหากินอีกนิดหน่อย เช่น รถไถ รถเกี่ยวข้าว  เพราะสมัยนี้ลงแขกเกี่ยวข้าวไม่มีให้เห็นแล้ว ทำกัน 2 คนตายายคงไม่ไหวแน่ๆ
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบ   เป็นอารมณ์ที่นึกถึงอดีต แล้วก็รีบมาเขียนทิ้งไว้  สมัยนี้เขียนไว้ในไดอารี่ ก็ได้อ่านแค่คนเดียว เอามาแชร์ได้อ่านกันหลายๆ คน  หากวันหนึ่งลูกๆ เปิดมาอ่านจะได้รู้ว่าแม่เคยลำบากมาอย่างไร กว่าจะโต กว่าจะมีวันนี้ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่