ตอนที่ 1 :
http://ppantip.com/topic/32756275
ตอนที่ 2 :
http://ppantip.com/topic/32757766
วันที่ 3 ผมตื่นมาพร้อมกับความเหนื่อยล้าในการเดินของวันก่อน แต่ยังงัยซะผมก้อต้องเดินทางต่อไปเพื่อไปยังสถานที่ต่างๆ ในโอซาก้า ให้มากและคุ้มที่สุดเท่าที่ร่างกายจะไหว ก่อนอื่นผมบอกได้เลยนะคับว่าการเดินทางของผมครั้งนี้เดินมากจริงๆ และด้วยสุขภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยเท่ารัยเนื่องจากผมเป็นคนที่ปวดขาง่าย ซึ่งปวดตามข้อกระดูกด้วย ซึ่งสามารถไปยังสถานที่ต่างๆ ได้เท่าที่รีวิวเท่านั้น ยังขาดอีกหลายที่เหมือนกันคับ
บัตร Unlimited Pass สีน้ำเงินด้านหลังนะคับ ด้านหน้าบัตร ICOCA
เกริ่นมาตั้งนานเริ่มต่อดีกว่านะคับ วันนี้วางแผนไปที่ Shitennoji Temple ซึ่งอยู่ในลิสต์ที่สามารถใช้บัตร Unlimited Pass เข้าฟรี ไปกันเลยคับ นั่งรถสถานีเดิมคับ Tanimachi 4 Chome สอดบัตรผ่านเข้าไปและรอรับคืนนะคับ โดยเรานั่งสายสีม่วงไปลงสถานี Shitennojimae Yohigaoka เดินไปทาง Exit 4 นะคับ ขึ้นไปละเดินตรงไปเลยคับ ระหว่างทางจะเจอสุสานถ้าเลี้ยวซ้ายแยกที่มีรั้ววัด หรือเดินตรงมาตลอดเลยก้อได้นะคับ
เมื่อเข้ามาในวัดก้อทำบุญกันซะหน่อยคับ โดยก่อนจะไหว้พระควรล้างมือตามหลักความเชื่อของที่นั่นคับ คือ ล้างมือทีละมือ จากนั้นก้อบ้วนปาก แล้วก้อล้างกระบวยที่เราใช้ตักน้ำคับ
ล้างมือเรียบร้อยก้อไปไหว้พระกัน ส่วนมากตรงหน้าพระจะมีลังไม้ใหญ่ๆ และมีไม้ระแนงคั่นอยู่เราจะโยนเหรียญเพื่อทำบุญและอธิฐาน ตีระฆังสามครั้งประมาณนี้คับ ผมก้อดูจากคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำบุญเค้าทำกัน จากนั้นหากท่านเห็นกระถางธูปแล้วมีควันธูปให้ท่านกวักควันเข้าหาตัวนะคับ ความหมายคือเอาสิ่งดีๆ เข้าตัวเรา
ต่อมาจะเห็นโต๊ะวางค้อนไม้อยู่หลายๆ อัน ก้อให้ทำการเคาะกระถางไม้ใหญ่ข้างๆ เบาๆ 3 ครั้ง จากนั้นมาเคาะบริเวณตัวเราที่มีโรคภัยและอยากให้หาย 3 ครั้งเช่นกัน ซึ่งผมก้อเคาะขาผมไปหลายที่เลย อิอิ
ส่วนตัวผมเมื่อมาถึงที่ละก้อเลยขึ้นไปยอดเจดีย์ โดยจะมีทางเข้าด้านล่างรู้สึกว่าบันไดจะชันนะคับ มี 4-5 ชั้น แต่ละชั้นจะมีเหมือนโกสรูปเจดีย์เล็กๆ เยอะมาก และมีรูปพระด้วย ด้านในนี้จะห้ามถ่ายรูปคับ หลังจากนั้นผมก้อลงมาถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยและเตรียมตัวไปยังที่ต่อไป โดยจะไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะต่อคับ
ผมกลับไปขึ้นรถสถานีเดิมที่ลงตะกี้คับ เพื่อต่อไปยังสถานีเทนโนจิ (คุ้นๆ มั๊ยคับก้อที่เราลงรถไฟ Haruka ต่อรถไปยังโรงแรมงัยคับ) พอถึงแล้วเดินมาทาง Exit 3,5 ก้อได้นะคับ ขึ้นมาปุ๊บเจอสวนสัตว์เลยคับ ซึ่งพอขึ้นมาผมหาพิพิธภัณฑ์ไม่เจอเลยเข้าสวนสัตว์ก่อนละกันเพราะกะว่าจะเข้าไปดูอยู่แล้ว และอีกเช่นกันบัตรที่ใช้เข้าฟรีได้คับ สวนสัตว์จะกว้างมากนะคับ ถ้ามีเด็กๆมาและอยากจะเดินให้ทั่วเพื่อดูสัตว์ละก้อ ครึ่งวันก้อไม่พอนะคับ เหนื่อยจริงๆ สวนสัตว์มี 2 โซน โซนสีแดงกับสีน้ำเงิน รายละเอียดผมไม่ผมถึงนะคับ ส่วนที่ผมดูก้อจะมีเสือ สิงโต หมีขั้วโลกประมาณนี้คับ แค่นี้ก้อใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วคับ สุดท้ายเดินมาเจอพิพิธภัณฑ์คับทางเข้าอยู่ด้านในสวนสัตว์นี่แหละแต่ผมไม่เข้านะคับไม่ไหวละปวดขามากมาย
ตอนนี้ถึงเวลาทานอาหารแล้วคับ เหนื่อยมากละเดินไปฝั่งตรงข้ามในหนังสือบอกว่ามีร้านอาหารน่าทานสุดท้ายร้านยังไม่ค่อยเปิด ผมเลยต้องทานในศูนย์อาหารแถวนั้นคับ ลองเดินๆดูละกันนะคับแล้วแต่ท่านจะทานอะไร ส่วนตัวผมทานข้าวหน้าหมูทอดแล้วก้อกลับไปนอนพักที่โรงแรมแปบนึงก่อน ช่วงเย็นมีแพลนไปต่อคือ Ferris Wheel Tempozan และยังจะไปหอคอย Tsutenkaku ด้วยเพราะอยากจะไปดูวิวแถวนั้นและต้องการลูบเท้า Billiken เทพเจ้าแห่งโชคลาภด้วย (หน้าตาคล้ายลิง)
หลับไปซักพักถึง 4 โมงเย็นก้อรีบๆ ออกมาเพราะต้องไปอีกหลายที่คับ ผมไปนั่งกระเช้าก่อนเพื่อนเลยคับ โดยนั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Osakako นั่งสายสีม่วงไปต่อสีเขียวนะคับ ลงสถานีปุ๊บเดินไปทาง Exit 2 ท่านจะเห็นกระเช้าสีเขียวๆ อยู่ไกลๆ เดินไปซัก 5-10 นาทีก้อถึงคับ เดินขึ้นไปตามทางเลยคับยื่นบัตรผ่านแล้วก้อนั่งกันเลย ที่นี่วิวจะสวยคับ ซึ่งเวลาต่อรอบกระเช้าประมาณ 15 นาที ขึ้นได้รอบเดียวนะคร้าบบบบ
หลังจากลงกระเช้าผมก้อเดินเล่นอีกสักหน่อยเดินเข้าไปในห้างแล้วเดินออกมาด้านหน้าท่านจะเห็น Aquarium Kaiyakan ซึ่งเป็นสวนสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดคับ ค่าเข้า 2300 เยน อันนี้ไม่ฟรีนะคับแต่ลดราคาได้ประมาณ 600 เยน ผมไม่ได้เข้าไปเพราะจะรีบไปที่หอคอย Tsutenkaku เพราะอยู่คนละฝากเมืองเลย ผมเดินย้อนกลับไปสถานีเดิมที่ลง ตอนนี้เริ่มหิวแล้วคับเลยแวะทานข้าวร้านที่อยู่ตรงทางลงสถานีตรง Exit 1 คับ ดุราคาแล้วท่านลองเลือกเองละกันนะคับ อิอิ
อิ่มแล้วคับ ต่อไปคือ หอคอย นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Ebisucho (สายสีน้ำตาล) เดินมาทาง Exit 3 ขึ้นมาก้อจะเห็นทางเดินสั้นๆ เข้าไปยังหอคอยเลย ระหว่างทางก้อมีร้านขายของให้เลือกซื้อคับ ผมไปถึงเค้าปิดแล้วคับ ไม่ได้ขึ้นหอคอยเลย แง…แง แต่ยังงัยก้อยังได้เดินดูของที่ระลึกแถวนี้ละคับ (แนะนำนิดนึงนะคับ หากไปที่ไหนแล้วให้ซื้อของที่ระลึกเลยนะคับเพราะที่อื่นจะไม่ค่อยขายสินค้าที่ดังในโซนอื่น เพราะฉะนั้นซื้อเทพเจ้า Billiken ที่นี่ได้เลย)
เวลาประมาณ 3 ทุ่มผมว่ามันยังไม่ดึกผมเลยนั่งรถไปนัมบะอีกทีเพื่อไปย่าน Shinsaibashi ช็อปปิ้งหน่อยนึง ทางเดินยาวน่าดูทีเดียวเชียว ตอนนี้ผมเดินไม่ไหวละเพราะฉะนั้นขอตัวกลับโรงแรมนะคับ
ปล. วันนี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถลืมเลือนได้ คือ ผมไปแช่บ่อออนเซ็นที่ใต้โรงแรม ซึ่งน่าจะเป็นบ่อน้ำร้อนที่ทำขึ้นเอง แก้ผ้าให้คนอื่นดูมันช่างยากจะทำใจเหลือเกินจริงมั๊ยคับ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อนะคับ บ๊าย…บาย ฝันดีคับ
ตอนที่ 4 :
http://ppantip.com/topic/32780435
ตอนที่ 3 ญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน เยือนโอซาก้า นารา เกียวโตกับ Airasiago (ตั๋ว+ที่พัก)
ตอนที่ 2 : http://ppantip.com/topic/32757766
วันที่ 3 ผมตื่นมาพร้อมกับความเหนื่อยล้าในการเดินของวันก่อน แต่ยังงัยซะผมก้อต้องเดินทางต่อไปเพื่อไปยังสถานที่ต่างๆ ในโอซาก้า ให้มากและคุ้มที่สุดเท่าที่ร่างกายจะไหว ก่อนอื่นผมบอกได้เลยนะคับว่าการเดินทางของผมครั้งนี้เดินมากจริงๆ และด้วยสุขภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยเท่ารัยเนื่องจากผมเป็นคนที่ปวดขาง่าย ซึ่งปวดตามข้อกระดูกด้วย ซึ่งสามารถไปยังสถานที่ต่างๆ ได้เท่าที่รีวิวเท่านั้น ยังขาดอีกหลายที่เหมือนกันคับ
บัตร Unlimited Pass สีน้ำเงินด้านหลังนะคับ ด้านหน้าบัตร ICOCA
เกริ่นมาตั้งนานเริ่มต่อดีกว่านะคับ วันนี้วางแผนไปที่ Shitennoji Temple ซึ่งอยู่ในลิสต์ที่สามารถใช้บัตร Unlimited Pass เข้าฟรี ไปกันเลยคับ นั่งรถสถานีเดิมคับ Tanimachi 4 Chome สอดบัตรผ่านเข้าไปและรอรับคืนนะคับ โดยเรานั่งสายสีม่วงไปลงสถานี Shitennojimae Yohigaoka เดินไปทาง Exit 4 นะคับ ขึ้นไปละเดินตรงไปเลยคับ ระหว่างทางจะเจอสุสานถ้าเลี้ยวซ้ายแยกที่มีรั้ววัด หรือเดินตรงมาตลอดเลยก้อได้นะคับ
เมื่อเข้ามาในวัดก้อทำบุญกันซะหน่อยคับ โดยก่อนจะไหว้พระควรล้างมือตามหลักความเชื่อของที่นั่นคับ คือ ล้างมือทีละมือ จากนั้นก้อบ้วนปาก แล้วก้อล้างกระบวยที่เราใช้ตักน้ำคับ
ล้างมือเรียบร้อยก้อไปไหว้พระกัน ส่วนมากตรงหน้าพระจะมีลังไม้ใหญ่ๆ และมีไม้ระแนงคั่นอยู่เราจะโยนเหรียญเพื่อทำบุญและอธิฐาน ตีระฆังสามครั้งประมาณนี้คับ ผมก้อดูจากคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำบุญเค้าทำกัน จากนั้นหากท่านเห็นกระถางธูปแล้วมีควันธูปให้ท่านกวักควันเข้าหาตัวนะคับ ความหมายคือเอาสิ่งดีๆ เข้าตัวเรา
ต่อมาจะเห็นโต๊ะวางค้อนไม้อยู่หลายๆ อัน ก้อให้ทำการเคาะกระถางไม้ใหญ่ข้างๆ เบาๆ 3 ครั้ง จากนั้นมาเคาะบริเวณตัวเราที่มีโรคภัยและอยากให้หาย 3 ครั้งเช่นกัน ซึ่งผมก้อเคาะขาผมไปหลายที่เลย อิอิ
ส่วนตัวผมเมื่อมาถึงที่ละก้อเลยขึ้นไปยอดเจดีย์ โดยจะมีทางเข้าด้านล่างรู้สึกว่าบันไดจะชันนะคับ มี 4-5 ชั้น แต่ละชั้นจะมีเหมือนโกสรูปเจดีย์เล็กๆ เยอะมาก และมีรูปพระด้วย ด้านในนี้จะห้ามถ่ายรูปคับ หลังจากนั้นผมก้อลงมาถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยและเตรียมตัวไปยังที่ต่อไป โดยจะไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะต่อคับ
ผมกลับไปขึ้นรถสถานีเดิมที่ลงตะกี้คับ เพื่อต่อไปยังสถานีเทนโนจิ (คุ้นๆ มั๊ยคับก้อที่เราลงรถไฟ Haruka ต่อรถไปยังโรงแรมงัยคับ) พอถึงแล้วเดินมาทาง Exit 3,5 ก้อได้นะคับ ขึ้นมาปุ๊บเจอสวนสัตว์เลยคับ ซึ่งพอขึ้นมาผมหาพิพิธภัณฑ์ไม่เจอเลยเข้าสวนสัตว์ก่อนละกันเพราะกะว่าจะเข้าไปดูอยู่แล้ว และอีกเช่นกันบัตรที่ใช้เข้าฟรีได้คับ สวนสัตว์จะกว้างมากนะคับ ถ้ามีเด็กๆมาและอยากจะเดินให้ทั่วเพื่อดูสัตว์ละก้อ ครึ่งวันก้อไม่พอนะคับ เหนื่อยจริงๆ สวนสัตว์มี 2 โซน โซนสีแดงกับสีน้ำเงิน รายละเอียดผมไม่ผมถึงนะคับ ส่วนที่ผมดูก้อจะมีเสือ สิงโต หมีขั้วโลกประมาณนี้คับ แค่นี้ก้อใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วคับ สุดท้ายเดินมาเจอพิพิธภัณฑ์คับทางเข้าอยู่ด้านในสวนสัตว์นี่แหละแต่ผมไม่เข้านะคับไม่ไหวละปวดขามากมาย
ตอนนี้ถึงเวลาทานอาหารแล้วคับ เหนื่อยมากละเดินไปฝั่งตรงข้ามในหนังสือบอกว่ามีร้านอาหารน่าทานสุดท้ายร้านยังไม่ค่อยเปิด ผมเลยต้องทานในศูนย์อาหารแถวนั้นคับ ลองเดินๆดูละกันนะคับแล้วแต่ท่านจะทานอะไร ส่วนตัวผมทานข้าวหน้าหมูทอดแล้วก้อกลับไปนอนพักที่โรงแรมแปบนึงก่อน ช่วงเย็นมีแพลนไปต่อคือ Ferris Wheel Tempozan และยังจะไปหอคอย Tsutenkaku ด้วยเพราะอยากจะไปดูวิวแถวนั้นและต้องการลูบเท้า Billiken เทพเจ้าแห่งโชคลาภด้วย (หน้าตาคล้ายลิง)
หลับไปซักพักถึง 4 โมงเย็นก้อรีบๆ ออกมาเพราะต้องไปอีกหลายที่คับ ผมไปนั่งกระเช้าก่อนเพื่อนเลยคับ โดยนั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Osakako นั่งสายสีม่วงไปต่อสีเขียวนะคับ ลงสถานีปุ๊บเดินไปทาง Exit 2 ท่านจะเห็นกระเช้าสีเขียวๆ อยู่ไกลๆ เดินไปซัก 5-10 นาทีก้อถึงคับ เดินขึ้นไปตามทางเลยคับยื่นบัตรผ่านแล้วก้อนั่งกันเลย ที่นี่วิวจะสวยคับ ซึ่งเวลาต่อรอบกระเช้าประมาณ 15 นาที ขึ้นได้รอบเดียวนะคร้าบบบบ
หลังจากลงกระเช้าผมก้อเดินเล่นอีกสักหน่อยเดินเข้าไปในห้างแล้วเดินออกมาด้านหน้าท่านจะเห็น Aquarium Kaiyakan ซึ่งเป็นสวนสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดคับ ค่าเข้า 2300 เยน อันนี้ไม่ฟรีนะคับแต่ลดราคาได้ประมาณ 600 เยน ผมไม่ได้เข้าไปเพราะจะรีบไปที่หอคอย Tsutenkaku เพราะอยู่คนละฝากเมืองเลย ผมเดินย้อนกลับไปสถานีเดิมที่ลง ตอนนี้เริ่มหิวแล้วคับเลยแวะทานข้าวร้านที่อยู่ตรงทางลงสถานีตรง Exit 1 คับ ดุราคาแล้วท่านลองเลือกเองละกันนะคับ อิอิ
อิ่มแล้วคับ ต่อไปคือ หอคอย นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Ebisucho (สายสีน้ำตาล) เดินมาทาง Exit 3 ขึ้นมาก้อจะเห็นทางเดินสั้นๆ เข้าไปยังหอคอยเลย ระหว่างทางก้อมีร้านขายของให้เลือกซื้อคับ ผมไปถึงเค้าปิดแล้วคับ ไม่ได้ขึ้นหอคอยเลย แง…แง แต่ยังงัยก้อยังได้เดินดูของที่ระลึกแถวนี้ละคับ (แนะนำนิดนึงนะคับ หากไปที่ไหนแล้วให้ซื้อของที่ระลึกเลยนะคับเพราะที่อื่นจะไม่ค่อยขายสินค้าที่ดังในโซนอื่น เพราะฉะนั้นซื้อเทพเจ้า Billiken ที่นี่ได้เลย)
เวลาประมาณ 3 ทุ่มผมว่ามันยังไม่ดึกผมเลยนั่งรถไปนัมบะอีกทีเพื่อไปย่าน Shinsaibashi ช็อปปิ้งหน่อยนึง ทางเดินยาวน่าดูทีเดียวเชียว ตอนนี้ผมเดินไม่ไหวละเพราะฉะนั้นขอตัวกลับโรงแรมนะคับ
ปล. วันนี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถลืมเลือนได้ คือ ผมไปแช่บ่อออนเซ็นที่ใต้โรงแรม ซึ่งน่าจะเป็นบ่อน้ำร้อนที่ทำขึ้นเอง แก้ผ้าให้คนอื่นดูมันช่างยากจะทำใจเหลือเกินจริงมั๊ยคับ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อนะคับ บ๊าย…บาย ฝันดีคับ
ตอนที่ 4 : http://ppantip.com/topic/32780435