สวัสดีปีใหม่ครับ กับทริปส่งท้ายปีเก่า...
เมื่อช่วงท้ายปีตารางงานเริ่มคลี่คลาย และวันลายังคงเหลือ อีกทั้งมีข่าวว่าปีนี้ซากุระที่อ่างขางบานไวกว่าปกติ
เเผนการเดินทางจึงกำหนดจุดหมายปลายทางไว้ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางโดนทันที
โดยวางแผนการเดินทางไป-กลับ หลีกหนีรถติดและผู้คนช่วงหยุดยาววันขึ้นปีใหม่ โดยทริปนี้ไม่ได้เดินทางคนเดียวเหมือนเช่นเคย
มีน้องๆสายทะเลที่อยากเปลี่ยนมาขึ้นเขาบ้างติดตามมาด้วย แถมรีเควสจุดหมายแบบไม่สงสารรถ สงสารคนขับมาด้วย
แต่ยังดีที่รอบนี้น้องที่ไปด้วยสามารถช่วยขับรถได้ แผนการเดินทางเลยค่อนข้างที่จะเหนื่อยสักหน่อย แต่ก็ได้ไปครบตามเวลาที่มี
ฉบับรีบไปรีบกลับไป 4 วัน 3 คืน ระยะทางรวม 1980km กับ
"เมื่อลมหนาวมาเยือน เราจึงต้องออกเดินทาง ฮาดู่บิ อ่างขาง บ้านป่าเหมี้ยง"
รอบนี้เดินทางไปด้วยกันทั้งหมด 3 คน โดยมีมือสองคอยช่วยขับเวลาผมเหนื่อย จึงวางแผนการเดินทางแบบยิงยาวๆ
ไม่ใช่แบ่งขับไม่เกินวันละ 7 ชม. อย่างที่ผมเคยท่องเที่ยวคนเดียวตามปกติ
เราวางแผนออกเดินทางจากรามอินทรากันตั้งแต่ตี 4 ของวันคริสต์มาส ตั้งใจให้ไปทันแสงเย็นที่ฮาดู่บิ
การเดินทางไม่พบปัญหาเรื่องรถติดไปได้ยาวๆ แวะปั๊มไปเรื่อยๆ มื้อจริงจังแรกของวันเราอยู่ที่ลำปางครับ
จากกระทู้ก่อนที่ผมมาลำปาง เวลาผมเสิร์ชหาร้านอาหาร ร้านนี้จะขึ้นมาชื่อต้นๆเสมอ แต่ผมก็ยังไม่ได้ลองเพราะเวลามาคนเดียว
ผมเน้นง่ายๆไวๆไว้ก่อนครับ ครั้งนี้มีตัวหาร เลยลองไปตามคำแนะนำกันดู
ร้านนี้ชื่อว่า ครัวเนื้อหอม อยู่ในตัวเมืองลำปางครับ มีคำโปรยว่าซอสกระเพราระดับแชมป์โลกด้วย
ร้านนี้จะเน้นไปที่เนื้อครับ ราคาไม่แรง รสชาติดีทุกเมนูเลยครับ สายเนื้อผ่านไปเเนะนำให้ลองครับ
จริงๆแล้วขากลับ ผมก็แวะกันอีกทีนะ ตอนแรกจะลองร้านอื่นๆ แต่พอเริ่มวันหยุดยาวแล้ว คนเยอะค่อนข้างที่จะหาร้านลงยากทีเดียว
อ้อ ผมไม่ลืมที่จะแวะไปทานแคร๊ปแอปเปิ้ลที่ร้านแคร๊ปฝรั่งเศสด้วยครับ ติดใจจากทริปก่อน
จากนั้นเราก็มุ่งหน้ากันยาวๆ ไปถึง ฮาดู่บิ ม่อนชมวิวดอยหลวงประมาณ 16:30 ตามแผนที่คำนวนไว้เป๊ะๆเลย
ที่นี่เปลี่ยนไปจากเดิมที่ผมมาเยือนเมื่อ 2 ปีก่อนไปพอสมควร แต่แสงเช้า แสงเย็นก็ยังสวยตรึงตาเช่นเดิม
เริ่มจากแสงเย็นก่อนล่ะกัน อ้อ ทริปนี้กล้องหลักผมกลายเป็นเจ้าตัวเล็ก Fuji X-M5 นะครับ
มีเลนส์น้องติดมาให้ยืมอีก 2 ตัว 14mm f2.8 กับ 90mm f2
เรื่องสี เรื่องโทนในกระทู้ อาจจะปรับเปลี่ยนไปตาม film simulation ที่ใช้นะครับ
ส่วนกล้อง full frame กับมือหมุน ก็ยังมีมาใช้เหมือนเดิมครับ
วันนี้บ้านพักทุกหลังเต็มหมดครบ ทั้งๆที่สร้างเพิ่มจาก 2 ปีก่อนพอสมควร
เจอพี่ๆน้องๆ นักเดินทาง และผู้รักการถ่ายภาพมากมาย พูดคุยทักทายกันตามอัธยาศัยไปครับ
ตอนไปถึงเข็ดจากคราวก่อนที่อาบน้ำตอนค่ำ รอบนี้มาถึงรีบอาบก่อนเลย
แล้วค่อยไปทานข้าว ต้มฟักกับน้ำพริกกระเหรี่ยงอร่อยมากครับ
ที่ไหนได้ น้องชวนกินหมูกระทะ กินเสร็จทนสภาพตัวเองไม่ไหว ต้องมาอาบอีกรอบ
หนาวสะท้านจิตไปสิ...
มิตรภาพแห่งหมูกระทะ เก็บภาพกับดาวให้โต๊ะข้างๆสักหน่อย น่าเสียดายที่หมดฤดูล่าทางช้างเผือกไปแล้ว
ถามว่า ฮาดู่บิ ขึ้นยากมั้ย แก๊งค์นี้เอารถเครื่อง 1200 ขนกันมาจาก กทม มานอนที่นี่กัน 1 คืนครับ
ตกค่ำรีบเข้านอน ข้างนอกลมแรงมาก ดีที่รอบนี้ขอนอนเป็นบ้านพัก ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนตี 2 กว่าๆ ดาวยังสวยมากเหมือนเดิม
ตื่นเช้ามา iphone บอกอุณหภูมิประมาณ 12 องศา แต่ลมแรงมากครับ
ผมออกมารอแสงเช้าตั้งแต่ 6 โมง เก็บภาพไปเรื่อยๆ
แสงเปลี่ยน ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ รางวัลสำหรับคนตื่นเช้าครับ
ทานมื้อเช้าเป็นข้าวต้มไข่ลวกโรยน้ำพริกกระเหรี่ยงลงไป ตามด้วยกาแฟดริปของที่พัก
แล้วก็ได้เวลาไปต่อ เราจะมุ่งหน้าสู่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางกันวันนี้ครับ
เดินทางประมาณ 2 ชม.ครึ่ง เเวะทานบะหมี่ยูนนาน ที่อรุโณทัยแล้วค่อยไปต่อ
สั่งพิเศษ คิดชามละ 100 แพงไปหน่อยครับ
เรามาถึงสถานีเกษตรหลวงอ่างขางช่วงบ่าย จ่ายค่าเข้าพร้อมเอารถเข้ามาด้วย
อากาศเย็นก็จริง แต่แดดแรงมากๆ ทำให้รู้สึกร้อนเมื่ออยู่กลางแจ้ง และแสงเเข็งเกินกว่าจะถ่ายรูปเล่น
เราเลยนั่งเพลินๆ ที่สโมสร รอเวลาไปก่อนครับ พอใกล้ๆ 4 โมงเย็นก็เริ่มขยับตัวกันอีกรอบ
พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว แสงหายหมดเช่นกัน 555
เราแวะถ่ายสวนต้นบ๊วย และซากุระ กันเป็นหลักครับ
ระหว่างถ่ายรูปเจอคุณอากำลังถ่ายรูปกันอยู่ เลยอาสาถ่ายรูปคู่ให้
เช้าเราก็ยังไปเจอกันที่ไร่ชาสองพันต่อ พูดคุยกันได้ทราบว่าขับมากัน 2 คนมาเรื่อยๆจาก กทม.
มาเที่ยวในขณะที่ยังไหว น่ารักมาก เห็นแล้วดีต่อใจ ความเสื้อคู่ ความจับมือกันถ่าย
ขอให้สุขภาพแข็งแรงๆนะครับ ^^
เราถ่ายรูปเล่นกันจึงถึง 5 โมงกว่าๆ ก็ออกเดินทาง เนื่องจากเราจองที่พักไว้ที่ฝาง
เส้นทางค่อนข้างอันตราย เลยต้องลงก่อนฟ้ามืดครับ ผ่านม่อนสน เห็นรถจอดกันทะลักมาก
สอบถามพี่ที่เจอที่ฮาดู่บิได้ความว่า เต็นท์เเน่นเต็มพื้นที่เลยครับ
คืนนี้เราไปพักกันสบายๆที่ฝางโมเดิร์น ทางลงมาดูน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ
เช็คอินเสร็จก็ไปนั่งกินข้าวต้มกลางเวียง ราคาถูกมาก รสชาติก็ดีงามครับ
กลับมาพักผ่อน นัดแนะกันออกเดินทางเวลา 6 โมงเช้าเพื่อไปถ่ายแสงเช้ากันที่ไร่ชาสองพัน ดอยอ่างขาง
และเราก็มาถึงทันเวลาพอดี ที่นี่เป็นพญาเสือโคร่งสีขาว เป็นแนว มีฉากหลังเป็นทิวเขา และสายหมอก
ยิ่งเมื่อแสงเช้าพ้นแนวเขามากระทบต้นพญาเสือโคร่งยิ่งทำให้ที่นี่สวยงามยิ่งขึ้นไปอีกครับ
เราใช้เวลาช่วงเช้าเพลิดเพลินไปกับที่นี่พอสมควร แล้วก็ลงมาหามื้อเช้าที่หน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ที่นี่จะมีร้านอาหารยูนนานเป็นหลัก นั่งพักผ่อนชิวๆ รออาหารไปพักใหญ่ พร้อมสารพัดถั่วขนขึ้นรถ
แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อสู่ที่พักคืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ
ที่หมายของเราคือบ้านพญาวัง บ้านป่าเหมี้ยง เราเดินทางลงทางฝาง ผ่านอช.แจ้ซ้อน
เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรหนาแน่บริเวณแม่กำปองครับ
เส้นทางจากอ่างขาง ลงทางฝางค่อนข้างอันตราย แต่วันนี้มี จนท. ประจำจุดเป็นระยะๆ
และมีรถถูกเรียกให้จอดพักเบรคเป็นระยะๆเช่นกัน ส่วนเราผ่านฉลุยยาวๆไปครับ
เดี๋ยวมาต่อกันครับ...
เมื่อลมหนาวมาเยือน เราจึงต้องออกเดินทาง ฮาดู่บิ อ่างขาง บ้านป่าเหมี้ยง