US Box Office October 24-26, 2014
แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com และ www.boxoffice.com
ในสุดสัปดาห์เต็มๆ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม หนังสยองเหนือธรรมชาติ ทุนต่ำอย่าง Ouija ขึ้นนำอย่างสง่าผ่าเผยบนอันดับหนังทำเงินด้วยรายได้ 19.9 ล่านเหรียญ ขณะที่ John Wick ตามมาในอันดับ 2 ส่วนหนังของลุงบิลล์ เมอร์เรย์ St. Vincent ก็ทำได้ดีในการเปิดฉายวงกว้าง โดยหนัง 12 อันดับแรกของสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกัน 103.2 ล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9% และทำให้เดือนนี้กลายเป็นเดือนที่รายได้หนังแข็งแรงอีกเดือนหนึ่ง ที่สำคัญรายได้ของเดือนตุลาคมปีนี้ ถือเป็นเดือนตุลาคมที่ทำรายได้สูงสุดจลอดกาล โดยที่ยังมีเวลาอีกถึง 5 วันสำหรับการเก็บเดี่ยวรายได้
เปิดตัว 2,858 โรง Ouija ขึ้นอันดับ 1 ด้วยรายได้ 19.9 ล้านเหรียญ ที่นอกจากจะเป็นหนังสยองขวัญเรื่องที่สองของปีนี้ ที่เปิดตัวได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ แซง Paranormal Activity: The Marked Ones (18.3 ล้านเหรียญ) เมื่อเดือนมกราคม และเหนือกว่า Sinister (18 ล้านเหรียญ) และ Carrie (16.1 ล้านเหรียญ) กับการที่ได้นักแสดงรุ่นหนุ่มรุ่นสาว, ได้เรท พีจี-13 และออกฉายก่อนวันฮัลโลวีน Ouija มีองค์ประกอบที่แข็งแรงสำหรับเรียกคนดูวัยรุ่นครบ ขณะที่ยูนิเวอร์แซลก็ทำการตลาดแบบเน้นหนักการใช้สื่อสังคมออนไลน์เต็มที่ รวมไปถึงการทำโฆษณาผ่านสแนปแช็ทเป็นครั้งแรก ผลลัพธ์ก็คือ คนดู 75% อายุต่ำกว่า 25 ปี และ 61% เป็นผู้หญิง แล้วมีคนดูพวกละตินถึง 39% ของคนดูทั้งหมด
กับการเป็นหนังทุนต่ำ ถือว่าหนังประสบความสำเร็จใช้ได้ทีเดียว กับการที่โดยปกติแล้วหนังสยองขวัญจะทำรายได้ดี ก็ในช่วงวันแรกๆ และ Ouija ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เมื่อได้คำวิจารณ์แค่ C จากซีนีมาสกอร์ ทำให้ไม่น่าจะมีแรงบอกปากต่อปากที่ดี แล้วกับคนดูอายุน้อยๆ ก็มีแนวโน้มว่ารายได้หนังจะตกอย่างฮวบฮาบในสัปดาห์ต่อไป คงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจถ้า Ouija ทำรายได้มากกว่า 40 ล้านเหรียญเมื่อจบโปรแกรม
เปิดตัวด้วย 2,589 โรงหนัง John Wick ทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 2 ด้วยรายได้ 14.4 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้หนังไม่ใช่งานที่ทำรายได้ในระดับเดียวกับหนังล้างแค้นเรื่องล่าสุดอย่าง The Equalizer (34.1 ล้านเหรียญ) แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร โดยเก็บเงินได้เหนือกว่าหนังในปีนี้อย่าง A Walk Among the Tombstones (12.8 ล้านเหรียญ) และ 3 Days to Kill (12.2 ล้านเหรียญ) และเกือบเท่ากับหนังของไลออนเกทส์อีกเรื่องคือ The Expendables 3 (15.9 ล้านเหรียญ) อาจจะดูตื่นเต้นเกินไปสำหรับรายได้เปิดตัวระดับ 14.4 ล้านเหรียญ แต่จากที่ปรากฎหนังสามารถทำได้ดีกว่า หนังแอ็คชันอาศัยพลังดาราอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าน่าให้กำลังใจกัน ทางไลออนเกทส์ ถือว่าทำการตลาดได้ดี เมื่อสร้างสมดุลย์ระหว่างเรื่อง, ตัวละคร และฉากแอ็คชันสำเร็จ หนังเองยังได้คำวิจารณ์ที่ดี เมื่อเว็บมะเขือเน่า ให้คะแนนJohn Wick ถึง 86% ซึ่งช่วยดันหนังได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หนังยังไปได้สวยในโรงไอแมกซ์ เมื่อทำรายได้ไปถึง 2.5 ล้านเหรียญ หรือ 18% ของรายได้ทั้งหมด คนดูของหนัง เป็นชายถึง 60% และอายุเกิน 25 ถึง 77% หนังได้คะแนนซีนีมาสกอร์แค่ B แต่เสียงบอกปากต่อปากก็น่าจะดีกว่าที่คาด และทำให้หนังมีแรงผ่าน 40 ล้านเหรียญไปได้ แต่ก็ต้องเหนื่อยหนัก เพราะสัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์ฮัลโลวีน และในโรงใหญ่ก็มี Interstellar และ Big Hero 6 รอจ่อแย่งโรงอยู่
อันดับ 3 เป็น Fury รายได้ร่วง 44% ทำเงินไป 13.4 ล้านเหรียญ เมื่อมองดูว่าหนังได้คำวิจารณ์ที่ดี ปากต่อปากที่ดี และกลุ่มผู้ชมอายุมาก หนังน่าจะยืนระยะได้ดีกว่านี้เล็กน้อย ตอนนี้รายได้รวมอยู่ที่ 46.4 ล้านเหรียญ และน่าจะเก็บเงินได้ราวๆ 70 ล้านเหรียญ
Gone Girl ได้เงินมาอีก 11.04 ล้านเหรียญ ตกจากสัปดาห์ก่อน 37% ซึ่งถือเป็นการตกที่มากที่สุดของหนัง มาถึงวันนี้รายได้รวมอยู่ที่ 124 ล้านเหรียญ และน่าจะแซง The Curious Case of Benjamin Button (127.5 ล้านเหรียญ) เป็นหนังเดวิด ฟินเชอร์ ทำเงินสูงสุดในไม่ช้า
The Book of Life ยังอยู่ในท็อปไฟว์ ด้วยรายได้ 10.05 ล้านเหรียญ ตกจากสัปดาห์ที่แล้ว 41% ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยสำหรับหนังแอนิเมชัน (The Boxtrolls ที่เข้าฉายเมื่อต้นเดือน ตกเพียง 31%) ผ่าน 10 วันรายได้รวมของหนังอยู่ที่ 30.2 ล้านเหรียญ
หลังฉายวงจำกัดมา 2 สัปดาห์ St. Vincent เพิ่มโรงเป็น 2,282 โรง ทำเงินได้ 7.75 ล้านเหรียญ ซึ่งเทียบกับหนังของเมลิสสา แม็คคาร์ธีย์ตามปกติไม่ได้ แถมตัวเธอก็ไม่ได้เป็นจุดสำคัญในการโปรโมท แล้วคงเป็นเรื่องตลบแตลงหากบอกว่าหนังประสบความสำเร็จในตอนนี้ ด้วยการมองข้ามรูปแบบการปล่อยหนัง ที่เป็นงานเปิดฉายในวงกว้าง ในสัปดาห์ที่ไม่ได้มีอะไรแรงปรู้ดปร้าด การออกฉายในวงกว้างของหนังอินดีสักเรื่องแล้วได้เงินมาขนาดนี้ ถือว่าเยี่ยม แต่ท้ายที่สุด ต้องดู St. Vincent กันยาวๆ ว่า ปากต่อปากที่ดี จะพาหนังผ่าน 30 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้กลายเป็นหนังฮิตใช้ได้ สำเร็จหรือไม่
หลังทำรายได้มหัศจรรย์จากการฉายในนิว ยอร์คและแอลเอ เมื่อสัปดาห์ก่อน Birdman เพิ่มโรงเป็น 50 โรงและได้เงินมา 1.38 ล้านเหรียญ คิดเป็น 27,593 เหรียญต่อโรง ซึ่งต่ำกว่าหนังของวูดดี อัลเลน Midnight in Paris และ Blue Jasmine เล็กน้อย และมีการเพิ่มโรงในลักษณะเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี น่าจะทำให้หนังมีแรงดึงดูดในวงกว้างมากขึ้น ทางฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ มีแผนเพิ่มโรงเป็น 225 โรงในสัปดาห์หน้า ขณะที่ Dear White People เพิ่มโรงเป็น 384 โรง และทำรายได้ 1.31 ล้านเหรียญ ซึ่งพอๆ กับหนังร่วมค่ายโรดไซด์ แอทแทรคชันส์ The Skeleton Twins ซึ่งทำเงินไป 1.23 ล้านเหรียญ เมื่อขยายโรงเป็น 385 โรง และทำเงินเกิน 5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นไปได้สำหรับ Dear White People
หนังพลังศรัทธาที่เป็นเรื่องดรามากีฬาฟุตบอล 23 Blast เปิดตัว 402,000 ล้านเหรียญจาก 617 โรง ถือเป็นหนึ่งในหนังเปิดตัววงกว้า ที่แย่ที่สุด ในระดับเดียวกับหนังอย่าง Men, Women & Children เมื่อสัปดาห์ก่อน ผิดกับหนังสารคดีเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน Citzenfour ที่ทำรายได้น่าประทับใจ 125,000 เหรียญจาก 5 โรง ส่วน Laggies ของค่ายเอ 24 เปิดตัว 78,500 เหรียญจาก 5 โรง
ในตลาดต่างประเทศ Annabelle ทำเงินผ่านร้อยล้านเหรียญเรียบร้อย และรายได้รวมทั่วโลก 200 ล้านเหรียญแล้ว หนังเป็นแชมป์นอกอเมริกาด้วยรายได้สัปดาห์นี้ 26.5 ล้านเหรียญจาก 62 เขต รายได้ในตลาดต่างประเทศตอนนี้อยู่ที่ 126.7 ล้านเหรียญ รวมรายได้ทั่วโลก 206.2 ล้านเหรียญ โดยที่เม็กซิโกหนังเปิดตัวมโหฬารกลายเป็นหนังสยองเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล และหนัง 2 มิติเปิดตัวดีสุดของปีนี้ด้วยรายได้ 11.7 ล้านเหรียญ
Lucy ยังโฉบเฉี่ยวฉลุยในจีนกับรายได้ 19 ล้านเหรียญ รวมรายได้สัปดาห์นี้ 19.6 ล้านเหรียญจาก 41 ตลาด รายได้นอกอเมริกาเพิ่มเป็น 307.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกขยับเป็น 434 ล้านเหรียญ
ขณะที่ Gone Girl ทำรายได้ 18.4 ล้านเหรียญรายได้รวมเฉพาะต่างประเทศเป็น 118.3 ล้านเหรียญ หนังทำเงินที่ได้ที่เกาหลีใต้ เมื่อเปิดตัวไป 3.8 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมทั่วโลกไปถึง 242.3 ล้านเหรียญแล้ว และมีอีก 5 ตลาดให้เล่น ส่วน Dracula Untold ได้เงินมาอีก 14.7 ล้านเหรียญจาก 7,400 รอบจาก 59 เขต ซึ่งเปิดตัวอันดับ 1 ถึง 4 ประเทศ ซึ่งบราซิลและสเปนทำรายได้สูงที่สุดรวมกันถึง 4.5 ล้านเหรียญ และตอนนี้หนังทำเงินนอกอเมริกาไปแล้ว 117.7 ล้านเหรียญ และ 166 ล้านเหรียญทั่วโลก
The Maze Runner ยังคงไปได้เรื่อยๆ เมื่อเก็บเงินได้อีก 12.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาพุ่งไปถึง 179.2 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 273.2 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวในจีนสัปดาห์หน้า ขณะที่ Hercules ก็ยังมีแรงเบ่งกล้ามอยู่ เมื่อทำเงินไป 11.3 ล้านเหรียญ โดยมาจากการเปิดตัวในจีนและญี่ปุ่นรวมกัน 10.9 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 238.1 ล้านเหรียญ รายได้นอกอเมริกาอยู่ที่ 165.5 ล้านเหรียญ
หนัง Teenage Mutant Ninja Turtles ทำรายได้นอกอเมริกาผ่าน 200 ล้านเหรียญแล้ว เมื่อได้เงินมาอีก 10.8 ล้านเหรียญจาก 32 ประเทศ รายได้รวมเป็น 201.9 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกตอนนี้เป็น 392 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวในจีนสัปดาห์หน้า มาถึง Guardians of the Galaxy ที่สนุกกับรายได้ 3.4 ล้านเหรียญที่อิตาลี และเป็นตลาดสุดท้ายที่เปิดตัว หนังทำเงินนอกอเมริกาสัปดาห์นี้ 10.3 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมขยับเป็น 424 ล้านเหรียญ โดยจีนเป็นตลาดที่ทำเงินมากที่สุด 84.4 ล้านเหรียญ สำหรับรายได้ทั่วโลกของหนังนั้นคือ 752.6 ล้านเหรียญ
The Book of Life ได้เงินมาอีก 7.8 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาเป็น 18 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกตอนนี้อยู่ที่ 49.9 ล้านเหรียญ สำหรับ The Judge ทำรายได้สัปดาห์นี้ 6.9 ล้านเหรียญจาก 47 ตลาด รายได้ในต่างประเทศเป็น 19 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกเพิ่มเป็น 54.2 ล้านเหรียญ
Big Hero 6 เปิดตัวแล้วในรัสเซีย และยูเครน ก่อนเปิดตัวในอเมริกา หนังทำรายได้ 5 ล้านเหรียญ โดยเก็บเงินคนรัสเซียนได้ถึง 4.8 ล้านเหรียญ
The Boxtrolls ทำเงิน 3.7 ล้านเหรียญจาก 47 เขต รายได้รวมเพิ่มเป็น 41.5 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกเท่ากับ 89 ล้านเหรียญ
ขณะที่ Ouija เปิดตัวใน 5 เขต ทำรายได้ไป 1.3 ล้านเหรียญจาก 234 รอบในมาเลย์เซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน, โปแลนด์์ และสโลเวเนีย บวกกับรายได้เปิดตัวในอเมริกา รายได้เปิดตัวรวมทั่วโลกของหนังอยู่ที่ 21.3 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวเพิ่มในอีก 13 เขต รวมทั้งอังกฤษในสัปดาห์หน้า
อ่านแล้วถูกใจ คลิก Like ให้ได้ที่
www.facebook.com/Sadaos นะครับ
หนังผีถ้วยแก้วฝรั่ง Ouija เบียด John Wick ขึ้นที่ 1 หนังทำเงินอเมริกาสัปดาห์นี้
แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com และ www.boxoffice.com
ในสุดสัปดาห์เต็มๆ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม หนังสยองเหนือธรรมชาติ ทุนต่ำอย่าง Ouija ขึ้นนำอย่างสง่าผ่าเผยบนอันดับหนังทำเงินด้วยรายได้ 19.9 ล่านเหรียญ ขณะที่ John Wick ตามมาในอันดับ 2 ส่วนหนังของลุงบิลล์ เมอร์เรย์ St. Vincent ก็ทำได้ดีในการเปิดฉายวงกว้าง โดยหนัง 12 อันดับแรกของสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกัน 103.2 ล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9% และทำให้เดือนนี้กลายเป็นเดือนที่รายได้หนังแข็งแรงอีกเดือนหนึ่ง ที่สำคัญรายได้ของเดือนตุลาคมปีนี้ ถือเป็นเดือนตุลาคมที่ทำรายได้สูงสุดจลอดกาล โดยที่ยังมีเวลาอีกถึง 5 วันสำหรับการเก็บเดี่ยวรายได้
เปิดตัว 2,858 โรง Ouija ขึ้นอันดับ 1 ด้วยรายได้ 19.9 ล้านเหรียญ ที่นอกจากจะเป็นหนังสยองขวัญเรื่องที่สองของปีนี้ ที่เปิดตัวได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ แซง Paranormal Activity: The Marked Ones (18.3 ล้านเหรียญ) เมื่อเดือนมกราคม และเหนือกว่า Sinister (18 ล้านเหรียญ) และ Carrie (16.1 ล้านเหรียญ) กับการที่ได้นักแสดงรุ่นหนุ่มรุ่นสาว, ได้เรท พีจี-13 และออกฉายก่อนวันฮัลโลวีน Ouija มีองค์ประกอบที่แข็งแรงสำหรับเรียกคนดูวัยรุ่นครบ ขณะที่ยูนิเวอร์แซลก็ทำการตลาดแบบเน้นหนักการใช้สื่อสังคมออนไลน์เต็มที่ รวมไปถึงการทำโฆษณาผ่านสแนปแช็ทเป็นครั้งแรก ผลลัพธ์ก็คือ คนดู 75% อายุต่ำกว่า 25 ปี และ 61% เป็นผู้หญิง แล้วมีคนดูพวกละตินถึง 39% ของคนดูทั้งหมด
กับการเป็นหนังทุนต่ำ ถือว่าหนังประสบความสำเร็จใช้ได้ทีเดียว กับการที่โดยปกติแล้วหนังสยองขวัญจะทำรายได้ดี ก็ในช่วงวันแรกๆ และ Ouija ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เมื่อได้คำวิจารณ์แค่ C จากซีนีมาสกอร์ ทำให้ไม่น่าจะมีแรงบอกปากต่อปากที่ดี แล้วกับคนดูอายุน้อยๆ ก็มีแนวโน้มว่ารายได้หนังจะตกอย่างฮวบฮาบในสัปดาห์ต่อไป คงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจถ้า Ouija ทำรายได้มากกว่า 40 ล้านเหรียญเมื่อจบโปรแกรม
เปิดตัวด้วย 2,589 โรงหนัง John Wick ทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 2 ด้วยรายได้ 14.4 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้หนังไม่ใช่งานที่ทำรายได้ในระดับเดียวกับหนังล้างแค้นเรื่องล่าสุดอย่าง The Equalizer (34.1 ล้านเหรียญ) แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร โดยเก็บเงินได้เหนือกว่าหนังในปีนี้อย่าง A Walk Among the Tombstones (12.8 ล้านเหรียญ) และ 3 Days to Kill (12.2 ล้านเหรียญ) และเกือบเท่ากับหนังของไลออนเกทส์อีกเรื่องคือ The Expendables 3 (15.9 ล้านเหรียญ) อาจจะดูตื่นเต้นเกินไปสำหรับรายได้เปิดตัวระดับ 14.4 ล้านเหรียญ แต่จากที่ปรากฎหนังสามารถทำได้ดีกว่า หนังแอ็คชันอาศัยพลังดาราอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าน่าให้กำลังใจกัน ทางไลออนเกทส์ ถือว่าทำการตลาดได้ดี เมื่อสร้างสมดุลย์ระหว่างเรื่อง, ตัวละคร และฉากแอ็คชันสำเร็จ หนังเองยังได้คำวิจารณ์ที่ดี เมื่อเว็บมะเขือเน่า ให้คะแนนJohn Wick ถึง 86% ซึ่งช่วยดันหนังได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หนังยังไปได้สวยในโรงไอแมกซ์ เมื่อทำรายได้ไปถึง 2.5 ล้านเหรียญ หรือ 18% ของรายได้ทั้งหมด คนดูของหนัง เป็นชายถึง 60% และอายุเกิน 25 ถึง 77% หนังได้คะแนนซีนีมาสกอร์แค่ B แต่เสียงบอกปากต่อปากก็น่าจะดีกว่าที่คาด และทำให้หนังมีแรงผ่าน 40 ล้านเหรียญไปได้ แต่ก็ต้องเหนื่อยหนัก เพราะสัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์ฮัลโลวีน และในโรงใหญ่ก็มี Interstellar และ Big Hero 6 รอจ่อแย่งโรงอยู่
อันดับ 3 เป็น Fury รายได้ร่วง 44% ทำเงินไป 13.4 ล้านเหรียญ เมื่อมองดูว่าหนังได้คำวิจารณ์ที่ดี ปากต่อปากที่ดี และกลุ่มผู้ชมอายุมาก หนังน่าจะยืนระยะได้ดีกว่านี้เล็กน้อย ตอนนี้รายได้รวมอยู่ที่ 46.4 ล้านเหรียญ และน่าจะเก็บเงินได้ราวๆ 70 ล้านเหรียญ
Gone Girl ได้เงินมาอีก 11.04 ล้านเหรียญ ตกจากสัปดาห์ก่อน 37% ซึ่งถือเป็นการตกที่มากที่สุดของหนัง มาถึงวันนี้รายได้รวมอยู่ที่ 124 ล้านเหรียญ และน่าจะแซง The Curious Case of Benjamin Button (127.5 ล้านเหรียญ) เป็นหนังเดวิด ฟินเชอร์ ทำเงินสูงสุดในไม่ช้า
The Book of Life ยังอยู่ในท็อปไฟว์ ด้วยรายได้ 10.05 ล้านเหรียญ ตกจากสัปดาห์ที่แล้ว 41% ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยสำหรับหนังแอนิเมชัน (The Boxtrolls ที่เข้าฉายเมื่อต้นเดือน ตกเพียง 31%) ผ่าน 10 วันรายได้รวมของหนังอยู่ที่ 30.2 ล้านเหรียญ
หลังฉายวงจำกัดมา 2 สัปดาห์ St. Vincent เพิ่มโรงเป็น 2,282 โรง ทำเงินได้ 7.75 ล้านเหรียญ ซึ่งเทียบกับหนังของเมลิสสา แม็คคาร์ธีย์ตามปกติไม่ได้ แถมตัวเธอก็ไม่ได้เป็นจุดสำคัญในการโปรโมท แล้วคงเป็นเรื่องตลบแตลงหากบอกว่าหนังประสบความสำเร็จในตอนนี้ ด้วยการมองข้ามรูปแบบการปล่อยหนัง ที่เป็นงานเปิดฉายในวงกว้าง ในสัปดาห์ที่ไม่ได้มีอะไรแรงปรู้ดปร้าด การออกฉายในวงกว้างของหนังอินดีสักเรื่องแล้วได้เงินมาขนาดนี้ ถือว่าเยี่ยม แต่ท้ายที่สุด ต้องดู St. Vincent กันยาวๆ ว่า ปากต่อปากที่ดี จะพาหนังผ่าน 30 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้กลายเป็นหนังฮิตใช้ได้ สำเร็จหรือไม่
หลังทำรายได้มหัศจรรย์จากการฉายในนิว ยอร์คและแอลเอ เมื่อสัปดาห์ก่อน Birdman เพิ่มโรงเป็น 50 โรงและได้เงินมา 1.38 ล้านเหรียญ คิดเป็น 27,593 เหรียญต่อโรง ซึ่งต่ำกว่าหนังของวูดดี อัลเลน Midnight in Paris และ Blue Jasmine เล็กน้อย และมีการเพิ่มโรงในลักษณะเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี น่าจะทำให้หนังมีแรงดึงดูดในวงกว้างมากขึ้น ทางฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ มีแผนเพิ่มโรงเป็น 225 โรงในสัปดาห์หน้า ขณะที่ Dear White People เพิ่มโรงเป็น 384 โรง และทำรายได้ 1.31 ล้านเหรียญ ซึ่งพอๆ กับหนังร่วมค่ายโรดไซด์ แอทแทรคชันส์ The Skeleton Twins ซึ่งทำเงินไป 1.23 ล้านเหรียญ เมื่อขยายโรงเป็น 385 โรง และทำเงินเกิน 5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นไปได้สำหรับ Dear White People
หนังพลังศรัทธาที่เป็นเรื่องดรามากีฬาฟุตบอล 23 Blast เปิดตัว 402,000 ล้านเหรียญจาก 617 โรง ถือเป็นหนึ่งในหนังเปิดตัววงกว้า ที่แย่ที่สุด ในระดับเดียวกับหนังอย่าง Men, Women & Children เมื่อสัปดาห์ก่อน ผิดกับหนังสารคดีเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน Citzenfour ที่ทำรายได้น่าประทับใจ 125,000 เหรียญจาก 5 โรง ส่วน Laggies ของค่ายเอ 24 เปิดตัว 78,500 เหรียญจาก 5 โรง
ในตลาดต่างประเทศ Annabelle ทำเงินผ่านร้อยล้านเหรียญเรียบร้อย และรายได้รวมทั่วโลก 200 ล้านเหรียญแล้ว หนังเป็นแชมป์นอกอเมริกาด้วยรายได้สัปดาห์นี้ 26.5 ล้านเหรียญจาก 62 เขต รายได้ในตลาดต่างประเทศตอนนี้อยู่ที่ 126.7 ล้านเหรียญ รวมรายได้ทั่วโลก 206.2 ล้านเหรียญ โดยที่เม็กซิโกหนังเปิดตัวมโหฬารกลายเป็นหนังสยองเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล และหนัง 2 มิติเปิดตัวดีสุดของปีนี้ด้วยรายได้ 11.7 ล้านเหรียญ
Lucy ยังโฉบเฉี่ยวฉลุยในจีนกับรายได้ 19 ล้านเหรียญ รวมรายได้สัปดาห์นี้ 19.6 ล้านเหรียญจาก 41 ตลาด รายได้นอกอเมริกาเพิ่มเป็น 307.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกขยับเป็น 434 ล้านเหรียญ
ขณะที่ Gone Girl ทำรายได้ 18.4 ล้านเหรียญรายได้รวมเฉพาะต่างประเทศเป็น 118.3 ล้านเหรียญ หนังทำเงินที่ได้ที่เกาหลีใต้ เมื่อเปิดตัวไป 3.8 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมทั่วโลกไปถึง 242.3 ล้านเหรียญแล้ว และมีอีก 5 ตลาดให้เล่น ส่วน Dracula Untold ได้เงินมาอีก 14.7 ล้านเหรียญจาก 7,400 รอบจาก 59 เขต ซึ่งเปิดตัวอันดับ 1 ถึง 4 ประเทศ ซึ่งบราซิลและสเปนทำรายได้สูงที่สุดรวมกันถึง 4.5 ล้านเหรียญ และตอนนี้หนังทำเงินนอกอเมริกาไปแล้ว 117.7 ล้านเหรียญ และ 166 ล้านเหรียญทั่วโลก
The Maze Runner ยังคงไปได้เรื่อยๆ เมื่อเก็บเงินได้อีก 12.6 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาพุ่งไปถึง 179.2 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 273.2 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวในจีนสัปดาห์หน้า ขณะที่ Hercules ก็ยังมีแรงเบ่งกล้ามอยู่ เมื่อทำเงินไป 11.3 ล้านเหรียญ โดยมาจากการเปิดตัวในจีนและญี่ปุ่นรวมกัน 10.9 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 238.1 ล้านเหรียญ รายได้นอกอเมริกาอยู่ที่ 165.5 ล้านเหรียญ
หนัง Teenage Mutant Ninja Turtles ทำรายได้นอกอเมริกาผ่าน 200 ล้านเหรียญแล้ว เมื่อได้เงินมาอีก 10.8 ล้านเหรียญจาก 32 ประเทศ รายได้รวมเป็น 201.9 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกตอนนี้เป็น 392 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวในจีนสัปดาห์หน้า มาถึง Guardians of the Galaxy ที่สนุกกับรายได้ 3.4 ล้านเหรียญที่อิตาลี และเป็นตลาดสุดท้ายที่เปิดตัว หนังทำเงินนอกอเมริกาสัปดาห์นี้ 10.3 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมขยับเป็น 424 ล้านเหรียญ โดยจีนเป็นตลาดที่ทำเงินมากที่สุด 84.4 ล้านเหรียญ สำหรับรายได้ทั่วโลกของหนังนั้นคือ 752.6 ล้านเหรียญ
The Book of Life ได้เงินมาอีก 7.8 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาเป็น 18 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกตอนนี้อยู่ที่ 49.9 ล้านเหรียญ สำหรับ The Judge ทำรายได้สัปดาห์นี้ 6.9 ล้านเหรียญจาก 47 ตลาด รายได้ในต่างประเทศเป็น 19 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกเพิ่มเป็น 54.2 ล้านเหรียญ
Big Hero 6 เปิดตัวแล้วในรัสเซีย และยูเครน ก่อนเปิดตัวในอเมริกา หนังทำรายได้ 5 ล้านเหรียญ โดยเก็บเงินคนรัสเซียนได้ถึง 4.8 ล้านเหรียญ
The Boxtrolls ทำเงิน 3.7 ล้านเหรียญจาก 47 เขต รายได้รวมเพิ่มเป็น 41.5 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกเท่ากับ 89 ล้านเหรียญ
ขณะที่ Ouija เปิดตัวใน 5 เขต ทำรายได้ไป 1.3 ล้านเหรียญจาก 234 รอบในมาเลย์เซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน, โปแลนด์์ และสโลเวเนีย บวกกับรายได้เปิดตัวในอเมริกา รายได้เปิดตัวรวมทั่วโลกของหนังอยู่ที่ 21.3 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวเพิ่มในอีก 13 เขต รวมทั้งอังกฤษในสัปดาห์หน้า
อ่านแล้วถูกใจ คลิก Like ให้ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos นะครับ