ตอนที่ 1 :
http://ppantip.com/topic/32756275
ตอนที่ 2 :
http://ppantip.com/topic/32757766
ตอนที่ 3 :
http://ppantip.com/topic/32760744
หลังจากหายไปหลายวัน วันนี้มาเที่ยวกันต่อคับ จากแพลนคือ Museum of Science , Osaka Castle , Housing และ Hep Ferris Wheel คิดว่าเท่านี้คงพอละเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปนารา กลัวจะเหนื่อยเกินไปและเท่านี้คงคุ้มกับบัตรที่เราซื้อแล้วล่ะ ไปกันเลย…
จากโรงแรมเดินข้ามถนนแล้วไปทางขวามือไม่เกิน 3 นาทีก้อถึงพิพิธภัณฑ์แล้วละคับ ที่นี้เดินเข้าไปตึกด้านขวามือแลยนะคับจะเห็นทางเข้าบอกไว้ จากนั้นยื่นบัตร Unlimited Pass ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะให้บัตรผ่านเรามาตามภาพคับ (ค่าเข้าน่าจะ 300 เยน) โดยเราจะต้องขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 10 บนสุด เดินดูให้ครบแล้วจะเห็นว่าจะมีใบปลิวให้เราแสตมป์นะคับ (คนจีนหรือโซนบ้านเราจะนิยมแสตมป์สถานที่ที่เคยไป โดยแต่ละสถานที่จะมีให้) จากนั้นลองเดินไปดูวิวด้านนอกห้อง จะเห็นทางเข้าปราสาทโอซาก้านะคับเส้นทางเข้าเห็นไกลๆ เพราะฉะนั้นแน่นอนท่านจะต้องเดินเหนื่อยหน่อยละคับ เมื่อดูและถ่ายรูปเสร็จแล้วเดินลงมาทางบันไดเลื่อน ขอบอกว่าถ้าท่านจะกลับขึ้นไปอีกคงจะไม่ได้นะคับ เพราะผมก้อลืมแสตมป์ หาทางขึ้นไปไม่เห็นเลย (คงต้องไปอีกรอบมั้ง อิอิ) โดยบริเวณพิพิธภัณฑ์จะสามารถดูได้ตั้งแต่ชั้น 10-7 จากนั้นก้อลงลิฟต์เพื่อเดินทางไปยังปราสาทอีกรอบ หลังจากที่วันก่อนมาครั้งนึงละ แต่ครั้งนี้จะขึ้นไปยังชั้นบนของปราสาทคับ
ถึงปราสาทละคับ (รูปไม่ค่อยมีนะคับเพราะส่วนใหญ่ผมถ่ายใน 360 พออัพ iOS หายเรียบเลยคับ) ค่าเข้า 600 เยนนะคับถ้าไม่มีบัตร ขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้น 4 แล้วจะต้องเดินขึ้นไปต่อ ปราสาทมีทั้งหมด 7 ชั้น คับ ส่วนของฝากถ้าจะซ้อที่นี่ซื้อเลยนะคับ ที่อื่นหาไม่ได้ละ (บางอย่าง) ผมก้อเสียดายที่ไม่ได้ซื้อที่คั่นหนังสืออันเล็กๆ 205 เยนเอง เพราะคิดว่าข้างนอกมี อดเลย ถ่ายรูปเสร็จผมก้อเดินทางกลับไปยังสถานีรถไฟ Tanimachi 4 Chome เพราะคำนวณจะการเดินละสถานีนี้อยู่ใกล้สุดแล้ว เพื่อเดินทางไปยัง Housing ลงสถานี (เด๊วมาบอกนะคับจำไม่ได้ต้องค้นจากหนังสือ)
ก่อนมาที่ Housing นี้ก้อหาอะไรทานระหว่างทาง ไม่ว่าจะกาแฟ 7-11 โดยถ้าจะดื่มกาแฟเย็นท่านจะต้องไปซื้อแก้วที่ใส่น้ำแข็งไว้แล้ว ราคา 100 เยน จากนั้นก้อไปชงที่เครื่องชง ชอบรสหวานอย่างไรท่านเติมได้เองเลยคับ
ออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน (ถ้าซื้อบัตร Unlimited จะได้คู่มือมา 1 เล่มลองดูนะคับว่าลงที่สถานีไหน) จะเจอทางเข้าตึกเพื่อไปยัง Housing โดยทางเข้าอยู่ชั้นล่าง B ซึ่งผมชอบพิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่นี่เป็นพิเศษ ตอนแรกคิดว่าโดนหลอกเข้ามาละ ที่นี่สร้างฉากเป็นเหมือนชีวิตของคนญี่ปุ่นในอดีต ฉากแต่ละฉากสวยๆ ทั้งนั้นเลยคับ ในตัวห้องกลางจะมีการปรับเปลี่ยนเวลาเป็นเช้าและกลางคืน ฟ้าร้องได้ด้วย ซึ่งหากบางท่านถ้าอยากแต่งชุดญี่ปุ่นเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่าเช่าชุด 200 เยน/ท่าน (ถ้าจำไม่ผิด) ส่วนตัวผมไม่เช่าเพราะคนรอคิดเยอะมาก ผมเดินถ่ายรูปไว้เยอะมาก ในบ้านจะมีห้องต่างๆ ให้เราถ่ายรูปคับ
ออกจาก Housing ด้านเลี้ยวซ้ายจะเจอตรอกขายของนะคับ ลองเดินซักหน่อยหาร้านเพื่อแวะทานข้าวคับ
พออิ่มก้อถึงเวลาเดินทางต่อเพื่อไปยัง Ferris Wheel อีกที่นึง ที่นี่กระเช้าจะสีแดงคับ นั่งรถไปยังสถานี Umeda ซึ่งเป็นย่านช็อปปิ้งมีห้างเยอะมากแถวนี้ โดยท่านต้องหาทางขึ้นมาด้านบนนะคับ ผมก้อไม่ทราบจะอธิบายยังงัยเพราะผมก้อหลง เลยหาทางมาข้างบนเพื่อจะมองกระเช้าแล้วเดินไป โดยผมมาโผล่ด้านข้างห้าง Hankyu คับ ถ้าจะไปขึ้นกระเช้าต้องเดินหาห้าง Hep Five กระเช้าจะอยู่บนชั้น 7 คับ ที่นี่วิวก้อสวยอีกแบบ หากขึ้นไปแล้วจะรู้เลยว่าห้างแต่ละห้างยู่ตรงไหน
เมื่อลงจากกระเช้าผมเดินไปของร้านที่มีรูปเป็ด (พอนั่งกระเช้าจะเห็น) ที่นี่จะมีของให้ซื้อเยอะมาก ราคาไม่แพง โดยเฉพาะเบียร์จะถูกกว่าที่อื่นคับ ^^
ผมเริ่มปวดขาอีกแล้วคับ เพราะฉะนั้นคงต้องกลับละคับ โดยเดินไปทางห้างตรงข้าม Hep Five เดินลงไปด้านล่าง ถ้าท่านใดไปช่วง 2 ทุ่มอย่าลืมเด็ดขาดนะคับ หาซื้ออาหารจากห้าง Hanshin บริเวณโซนอาหารคับ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงลดราคาคับผมไปยืนรอซักพักได้ข้าวห่อสาหร่ายมาจากราคา 900 กว่าเยน เหลือ 700 กว่า แต่จริงๆแล้วจุดประสงค์หลักคือ ซูชิคับ ราคาถือว่าแพงจากบ้านเราคับ ชิ้นละประมาณ 100 เยน หรือ 30 บาท
เดินทางกลับไปยังโรงแรมแล้วก้อเริ่มมาทบทวนเส้นทางที่จะเดินทางไปยังนารา จากนั้นก้อไปแช่ออนเซ็นของทางโรงแรม (คุ้นเคยละคับ ^^) เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาขาที่ปวดด้วย Go..Go to Nara Tomorrow, See ya and Good 9 คับ
ตอนที่ 5 :
http://ppantip.com/topic/32790066
ตอนที่ 4 ญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน เยือนโอซาก้า นารา เกียวโตกับ Airasiago (ตั๋ว+ที่พัก)
ตอนที่ 2 : http://ppantip.com/topic/32757766
ตอนที่ 3 : http://ppantip.com/topic/32760744
หลังจากหายไปหลายวัน วันนี้มาเที่ยวกันต่อคับ จากแพลนคือ Museum of Science , Osaka Castle , Housing และ Hep Ferris Wheel คิดว่าเท่านี้คงพอละเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปนารา กลัวจะเหนื่อยเกินไปและเท่านี้คงคุ้มกับบัตรที่เราซื้อแล้วล่ะ ไปกันเลย…
จากโรงแรมเดินข้ามถนนแล้วไปทางขวามือไม่เกิน 3 นาทีก้อถึงพิพิธภัณฑ์แล้วละคับ ที่นี้เดินเข้าไปตึกด้านขวามือแลยนะคับจะเห็นทางเข้าบอกไว้ จากนั้นยื่นบัตร Unlimited Pass ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะให้บัตรผ่านเรามาตามภาพคับ (ค่าเข้าน่าจะ 300 เยน) โดยเราจะต้องขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 10 บนสุด เดินดูให้ครบแล้วจะเห็นว่าจะมีใบปลิวให้เราแสตมป์นะคับ (คนจีนหรือโซนบ้านเราจะนิยมแสตมป์สถานที่ที่เคยไป โดยแต่ละสถานที่จะมีให้) จากนั้นลองเดินไปดูวิวด้านนอกห้อง จะเห็นทางเข้าปราสาทโอซาก้านะคับเส้นทางเข้าเห็นไกลๆ เพราะฉะนั้นแน่นอนท่านจะต้องเดินเหนื่อยหน่อยละคับ เมื่อดูและถ่ายรูปเสร็จแล้วเดินลงมาทางบันไดเลื่อน ขอบอกว่าถ้าท่านจะกลับขึ้นไปอีกคงจะไม่ได้นะคับ เพราะผมก้อลืมแสตมป์ หาทางขึ้นไปไม่เห็นเลย (คงต้องไปอีกรอบมั้ง อิอิ) โดยบริเวณพิพิธภัณฑ์จะสามารถดูได้ตั้งแต่ชั้น 10-7 จากนั้นก้อลงลิฟต์เพื่อเดินทางไปยังปราสาทอีกรอบ หลังจากที่วันก่อนมาครั้งนึงละ แต่ครั้งนี้จะขึ้นไปยังชั้นบนของปราสาทคับ
ถึงปราสาทละคับ (รูปไม่ค่อยมีนะคับเพราะส่วนใหญ่ผมถ่ายใน 360 พออัพ iOS หายเรียบเลยคับ) ค่าเข้า 600 เยนนะคับถ้าไม่มีบัตร ขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้น 4 แล้วจะต้องเดินขึ้นไปต่อ ปราสาทมีทั้งหมด 7 ชั้น คับ ส่วนของฝากถ้าจะซ้อที่นี่ซื้อเลยนะคับ ที่อื่นหาไม่ได้ละ (บางอย่าง) ผมก้อเสียดายที่ไม่ได้ซื้อที่คั่นหนังสืออันเล็กๆ 205 เยนเอง เพราะคิดว่าข้างนอกมี อดเลย ถ่ายรูปเสร็จผมก้อเดินทางกลับไปยังสถานีรถไฟ Tanimachi 4 Chome เพราะคำนวณจะการเดินละสถานีนี้อยู่ใกล้สุดแล้ว เพื่อเดินทางไปยัง Housing ลงสถานี (เด๊วมาบอกนะคับจำไม่ได้ต้องค้นจากหนังสือ)
ก่อนมาที่ Housing นี้ก้อหาอะไรทานระหว่างทาง ไม่ว่าจะกาแฟ 7-11 โดยถ้าจะดื่มกาแฟเย็นท่านจะต้องไปซื้อแก้วที่ใส่น้ำแข็งไว้แล้ว ราคา 100 เยน จากนั้นก้อไปชงที่เครื่องชง ชอบรสหวานอย่างไรท่านเติมได้เองเลยคับ
ออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน (ถ้าซื้อบัตร Unlimited จะได้คู่มือมา 1 เล่มลองดูนะคับว่าลงที่สถานีไหน) จะเจอทางเข้าตึกเพื่อไปยัง Housing โดยทางเข้าอยู่ชั้นล่าง B ซึ่งผมชอบพิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่นี่เป็นพิเศษ ตอนแรกคิดว่าโดนหลอกเข้ามาละ ที่นี่สร้างฉากเป็นเหมือนชีวิตของคนญี่ปุ่นในอดีต ฉากแต่ละฉากสวยๆ ทั้งนั้นเลยคับ ในตัวห้องกลางจะมีการปรับเปลี่ยนเวลาเป็นเช้าและกลางคืน ฟ้าร้องได้ด้วย ซึ่งหากบางท่านถ้าอยากแต่งชุดญี่ปุ่นเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่าเช่าชุด 200 เยน/ท่าน (ถ้าจำไม่ผิด) ส่วนตัวผมไม่เช่าเพราะคนรอคิดเยอะมาก ผมเดินถ่ายรูปไว้เยอะมาก ในบ้านจะมีห้องต่างๆ ให้เราถ่ายรูปคับ
ออกจาก Housing ด้านเลี้ยวซ้ายจะเจอตรอกขายของนะคับ ลองเดินซักหน่อยหาร้านเพื่อแวะทานข้าวคับ
พออิ่มก้อถึงเวลาเดินทางต่อเพื่อไปยัง Ferris Wheel อีกที่นึง ที่นี่กระเช้าจะสีแดงคับ นั่งรถไปยังสถานี Umeda ซึ่งเป็นย่านช็อปปิ้งมีห้างเยอะมากแถวนี้ โดยท่านต้องหาทางขึ้นมาด้านบนนะคับ ผมก้อไม่ทราบจะอธิบายยังงัยเพราะผมก้อหลง เลยหาทางมาข้างบนเพื่อจะมองกระเช้าแล้วเดินไป โดยผมมาโผล่ด้านข้างห้าง Hankyu คับ ถ้าจะไปขึ้นกระเช้าต้องเดินหาห้าง Hep Five กระเช้าจะอยู่บนชั้น 7 คับ ที่นี่วิวก้อสวยอีกแบบ หากขึ้นไปแล้วจะรู้เลยว่าห้างแต่ละห้างยู่ตรงไหน
เมื่อลงจากกระเช้าผมเดินไปของร้านที่มีรูปเป็ด (พอนั่งกระเช้าจะเห็น) ที่นี่จะมีของให้ซื้อเยอะมาก ราคาไม่แพง โดยเฉพาะเบียร์จะถูกกว่าที่อื่นคับ ^^
ผมเริ่มปวดขาอีกแล้วคับ เพราะฉะนั้นคงต้องกลับละคับ โดยเดินไปทางห้างตรงข้าม Hep Five เดินลงไปด้านล่าง ถ้าท่านใดไปช่วง 2 ทุ่มอย่าลืมเด็ดขาดนะคับ หาซื้ออาหารจากห้าง Hanshin บริเวณโซนอาหารคับ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงลดราคาคับผมไปยืนรอซักพักได้ข้าวห่อสาหร่ายมาจากราคา 900 กว่าเยน เหลือ 700 กว่า แต่จริงๆแล้วจุดประสงค์หลักคือ ซูชิคับ ราคาถือว่าแพงจากบ้านเราคับ ชิ้นละประมาณ 100 เยน หรือ 30 บาท
เดินทางกลับไปยังโรงแรมแล้วก้อเริ่มมาทบทวนเส้นทางที่จะเดินทางไปยังนารา จากนั้นก้อไปแช่ออนเซ็นของทางโรงแรม (คุ้นเคยละคับ ^^) เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาขาที่ปวดด้วย Go..Go to Nara Tomorrow, See ya and Good 9 คับ
ตอนที่ 5 : http://ppantip.com/topic/32790066