ตอนแรก :
http://ppantip.com/topic/32756275
วันที่ 2 ของการเดินทาง หลังจากที่ผมได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว วันนี้ผมตื่นสายๆ หน่อยเพราะเมื่อคืนได้วางแผนไว้เรียบร้อยว่าจะทำอะไรบ้าง สรุปคือ วันนี้ 15 Oct 2014 เดินเล่นชิวๆ ไปดูปราสาทโอซาก้าแล้วไปซื้อบัตร Unlimited ที่นัมบะ พร้อมกับไปเดินช็อปปิ้ง (หรือป่าว) ย่าน Shenseibashi กับหาอะไรทานที่ Dontonburi (ตรงไหนเขียนชื่อผิดขออภัยนะคับ) 16-17 Oct 2014 เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในโอซาก้าให้หมด โดยใช้บัตร Unlimited Pass ที่กำลังจะไปซื้อ วันที่ 18 Oct 2014 ไปนาราเพื่อไหว้พระ ที่วัด Todaiji พระใหญ่ที่ต้องไม่พลาด อีกอย่างก้อคือไปถ่ายรูปกับกวางสัญลักษณ์ของเมืองนี้ 19 Oct 2014 ไปเกียวโต ที่ต้องไม่พลาดคือ วัดทอง (Kinkakuji) วันเงิน (Ginkakuji) และวัดน้ำใส เนื่องจากเวลาเพียง 1 วันคิดว่าคงได้เท่านี้จริงๆ และนี่คือแผนทั้งหมดที่คิดมาเอง 555+
อาบน้ำเรียบร้อยลงมาที่เคาท์เตอร์โรงแรมหน่อยคับเพื่อถามทางไปปราสาท โโยที่โรงแรมจะมีแผนที่ให้นะคับ หากจะไปปราสาทโอซาก้าเดินออกมาถึงหน้าโรงแรมให้ข้ามถนนแล้วเดินไปทางขวามือนะคับ เดินไปสักหน่อยจะเห็น Museum of Science แล้วจะเห็นกระต็อบอยู่หลังนึงแสดงว่าท่านมาถูกทางละคับ อิอิ
พอถึงแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายอีกทีนะคับ เดินไปเรื่อยๆ เด๊วท่านก้อจะเห็นสวนและก้อปราสาทอยู่ไกลๆ เองแหละคับ นะตรงนี้ผมชอบที่นี่อยู่อย่างคับไม่ว่าจะไปที่ไหนจะมีห้องน้ำบริการฟรีอยู่ทุกที่เลยคับ เดินตามสวนไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก้อแวะถ่ายรูปบ้าง รู้สึกไม่เหนื่อยเลยคับ จากนั้นเดินเข้าไปในบริเวณปราสาทได้เลย ณ ทางเข้าจะมีไอศครีมขายอยู่คับ มาถึงทั้งทีแน่นอนผมต้องลองอยู่แล้ว รสไหนคือไม่ต้องบอกนะคับ...ชาเขียวแน่นอน
ผมนั่งทานอยู่ด้านนอกคับเพราะกลัวว่าเค้าจะไม่ให้เข้า แต่สุดท้ายข้างในก้อมีขายคับเดินทานเข้าไปได้เลย ถึงละคับปราสาทโอซาก้า แต่ผมยังไม่ขึ้นไปด้านบนนะคับเพราะถ้าขึ้นต้องเสียตังค์ 600 เยน/คน กะว่าซื้อบัตร Unlimited มาแล้วค่อยมาเก็บตกอีกรอบเนื่องจากใกล้ที่พักเรา
จะเห็นว่าบริเวณรอบปราสาทจะเป็นคลองน้ำกั้นทั้งหมดเลยคับ ตามหลักการรบแผนที่ตั้งของเมือง (เคยเค้าอธิบายในหน้งจีน) ระหว่างทางเดินหาสถานีขึ้นรถไฟใต้ดินจะมีสวนผมก้อถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก โดยตอนนี้เค้ามีการจัดนิทรรศการพอดีคับ
ชื่นชมปราสาทเรียบร้อยสมความอยาก ก้อถึงเวลาที่เราต้องไปต่อคับ กะว่าจะไปเดินทานข้าวที่เป็นถนนคนเดินยาวประมาณ 3 กม. คับ ชื่อ Tenjinbashisuji โดยผมเดินมาด้านหลังปราสาทเพื่อหาสถานีขึ้นรถไฟใต้ดิน สถานีใกล้สุดคือ Business Park แต่ผมไม่ขึ้นที่สถานีนี้เพราะความขี้เหนียวคิดว่าต่อหลายสายจะแพงจึงเดินหาสถานี Temmebashi สายสีม่วงเพื่อนั่งรถต่อไปสถานีเดียวคับ สถานีที่ลงจะอยู่ถัดขึ้นไปจากสถานี Tanimachi 4 Chome 2 ป้ายนี่แหละคับ โดยผ่าน Temmebashi และอีกสถานีก้อถึง หลายท่านอาจไม่เชื่อว่าถนนคนเดินเส้นนี้ยาว 3 กม. แต่จากการที่ผมเดินดูแล้วคิดว่าถึงนะคับ เหนื่อยมาก!! ถึงสถานีละให้เดินไป Exit 3 นะคับ หากจำไม่ผิดหรือถามนายสถานีเลยคับ คนที่ผมถามพูดไทยได้นิดหน่อย แกบอกว่า Exit 3 แอนด์ Turn Left แล้วพูดต่อว่า เลี๊ยวซ๊ายยยย อิอิ เดินไปตามทางที่แกบอกเจอเลยคับแปบเดียว
ผมแนะนำให้มาทางฝั่งตรงข้ามก่อนนะคับ เดินไม่ไกลมาก แล้วย้อนกลับมาเดินอีกฝั่ง ซึ่งฝั่งนี้ไกลมากกกกก ขอเน้นและขีดเส้นใต้เลยนะคับ
เดินไปเรื่อยๆ จนจะสุดจะมีสถานีอะไรไม่ทราบท่านขึ้นที่นี่กลับเลยนะคับ หรือจะไปที่อื่นต่อก้อแล้วแต่ความสามารถ อย่าเดินย้อนกลับคับ "ไกลจริง" ส่วนตัวผมจะไปนัมบะต่อเพื่อซื้อบัตร Unlimited Pass โดยนั่งรถต่อสายกันเอาคับ เพราะที่โอซาก้ามีสายรถไฟใต้ดิน 9 สาย แต่ที่ผมนั่งจริงๆ 6 สายคับ ส่วนการเดินทางนั้นเด๊วท่านจะคุ้นเองคับ (ถ้ายังงัยรับแผนที่จากปราสาทโอซาก้าที่เค้าแจกใบปลิวในงานนิทรรศการจะดีที่สุดคับ หน้าผู้ชายหล่อๆ อ่ะคับ ซึ่งชื่อสถานีเป็นภาษาอังกฤษ)
ภาพบรรยากาศถนนคนเดิน ทาโกะยากิที่นั่นข้างในจะเป็นเหลวๆ นะคับ ไม่เหมือนของพี่ไทยเลย ราคา 6 ลูก 300 เยน อร่อยกว่าเยอะเลยคับ
ฝั่งตรงข้ามตอนแรกจะมีร้านขายของทอดดังมากๆ คับ คนยืนรอยาวเลย ใครอยากลองเชิญคร้าบบบบ
จากถนนคนเดินเข้าสู่เขตคึกคักของโอซาก้า คือ นัมบะ (Namba) ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องช็อปปิ้งกับอาหารคับ และที่เป็นไฮไลต์ก้อป้ายกูลิโกะ กับป้ายร้านอาหารต่างๆ ที่เป็นสีสันน่ารักดีคับ ส่วนจุดหมายผมตอนนี้คือซื้อตั๋วเพื่อใช้ในวันต่อไปก่อนละกัน สถานีนัมบะนี้กว้างมากคับ เดินหลงได้เลยละ ซึ่งหากผมหาอะไรไม่เจอก้อจะถามนายสถานีคับ ตอนนี้จะไป Information Center ให้ท่านเดินไปทาง Exit 14 หรือมองป้ายดีๆ คับว่าไปทางไหน เดินขึ้นไปชั้นนึงมองดูป้ายตามทางจะเจอที่ซื้อตั๋วคับ ณ จุดจุดนี้พนักงานพูดอังกฤษคล่องเลยคับเพราะฉะนั้นท่านอยากถามอะไร หรือต้องการไปไหนให้ถามที่นี่เลยคับ ส่วนตัวผมก้อถามว่าจะไปย่าน ดงทงบุริ เดินไปทางไหน รายละเอียดทางออกจำไม่แน่นอนว่าจะใช่ Exit 4 ป่าวนะคับ (ขออภัยจริงๆ ไม่ได้จดไว้ ที่เล่ามาส่วนมากคือภาพที่อยู่ในหัวคับ) เดินขึ้นมาทางออกเลี้ยวช้ายยูเทริน์กลับจะง่ายกว่านะคับ ถ้าเดินไป 4 แยกแล้วเลี้ยวซ้ายก้อได้ หากหลงให้สังเกตุร้าย Bic Camera นะคับ โซนที่เราจะไปอยู่ฝั่งตรงข้ามคับ
นี่โซนช็อปปิ้งคับ
นี่เป็นร้านขายขนมที่มีชื่อของที่นั่น คือ Pablo เป็นทาร์ตชีส คับ
ไม่พลาดแน่นอนซื้อมานึงชิ้น ขนาดทานได้สามสี่ท่านเลยนะคับ ชิ้นละ 800 รวม Tax ละ
ผมเดินเล่นถ่ายรูปไฮไลต์ต่างๆ สักพักนึงเริ่มหิวแล้วละคับ ต้องหาร้านทานอะไรบ้างละ เดินวนไปวนมาเห็นราคาทำไมแพงกว่าที่ร้านที่ทานวันแรกเยอะจุง (ยังจำกันได้มั๊ยคับ) สุดท้ายสรุปทานร้านแพงๆ เลยละกัน เพราะเห็นคนเยอะต่อแถวกันเยอะมาก ชื่อร้าน Mizuno ซึ่งนะตอนที่เลือกร้านนี้เหลือคนไม่กี่คน จึงตัดสินใจเดินไปต่อคิว พนักงานจะเอาเมนูมาให้เลือกเพื่อสั่งไว้ก่อน ผมเลือกราคาที่แพงสุดเลยคับ ราคาจากละ 1600 เยน กับอีกจาก 1000 เยนซึ่งไม่รู้หรอกคับว่ามันคือะไร จากนั้นก้อสั่งน้ำเพราะคิดว่าต้องโดนบังคับสั่ง เลยสั่งโค้กไปแก้วละ 315 เยน อาหารที่สั่งหน้าตาเป็นอย่างงี้คับ
ร้านนี้จะทำให้เห็นสดๆ บนกระทะในเมนูแรกที่แพงๆ อ่ะคับ ใช้เวลาทานไม่น่าคับเพราะกลัวมันไหม้ เมื่อทานเสร็จก้อลงมาจ่ายตังค์ รวม Tax แล้ว 3000 กว่าเย็น (นั่งคิดถึงร้านแรกเลยคับ)
หลังจากนั้นก้อนั่งรถไฟใต้ดินกลับมายังโรงแรม ส่วนคนที่นั่งหรือยืนข้างๆ คงจะคิดในใจว่าผมไปทำอะไรมากลิ่นแรงจังซึ่งมันเป็นเพราะอาหารมื้อเย็นนี้แหละคับ ถึงห้องปุ๊บความรู้สึกเหนื่อยและปวดขามาเยือนเลยคับ วันนี้ผมคงเดินไม่ต่ำกว่า 10 กม. แน่นอน ทำงัยดี งั้นก้อเปิดน้ำอุ่นแล้วนอนแช่ดีกว่าคับ ไปละนะคับ อุ๊ย!!! โป๊ 555+ เจอกันพรุ่งนี้คร้าบบบบบ
ตอนที่ 3 :
http://ppantip.com/topic/32760744
ตอนที่ 2 ญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน เยือนโอซาก้า นารา เกียวโตกับ Airasiago (ตั๋ว+ที่พัก)
วันที่ 2 ของการเดินทาง หลังจากที่ผมได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว วันนี้ผมตื่นสายๆ หน่อยเพราะเมื่อคืนได้วางแผนไว้เรียบร้อยว่าจะทำอะไรบ้าง สรุปคือ วันนี้ 15 Oct 2014 เดินเล่นชิวๆ ไปดูปราสาทโอซาก้าแล้วไปซื้อบัตร Unlimited ที่นัมบะ พร้อมกับไปเดินช็อปปิ้ง (หรือป่าว) ย่าน Shenseibashi กับหาอะไรทานที่ Dontonburi (ตรงไหนเขียนชื่อผิดขออภัยนะคับ) 16-17 Oct 2014 เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในโอซาก้าให้หมด โดยใช้บัตร Unlimited Pass ที่กำลังจะไปซื้อ วันที่ 18 Oct 2014 ไปนาราเพื่อไหว้พระ ที่วัด Todaiji พระใหญ่ที่ต้องไม่พลาด อีกอย่างก้อคือไปถ่ายรูปกับกวางสัญลักษณ์ของเมืองนี้ 19 Oct 2014 ไปเกียวโต ที่ต้องไม่พลาดคือ วัดทอง (Kinkakuji) วันเงิน (Ginkakuji) และวัดน้ำใส เนื่องจากเวลาเพียง 1 วันคิดว่าคงได้เท่านี้จริงๆ และนี่คือแผนทั้งหมดที่คิดมาเอง 555+
อาบน้ำเรียบร้อยลงมาที่เคาท์เตอร์โรงแรมหน่อยคับเพื่อถามทางไปปราสาท โโยที่โรงแรมจะมีแผนที่ให้นะคับ หากจะไปปราสาทโอซาก้าเดินออกมาถึงหน้าโรงแรมให้ข้ามถนนแล้วเดินไปทางขวามือนะคับ เดินไปสักหน่อยจะเห็น Museum of Science แล้วจะเห็นกระต็อบอยู่หลังนึงแสดงว่าท่านมาถูกทางละคับ อิอิ
พอถึงแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายอีกทีนะคับ เดินไปเรื่อยๆ เด๊วท่านก้อจะเห็นสวนและก้อปราสาทอยู่ไกลๆ เองแหละคับ นะตรงนี้ผมชอบที่นี่อยู่อย่างคับไม่ว่าจะไปที่ไหนจะมีห้องน้ำบริการฟรีอยู่ทุกที่เลยคับ เดินตามสวนไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก้อแวะถ่ายรูปบ้าง รู้สึกไม่เหนื่อยเลยคับ จากนั้นเดินเข้าไปในบริเวณปราสาทได้เลย ณ ทางเข้าจะมีไอศครีมขายอยู่คับ มาถึงทั้งทีแน่นอนผมต้องลองอยู่แล้ว รสไหนคือไม่ต้องบอกนะคับ...ชาเขียวแน่นอน
ผมนั่งทานอยู่ด้านนอกคับเพราะกลัวว่าเค้าจะไม่ให้เข้า แต่สุดท้ายข้างในก้อมีขายคับเดินทานเข้าไปได้เลย ถึงละคับปราสาทโอซาก้า แต่ผมยังไม่ขึ้นไปด้านบนนะคับเพราะถ้าขึ้นต้องเสียตังค์ 600 เยน/คน กะว่าซื้อบัตร Unlimited มาแล้วค่อยมาเก็บตกอีกรอบเนื่องจากใกล้ที่พักเรา
จะเห็นว่าบริเวณรอบปราสาทจะเป็นคลองน้ำกั้นทั้งหมดเลยคับ ตามหลักการรบแผนที่ตั้งของเมือง (เคยเค้าอธิบายในหน้งจีน) ระหว่างทางเดินหาสถานีขึ้นรถไฟใต้ดินจะมีสวนผมก้อถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก โดยตอนนี้เค้ามีการจัดนิทรรศการพอดีคับ
ชื่นชมปราสาทเรียบร้อยสมความอยาก ก้อถึงเวลาที่เราต้องไปต่อคับ กะว่าจะไปเดินทานข้าวที่เป็นถนนคนเดินยาวประมาณ 3 กม. คับ ชื่อ Tenjinbashisuji โดยผมเดินมาด้านหลังปราสาทเพื่อหาสถานีขึ้นรถไฟใต้ดิน สถานีใกล้สุดคือ Business Park แต่ผมไม่ขึ้นที่สถานีนี้เพราะความขี้เหนียวคิดว่าต่อหลายสายจะแพงจึงเดินหาสถานี Temmebashi สายสีม่วงเพื่อนั่งรถต่อไปสถานีเดียวคับ สถานีที่ลงจะอยู่ถัดขึ้นไปจากสถานี Tanimachi 4 Chome 2 ป้ายนี่แหละคับ โดยผ่าน Temmebashi และอีกสถานีก้อถึง หลายท่านอาจไม่เชื่อว่าถนนคนเดินเส้นนี้ยาว 3 กม. แต่จากการที่ผมเดินดูแล้วคิดว่าถึงนะคับ เหนื่อยมาก!! ถึงสถานีละให้เดินไป Exit 3 นะคับ หากจำไม่ผิดหรือถามนายสถานีเลยคับ คนที่ผมถามพูดไทยได้นิดหน่อย แกบอกว่า Exit 3 แอนด์ Turn Left แล้วพูดต่อว่า เลี๊ยวซ๊ายยยย อิอิ เดินไปตามทางที่แกบอกเจอเลยคับแปบเดียว
ผมแนะนำให้มาทางฝั่งตรงข้ามก่อนนะคับ เดินไม่ไกลมาก แล้วย้อนกลับมาเดินอีกฝั่ง ซึ่งฝั่งนี้ไกลมากกกกก ขอเน้นและขีดเส้นใต้เลยนะคับ
เดินไปเรื่อยๆ จนจะสุดจะมีสถานีอะไรไม่ทราบท่านขึ้นที่นี่กลับเลยนะคับ หรือจะไปที่อื่นต่อก้อแล้วแต่ความสามารถ อย่าเดินย้อนกลับคับ "ไกลจริง" ส่วนตัวผมจะไปนัมบะต่อเพื่อซื้อบัตร Unlimited Pass โดยนั่งรถต่อสายกันเอาคับ เพราะที่โอซาก้ามีสายรถไฟใต้ดิน 9 สาย แต่ที่ผมนั่งจริงๆ 6 สายคับ ส่วนการเดินทางนั้นเด๊วท่านจะคุ้นเองคับ (ถ้ายังงัยรับแผนที่จากปราสาทโอซาก้าที่เค้าแจกใบปลิวในงานนิทรรศการจะดีที่สุดคับ หน้าผู้ชายหล่อๆ อ่ะคับ ซึ่งชื่อสถานีเป็นภาษาอังกฤษ)
ภาพบรรยากาศถนนคนเดิน ทาโกะยากิที่นั่นข้างในจะเป็นเหลวๆ นะคับ ไม่เหมือนของพี่ไทยเลย ราคา 6 ลูก 300 เยน อร่อยกว่าเยอะเลยคับ
ฝั่งตรงข้ามตอนแรกจะมีร้านขายของทอดดังมากๆ คับ คนยืนรอยาวเลย ใครอยากลองเชิญคร้าบบบบ
จากถนนคนเดินเข้าสู่เขตคึกคักของโอซาก้า คือ นัมบะ (Namba) ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องช็อปปิ้งกับอาหารคับ และที่เป็นไฮไลต์ก้อป้ายกูลิโกะ กับป้ายร้านอาหารต่างๆ ที่เป็นสีสันน่ารักดีคับ ส่วนจุดหมายผมตอนนี้คือซื้อตั๋วเพื่อใช้ในวันต่อไปก่อนละกัน สถานีนัมบะนี้กว้างมากคับ เดินหลงได้เลยละ ซึ่งหากผมหาอะไรไม่เจอก้อจะถามนายสถานีคับ ตอนนี้จะไป Information Center ให้ท่านเดินไปทาง Exit 14 หรือมองป้ายดีๆ คับว่าไปทางไหน เดินขึ้นไปชั้นนึงมองดูป้ายตามทางจะเจอที่ซื้อตั๋วคับ ณ จุดจุดนี้พนักงานพูดอังกฤษคล่องเลยคับเพราะฉะนั้นท่านอยากถามอะไร หรือต้องการไปไหนให้ถามที่นี่เลยคับ ส่วนตัวผมก้อถามว่าจะไปย่าน ดงทงบุริ เดินไปทางไหน รายละเอียดทางออกจำไม่แน่นอนว่าจะใช่ Exit 4 ป่าวนะคับ (ขออภัยจริงๆ ไม่ได้จดไว้ ที่เล่ามาส่วนมากคือภาพที่อยู่ในหัวคับ) เดินขึ้นมาทางออกเลี้ยวช้ายยูเทริน์กลับจะง่ายกว่านะคับ ถ้าเดินไป 4 แยกแล้วเลี้ยวซ้ายก้อได้ หากหลงให้สังเกตุร้าย Bic Camera นะคับ โซนที่เราจะไปอยู่ฝั่งตรงข้ามคับ
นี่โซนช็อปปิ้งคับ
นี่เป็นร้านขายขนมที่มีชื่อของที่นั่น คือ Pablo เป็นทาร์ตชีส คับ
ไม่พลาดแน่นอนซื้อมานึงชิ้น ขนาดทานได้สามสี่ท่านเลยนะคับ ชิ้นละ 800 รวม Tax ละ
ผมเดินเล่นถ่ายรูปไฮไลต์ต่างๆ สักพักนึงเริ่มหิวแล้วละคับ ต้องหาร้านทานอะไรบ้างละ เดินวนไปวนมาเห็นราคาทำไมแพงกว่าที่ร้านที่ทานวันแรกเยอะจุง (ยังจำกันได้มั๊ยคับ) สุดท้ายสรุปทานร้านแพงๆ เลยละกัน เพราะเห็นคนเยอะต่อแถวกันเยอะมาก ชื่อร้าน Mizuno ซึ่งนะตอนที่เลือกร้านนี้เหลือคนไม่กี่คน จึงตัดสินใจเดินไปต่อคิว พนักงานจะเอาเมนูมาให้เลือกเพื่อสั่งไว้ก่อน ผมเลือกราคาที่แพงสุดเลยคับ ราคาจากละ 1600 เยน กับอีกจาก 1000 เยนซึ่งไม่รู้หรอกคับว่ามันคือะไร จากนั้นก้อสั่งน้ำเพราะคิดว่าต้องโดนบังคับสั่ง เลยสั่งโค้กไปแก้วละ 315 เยน อาหารที่สั่งหน้าตาเป็นอย่างงี้คับ
ร้านนี้จะทำให้เห็นสดๆ บนกระทะในเมนูแรกที่แพงๆ อ่ะคับ ใช้เวลาทานไม่น่าคับเพราะกลัวมันไหม้ เมื่อทานเสร็จก้อลงมาจ่ายตังค์ รวม Tax แล้ว 3000 กว่าเย็น (นั่งคิดถึงร้านแรกเลยคับ)
หลังจากนั้นก้อนั่งรถไฟใต้ดินกลับมายังโรงแรม ส่วนคนที่นั่งหรือยืนข้างๆ คงจะคิดในใจว่าผมไปทำอะไรมากลิ่นแรงจังซึ่งมันเป็นเพราะอาหารมื้อเย็นนี้แหละคับ ถึงห้องปุ๊บความรู้สึกเหนื่อยและปวดขามาเยือนเลยคับ วันนี้ผมคงเดินไม่ต่ำกว่า 10 กม. แน่นอน ทำงัยดี งั้นก้อเปิดน้ำอุ่นแล้วนอนแช่ดีกว่าคับ ไปละนะคับ อุ๊ย!!! โป๊ 555+ เจอกันพรุ่งนี้คร้าบบบบบ
ตอนที่ 3 : http://ppantip.com/topic/32760744