2 ปี!! จุดพลิกชีวิต เรื่องราววันที่จะจำไปจนวันตาย.. พ่อและแม่...

คือ..ไม่เคยเขียนเล่าอะไรยาวๆ 55ถ้าผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ

อย่างแรก..ปกติเรามักจะชอบอ่านมากกว่า เห็นคนมากมาย เล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ เรื่องรักๆ หวาน เศร้า เหงาทุกข์ ก็ว่ากันไป วันนี้เลยเกิดอยากลองเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง คือ มุมนึงแค่อยากระบาย อยากให้ใครได้อ่านได้รับรู้ใครซักคน เพราะบางเรื่องเราไม่สามารถเล่าให้คนรอบข้างฟังได้จริงๆ555
เราปัจจุบันเป็นเด็ก ม.4 555 ชอบอ่านพันทิปนะคะ มุมมองและคอมเม้นเราว่ามีวุฒิและเหตุผลกว่าไงไม่รู้

เข้าเรื่องๆ เริ่มตอน ม.1 บอกเลยค่ะ เป็นวัยและช่วงที่สนุกสนานเฮฮา โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ แฮปปี้ ตั้งใจเรียนขยันส่งงาน ปิ๊งรุ่นพี่แล้วอกหัก โลกสวยค่ะ555
คือไม่ใช่ว่าไม่เคยรับรู้ถึงปัญหาครอบครัวตัวเองแต่ไม่เคยนึกสะกิดใจว่าตลอดมาพ่อกับแม่ไม่ได้รักกัน อยู่เพื่อดูแลเรากับพี่ตลอด 20 ปี ไม่ใช่ความรักของสองคน แต่เพื่อครอบครัวค่ะ ต่างคนต่างคิดว่า พวกเราขาดพ่อและแม่ไม่ได้ (เป็นเหตุผลว่าก่อนแต่งก่อนมีลูก คิดให้ดีนะคะ) เราก็ไม่รู้แต่ไม่เคยติดใจอะไร

พ่อเรามีความรับผิดชอบเกี่ยวกับที่บ้านค่ะ ทำงาน ดูแล ให้เงินทำข้าวให้ทาน ทำความสะอาดบ้าน แต่ข้อเสียคือชอบดื่ม ไปกับเพื่อนบ้างอะไรบ้าง ตลอด ดูแลเป็นพ่อที่ดี แต่แค่ไม่ได้เป็นสามีที่ดีค่ะ ไม่เคยทำร้ายร่างกายแม่นะคะ แต่แค่บางครั้งเรารู้สึกว่าไม่ค่อยให้เกียรติแม่เท่าไหร่ แม่จะคอยดูแลเราพวกจิตใจค่ะ สิ่งของอะไรพวกเราชอบอะไร ยังไงแม่จะรู้ค่ะ พ่อนี่ไม่เคย มีน้อยมาก55 แม่เป็นเข้มแข็งนะคะ ถูกทางบ้านพ่อ ญาติๆด่านินทา(เราไม่เคยชอบนิสัยของทางบ้านพ่อเลยค่ะ คือแบบ หันหลังปุ้บนินทาโน่นนี่นั่นกันปั้บ ต่อหน้านี่ประจบรักกันหยั่งงู้นหยั่งงี้ ชั้นเป็นเด็กแต่อย่าคิดว่าไม่รู้นะยะ เด็กน่ะฟังคุณออกเสมอขึ้นอยู่กับว่าเค้าจะแสดงยังไง) ยังอยู่มาจนทุกวันนี้(เป็นเราทนไม่ไหวอ่ะพอ่ก็ไม่สนใจ ไม่พูดอะไรเลย) เราไม่ได้ติดใจอะไร จนกระทั่ง ม.2 อะไรๆ ยิ่งเครียดขึ้น พ่อเครียดอะไร ลงกับพี่และพี่ ลงกับเราค่ะ555 ไม่ได้รุนแรงแต่แค่เสียความรู้สึกแบบ อยู่ดีๆโดนตะคอกเฉย เราเป็นเด็กชอบอ่าหนหนังสือ นิยงนิยาย การ์ตูน นี่เพียบบ เวลาเสียใจหรือเครียดอะไร จะลงเขียนเป็นไดอารี่ค่ะ

(บางคนอาจคิดว่า เรื่องพ่อแม่ไปยุ่งทำไม เด็กก็ส่วนเด็ก บอกเลยค่ะเพราะคำๆนี้แหละ ที่ทำให้เราเสียอะไรไปหลายอย่างโดยไม่รู้ตัว ทางเลือกที่ดี เราว่าเปิดอกคุยกันทั้งครอบครัวนะคะ อย่าเก็บไว้คนเดียวแบบเรา ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ร้องไห้ใส่หูฟังเพื่อกลบเสียงตอนพ่อกับแม่ทะเลาะกัน ทรมานจริงๆค่ะ55)

ช่วงนั้นเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ได้รู้จักคำว่า อึดอัดทั้งที่อยู่บ้าน ร้องไห้คนเดียว บอกแม่หรือพ่อกับพี่ไม่ได้ เดี๋ยวจะเครียดหนักกว่าเก่า ทางเลือกคือ เก็บไว้ในใจค่ะ เริ่มรู้สึกตัวว่ากลายเป็นคนเก็บตัว พูดน้อย ถ้าไม่สนิทจริงๆ คิดก่อนพูด กลัวการทำร้ายจิตใจใครหรืออะไรมาก
ปลายๆ ปี แม่ทนพ่อไม่ไหว ออกจากบ้านไป 555

ได้รู้จักกับคำว่า 'เหงา' ค่ะ น้ำตาไหลตรงที่ที่เคบนอนกับแม่ คิดถึงมาก บางคนอาจคิดว่าแค่นี้ มีคนที่ไม่มีแม่ ยังแย่มากกว่าเลย แต่คุณจะคิดมั้ยว่า คนที่รักอยู่ๆ มาหายไป กลับจากโรงเรียน คนที่จะคอยเราอยู่บ้านกลับไม่มี

พอ 3 เดือนกว่าพ่อติดต่อและง้อแม่กลับมาได้ สัญญาว่าจะทำตัวดีๆ แต่แม่เรารู้ค่ะ ตลอด 20 ปี คนเราไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ แต่กลับมาเพราะเรา น้องและลูกคนสุดท้อง จะบอกว่า ร้องไห้บ่อยมากก แต่ไม่เคยไปร้องกับใคร นอกจากแม่และตัวเอง กับเพื่อนเราก็ไม่ได้บอกค่ะ อยู่ๆ จะให้ไปเล่าได้ไงเนอะ55

พอ ม.3 นี่ล่ะค่ะ รู้สึกอึดอัดกับการไปโรงเรียน 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้เรามีทัศนคติกับคนเปลี่ยนไป มองแง่ร้ายมากขึ้น ระแวงคน เบื่อกับการใส่หน้ากากประจบประแจง ยิ้มตีหน้าซื่อ ทั้งที่ใจคิดอีกอย่าง อึดอัดมากค่ะ เริ่มแยกตัวออกจากกลุ่ม คุยงานก็คุยค่ะ แต่มีอะไรที่อยู่คนเดียวได้ ก็อยู่ไป ไม่ได้ว้อนท์ ชั้นเหงานะ ไปทำไรต้องไปเป็นกลุ่มแบบที่เพื่อนผู้หญิงมักจะทำกัน (ทัศนคติเราตอนนั้นย่จริงๆค่ะ รู้ตัวเองนะคะ แต่เพราะปกติเก็บไว้อยู่แล้ว ไม่เคยไปติไปด่าอะไรใคร)
ช่วงปลายๆ เทอมสอบโอเนต เพื่อนำคะแนนสอบต่อม.ปลาย ช่วงนั้นตั้งใจเรียนมากค่ะ55 ถึงผลจะไม่ค่อยดีแต่พยายามไปแล้ว พอใจกับตัวเอง
แม่ถามเราว่า จะต่อม.ปลายที่ไหน ไป ตจว. บ้านเกิดแม่มั้ยติดๆกับที่นี่เองน่ะค่ะ เราไปเที่ยวบ่อย55 หรือจะต่อ ม.ปลายที่นี่เหมือนเดิม เครียดค่ะ 555 คือแบบกดดันมาก ตอนนั้นคือคิดอย่างเดียวว่า ชั้นอยากออกจากบ้านหลังนี้ แบกอะไรไม่ไหวแล้ว หนีไปไกลๆ แต่ถ้าไป แล้ว *พ่อ ล่ะ สถานการที่บ้านก็ไม่ได้ดีกว่าเดิมเท่าไหร่ พ่อมีไรไม่บอก แถมกินเหล้าบ่อยขึ้น ออกจากบ้านบ่อยขึ้น เรายิ่งไม่ชอบค่ะ ทำแบบนั้น จนกระทั่ง...

พบว่าพ่อตัวเองมีคนอื่นค่ะ...แบบเปิดดรงแรมแถวบ้านกะคนนี้บ่อยๆ แล้วที่บอกก่อนหน้าคืออะไร.. 55 ไม่ได้อยากโทษพ่อนะคะ แต่สุดท้ายไม่ว่าเพราะอะไร คุณมีคนอื่นคุณก็ผิด เรารักพ่อนะคะเลยค่อนข้างผิดหวังมาก แม่เราบอก ไม่เป็นไร แค่อย่าระรานกันก็พอ ไว้หน้าและให้เกียรติแม่บ้าง ตั้งแต่เด็กเราเห็นน้ำตาแม่บ่อยมาก ครั้งแรกเลย อนุบาล3 ร้องให้กับคนๆเดียว ที่ให้กำเนิดเรา  

นั่นยิ่งทำให้เราช่วงนั้นไม่ชอบคุยกับพ่อค่ะ งอน โกรธ เศร้า ผิดหวัง บอกไม่ถูก ยิ่งวัยรุ่นด้วยมั้งคะ วัยต่อต้านหรอ เครียดจาก โรงเรียนที่บ้านก็เครียด ทำไรไม่ได้ ไปไหนไม่ได้ อยู่แต่ในห้องตรงมุมเล็กๆ ปิดประตูแล้วร้องไห้คนเดียวค่ะ

แม่ชอบบอก เราเป็นคนเข้มแข็งนะเนี่ย เกิดอะไรขึ้นฉุกละหุก พ่อแม่นู่นนี่นั่น หรือแม่เราเศร้า เราจะคอยปลอบ ยิ้ม ทำให้เรื่องนั้นกลายเป็นเรื่องขำๆ ส่วนนึงของชีวิต เราไม่ร้อง ตีหน้าแข็ง พูดด้วยเหตุผล พี่ยังเคยถาม มีความรู้สึกมั่งป่ะเนี่ย ชอบตีหน้าตายตลอด บอกเลย เราไม่ใช่คนเข้มแข็ง (หนูแค่ไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอของหนู แค่นี้แต่ละคนแบกก็มากแล้ว ไม่อยากให้แม่ห่วงหนู น้องคนเล็ก) ได้แค่คิดแต่ไม่เคยได้พูดค่ะ จนบัดนี้แม่ก็บอกว่าเราเข้มแข็ง ซึ่ง...ไม่จริง 555
(อย่าคิดว่าใครเข้มแข็งเพราะคุณไม่เคยเห็นส่วนที่อ่อนแอของเค้านะคะ) TT

วันที่ 15 เมษายน สงกรานต์เมื่อปีที่แล้ว วันที่เราจำไปจนวันตาย ! ทั้งบรรยากาศตอนนั้นเราจำได้ไม่เคยลืมค่ะ เรานัดไปเล่นน้ำกับเพื่อนข้างนอก ไปแต่เช้า ซึ่งปกติพ่อเราไม่ใช่คนตื่นเช้า อยู่ๆ ตื่นเช้ามา ทำไข่เจียวให้กิน เราไม่ได้คุยกับพ่อนานเป็นอาทิต คุยแค่คำสองคำ กลับมาจาก รร พ่อก็ออกไปกินเหล้าข้างนอก ตกดึกกลับมาเราก็ไม่คุยเล่นคอม หาเรื่องปิดไฟ นอนเร็ว วันนั้นเราคุยกับพ่อค่ะ

พ่อ:: จะกลับกี่โมง หื้อ
เรา:: ...ประมาณเย็นๆ อ่ะป๊า
พ่อ:: ดูแลตัวเองด้วยละกัน
เรา::...........
พ่อ::........(ตักข้าวกินต่อ)
เป็นเช้าที่มีความสุขมากกกกกก และครั้งสุดท้ายที่ได้มีความทรงจำดีๆ กับพ่อ
อะไรไม่รู้อยู่ๆ ทำให้เราตัดสินใจ ต่อ รร ที่เดิม ค่ะ คืออยู่กับพ่อต่อ
ถึงเค้าจะทำเราเจ็บ พูดอะไรทำร้ายเรามามาก แต่สุดท้ายเราทิ้งเค้าไม่ได้จริงๆ(พิมไปน้ำตาไหลไป55)

เรา -ป๊าหนูจะต่อที่นี่นะ จะอยู่กับป๊าต่อนะ...
พ่อ..... อืม

เราไปเล่นน้ำกับเพื่อนค่ะจนเย็นกลับมา พ่อก็ออกไปข้างนอกตามปกติ (ไปหากิ๊กหรือไรไม่รู้นะ ทุกคืนอ่ะ55)
ผ่านไป 3-4 วัน เรานั่งเล่นคอมอยู่บ้านปกติ มีเพื่อนพ่อโทรมาบอกค่ะ
xx::....ใจเย็นๆนะ คือพ่อเราล้ม ตอนนี้หามเข้าโรงบาล ตอนนี้ฉุกเฉินอยู่..

!!!!!!!!
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไม่ไหวละ ขอพักแปปนึง ไม่เคยพิมเล่าอะไรยาวๆขนาดนี้เลย555

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
มาต่อค่ะ55
คือจะบอกว่าตอนแรก เราไม่เชื่อ นั่งเล่นเกมออนไลน์อยู่ดีๆ มาบอกงี้ งงสิคะ
สักพัก เพื่อนพ่อก็มารับเรากับพี่และแม่ ไป ร.พ.แถวบ้าน

คือ สิ่งแรกที่ได้เห็น ไม่อยากจะเชื่อกับตาตัวเอง พ่อเรานอนสลบอยู่ ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า มีแค่ผ้าขาวคลุมอยู่ด้านล่าง หมอกำลังปั้มออกซิเจน เพราะสมองขาดออกซิเจนค่ะ เรากับพี่น้ำตาไหล ไม่กล้ามองเลย ไปถามเพื่อนพ่อเป็นอะไรยังไง ก็อึกอักค่ะ ไม่ตอบชัดเจนวกๆวนๆ สักพักมีคุณหมอมาขอข้อมูล
เราไม่รู้เรื่องจะให้ได้ไง ถามหมอ หมอบอกว่า คนที่มาส่งเป็นคนนี้(เพื่อนพ่อ) กับผู้หญิงอีกคน(จะไม่ติดใจอะไร ถ้า...) มาในสภาพกึ่งๆเปลือย แต่ว่าตอนนี้หายไปไหนแล้วไม่รู้ พี่เราเดือดมาก ตะดกนจะไปลากตัวเค้ามา แต่ชีไม่ยอมรับโทรศัพค่ะ
สักพักหมอบอก ร.พ.นี้มันเล็ก อาการหนักขนาดนี้ต้องไปในตัวเมือง เลยวิ่งรถ ส่งอีก ร.พ.นึง คือ ยังเอ๋อๆ เกินรับรู้จริง55 เมื่อครึ่ง ชม ที่แล้วเรายังนั่งเล่นเกม สนุกสนานอยู่เลย เกิดไรขึ้น

คือแค่ส่งเรื่องย้าย รพ เหมือนง่ายนะคะ แต่จริงๆ คือวุ่นมากกก ขอเอกสารนู่นนี่นั่น ส่งโน่นวิ่งนี่ เล่นเอามึนเลย สรุป รพ รัฐดูแลไม่ไหว ไม่ทันค่ะ วิ่งเข้าเอกชน 55 ตอนแรกยังกลัวค่ารักษาแต่ตอนนั้นใครจะไปนึกถึงละคะ ไม่ต้องพูดถึง แม่เราร้องไห้ไม่หยุด 55

ทั้งคืนคือเฝ้าอาการ หมอบอก เป็นเส้นเลือดในสมองแตก แถมโรคแทรกซ้อนอีกนับไม่ถ้วน ภายในไม่แข็งแรง ยังดีๆร้ายๆ เลยทำให้ได้ซัก เพื่อนพ่อค่ะ เกิดไรขึ้น อะไรยังไง..??


จนยอมเล่าค่ะ ...คือเค้าเปิด โรงแรมกันตามปกติ อยู่ๆ พ่อเราก็ล้มลง (ภายหลังหมอบอกว่า เส้นเลือดมันพร้อมแตกทุกเมื่อ และแจคพอตค่ะ)ดันแตกตอนอยู่กับผู้หญิงคนนั้นพอดี... เราเฝ้าอาการได้ 3 วัน บอกเลย ไม่เห็นชีโผล่มา จนหมอบอกว่า รักษาไม่ได้ ต้องไป รพ ที่มีเครื่องและหมอที่ดูแลด้านนี้ ที่เดียวในประเทศเท่านั้น คือ...บอเลย บ้านไม่ได้รวยอะไร เอกชน 3 วันนี่กระอักนะคะ ไป รพ ที่ กทม ชื่อดัง เอกชน ...ไม่มีประกัน...คงไม่ต้องบอกนะคะว่ายังไง?? แต่แม่เราเลยบอกไปลองให้หมอดูอาการก่อน ยังไงค่อยว่ากัน..

วิ่งขึ้น กทม ค่ะ จนอีกวันหมอบอกว่า โรคนี้ๆๆบลาๆๆ คือ ต่อให้รักษาไปไม่มีทางกลับมาพูดและเดินได้อีกแล้ว มีสติหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ผ่าตัด 50/50 เค้าเลยถามพวกเราว่า ไหวมั้ย... (รักษาวันละ* แสนค่ะ ค่าผ่าตัดนี่อีก แล้วต้องอยู่ไปไม่รู้ถึงวันไหน) อึก...

คือ ณ จุดๆนั้น ญาติๆที่รัก(ที่คุรยิ้มไม่เคยโผล่มาเลยนอกจากตอนลำบากและยืมตัง) บอกว่ารักษาสิๆๆ ต่อให้ยังไง ก็น่าจะมี ปฎิหารร!!
บอกไม่ลองไม่รู้ เราก็ เอ๊ะ..หมอบอกแล้ว รักษาไงก็ไม่หาย คือกลายเป็นผู้พิการไป ทรมานเค้ารึเปล่า ยื้อเค้าไว้ นั่นก็คำเดิมค่ะ อาจจะหายได้นี่บลาๆ
(แล้วไปนินทาเรากับแม่ว่า เป็นลูกทรพี ลูกอะไรไม่รักพ่อ นู่นนี่นั่น ..จุกนะคะ เจ็บ แต่หาได้แคร์ไม่)

อยากจะถามไป เอออ ไม่ได้โลกสวยนี่ เป็นลูกทรพีใช่มั้ย คิดถึงแม่ ก-อู บ้างรึเปล่า ค่ารักษาไม่ใช่น้อยพูดเหมือนซื้อขนม คุณไม่ได้มาจ่ายกับเรานี่ ว่าต่างๆนาๆ ลูกเมียไม่รัก น่าสงสาร หึ ใช่ เราลูกทรพี ไม่รักพ่อไม่รักแม่ (เงินอ่ะมันมี ก่อนหน้านี้พ่อขายบ้าน แล้วทิ้งไว้ให้เรา 2ล้านกว่า เงินเก็บก้อนสุดท้ายที่มี ไว้ให้แม่ทำทุนที่ ตจว ) แต่เรามอง ถ้าหยั่งงั้น แม่จะอยู่ยังไง พ่อล้ม รายได้ไม่มี กินอยู่ยังไง ค่าน้ำค่าไฟ 2ล้านไม่ใช่เอาไปลองๆ พ่อหายก็ดีไม่หายก็แย่ หรอออ   ขอโทษค่ะ เราโลกมืดใช่มั้ย เป็นเด็กใจร้ายใช่ป่าวที่คิดแบบนี้...55

แม่ทนไม่ไหวเลยบอกหมอผ่าตัดค่ะ รักษา สู้ๆกันไป เงินช่างมัน


ป.ล. หลังจากวันที่พ่อล้ม อาทิดนึง คือวันเกิดเราค่ะ ปกติพ่อจะคอยทำอาหารให้ ซื้อเค้กกินกันในบ้าน เราจะตื่นเต้น รอเสมอ เซอไพร์ดว่าปีนี้จะมีอะไร เราเป็นน้องคนเล็ก พี่ๆ และทุกคนย่อมใส่ใจมากกว่า คือแบบ...พี่ๆจะจัดนิดๆ แต่ของเราพ่อจะคอยทำนู่นนี่ให้ตลอด เรามักจะคอยพูดกับพ่อ พอช่วงใกล้วันเกิด ว่าปีนี้จะทำไรดี จะสนุกมั้ยน้า 55 ปีแรกค่ะ ที่เลิกพูดถึงวันเกิดตัวเอง..ลืมไปเลยด้วยซ้ำ แต่พอเที่ยงคืน อยุ่ๆ แม่กับพี่ก็เอาเค้กมาเซอไพร์ดค่ะ คือแบบ น้ำตาไหลไม่หยุด แม่บอกไม่อยากให้เราคิดมากนะ วันเกิดไม่อยากให้เศร้า อย่าคิดว่าเป็นความผิดตัวเองสิ (สงสัยน่าจะรู้มั้งเพราะเราร้องไห้ตอนที่ทุกคนนอนปิดไฟแล้ว แบบทุกคืนค่ะ คิดบ่อยๆ ว่าเราลูกเลว ตอนที่พ่อดี ทำไมไม่ทำอะไรให้เลย วันที่คิดได้ทำไมเป็นแบบนี้ เราคือตัวซวยหรอ 555) นี่สินะคะ ลูกเลว รักพ่อแม่ ให้มากๆนะคะ


5555ไม่ต้องเล่านะคะ ไม่ happy ending หรอกค่ะเพราะนี่ไม่ใช่ละคร ที่อยู่ๆ เราร้องไห้ พ่อจะลืมตามากอดมายิ้มให้ ตื่นค่ะ..ตื่น บอกเลย ตลอด 2 เดือน 2 ล้านที่พ่อให้ หมดดดค่ะ ใช้ไปกับค่ารักษาอย่างเดียว หึ พออาการคงที่ ทำได้แค่ขยับตาไปมา หมอบอกกลับไปดูแลเองได้ แม่เลยกลับค่ะ
พ่อเราก็กลายเป็นพิการค่ะ เราว่าเจ็บกว่านะคะ แบบนี้มันตายทั้งเป็น ยิ่งนับวัน ร่างกายผอมซูบทุกที มือและแขนขา ที่เคยใหญ่ กลับผอมบางเล็กลงไปเลย TT จนทุกวันนี้เวลากลับไปหา ก็ร้องไห้ทุกครั้ง แรกไม่ร้องค่ะ พอนานวันเข้า เรากลายเป็นคนที่ร้องบ่อยสุด ตอนเจอพ่อ... มันฝังใจกับเหตุการ ความทรงจำดีๆ ครั้งสุดท้ายด้วยมั้งคะ

เราเลยได้เรียนต่อ ตจว ที่บ้านเกิดแม่ ส่วนพ่อจ้างคนดูแลอยู่ บ้านอีก จ. นึงเพราะที่บ้านนี้เล็กค่ะ เอาพ่อมา เครื่องนู่นนี่นั่น เข้าไม่ได้ อันตรายด้วยเพราะมีหมา ขนอาจทำให้ติดเชื้อได้ค่ะ

เราเลยหยุดคิด หยุดร้อง โฟกัสเรื่องสอบเข้า ทำตัวเฮฮา ยิ้มลืมโลก ได้เข้า รรใหม่ บ้านใหม่ เพื่อนใหม่ สุขสันมากกกกกกก ...บอกตัวเองว่าฉันเป็นแบบนั้น... เราเคยมีแฟนคนนึง คบตั้งแต่ช่วง ม.1 เค้ามีเหตุผล เข้าใจเราเสมอ(ถึงจะไม่รู้ว่าจริงๆ เราแย่ขนาดไหน เรื่องพ่อ เราไม่ได้เล่าให้ฟังค่ะ)


เราย้ายมา ตจว เค้าก็เข้าใจ แต่ช่วงนั้นบอกเลย เราหลอกตัวเองมากก ทำให้แม่หายห่วง ยิ้ม หัวเราะ สนุกกับการไป รร (เราเข้ามาใหม่ๆ คือบอกเลยอะไรๆใหม่ๆ มันสีสัน คนเข้ามาคุย จีบนี่เพียบ ไม่ได้หลงตัวเองน้า แต่เราก็เป็นเราเหมือนเดิม55 ยิ้มได้ คุยผิวเผินได้ แต่ใครจะรู้จักตัวตนจริงๆ ไม่มี)

ใครมาจีบเราเซย์โนหมด ไม่ชอบเล่นๆ และคิดว่าถ้าทุกคนรู้จักเราจริงๆ จะรู้ว่าเราเป็นคนไม่ดี เอาแต่ใจ ไม่คิดถึงคนอื่นไรงี้ (ตามประสาคนปิดกั้น และไม่เห็นคุณค่าตัวเอง55 จนบัดดนี้ก็เป็นแต่ไม่เท่าเมื่อก่อนแล้ว) แรกมันก็ดี แต่หลอกตัวเองได้ไม่นานค่ะ เราหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้ ทำให้พักนึง รู้ตัวเองเลยค่ะ เป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยาก ไม่หิว ไม่ทาน ไม่อยากตาย แค่อยากหายไปไกลๆ (งงป่ะเราก็งงตัวเอง55)

ตกเย็น ขังตัวเองแต่ในห้อง ไม่ยอมลงไปกินข้าว จนแม่ห่วง(บ้ามากค่ะช่วงนั้น) ใครว่าว่าเรา เด็กไม่เอาถ่านปุ้บ (พวกญาติๆ น่ะ)เราก็จะตอกกลับทันทีค่ะ เอ้า นี่ไง เป็นเด็กทรพี ไม่เอาถ่านแล้วไง 55555555 สมใจอยากมั้ย (เราจะหัวเราะใส่ ทำเป็นขำๆไป) พอเสาทิดจะขังแต่ในห้องหลับลืมโลกค่ะ หลับๆตื่นๆ ไม่ลุกไปไหน อยากหลับแล้วไม่ต้องตื่น55 แต่ความรับผิดชอบเรื่องเรียนมันมีมากกว่า แม่อุส่าส่งเราเรียน เราแทบไม่พูดกับใคร น้ำตาที่อดทนมาตลอด ปีกว่า หรืออาจก่อนที่พ่อล้มด้วยซ้ำ อะไรๆ มันเริ่มถาดถมเข้า จากที่เรายิ้มได้ ตอนนี้รู้สึกบางไปหมดค่ะ

แบบนิดหน่อยจะร้องอย่างเดียว (จะแก้ไงดี)55 คือเหมือนมันถึงจุดที่เราเก็บไม่ไหว ก็แย่สิคะ ช่วงนั้นแบบ หมดอะไรตายอยาก วันๆไม่ทำ -่า อะไร หาแก่นสารและเป้าหมายไม่เจอเลย

//มีต่อออ เดี๋ยวมา T^T รอเค้าแปปนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่