สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
การออกกำลังกายดีหมดแหละครับ แต่คือ คนเรานั้นต้องการโฟกัสไม่เหมือนกันไง คือตามทฤษฎีมันก็ประมาณนั้นครับ ..... แต่ ตามการทำจริงๆคือมันก็ไม่ได้หมายความว่า 30 นาทีของคุณเสียเปล่านะครับ ต้องแยกก่อน การ " ลดน้ำหนัก " กับ " การลดไขมัน " ต่างกันนะครับ คุณออกกำลังกาย 30 นาที แต่ถ้าทั้งวันแคลอรี่คุณติดลบ น้ำหนักมันต้องลดอยู่แล้วตามทฤษฎี แต่ มันคือน้ำหนักของอะไรที่ลด ไขมัน หรือ กล้ามเนื้อ หรือ น้ำ ? ไม่งงนะ คือ ถ้าเป้าหมายคุณคือการลด " น้ำหนัก " คุรออกกลังกาย 30 นาที คุณกินแคลอรี่น้อยกว่าที่ใช้ไปในแต่ละวัน ติดลบถึง 7000 แคลอรี่เมื่อไหร่ น้ำหนักคุณจะลดลง 1 กก
แต่ถ้าคุณต้องการลด "ไขมัน " ..... การที่ร่างกายจะเอาไขมันมาใช้ได้ มันต้องรอให้ร่างกายหมดพลังงานที่เผาผลาญง่ายอย่างไกรโคเจนไปเสียก่อน มันถึงจะเอาไขมันมาเผาได้เต็มที่ในโซน HR fat burn คือ 30 นาทีขึ้นไป นั่นคือการดึงไขมันเน้นๆมาเผาผลาญในโซน HR ที่ต่ำ อย่างผมเนี่ยอ้วนมากๆ แต่ผมต้องการลดไขมันเน้นๆโดยไม่เสียมวลกล้ามเนื้อเพื่อคงระบบเผาผลาญไม่ให้ต่ำลง ผมจะเน้นออกกำลังกายด้วย คาดิโอ HR กลางๆค่อนไปต่ำอย่าง 60 - 70% ต่อเนื่องยาวนานถึง 60 นาที แต่ไกรโคเจนผมเอาไปใช้กับการเล่นเวทก่อนแล้วถึง 30 - 45 นาที พอผมมาคาดิโอ ไขมันแทบจะถุกนำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องรอ
ถ้าคุณจะออกกำลังกายแบบเน้นลด " ไขมัน " แต่ใช้เวลาแค่ 30 นาที ..... คุณจะทำอย่างไรให้ไกรโคเจนถุกใช้ไปจนร่างกายต้องนำไขมันมาเผาใช้ นั่นแหละ ง่ายมาก ตื่นนอนมาเช้าๆนั่นแหละร่างกายไกรโคเจนแทบไม่เหลือ คุรออกกำลังกาย 30 นาที ก็แทบจะเป้นการนำไขมันมาใช้เน้นๆแล้ว แต่ถ้าไกรโคเจนคุรเหลือเฟือ 30 นาทีนั้น แคลอรี่ใช้แน่นอน แต่ ไขมันยังไม่ถุกนำมาใช้ในสัดส่วนที่มากพอ เพราะร่างกายมีแหล่งพลังงานที่เพียงพออยู่แล้ว
การลดความอ้วน .... อาหาร สำคัญที่สุด ออกกำลังกายมันส่วนเสริม ถ้าอาหารไม่ดีพอ ออกกำลังกายบางทีไม่ได้ช่วยอะไร ทุกวันนี้ผมยังเห็นคนที่ยิม อ้วนเอาๆ ทั้งที่พี่แกวิ่งอาทิตย์ละ 3 - 4 วัน 45 - 60 นาที แต่ลองไปดูการกินเถอ่ะ พี่แกไม่ได้คุมเลย ส่วนผมแทบไม่ได้วิ่งออกไปทางเดินเร็ว+ชัน เนิบๆ นาบๆ แต่ลดสัดส่วนได้อาทิตย์ละ 0.5 นิ้ว
แต่ถ้าคุณต้องการลด "ไขมัน " ..... การที่ร่างกายจะเอาไขมันมาใช้ได้ มันต้องรอให้ร่างกายหมดพลังงานที่เผาผลาญง่ายอย่างไกรโคเจนไปเสียก่อน มันถึงจะเอาไขมันมาเผาได้เต็มที่ในโซน HR fat burn คือ 30 นาทีขึ้นไป นั่นคือการดึงไขมันเน้นๆมาเผาผลาญในโซน HR ที่ต่ำ อย่างผมเนี่ยอ้วนมากๆ แต่ผมต้องการลดไขมันเน้นๆโดยไม่เสียมวลกล้ามเนื้อเพื่อคงระบบเผาผลาญไม่ให้ต่ำลง ผมจะเน้นออกกำลังกายด้วย คาดิโอ HR กลางๆค่อนไปต่ำอย่าง 60 - 70% ต่อเนื่องยาวนานถึง 60 นาที แต่ไกรโคเจนผมเอาไปใช้กับการเล่นเวทก่อนแล้วถึง 30 - 45 นาที พอผมมาคาดิโอ ไขมันแทบจะถุกนำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องรอ
ถ้าคุณจะออกกำลังกายแบบเน้นลด " ไขมัน " แต่ใช้เวลาแค่ 30 นาที ..... คุณจะทำอย่างไรให้ไกรโคเจนถุกใช้ไปจนร่างกายต้องนำไขมันมาเผาใช้ นั่นแหละ ง่ายมาก ตื่นนอนมาเช้าๆนั่นแหละร่างกายไกรโคเจนแทบไม่เหลือ คุรออกกำลังกาย 30 นาที ก็แทบจะเป้นการนำไขมันมาใช้เน้นๆแล้ว แต่ถ้าไกรโคเจนคุรเหลือเฟือ 30 นาทีนั้น แคลอรี่ใช้แน่นอน แต่ ไขมันยังไม่ถุกนำมาใช้ในสัดส่วนที่มากพอ เพราะร่างกายมีแหล่งพลังงานที่เพียงพออยู่แล้ว
การลดความอ้วน .... อาหาร สำคัญที่สุด ออกกำลังกายมันส่วนเสริม ถ้าอาหารไม่ดีพอ ออกกำลังกายบางทีไม่ได้ช่วยอะไร ทุกวันนี้ผมยังเห็นคนที่ยิม อ้วนเอาๆ ทั้งที่พี่แกวิ่งอาทิตย์ละ 3 - 4 วัน 45 - 60 นาที แต่ลองไปดูการกินเถอ่ะ พี่แกไม่ได้คุมเลย ส่วนผมแทบไม่ได้วิ่งออกไปทางเดินเร็ว+ชัน เนิบๆ นาบๆ แต่ลดสัดส่วนได้อาทิตย์ละ 0.5 นิ้ว
ความคิดเห็นที่ 7
หากคิดที่จะ burn fat ต้องเน้น การออกกำลังกายแบบที่ทำให้ "หัวใจเต้นเร็วๆ" และควรใช้เวลาอย่างน้อย 30-45นาที
ระยะเวลาช่วง ที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญไปที่ ไขมันได้ เร็วนั้น...คือช่วงที่ ท้องว่าง...เป็นระยะนานมากกว่า 14 - 16ชั่วโมง และที่ได้ผลดีที่สุดคือ ท้องว่างนานถึง 19ชั่วโมงค่ะ (ความรู้นี้มาจาก หนังสือ Fast5 diet)
มีหลายๆกรณีมากๆ ที่ คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเลยด้วยซ้ำ แต่แค่ทำให้ ท้องว่างไม่ทานอะไรเป็นระยะเวลานานถึง 19ชั่วโมง (รวมระยะเวลานอนด้วยนะคะ)
แต่หากคุณเลือกที่จะ "ทานอาหารปกติ" และ "เลือกที่จะออกกำลังกาย" คุณก็ควรที่จะเข้าใจด้วยว่า อาหารประเภทไหนที่ ทานเข้าไปแล้วกระบวนการในร่างกาย นำไปเปลี่ยนเป็น ไขมันและสะสมเก็บเอาไว้ เช่น คาร์โบไฮเดรต ที่เป็น Single (sugar) , Complex ( vegetables etc.)
การออกกำลังกาย แบบ แอโรบิค ที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เป็นระยะเวลา 30นาทีนั้น...จากสารคดีที่เราได้ดูที่เยอรมันนะคะ ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญ กลูโคส และต่อไปที่ Glycogen จากนั้นจึงจะไปที่ ไขมัน... ตามสเต็ปนี้ ส่วนมากจะใช้เวลา...นานถึง 25นาที....และ นาทีที่ 26 เป็นต้นไปจึงจะเริ่มเผาผลาญที่ไขมัน ..การออกกำลังกายแค่ สามสิบนาที และหวังผลที่จะเผาผลาญไขมัน เราอยากจะแนะนำว่า ให้ พยายามนะคะ พยายามเพิ่มเวลา จาก 30 นาที เป็น 45นาที และเป็น 50นาที และหากตั้งใจจริงๆ 1ชั่วโมงค่ะ (หากค่อยพยายามทำให้ได้ ..อาจจะต้องใช้เวลา แต่อยากจะบอกว่า เห็นผลแน่นอนค่ะ)
สิ่งที่สำคัญอีกอันที่อยากบอก...คือ ณ เวลาที่เราจบการออกกำลังกายแล้ว ....ร่างกายไม่ได้ "หยุดที่จะเผาผลาญไขมันนะคะ" ช่วงเวลาที่เราหยุดการออกกำลังกายแล้วนั้น ควรอย่างยิ่งที่จะ "ยังไม่ทานอะไรเลย เป็นระยะเวลา 25-30นาทีค่ะ" เพราะ....ร่างกายจะได้เผาผลาญไขมันต่อไป ที่เยอรมันเค้าเรียกปฏิกริยาต่อเนื่องแบบนี้ว่า Afterburn effect. ถ้าคุณทานอาหารทันทีหลังจากออกกำลังกาย....ร่างกายจะ "หยุดการเผาผลาญที่ไขมัน" แต่จะ หันไปเผาผลาญที่ อาหารอะไรก็ตามที่คุณหย่อนเข้าปากน่ะค่ะ
มีอะไรเขียนถามได้ค่ะยินดีแบ่งปันความรู้ค่ะ สู้ๆนะคะ
ระยะเวลาช่วง ที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญไปที่ ไขมันได้ เร็วนั้น...คือช่วงที่ ท้องว่าง...เป็นระยะนานมากกว่า 14 - 16ชั่วโมง และที่ได้ผลดีที่สุดคือ ท้องว่างนานถึง 19ชั่วโมงค่ะ (ความรู้นี้มาจาก หนังสือ Fast5 diet)
มีหลายๆกรณีมากๆ ที่ คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเลยด้วยซ้ำ แต่แค่ทำให้ ท้องว่างไม่ทานอะไรเป็นระยะเวลานานถึง 19ชั่วโมง (รวมระยะเวลานอนด้วยนะคะ)
แต่หากคุณเลือกที่จะ "ทานอาหารปกติ" และ "เลือกที่จะออกกำลังกาย" คุณก็ควรที่จะเข้าใจด้วยว่า อาหารประเภทไหนที่ ทานเข้าไปแล้วกระบวนการในร่างกาย นำไปเปลี่ยนเป็น ไขมันและสะสมเก็บเอาไว้ เช่น คาร์โบไฮเดรต ที่เป็น Single (sugar) , Complex ( vegetables etc.)
การออกกำลังกาย แบบ แอโรบิค ที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เป็นระยะเวลา 30นาทีนั้น...จากสารคดีที่เราได้ดูที่เยอรมันนะคะ ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญ กลูโคส และต่อไปที่ Glycogen จากนั้นจึงจะไปที่ ไขมัน... ตามสเต็ปนี้ ส่วนมากจะใช้เวลา...นานถึง 25นาที....และ นาทีที่ 26 เป็นต้นไปจึงจะเริ่มเผาผลาญที่ไขมัน ..การออกกำลังกายแค่ สามสิบนาที และหวังผลที่จะเผาผลาญไขมัน เราอยากจะแนะนำว่า ให้ พยายามนะคะ พยายามเพิ่มเวลา จาก 30 นาที เป็น 45นาที และเป็น 50นาที และหากตั้งใจจริงๆ 1ชั่วโมงค่ะ (หากค่อยพยายามทำให้ได้ ..อาจจะต้องใช้เวลา แต่อยากจะบอกว่า เห็นผลแน่นอนค่ะ)
สิ่งที่สำคัญอีกอันที่อยากบอก...คือ ณ เวลาที่เราจบการออกกำลังกายแล้ว ....ร่างกายไม่ได้ "หยุดที่จะเผาผลาญไขมันนะคะ" ช่วงเวลาที่เราหยุดการออกกำลังกายแล้วนั้น ควรอย่างยิ่งที่จะ "ยังไม่ทานอะไรเลย เป็นระยะเวลา 25-30นาทีค่ะ" เพราะ....ร่างกายจะได้เผาผลาญไขมันต่อไป ที่เยอรมันเค้าเรียกปฏิกริยาต่อเนื่องแบบนี้ว่า Afterburn effect. ถ้าคุณทานอาหารทันทีหลังจากออกกำลังกาย....ร่างกายจะ "หยุดการเผาผลาญที่ไขมัน" แต่จะ หันไปเผาผลาญที่ อาหารอะไรก็ตามที่คุณหย่อนเข้าปากน่ะค่ะ
มีอะไรเขียนถามได้ค่ะยินดีแบ่งปันความรู้ค่ะ สู้ๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
จริงไหมคะ ออกกำลังกาย30นาทีไขมันแทบไม่กระดิกTT
http://www.youtube.com/watch?v=czmsKnL6RVA
4วันแรกออกได้แค่ 20นาที
แต่วันนี้ออกได้29นาทีล่ะค่ะ
(ทั้งคลิปท่ารวมคูลดาวน์ก็จะประมาณ34นาที)
วันนี้ได้29นาที เสร็จแล้วแทบจะหมอบคลานลงพื้น
เหนื่อยมากกกกกกกกกเลยค่ะ ใจเต้นแรงมาก หน้าแดงฝุดๆ
เต้นเสร็จก็ภูมิใจเบาๆ ออกได้จะตั้งเกือบครึ่งชม. แล้ว รู้สึกว่าเป้าหมายที่จะน้ำหนัก63กก. ก่อนปีใหม่ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม(น้ำหนักตอนเริ่ม73กก.)
แต่วันนี้หลังจากออกกำัลงกายเสร็จ นั่งชิวๆเล่นเน็ตก่อนอาบน้ำนอน
ก็เปิดเข้าห้องลุมพินี เจอกระทู้นึงเค้าถามว่าออกกำลังกาย 15นาที โอเคไหม
และความคิดเห็นพี่คนนึงเค้าบอกว่า ออกกำลังกาย30นาที ไขมันยังแทบไม่กระดิกเลย 15นาทีจะได้อะไร
อยากรู้จังว่าถ้าหนูยึดการเต้นแอโรบิคตามคลิปข้างบน 30นาที 6วัน/สัปดาห์
ไขมันหนูมันจะกระดิกไปบ้างไหมTT
30นาทีที่หนูเต้น มันเผาผลาญไปบ้างไหมคะ?