รีวิวครั้งแรก กับรูปถ่ายที่ถ่ายกับกล้องมือถือ (ภาพใหญ่ไปบ้าง ไม่ชัดบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)
ทริปนี้ ตั้งใจหนีความจำเจในเมืองหลวงไปเพิ่มพลังให้กับตัวเองซะหน่อย
ตื่นแต่ไก่โห่ เพื่อไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ..ดี๊ด๊า สุดฤทธิ์ (อารมณ์ช่างผิดกับวันที่ต้องตื่นไปทำงานมาก 55)
ท้องฟ้าสดใสพอประมาณ
พอถึงเชียงรายปุ๊ปนัดคุณลุง Taxi ให้ไปส่งที่ไร่แสงอรุณ (นั่งสบายๆ ไม่ต้องขับ 55 ตามประสาคนขี้เกียจ) ( เราสามารถบอกที่ไร่ได้ว่า ต้องการใช้ Taxi น่ะ เพราะที่ไร่จะมีคุณลุง Taxi ขาประจำอยู่ มิต้องกังวล หากขี้เกียจขับรถ หรือขับรถไม่เป็น)
ขึ้นรถได้ก็ส่องนั่น นี่ โน้น ข้างทางมาตลอด...คุณลุงคนขับพาไปทานกลางวันที่เชียงแสน วิวแม่น้ำโขงมาเต็มๆ กินข้าวไป ชมวิวไป
หลังจากนั้นก็ออกเดินทาง จากเชียงแสน ประมาณบ่ายกว่าๆ
จน เอ๊ะ อะไร คุ้นๆ ตา....ถึงแล้ว "ไร่แสงอรุณ"
(มุมมหาชน)
มีเจ้าของบ้านมาต้อนรับด้วยน่ะ
ที่ไร่น่ารักมาก มาถึงปุ๊ป น้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ มาเสิร์ฟถึงมือปั๊ป ...สดชื่นดีแท้ หลังจากนั้นคุณพี่เจ้าของไร่ แนะนำว่าทานกลางวันก่อนน่ะครับ ค่อยไปบ้านพัก เราก็ตอบไปว่า ทานมาแล้วค่ะ (แอบคิดในใจว่า บ่ายๆ ค่อยเดินลงมาก็ได้ แบบว่าขยันเดิน)
ลืมบอกไปค่ะว่า พักที่บ้านแสงอรุณ 1 ( สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เคยมา คงรู้ดีว่าเดินกัน 1 เหนื่อยทีเดียว แต่ เราไม่รู้ แงๆๆๆๆ)
พร้อมออกเดินทาง >>> ไปกันเลย
แรงยังดีไม่มีตก 55
ร่มแดงน้อย..คุณพี่เจ้าของไร่ ให้มากางกันแดด ( แอบคิดในใจอีกแล้วว่า ...มันคืออุปกรณ์ประกอบภาพชั้นดี)
เดินต่อๆ เหงื่อเริ่มมา ขาเริ่มพันกัน มันคืออัลไลลล กันเนี๊ย นาทีนี้คิดถึงตอนเช้าค่ายเนตรนารีตอนมัธยมชัดๆ
ผ่าน บ้านสวยท่ามกลางป่าไผ่ (คล้ายหนังจีนกำลังภายใน )
เดิน เดิน เดิน แล้ว ก็เดินต่อไป อ๊ะๆ...ใกล้ถึงแล้วสิน่ะ บ้านน้อยคืนนี้
กรี๊ดดดดดดด.... ถึงซะที
เห็นควันไฟลอยอ้อยอิ่ง...นั่นคือ ล็อบบี้รีสอร์ทค่ะ ...มองกลับไปแล้วแทบสลบ เดินมาได้ไงไกลขนาดนี้
หันไปหันมา เอ๊ะ...เจอกับสิ่งนี้ " เครื่องเสียงขั้นเทพ ภายใต้แบรนด์ธานินทร์ " พระเจ้า!!!!! มันหาไม่ได้ง่ายในเมืองกรุง
ห้องน้ำที่นี่..บอกตรงๆ ว่าฟินน่ะ .... อาบน้ำไปดูดาวไป
ส่วนของกินแก้หิวระหว่างวัน....ไม่มีอะไรมาก มาม่าคัพ แลคตาซอย กาแฟ ชา โออิชิ (ถ่ายมาไม่ครบ) ....โอ้ จะเยอะไหน และไม่ต้องกลัวเหงา หากไม่เตรียมหนังสือ ...หนังสือเยอะมาก อ่านเพลินกันทีเดียว
บ่ายๆ ก็หลับซักตื่นแล้วค่อยเดินทางไกลไป ทานข้าวเย็นกัน
มาแล้วอาหารเย็นรสเลิศ กับบรรยากาศที่สุดแสนจะดีมากกกกกกกกกก
ไม่น่าเชื่อ "เงาะสดมาก" เหมือนเด็ดมาจากต้นเลย เลยได้ไปเลียบๆเคียงๆ ถามว่า ซื้อเงาะมาจากไหน ทางไร่ตอบว่า ปลุกเอง !!!! โอ้แม่เจ้า เริ่ดมาก
อิ่มแล้ว ฟ้าเริ่ม ขอตัวเดินกลับขึ้นเขาไปฝึกวิทยายุทธ์ก่อน
กว่าจะถึงบ้านพัก....หมดพลังอาหารเย็น
ขอตัวไปนอนก่อนน่ะค๊า
เวลาผ่านไป ไว๊ไวยังกะละครไทย .....เช้าแล้ว ตื่นมามองผ่านหน้าต่าง พระเจ้า.....หมอกน้อยลอยอ้อยอิ่ง
หิวแล้วหม่ำข้าวเช้าดีกว่า ว่าแล้วก็เดินลงดอย
ซุปอะไรก็ไม่รู้....อร่อยจัง
อาหารเช้าก็อร่อยอ่ะ...สดไปน่ะ
หลังจากอิ่มท้องก็เดินขึ้นเขา กลับมาจำศีลต่อไป ( อาหารกลางวันๆนี้ ฝากท้องกับอาหารปิ่นโต )
คอกาแฟทั้งหลายต้องมาชิม "กาแฟ" ที่นี่เลยน่ะ เพราะหวานมัน กลมกล่อม ที่สำคัญกว่านั้น พี่คนส่งเดินมาส่งเราด้วยใจจริงๆ ( เหงื่อท่วมตัว แอบรู้สึกผิดมากมาย)
พอบ่ายก็เข้าโหมดจำศีล-อ่านหนังสือ-วางแผนอนาคต นั่น นี่ โน้น เพลินกันไป
ช่วงเย็นเราก็ไต่เขาลงไปกินข้าวอีกแล้ว
มาพักที่นี่ 3 วัน 2 คืน เดินขึ้นเขาลงเขากันเป็นว่าเล่น จวนเจียนจะเป็นจอมยุทธ
ปิดท้ายภาพภาพประทับใจของทริปนี้ เจอกันใหม่หนาวหน้า "ไร่แสงอรุณ ที่รัก"
[CR] สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น กับไร่แสงอรุณ อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ทริปนี้ ตั้งใจหนีความจำเจในเมืองหลวงไปเพิ่มพลังให้กับตัวเองซะหน่อย
ตื่นแต่ไก่โห่ เพื่อไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ..ดี๊ด๊า สุดฤทธิ์ (อารมณ์ช่างผิดกับวันที่ต้องตื่นไปทำงานมาก 55)
ท้องฟ้าสดใสพอประมาณ
พอถึงเชียงรายปุ๊ปนัดคุณลุง Taxi ให้ไปส่งที่ไร่แสงอรุณ (นั่งสบายๆ ไม่ต้องขับ 55 ตามประสาคนขี้เกียจ) ( เราสามารถบอกที่ไร่ได้ว่า ต้องการใช้ Taxi น่ะ เพราะที่ไร่จะมีคุณลุง Taxi ขาประจำอยู่ มิต้องกังวล หากขี้เกียจขับรถ หรือขับรถไม่เป็น)
ขึ้นรถได้ก็ส่องนั่น นี่ โน้น ข้างทางมาตลอด...คุณลุงคนขับพาไปทานกลางวันที่เชียงแสน วิวแม่น้ำโขงมาเต็มๆ กินข้าวไป ชมวิวไป
หลังจากนั้นก็ออกเดินทาง จากเชียงแสน ประมาณบ่ายกว่าๆ
จน เอ๊ะ อะไร คุ้นๆ ตา....ถึงแล้ว "ไร่แสงอรุณ"
(มุมมหาชน)
มีเจ้าของบ้านมาต้อนรับด้วยน่ะ
ที่ไร่น่ารักมาก มาถึงปุ๊ป น้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ มาเสิร์ฟถึงมือปั๊ป ...สดชื่นดีแท้ หลังจากนั้นคุณพี่เจ้าของไร่ แนะนำว่าทานกลางวันก่อนน่ะครับ ค่อยไปบ้านพัก เราก็ตอบไปว่า ทานมาแล้วค่ะ (แอบคิดในใจว่า บ่ายๆ ค่อยเดินลงมาก็ได้ แบบว่าขยันเดิน)
ลืมบอกไปค่ะว่า พักที่บ้านแสงอรุณ 1 ( สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เคยมา คงรู้ดีว่าเดินกัน 1 เหนื่อยทีเดียว แต่ เราไม่รู้ แงๆๆๆๆ)
พร้อมออกเดินทาง >>> ไปกันเลย
แรงยังดีไม่มีตก 55
ร่มแดงน้อย..คุณพี่เจ้าของไร่ ให้มากางกันแดด ( แอบคิดในใจอีกแล้วว่า ...มันคืออุปกรณ์ประกอบภาพชั้นดี)
เดินต่อๆ เหงื่อเริ่มมา ขาเริ่มพันกัน มันคืออัลไลลล กันเนี๊ย นาทีนี้คิดถึงตอนเช้าค่ายเนตรนารีตอนมัธยมชัดๆ
ผ่าน บ้านสวยท่ามกลางป่าไผ่ (คล้ายหนังจีนกำลังภายใน )
เดิน เดิน เดิน แล้ว ก็เดินต่อไป อ๊ะๆ...ใกล้ถึงแล้วสิน่ะ บ้านน้อยคืนนี้
กรี๊ดดดดดดด.... ถึงซะที
เห็นควันไฟลอยอ้อยอิ่ง...นั่นคือ ล็อบบี้รีสอร์ทค่ะ ...มองกลับไปแล้วแทบสลบ เดินมาได้ไงไกลขนาดนี้
หันไปหันมา เอ๊ะ...เจอกับสิ่งนี้ " เครื่องเสียงขั้นเทพ ภายใต้แบรนด์ธานินทร์ " พระเจ้า!!!!! มันหาไม่ได้ง่ายในเมืองกรุง
ห้องน้ำที่นี่..บอกตรงๆ ว่าฟินน่ะ .... อาบน้ำไปดูดาวไป
ส่วนของกินแก้หิวระหว่างวัน....ไม่มีอะไรมาก มาม่าคัพ แลคตาซอย กาแฟ ชา โออิชิ (ถ่ายมาไม่ครบ) ....โอ้ จะเยอะไหน และไม่ต้องกลัวเหงา หากไม่เตรียมหนังสือ ...หนังสือเยอะมาก อ่านเพลินกันทีเดียว
บ่ายๆ ก็หลับซักตื่นแล้วค่อยเดินทางไกลไป ทานข้าวเย็นกัน
มาแล้วอาหารเย็นรสเลิศ กับบรรยากาศที่สุดแสนจะดีมากกกกกกกกกก
ไม่น่าเชื่อ "เงาะสดมาก" เหมือนเด็ดมาจากต้นเลย เลยได้ไปเลียบๆเคียงๆ ถามว่า ซื้อเงาะมาจากไหน ทางไร่ตอบว่า ปลุกเอง !!!! โอ้แม่เจ้า เริ่ดมาก
อิ่มแล้ว ฟ้าเริ่ม ขอตัวเดินกลับขึ้นเขาไปฝึกวิทยายุทธ์ก่อน
กว่าจะถึงบ้านพัก....หมดพลังอาหารเย็น
ขอตัวไปนอนก่อนน่ะค๊า
เวลาผ่านไป ไว๊ไวยังกะละครไทย .....เช้าแล้ว ตื่นมามองผ่านหน้าต่าง พระเจ้า.....หมอกน้อยลอยอ้อยอิ่ง
หิวแล้วหม่ำข้าวเช้าดีกว่า ว่าแล้วก็เดินลงดอย
ซุปอะไรก็ไม่รู้....อร่อยจัง
อาหารเช้าก็อร่อยอ่ะ...สดไปน่ะ
หลังจากอิ่มท้องก็เดินขึ้นเขา กลับมาจำศีลต่อไป ( อาหารกลางวันๆนี้ ฝากท้องกับอาหารปิ่นโต )
คอกาแฟทั้งหลายต้องมาชิม "กาแฟ" ที่นี่เลยน่ะ เพราะหวานมัน กลมกล่อม ที่สำคัญกว่านั้น พี่คนส่งเดินมาส่งเราด้วยใจจริงๆ ( เหงื่อท่วมตัว แอบรู้สึกผิดมากมาย)
พอบ่ายก็เข้าโหมดจำศีล-อ่านหนังสือ-วางแผนอนาคต นั่น นี่ โน้น เพลินกันไป
ช่วงเย็นเราก็ไต่เขาลงไปกินข้าวอีกแล้ว
มาพักที่นี่ 3 วัน 2 คืน เดินขึ้นเขาลงเขากันเป็นว่าเล่น จวนเจียนจะเป็นจอมยุทธ
ปิดท้ายภาพภาพประทับใจของทริปนี้ เจอกันใหม่หนาวหน้า "ไร่แสงอรุณ ที่รัก"