เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000121493
สำหรับหนังไทย ไปไกลจนได้เข้ารอบคัดเลือกพิจารณาเบื้องต้น (Shortlist) 15 เรื่องสุดท้าย จากทั้งหมด 85 เรื่องที่ส่งในปีนี้ ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (ACADEMY AWARDS / BEST INTERNATIONAL FEATURE FILM SHORTLIST) บนเวทีออสการ์ครั้งที่ 97 ซึ่งต้องลุ้นผ่านเข้ารอบเป็นผู้เข้าชิง 5 เรื่องสุดท้ายอีกครั้ง
แต่ตั้งแต่วันแรกที่ฉายที่ประเทศไทย ก็ฟันรายได้ 21 ล้านบาททั่วประเทศ และอยู่ในโปรแกรมกับรายได้รวมๆ ประมาณ 339 ล้านบาท และเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่มีรายได้รวมกว่า 2,000 ล้านจากรายได้ทั่วโลก ซึ่งภาพยนตร์ก็ยังคงเดินหน้าฉายอีกต่อไป
ซึ่งในส่วนของรายได้ของ หลานม่า นั้น ทาง GDH โดย “วัน วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์” หนึ่งในโปรดิวเซอร์หลักของหนังเรื่องนี้ ได้อธิบายถึงตัวเลขว่าจริงๆ สัดส่วนของค่ายนั้นจะได้เท่าไหร่ หลังจากที่หลานม่ากวาดรายได้ 2 พันล้านบาท
“หลานม่าตอนนี้ทำเงินทั่วโลก รายได้ที่มีคนดูจำนวนค่าตั๋วทั่วโลก 2 พันล้าน ซึ่งถือเป็นหนังไทยทำเงินสูงสุดรายได้ทั่วโลกเท่าที่เคยมีมา ตอนนี้หลานม่าถือสองสถิติ ทำรายได้สูงที่สุด และผ่านเข้ารอบ 15 เรื่องออสการ์ แต่เราไม่ได้แบ่งครึ่งเหมือนรายได้ในเมืองไทยนะคะ ฉะนั้นจริงๆ เราไม่ได้รายได้พันล้านค่ะ (หัวเราะ)”
“อย่างรายได้ในเมืองไทย เราแบ่งครึ่งกับโรงหนัง แบ่งครึ่งกับดิสซิบิวเตอร์ในต่างจังหวัด เมืองไทยมีสองแบบ กรุงเทพฯ แบ่งแบบนึง ต่างจังหวัดแบ่งแบบนึง แต่ในต่างประเทศ ลักษณะการได้รายได้ มีดิสซิบิวเตอร์ คือคนที่อยากซื้อหนังเราไปจัดจำหน่าย ก็มาซื้อหนังของเราไป แล้วไปจัดจำหน่าย เขามีค่าใช้จ่ายของเขา ถ้าเขามีกำไร ก็เป็นรายได้แบ่งเปอร์เซ็นต์ออกมา เป็นส่วนแบ่งที่ไม่ใช่ครึ่งๆ ค่ะ ไม่ใช่ว่า 2 พันล้าน แล้วเราได้พันล้านแบบนั้น เป็นการซื้อสิทธิ์ไปฉายในโรงภาพยนตร์ มีการตกลงกันไว้ว่าถ้ากำไรจะแบ่งรายได้เปอร์เซ็นต์กันเท่าไหร่ ซึ่งแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกันเลยค่ะ“
”ซึ่ง ณ วันนี้ก็ยังฉายอยู่ ตอนนี้ฉายไปแล้ว 36 ประเทศทั่วโลก ซึ่งก็เยอะมาก กำลังดำเนินฉายอยู่ และได้ฉายในประเทศที่หนังไทยไม่เคยไปฉาย คือเรื่องนี้เหมือนเป็นหัวหอกเดินทางไปที่ใหม่ๆ เยอะมาก อย่างคริสต์มาสนี้จะฉายในแถบยุโรปอีกเกือบ 10 ประเทศ และอเมริกาใต้อีกประมาณเกือบ 10 ประเทศ ซึ่งยอดเหล่านี้ยังไม่ได้นับรวมกับ 2 พันล้าน แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเท่าไหร่ จบการเดินทางทั้งหมดแล้ว จีดีเอชจะได้เท่าไหร่ ต้องถามพี่จีน่า (จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด) อยากให้หนังเดินทางต่อไปอีกสักปีสองปีเลย รายได้มันไม่ได้หมายถึงแค่เงิน แต่หมายถึงว่ามีคนดูเยอะ มีคนรู้จักอาม่า เฉลี่ยค่าตั๋วจาก 2 พันล้าน มีคนเป็นล้านๆ ที่รู้จักอาม่า”
“หลานม่า” รวมรายได้ทั่วโลกกว่า 2,000 ล้านบาท ทำลายสถิติหนังไทย GDH ได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่ ?
https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000121493
สำหรับหนังไทย ไปไกลจนได้เข้ารอบคัดเลือกพิจารณาเบื้องต้น (Shortlist) 15 เรื่องสุดท้าย จากทั้งหมด 85 เรื่องที่ส่งในปีนี้ ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (ACADEMY AWARDS / BEST INTERNATIONAL FEATURE FILM SHORTLIST) บนเวทีออสการ์ครั้งที่ 97 ซึ่งต้องลุ้นผ่านเข้ารอบเป็นผู้เข้าชิง 5 เรื่องสุดท้ายอีกครั้ง
แต่ตั้งแต่วันแรกที่ฉายที่ประเทศไทย ก็ฟันรายได้ 21 ล้านบาททั่วประเทศ และอยู่ในโปรแกรมกับรายได้รวมๆ ประมาณ 339 ล้านบาท และเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่มีรายได้รวมกว่า 2,000 ล้านจากรายได้ทั่วโลก ซึ่งภาพยนตร์ก็ยังคงเดินหน้าฉายอีกต่อไป
ซึ่งในส่วนของรายได้ของ หลานม่า นั้น ทาง GDH โดย “วัน วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์” หนึ่งในโปรดิวเซอร์หลักของหนังเรื่องนี้ ได้อธิบายถึงตัวเลขว่าจริงๆ สัดส่วนของค่ายนั้นจะได้เท่าไหร่ หลังจากที่หลานม่ากวาดรายได้ 2 พันล้านบาท
“หลานม่าตอนนี้ทำเงินทั่วโลก รายได้ที่มีคนดูจำนวนค่าตั๋วทั่วโลก 2 พันล้าน ซึ่งถือเป็นหนังไทยทำเงินสูงสุดรายได้ทั่วโลกเท่าที่เคยมีมา ตอนนี้หลานม่าถือสองสถิติ ทำรายได้สูงที่สุด และผ่านเข้ารอบ 15 เรื่องออสการ์ แต่เราไม่ได้แบ่งครึ่งเหมือนรายได้ในเมืองไทยนะคะ ฉะนั้นจริงๆ เราไม่ได้รายได้พันล้านค่ะ (หัวเราะ)”
“อย่างรายได้ในเมืองไทย เราแบ่งครึ่งกับโรงหนัง แบ่งครึ่งกับดิสซิบิวเตอร์ในต่างจังหวัด เมืองไทยมีสองแบบ กรุงเทพฯ แบ่งแบบนึง ต่างจังหวัดแบ่งแบบนึง แต่ในต่างประเทศ ลักษณะการได้รายได้ มีดิสซิบิวเตอร์ คือคนที่อยากซื้อหนังเราไปจัดจำหน่าย ก็มาซื้อหนังของเราไป แล้วไปจัดจำหน่าย เขามีค่าใช้จ่ายของเขา ถ้าเขามีกำไร ก็เป็นรายได้แบ่งเปอร์เซ็นต์ออกมา เป็นส่วนแบ่งที่ไม่ใช่ครึ่งๆ ค่ะ ไม่ใช่ว่า 2 พันล้าน แล้วเราได้พันล้านแบบนั้น เป็นการซื้อสิทธิ์ไปฉายในโรงภาพยนตร์ มีการตกลงกันไว้ว่าถ้ากำไรจะแบ่งรายได้เปอร์เซ็นต์กันเท่าไหร่ ซึ่งแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกันเลยค่ะ“
”ซึ่ง ณ วันนี้ก็ยังฉายอยู่ ตอนนี้ฉายไปแล้ว 36 ประเทศทั่วโลก ซึ่งก็เยอะมาก กำลังดำเนินฉายอยู่ และได้ฉายในประเทศที่หนังไทยไม่เคยไปฉาย คือเรื่องนี้เหมือนเป็นหัวหอกเดินทางไปที่ใหม่ๆ เยอะมาก อย่างคริสต์มาสนี้จะฉายในแถบยุโรปอีกเกือบ 10 ประเทศ และอเมริกาใต้อีกประมาณเกือบ 10 ประเทศ ซึ่งยอดเหล่านี้ยังไม่ได้นับรวมกับ 2 พันล้าน แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเท่าไหร่ จบการเดินทางทั้งหมดแล้ว จีดีเอชจะได้เท่าไหร่ ต้องถามพี่จีน่า (จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด) อยากให้หนังเดินทางต่อไปอีกสักปีสองปีเลย รายได้มันไม่ได้หมายถึงแค่เงิน แต่หมายถึงว่ามีคนดูเยอะ มีคนรู้จักอาม่า เฉลี่ยค่าตั๋วจาก 2 พันล้าน มีคนเป็นล้านๆ ที่รู้จักอาม่า”